ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

ฤา จะถึงวิกฤติเศรษกิจอีกครั้งดั่งที่หลวงปู่ชื่นได้ทำนายไว้

[คัดลอกลิงก์]
เชื่อป่ะครับ เดินห้าง คนเยอะ แต่มาตากแอร์ ขนาดร้านอาหารแบบแผง ในห้าง ยังปิดไป 2ร้าน แล้ว

คนเดินนะครับ แต่เดินเล่น ไม่ใช้เงิน
23#
 เจ้าของ| โพสต์ 2015-11-18 05:56 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เศรษฐกิจแย่ว่างงานอื้อ ทำคนเร่ร่อนเมืองกรุงพุ่ง





เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มูลนิธิอิสรชน  และมูลนิธิผู้ช่วยเหลือประชาชนผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะหรือคนเร่ร่อน  ได้เปิดเผยผลการสำรวจคนเร่ร่อนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบว่าตัวเลขของผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะเพิ่มขึ้น  โดยในปี 2557 มีอยู่ทั้งหมด 3,249 คน เพิ่มจากปี 2556 ที่มีอยู่ 3,140 คน  โดยอัตราการเพิ่มขึ้นของคนเร่ร่อนจะเพิ่มขึ้นมากกว่าอัตราการเพิ่มของประชากรที่ประมาณ 0.3% ในขณะนี้  เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องตามพื้นที่ต่างๆ ประมาณ 3,360 คน เป็นเพศชาย 2,214 คน และเป็นเพศหญิง 1,246 คน คนเร่ร่อนเพศหญิงกลุ่มใหญ่ที่สุดจะเป็นผู้ให้บริการทางเพศ ในพื้นที่เขตพระนคร  สำหรับพื้นที่ที่พบคนเร่ร่อนมากที่สุดก็คือ 1.เขตพระนคร ร้อยละ 17 2.เขตบางซื่อ ร้อยละ 9 และ 3.เขตจตุจักร ร้อยละ 7 นอกกลุ่มคนเร่ร่อนที่เป็นคนไทยแล้ว ยังพบพลเมืองของประเทศเพื่อนบ้าน เช่น  ชาวกัมพูชาและเมียนมาอีกด้วย แต่ไม่มากนัก  คาดว่าจำนวนคนเร่ร่อนจะเพิ่มอีกประมาณร้อยละ 5-10 ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า เป็นเพราะเศรษฐกิจของประเทศยังไม่ฟื้นตัว  ทำให้เกิดปัญหาว่างงานจนต้องกลายมาเป็นคนเร่ร่อนมากยิ่งขึ้น รวมทั้งมีการปล่อยตัวนักโทษสู่สังคมมากขึ้น  แต่ยังไม่มีการวางแผนการรองรับบุคคลดังกล่าวในการประกอบอาชีพ  

นายอรรถพร สุวัธนเดชา  รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม). กล่าวว่า กทม.ได้วางแนวทางดูแลมาอย่างต่อเนื่อง  โดยให้การช่วยเหลือบุคคลเร่ร่อนด้วยการจัดทำบ้านอิ่มใจ ตั้งอยู่ในพื้นที่ของสำนักงานประปาแม้นศรี  เขตพระนคร ให้เป็นที่พักพิงของคนเร่ร่อน ปัจจุบันมีคนเร่ร่อนเข้าใช้บริการเฉลี่ยวันละ 100 คน  ได้ส่งเสริมการฝึกอาชีพแก่ผู้ที่ต้องการเรียนรู้  และประสานผู้ประกอบการที่ต้องการแรงงานเข้ามาคัดกรองเพื่อจ้างงานต่อไปด้วย  นอกจากนี้ยังได้จัดทีมแพทย์ตรวจคัดกรองโรค หากพบว่ามีอาการเจ็บป่วยก็ได้ส่งตัวไปยังโรงพยาบาลเพื่อรักษา  ทั้งนี้ได้ร่วมกับเอ็นจีโอในการเชิญชวนคนเร่ร่อนในพื้นที่ต่างๆ  เข้ามาพักอาศัยที่บ้านอิ่มใจอย่างต่อเนื่อง  

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1447723730
24#
 เจ้าของ| โพสต์ 2016-1-8 06:21 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

พิษศก.ตกต่ำ ผู้เช่าพื้นที่รับขาดทุนไม่ไหว ร้องห้างขอลดค่าเช่า




เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 7 มกราคม  ที่บริเวณทางเข้าห้างสรรพสินค้าคลังพลาซ่า สาขาจอมสุรางค์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา  ผู้เช่าพื้นที่ขายสินค้าประเภทไอทีบนชั้น 5 จำนวนกว่า 40 คน นัดรวมตัวปิดร้าน  ก่อนจะลงมายืนถือป้ายเขียนข้อความว่า "ขอลดค่าเช่า 50%" "เอะอะห้างขู่จะตัดไฟ" และป้ายเครื่องหมายคำถาม (??) "ไหนร้านฟูจิ ไหนร้านอาหารแบรนด์ชื่อดัง โกหกหลอกลวงกันรึเปล่า" พร้อมส่งเสียงร้องตะโกน ห้าสิบ  ห้าสิบ ห้าสิบ ท่ามกลางความสนใจของประชาชนที่มาซื้อสินค้าและสัญจรผ่านไปมา  โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยเป็นเวลานับชั่วโมง

ขณะที่เจ้าของห้าง  ซึ่งบริหารโดยบริษัท คลังพลาซ่า จำกัด มีท่าทีไม่สนใจกับการก่อหวอด  พร้อมส่งพนักงานรักษาความปลอดภัยและพนักงานฝ่ายธุรการมาคอยถ่ายรูปสื่อมวลชนและผู้ประท้วง  ทำให้มีเสียงโห่ด้วยความไม่พอใจ บรรยากาศมีแนวโน้มตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ  เจ้าของห้างจึงเชิญตัวแทนเข้าไปพูดคุย ล่าสุดเวลา 18.10 น. ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ      



น.ส.เฉลิมขวัญ ฤทธิ์สิริณรงค์ เจ้าของร้านแห่งหนึ่งและตัวแทนผู้เช่าพื้นที่  เปิดเผยว่า เมื่อช่วงปี 2557 ที่ผ่านมา เจ้าของห้างได้ดำเนินการปรับปรุงพื้นที่ โดยปรับปรุงใหม่ (Renovate) เพื่อรับการแข่งขันของห้างสรรพสินค้าชื่อดังจากส่วนกลาง  พร้อมขอปรับราคาขึ้นค่าเช่าพื้นที่ในอัตราค่อนข้างสูง อ้างจะดึงผู้ประกอบการแบรนด์ดังๆ จากส่วนกลาง เช่น  ฟูจิ ยาโยอิ กาแฟสตาร์บัค แมคโดนัลด์ กาแฟอเมซอน ฯ มาด้วย เพื่อดึงดูดลูกค้าให้มาช้อปปิ้งมากขึ้น  หลังเปิดเป็นทางการ เมื่อช่วงต้นปี 2558 เวลาผ่านมาร่วม 1 ปี ก็ไม่ปรากฏร้านค้าแบนด์ดังๆ ตามที่คุยไว้

น.ส.เฉลิมขวัญกล่าวอีกว่า  ผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจทำให้หลายร้านเลิกกิจการหรือเซ้งย้ายไปขายที่อื่นแทน  แต่พวกตนก็กัดฟันสู้ขอลดราคาค่าเช่า 50% โดยแต่ละร้านเสียค่าเช่าต่างกัน  ขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้งและขนาดพื้นที่ เฉลี่ยต่อเดือนประมาณ 2 หมื่นบาท ถึง 1 แสนบาท  สภาพความเป็นจริงตลาดซื้อขายเงียบมาก ประกอบกับห้างดังซึ่งเป็นคู่แข่งจัดกิจกรรม พร้อมมีร้านแบรนด์ดังๆ  ได้ทยอยขยายสาขาเปิดบริการ ซึ่งเจ้าของห้างทราบดี แต่ก็ยังประกาศขึ้นราคาค่าเช่าพื้นที่อีก 50% ซึ่งอัตราที่รับได้ควรขึ้น 30% ก็น่าจะวิน-วินทั้งสองฝ่าย ขอให้ปรับราคาตามความเหมาะสม  โดยคำนึงถึงสภาวะความเป็นจริงของตลาด แต่ห้างไม่สนใจ ยืนยันจะปรับราคาเช่า  จึงเป็นสาเหตุให้มารวมตัวมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1452172214

ช่วงนี้ แม้แต่จอยเองก็แย่ครับ แต่ยังดี พอประคองไปด้แบบถูไถ เลือดซิบๆ
26#
 เจ้าของ| โพสต์ 2016-1-11 06:49 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
majoy ตอบกลับเมื่อ 2016-1-10 20:31
ช่วงนี้ แม้แต่จอยเองก็แย่ครับ แต่ยังดี พอประคองไปด้แบบถูไถ เลือดซิบๆ

น่ากลัวจริง
28#
 เจ้าของ| โพสต์ 2016-1-22 05:49 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ยอดขายบะหมี่สำเร็จรูปต่ำสุดรอบ 44 ปี ศก.ทรุด-ปชช.ไม่มีเงินซื้อ หันกินข้าวถุงแทน


วันที่: 21 ม.ค. 59 เวลา: 18:25 น.



นายเวทิต โชควัฒนา กรรมการรองผู้อำนวยการ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด(มหาชน) ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่า เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของไทยในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2558 สามารถขยายตัวได้เพียง 0.4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557 หรือคิดเป็นมูลค่า 14,576 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการขยายลดลงต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันจากที่ปี 2557 สามารถขยายตัวได้เพียง 1% เท่านั้น เมื่อเทียบกับปี 2556 รวมทั้งยังถือเป็นการขยายตัวต่ำที่สูงในรอบ 44 ปีนับตั้งแต่มีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในประเทศไทย ส่วนการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มาม่าก็สามารถขยายตัวได้เท่ากับภาพรวมของทั้งตลาดที่ระดับ 0.4% เท่านั้น หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยมีสาเหตุมาจากประชาชนในกลุ่มผู้มีรายได้น้อย

ซึ่งถือเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของมาม่ามีกำลังซื้อลดลง เนื่องจากประชาชนกลุ่มดังกล่าวได้รับผลกระทบจากปัญหาราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำ และปัญหาภัยแล้ง ส่งผลกระทบให้ประชาชนมีเงินในกระเป๋าลดลง ประชาชนกลุ่มนี้จึงหันไปบริโภคสินค้าประเภทอื่นที่มีราคาถูกกว่ามาม่า โดยเฉพาะข้าวถุง ที่ในต่างจังหวัดจะมีการแบ่งขายเป็นรายวัน ทำให้ประชาชนสามารถลดต้นทุนในการบริโภคลงได้มากกว่ามาม่า

“ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอย่างต่อเนื่อง ตามปกติแล้วการบริโภคมาม่า หรือดัชนีมาม่าจะเพิ่มขึ้นและไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่ 2 ปีที่ผ่านมากลับไม่เป็นเช่นนั้น ดัชนีมาม่ากลับชะลอตัวและลดลงอย่างต่อเนื่อง

สะท้อนให้เห็นว่าประชาชนผู้มีรายได้น้อย ซึ่งถือเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของมาม่าได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจอย่างหนัก เนื่องจากราคาสินค้าพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ โดยเฉพาะยางพาราได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันโลกที่ลดลดต่อเนื่อง ส่งผลให้ประชาชนมีเงินในกระเป๋าน้อยมาก จึงต้องตัดสินใจหันไปบริโภคสินค้าที่ถูกกว่ามาม่า โดยเฉพาะข้าวถุง ซึ่งสามารถแบ่งซื้อเป็นรายวันได้” นายเวทิตกล่าว


นายเวทิตกล่าวว่า ส่วนภาพรวมตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในปี 2559 คาดว่าน่าจะสามารถกลับมาขยายตัวเป็นบวกได้อีกครั้งที่ระดับ 2% ส่วนภาพรวมของมาม่า น่าจะสามารถขยายตัวได้เหนือกว่าภาพรวมของทั้งตลาดที่ 5% หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 10,500 ล้านบาท เนื่องจากคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในปีนี้น่าจะทิศทางกลับมาขยายตัวได้อีกครั้ง หลังจากที่ชะลอตัวต่อเนื่องมาก 2 ปีซ้อน รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ และมาตรการเพิ่มขีดความสามารถภาคเอกชนของรัฐบาลน่าจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทยโดยรวมให้กลับมาฟื้นตัวและประชาชนมีกำลังซื้อได้อีกครั้ง

และการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในช่วงปลายปี 2558 น่าจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทย ที่จะช่วยให้มีนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศอาเซียน โดยเฉพาะกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี มาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อการบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นตามมาด้วย อีกทั้งมาม่ายังได้รับอานิสงส์จากการที่นักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งถือเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มหลักของไทยในปัจจุบันนิยมซื้อมาม่าไว้เป็นของฝากกลับประเทศจำนวนมาก รวมทั้งมาม่ายังได้เตรียมทุ่มงบการตลาดมากกว่า 250 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นยอดขายตลอดทั้งปี 2559 อีกด้วย

http://www.matichon.co.th/news/8864



ที่ผ่านมา มาม่า ถือเป็นอาหารหลักคนยาก นี่ถึงขนาดไม่มีเงินซื้อ ฟังแล้วเครียดเลย

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้