ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 11912
ตอบกลับ: 41
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

อย่าเพิ่งคิดละกิเลสเลย

[คัดลอกลิงก์]







เราทุกคนต่างมีความทุกข์  แต่แค่กับสิ่งที่ต่างกัน

เราควรทำอย่างไรถ้าอยากจะละความอยาก  และหันมารู้จักคำว่า พอ




ผู้ที่จะละโลภะ  (ความอยาก) ได้เป็นสมุจเฉท   ผู้นั้นต้องเป็นพระอรหันต์

การจะเป็นพระอรหันต์ได้   ต้องอบรมเจริญปัญญา    ปัญญาเท่านั้นที่จะละโลภะได้

ถ้าเพียงความอยากละ หรือรู้จักพอ ไม่สามารถละกิเลสได้  มีหนทางเดียว คือ ต้อง

อบรมเจริญปัญญา  จนอรหัตตมรรคญาณเกิดขึ้น   จึงละโลภะได้  




    อย่าเพิ่งคิดละกิเลสเลย  ยังห่างไกลอยู่มาก ขอเพียงแค่ รู้ตัวว่า การกระทำ แต่ละ

ครั้ง  ไปสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่นเหรือไม่ ไม่ไปสร้างทุกข์เขา ทุกข์เรา ก็เพียง
พอแล้ว    แต่ยุคสมัยนี้ต้องบอกว่าหนาแน่นด้วยกิเลสจริงๆ  ฟังพระธรรม   คงเป็นหน

ทางที่ดี ที่จะทำให้เกิดความเข้าใจ และ ละในสิ่งที่ไม่ดี



2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-5-5 13:57 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
การละความอยาก  และการรู้จักพอ  เวลามีความอยากเกิดขึ้น  ให้พิจารณาถึงคุณ

และโทษของสิ่งนั้น   การได้เห็นโทษจะทำให้ลดความอยากลงได้



กิเลส เป็นเรื่องยากที่จะละ  เพียงแค่ละการเห็นผิด ก็ยากเหลือเกินแล้ว ค่อยๆ ฟังธรรม

และ  พิจารณาไตร่ตรองด้วยความอดทน  คงเป็นหนทางที่ดีที่สุด  ทวารทั้ง 6  เป็นต้น

เหตุของเรื่องราวอย่างมากมาย และ ทุกข์ สุข ก็มาจาก  ทวารทั้ง 6 นี่แหละ




พระอรหันต์ท่านก็มีตา  หู  จมูก ลิ้น  กาย  ใจ   แต่ท่านไม่สุข ไม่ทุกข์ เพราะท่านไม่มี

กิเลส   
เมื่อยังมีกิเลสก็ย่อมกระทำกรรม  เมื่อกระทำกรรมก็ย่อมรับผลของกรรม  ทั้งใน

ปฏิสนธิกาล
และในปวัตติกาลทางทวารต่างๆ ความสุขและความทุกข์จึงมาจากความ

เห็นผิด   ความติด
ข้องและความไม่รู้ในสิ่งที่กำลังปรากฎ



3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-5-5 14:01 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย รามเทพ เมื่อ 2013-5-5 14:04

  ต้องการละ "ความอยาก" และมีความรู้จัก "พอ"   ก็คือ ต้องการหมดกิเลส   นั่นเอง

ซึ่งเป็นคุณธรรมของพระอรหันต์  พระอริยบุคคล    (ผู้ละกิเลสได้เป็นลำดับ   อย่างเป็น

สมุทเฉท) มี ๔ ขั้น คือ...

พระโสดาบัน

พระสกทาคามี

พระอนาคามี

และพระอรหันต์ซึ่งดับ

อนุสัยกิเลสได้ทั้งหมด  (๗ชนิด)  


ขั้นแรก   คือพระโสดาบัน    ซึ่งละได้ ๓ ชนิด    คือ  

สักกายทิฏฐิ(ความเห็นผิดว่ามีตัวตน)  วิจิกิจฉาและสีลัพพตปรามาส        ดังนั้นเราคือ

ปุถุชน (ผู้มีกิเลสหนา)   จะบรรลุธรรมเป็นพระอริยบุคคลขั้นแรกได้      ต้องละกิเลส ๓

ประการดังกล่าวได้ก่อนที่สำคัญอันดับแรก   คือ   การเข้าใจถูกว่า   ไม่มีเรา  ซึ่งจะมีได้

ต้องอาศัย "การฟัง"จึงยังไม่ต้องไปห่วงไปกังวลถึง "ความอยาก"  ที่เกิดขึ้น  ตราบใดที่

ยังมีความเห็นผิดเข้าใจผิดว่า มีตัวตน มีสัตว์บุคคล มีเรามีเขาอยู่   ก็ย่อมมีเหตุปัจจัยให้

ความอยาก เกิดขึ้นได้อยู่    แม้พระโสดาบันก็ยังละไม่ได้ แต่เบาบางลงจนไม่เกิดการทำ

ให้เกิดอกุศลกรรมที่นำไปสู่อบายภูมิ (นรก เปรต อสูรกาย สัตว์เดรัถฉาน)  จึงควรศึกษา

ธรรมะให้เข้าใจก่อนว่า   ทุกอย่างเป็นเพียงสภาพธรรมแม้  ความอยากที่เกิดขึ้นก็เพราะ

เหตุปัจจัย  และความอยากนั้นก็ไม่ใช่เราที่อยากนั่นเองและความพอก็เป็นสภาพธรรม

ไม่ใช่ เราที่พอ  เช่นกัน



   "การละความอยาก" ..... เราจะไม่อยากก็เพราะเห็นทุกข์,เห็นโทษ,เห็นภัย  .....

เห็นความไม่มีสาระแก่นสารในสิ่งที่อยาก .... แต่การเห็นเหล่านี้เห็นได้นั้นยาก  เพราะ

เรามี...อวิชชา....  คือ ความไม่รู้ตามสภาวธรรมตามความเป็นจริง .....การจะละอวิชชา

ได้ก็ต้องอบรมเจริญปัญญาเพื่อให้เกิดวิปัสสนาปัญญา    เห็นธรรมทั้งหลายตามสภาว

ธรรมที่เป็นจริง    ก็จะละคลายความยึดมั่นถือมั่น   ตัวตน  เรา  เขา หญิง ชาย  จะเห็น

เป็นเพียงเรื่องของเหตุ   และปัจจัยที่ประกอบกัน   หรือเห็นเป็นเพียงแค่การกระทบกัน

ของธาตุ   ไม่เข้าไปปรุงแต่งว่า   เป็นตัวตน  เรา เขา งาม หรือไม่งาม  เป็นต้น


        ความอยาก( ตัณหา )   เป็นอกุศล   ก็ต้องขัดเกลาด้วยกุศล  ได้แก่   ทาน,   ศีล,

และภาวนา (สมถ  และวิปัสสนา)      ควรเจริญกุศลทุกๆอย่างเพราะกุศลแต่ละอย่างก็

เป็นอุบายในการขัดเกลากิเลส     แต่ละชนิดตามความหยาบ   และละเอียดของกิเลส

แต่ละอย่าง ๆ
   



4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-5-5 14:02 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
การละกิเลสต้องเป็นไปตามลำดับขั้นนะครับ     ขั้นแรกยังไม่ได้ให้ละโลภะ     โทสะ

โมหะ   
เพราะปุถุชนเป็นผู้หนาแน่นด้วยกิเลส    ท่านแสดงไว้ว่า   ขั้นแรกให้ละความ

เห็นผิดก่อน
คือ ละความเห็นผิดว่าเป็นสัตว์ บุคคล ตัวตน หรือสิ่งหนึ่งสิ่งใด  แม้เรื่อง

การละความเป็นผิด
ก็เป็นเรื่องยาก     การศึกษาและปัญญาต้องเป็นไปตามลำดับขั้น

นะครับ    เป็นไปไม่ได้ที่จะข้ามขั้น


ขอบคุณค่ะ (-/\-)
กิเลสยังหนาแน่นก๊าบ แถมออกแนวๆกระเสือกกระสนหาลู่ทาง
สนองกิเลสของตัวเองอีกตะหาก คำว่าพอยังปิดไม่ได้ก๊าบ
ยังอยากได้ อยากมี และอยากเป็น
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ไม่ละกิเลสครับ ขอยังกิเลสให้ถึงที่สุดก่อน
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้