ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 3027
ตอบกลับ: 1
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

ปางห้ามญาติ

[คัดลอกลิงก์]
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย รามเทพ เมื่อ 2014-5-13 10:01

ปางห้ามญาติ





บางตำราเรียกปางห้ามสมุทร เป็นพระพุทธรูปอยู่ในอริยาบถยืน
ยกพระหัตถ์ทั้งสองยกขึ้นเสมอพระอุระ (อก) ตั้งฝ่าพระหัตถ์ยื่นออกไปข้างหน้า
เป็นกิริยาห้าม มีลักษณะคล้ายกันกับปางห้ามพยาธิ





ครั้งหนึ่ง  เมื่อเหล่ากษัตริย์ตระกูลศากยวงศ์ พระญาติฝ่ายพุทธบิดา

และเหล่ากษัตริย์ตระกูลโกลิยวงศ์ พระญาติฝ่ายพุทธมารดา

เกิดการทะเลาะวิวาทกันเพราะเรื่องแย่งน้ำในแม่น้ำโรหิณีเนื่องจากฝนแล้ง น้ำไม่เพียงพอ

ทำให้การทะเลาะวิวาทลุกลามไป จนเกือบกลายเป็นศึกสงครามระหว่างกัน

พระพุทธเจ้าทรงทราบเหตุด้วยพระญาณ จึงเสด็จไปห้ามสงคราม

โดยตรัสให้เห็นถึงความ..

ไม่สมควรที่กษัตริย์ต้องมาฆ่าฟันกันด้วยสาเหตุเพียงแค่การแย่งน้ำเข้านา


และได้ตรัสเตือนสติว่า..


ระหว่างน้ำกับความเป็นพี่น้อง อะไรสำคัญยิ่งกว่ากัน


ทั้งสองฝ่ายจึงได้สติ คืนดีกัน

และขอพระราชทานอภัยโทษต่อเบื้องพระพักตร์พระพุทธองค์



พระคาถาประจำวัน บท ยันทุนนิมิตตัง สวด 15 จบ


ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะโย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง พุทธานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ

ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะโย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง ธัมมานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ

ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะโย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง สังฆานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ





ขอบคุณ http://th.wikipedia.org/wiki
2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-5-13 09:43 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย รามเทพ เมื่อ 2014-5-13 10:04

ทรงห้ามพระญาติ


ทรงห้ามพระญาติฝ่ายพระบิดากับฝ่ายพระมารดา
ซึ่งแย่งกันทดน้ำเข้านา มิให้วิวาทกัน

เหตุการณ์ตอนหนึ่ง เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จกลับเมืองพระญาติ แต่คราวนี้เสด็จมาลำพังพระองค์เดียว เพื่อทรงระงับสงครามระหว่างพระญาติทั้งสองฝ่าย พระญาติฝ่ายหนึ่งเป็นพระญาติฝ่ายพุทธบิดา ปกครองกรุงกบิลพัสดุ์ อีกฝ่ายหนึ่งเป็นพระญาติฝ่ายพุทธมารดา ปกครองโกลิยนคร หรือเทวทหนครนั่นเอง

ทั้งสองฝ่ายตั้งบ้านเมืองอยู่คนละริมฝั่งแม่น้ำโรหิณี แล้วเกิดพิพาทกันในปัญหาเรื่องทดน้ำขึ้นทำนา
เมื่อฝ่ายอยู่ทางเหนือน้ำทดน้ำจากแม่น้ำเข้านา ฝ่ายทางใต้ก็ขาดน้ำ
ทั้งสองฝ่ายเปิดประชุมเพื่อตกลงกันก่อน แต่ก็ตกลงกันไม่ได้จึงเกิดปะทะคารมกันอย่างรุนแรง


ถึงกับขุดบรรพบุรุษขึ้นมาประณามกัน

"ไอ้พวกสุนัขจิ้งจอกสมสู่กันเอง" ฝ่ายที่ถูกด่าว่าอย่างนี้ เพราะต้นสกุลหลายชั่วคนมาแล้วได้อภิเษกสมรสกันเองระหว่างพี่ชายกับน้องสาว

"ไอ้พวกขี้เรือน" ฝ่ายตรงกันข้ามที่ถูกด่าตอบอย่างนี้ ก็เพราะต้นสกุลเป็นโรคเรื้อนถูกเนรเทศออกนอกเมืองไปอยู่ป่า






เมื่อทะเลาะกันหนักเข้า ถึงขนาดต้องใช้กำลัง ทั้งสองฝ่ายเตรียมกำลังคน คือ ทหารและอาวุธจะเข้าห้ำหั่นกัน

พระพุทธเจ้าทรงทราบเข้า จึงเสด็จมาทรงระงับสงคราม

ทรงประชุมพระญาติทั้งสองฝ่ายแล้วทรงซักถามถึงต้นตอของตัวปัญหา

พระพุทธเจ้า "ทะเลาะกันเรื่องอะไร"

พระญาติ "เรื่องน้ำ พระพุทธเจ้าข้า"

พระพุทธเจ้า "ระหว่างน้ำกับชีวิตคนนี่อย่างไหนจะมีค่ามากกว่ากัน"

พระญาติ "ชีวิตคนมากกว่า พระพุทธเจ้าข้า"

พระพุทธเจ้า "ควรแล้วหรือที่ทำอย่างนี้"

พระญาติทุกคนจำยอมในเหตุผล จึงไม่มีใครกราบทูลเลย

พระพุทธเจ้า "ถ้าเราตถาคตไม่มาที่นี่วันนี้ ทะเลเลือดจะไหลนอง"
(โลหิตนที ปวัตติสสติ)






ดังนั้นพระญาติทั้งสองฝ่าย ก็เลิกเตรียมทำสงครามกัน เหตุการณ์ตอนนี้เป็นบทบาทสำคัญตอนหนึ่งของพระพุทธเจ้า เพราะเห็นความสำคัญนี้ คนรุ่นต่อมาจึงสร้างพระพุทธรูปขึ้นปางหนึ่งเป็นอนุสรณ์ที่เรียกกันว่า

"พระปางห้ามญาติ"   นั่นเอง


http://www.bloggang.com
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้