ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 2260
ตอบกลับ: 3
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

มงคลชีวิต (หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม)

[คัดลอกลิงก์]
ความมงคลของคนอยู่ที่ไหน ความมงคลของคนก็อยู่ที่จิตใจที่ประเสริฐ จิตใจที่มีคุณธรรม มีความเมตตากรุณา มีความยิ้มแย้มแจ่มใส

เวลาเช้ามงคลอยู่ที่ใบหน้า ตื่นขึ้นมาก็ให้มีความเบิกบานใจ ยิ้มแย้มแจ่มใส ระลึกถึงแต่สิ่งที่ดี นึกถึงบุญกุศลความดี เมื่อพบหน้ากันสิ่งแรกที่ทำก็คือให้รอยยิ้มแก่กัน รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นมีเมตตากัน เมืองไทยถึงได้ชื่อว่าสยามเมืองยิ้ม


หลวงปู่ชา สุภัทโท

2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-6-3 10:00 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เวลากลางวันมงคลอยู่ที่หน้าอก หมายถึงอยู่ที่ใจคนเรา ทุกอย่างอยู่ที่จิตใจ ต้องเข้ามาแก้ไขที่จิตใจเหมือนกับคลื่นวิทยุที่ต้องปรับเข้าหากัน เราต้องปรับใจเข้าหากัน ทำใจให้เย็นไว้ก่อน

อย่าไปทำตามอารมณ์ ตามสิ่งแวดล้อมที่มันดึงไป ตั้งมั่นไว้ในคุณธรรม จะพูดจะทำสิ่งใดก็คิดพิจารณาด้วยสติปัญญาก่อน ถ้าไม่มีการคิดพิจารณาให้รอบคอบ เมื่อทำไปแล้ว ตอนแรกอาจสบาย แต่ในภายหลังจะได้รับความลำบาก เพราะบาปกรรมมีจริง นรกสวรรค์มีจริง ให้เรายับยั้งรั้งจิตใจ เหมือนรถที่ดีก็ต้องมีเบรกดี ระบบการควบคุมก็ดี เราอย่าไปทำตามโลก ตามอารมณ์ ทำตามใจได้ก็ว่าดี ไม่ได้ตามใจก็ว่าไม่ดี มันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

พระพุทธเจ้าท่านให้เรารู้จักทุกข์ เหตุให้เกิดทุกข์ ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ กลางวันจิตใจของเราเร่าร้อน สิ่งแวดล้อมมันกดดันให้ร้อน คนหัวดีคนฉลาดก็ต้องมีความอดทน รู้จักพอ สิ่งแวดล้อมภายนอกทำไปเท่าไรก็ไม่จบสักที ถ้าไม่รู้จักพอ เราจะไปแก้สิ่งภายนอกก็ไม่ได้ ห้ามไม่ให้แก่ ให้เจ็บ ให้ตายก็ห้ามไม่ได้ ถ้าเราไม่รู้จักความจริงและยอมรับหรือพอใจได้ เราก็ทุกข์

มงคลตอนเย็นอยู่ที่เท้า ทำไมว่าอยู่ที่เท้า เพราะเท้านี้จะนำทางเราเดินไปไหนมาไหน จะเหยียบย่ำทั้งของปฏิกูลและของสะอาด เราต้องชำระล้างเท้าของเราก่อนหลับนอน จึงจะเป็นมงคล หมายความว่าท่านให้เราชำระบาปอกุศลออกจากกายวาจาใจของเรา ดังโอวาทของพระพุทธเจ้าว่า ส จิตฺต ปริ โย ท ป นํ การชำระจิตของตนให้ขาวรอบ การชำระจิตของตนเองก็ดูว่าใจของเราเป็นอย่างไร มันโลภ มันโกรธ หรือมันหลง เราจะได้ละได้ปล่อยได้วาง เพราะว่าสิ่งเหล่านี้มันพึงมีมาภายหลัง ทรัพย์สินเงินทอง บุตรธิดา ภรรยาสามี เหล่านี้มีมาทีหลัง ชื่อของเราก็มาสมมติขึ้นทีหลัง ให้ระลึกนึกถึงพระพุทธเจ้าให้สบาย หายใจเข้าให้สบาย หายใจออกให้สบาย พระพุทธเจ้าท่านก็เคยหลงเหมือนเรา แต่ท่านก็ไม่หลง แล้วก็มาสอนเราให้ทำตาม เราก็ทำตามท่าน เราทำใจให้ว่างได้ ๑-๒ นาที ก็เป็นบุญหาประมาณมิได้ ให้เราฝึกทำใจให้เป็นนิพพานไว้เมื่อเราใกล้ตาย เราจะได้รู้วิธีทำใจให้ปล่อยวาง

การให้ทานเป็นสิ่งที่จำเป็นในขณะที่เรากำลังท่องเที่ยวอยู่ในวัฏฏะสงสาร จะช่วยยกระดับจิตใจของเราให้สูงขึ้น ทำให้เรามีความสุข มีโภคทรัพย์ มีสมบัติในขณะที่เรายังท่องเที่ยวในวัฏฏะสงสาร

การรักษาศีลก็เหมือนกัน จะช่วยยกจิตใจเราให้สูงขึ้น เป็นการชำระล้างบาปอกุศลตั้งแต่หยาบ ปานกลาง ละเอียด ออกจากจิตใจของเรา เราทั้งหลายก็ให้มาชำระล้างบาปอกุศลออกจากกาย วาจา ใจให้บริสุทธิ์ อย่าไปเอามันไว้ ชีวิตของคนเราต้องพัฒนาให้ดีขึ้น ไม่ใช่เหมือนเดิมหรือจมหนักไปกว่าเก่า ให้ดูตัวอย่างองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา ท่านทำความดีตลอดเวลา

3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-6-3 10:00 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

การทำบุญสุนทานตามพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า เป็นการสร้างเหตุปัจจัยเข้าสู่คุณงามความดี เพราะธรรมทั้งหลายเกิดแต่เหตุ เย ธมฺมา เหตุ ปพฺพวา ความดีเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องทำ เหมือนกับลมหายใจเข้าออกที่จำเป็นต้องหายใจ เช่น กราบพระทุกวัน ทำวัตรสวดมนต์ทุกวัน สิ่งนี้เป็นเรื่องจำเป็นเหมือนกับลมหายใจ ถ้าเราไม่หายใจก็ตาย ถ้าเราไม่ทำความดี เราก็ตายจากความดี หากทำความดีทุกวันเป็นปฏิปทา จะทำให้ตนเองมีหลักการ มีจุดยืน

ความดีนี้เราต้องทำจะขี้เกียจขี้คร้านไม่ได้ ไม่ว่าเป็นการงานหรือการปฏิบัติธรรม เราต้องทำ เราถึงจะสบายในบั้นปลาย เพราะความขี้เกียจขี้คร้านนี้ไม่ดี ความดีนี้ขยันก็ต้องทำ ไม่ขยันก็ต้องทำ ต้องทำตลอดทั้งกาย วาจา ใจ

เหตุที่เราไม่เข้าถึงคุณธรรมก็เพราะความขี้เกียจขี้คร้าน ขยันถึงทำ ไม่ขยันก็ไม่ทำ ให้เห็นโทษเห็นภัยในวัฏฏะสงสาร เห็นภัยในการเวียนว่ายตายเกิด เหมือนคนจนเห็นภัยของความยากจน

เรื่องบุญเก่ากรรมเก่าของแต่ละคนแต่ละท่านไม่เหมือนกัน บางคนอายุยืน บางคนอายุสั้น บางคนสุขภาพดี บางคนสุขภาพไม่ดี บางคนพิการทางกาย ทางระบบสมอง อันนี้ก็เนื่องจากกรรมเก่า ความขยันอดทนใกล้เคียงกัน แต่ความร่ำรวยแตกต่างกัน แม้แต่ชื่อเสียงเกียรติยศ ตำแหน่งก็ต่างกัน ซึ่งล้วนมาจากกรรมเก่าทั้งนั้น

ตัวอย่าง นางวิสาขามหาอุบาสิกา ท่านเป็นผู้มีบุญมาก ได้บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบันตั้งแต่ ๗ ขวบ ทุกคนเคารพรักนับถือ ถึงแม้ว่าจะมีความสะดวกสบาย ท่านก็ไม่ลืมพระรัตนตรัย ปรากฏทำแต่ความดีอยู่เสมอ นางวิสาขานั้นมีความงาม ๕ ประการ เรียกว่า “เบญจกัลยาณี” คือ มีผมงาม มีฟันงาม มีผิวงาม มีเล็บงาม และมีวัยงาม คืองามทุกวัย เมื่อมีอายุมากแล้วก็มีความงามอยู่มาก จนดูไม่ออกว่านางวิสาขาคือคนไหนเมื่อนั่งอยู่ท่ามกลางลูกหลานบริวารทั้งหลาย จนเมื่อนางลุกขึ้นด้วยวัยอันชรา ต้องใช้มือค้ำยันพื้นยืนขึ้น จึงรู้ว่าเป็นนางวิสาขา ทุกคนรักนางวิสาขา แม้แต่โคก็ยังกระโดดออกจากคอกตามนางวิสาขาไป ข้าทาสบริวารมากมายก็อยากตามนางไปอยู่ด้วย

เมื่อนางไปสู่ตระกูลของสามีซึ่งไม่มีศรัทธาในพระรัตนตรัย นางจึงพูดเตือนสติให้พ่อสามีซึ่งเป็นเศรษฐีผู้มีความตระหนี่ว่า บริโภคของเก่า คือ กินบุญเก่าอยู่ ไม่สะสมบุญใหม่ จนพ่อสามีกลับใจมานับถือพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งอันสูงสุดของชีวิต

พวกเราทุกคนก็มาสว่าง มีความสุข มีความร่ำรวย มีรถ มีบ้าน เราก็มาเพิ่มบารมีของเราด้วยการให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา
4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-6-3 10:02 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม (หลานหลวงปู่ชา สุภัทโท)
วัดป่าทรัพย์ทวี จ.นครราชสีมา



พระอาจารย์ฟิลลิป ญาณธัมโม วัดป่ารัตนวัน
นำคณะสงฆ์เข้ากราบนมัสการ หลวงพ่อกัณหา ณ วัดป่าทรัพย์ทวี


บทความจาก
http://larndham.org/index.php?/topic/41 ... %E0%B8%A1/

ภาพประกอบจาก
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?t=37258

...............................................................................

ที่มา http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=45543

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้