ผลเสียของการขาดความอดทน
ลองนึกภาพฉากเหตุการณ์ต่อไปนี้: ชายคนหนึ่งขับรถอยู่บนถนนสองช่องทางในช่วงที่ห้ามแซง. ผู้หญิงที่ขับอยู่ข้างหน้าขับในความเร็วที่กำหนด. แต่สำหรับชายที่ใจร้อนคนนี้ เขารู้สึกว่าเธอขับช้ามาก. หลังจากขับจี้ท้ายรถเธออยู่พักหนึ่ง เขาก็หมดความอดทนและขับแซงเธอไปอย่างรวดเร็ว. การทำเช่นนั้นถือว่าผิดกฎหมายและอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้.
ถ้าผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นคนใจร้อนต้องทำงานกับคนที่เชื่องช้าหรือไม่ฉลาดเท่าเธอ คุณคิดว่าเธอจะรู้สึกอย่างไร? หรือผู้ชายที่ยืนรอลิฟต์กดปุ่มลิฟต์อยู่ตลอด อาการของเขาสื่อถึงอะไร? แล้วคุณล่ะ คุณมักหงุดหงิดกับพ่อแม่ที่สูงอายุไหม? หรือคุณเป็นพ่อแม่ที่มักหงุดหงิดกับลูก? คุณรำคาญใจไหมเมื่อคนอื่นทำผิดพลาด?
คงมีบางครั้งที่เราหมดความอดทน แต่ถ้าเกิดขึ้นทุกวันก็อาจก่อผลเสียหายร้ายแรงได้.
ปัญหาสุขภาพ
การขาดความอดทนมักทำให้คนเราหงุดหงิด รำคาญใจ และถึงกับโกรธง่าย. ความรู้สึกเหล่านี้อาจทำให้เราเครียดโดยไม่รู้ตัว ซึ่งจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ. การศึกษาเมื่อไม่นานมานี้โดยแพทยสมาคมแห่งอเมริกา รายงานว่า การขาดความอดทนเป็นปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น แม้แต่ในกลุ่มหนุ่มสาว.
การขาดความอดทนอาจก่อปัญหาสุขภาพอื่นๆด้วย. การศึกษาเมื่อเร็วๆนี้บอกให้รู้ว่า คนที่ขาดความอดทนอาจเป็นโรคอ้วนได้. หนังสือพิมพ์เดอะ วอชิงตัน โพสต์ รายงานว่า “นักวิจัยพบว่าคนที่ขาดความอดทนมักมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคอ้วนมากกว่าคนที่รอคอยได้.” ในบางประเทศ ฟาสต์ฟูดมีราคาไม่แพงและหาซื้อได้ง่าย หลายคนที่ขาดความอดทนชอบซื้ออาหารแบบนี้
ผัดวันประกันพรุ่ง
การศึกษาโดยศูนย์เศรษฐกิจวิจัยนโยบายซึ่งมีฐานอยู่ที่ลอนดอนพบว่า คนที่ขาดความอดทนมักมีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง. เป็นไปได้ไหมที่พวกเขาเลื่อนงานที่ใช้เวลามากออกไปเพราะไม่อดทนพอที่จะทำงานนั้นให้สำเร็จ? ไม่ว่าจะอย่างไร แนวโน้มที่จะเลื่อนงานบางอย่างออกไปอาจก่อผลเสียร้ายแรงต่องานและต่อคนคนนั้น. ตามที่กล่าวไว้ในหนังสือพิมพ์เดอะ เทเลกราฟ แห่งลอนดอน นักวิจัยชื่อเออร์เนสโต รูเบน บอกว่า “การผัดวันประกันพรุ่งส่งผลเสียร้ายแรงต่องานและทำให้คนอื่นต้องสูญเงินจำนวนมากเพราะ [คนที่ขาดความอดทน] มักมีนิสัยผัดเลื่อนงานเอกสารออกไปเรื่อยๆ.”
ดื่มจัดและใช้ความรุนแรง
หนังสือพิมพ์ของบริเตนเซาท์เวลส์ แอกโค ได้สรุปผลการสำรวจของนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยคาร์ดิฟฟ์เกี่ยวกับพฤติกรรมของชายหญิงหลายร้อยคนว่า “คนที่ขาดความอดทนมักดื่มจัดและมีแนวโน้มจะใช้ความรุนแรง.”
ตัดสินใจไม่รอบคอบ
นักวิเคราะห์กลุ่มหนึ่งที่ทำงานให้กับศูนย์วิจัยพิว วอชิงตัน ดี.ซี. พบว่า คนที่ขาดความอดทน “มักตัดสินใจเร็วเกินไปและไม่รอบคอบ.” ดร. อิลองโก พรนุสวามี ศาสตราจารย์และหัวหน้าแผนกสังคมสงเคราะห์ที่มหาวิทยาลัยบาห์ราตีดาเซน ประเทศอินเดีย ได้ข้อสรุปคล้ายๆกัน. เขาอธิบายว่า “การขาดความอดทนมีแต่ทำให้คุณเสีย. คุณอาจเสียเงิน เสียเพื่อน ประสบความทุกข์ยาก หรือได้รับผลเสียหายอื่นๆเพราะการขาดความอดทนมักทำให้เราตัดสินใจผิดพลาด.”
ปัญหาเรื่องเงิน
บทวิจารณ์การวิจัย จัดพิมพ์โดยธนาคารกลางของบอสตันสหรัฐอเมริการายงานว่า คนที่ขาดความอดทนมักมี “หนี้สูง.” ตัวอย่างเช่น คู่สมรสใหม่ที่ใจร้อนอาจอยากได้บ้านและเครื่องอำนวยความสะดวกทุกอย่างทันทีหลังจากแต่งงาน ทั้งๆที่ไม่มีเงินพอที่จะซื้อของเหล่านั้น. ดังนั้น พวกเขาจึงซื้อบ้าน เฟอร์นิเจอร์ รถ และสิ่งของอื่นๆ โดยใช้บัตรเครดิตหรือเงินผ่อน. การทำเช่นนี้อาจก่อผลเสียต่อชีวิตสมรส. นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอาร์คันซอ สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า “คู่สมรสที่เพิ่งแต่งงานและมีหนี้สินรุงรังจะมีความสุขน้อยกว่าคู่สมรสใหม่ที่แทบจะไม่มีหนี้หรือไม่มีหนี้เลย.”
ปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ที่สหรัฐ บางคนโทษว่าเป็นเพราะคนที่ขาดความอดทน. นิตยสารด้านธุรกิจฟอบส์ กล่าวว่า “ปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นเป็นผลจากนิสัยของผู้คนที่ขาดความอดทนและโลภมาก. การขาดความอดทนทำให้หลายพันคนหาซื้อบ้านที่มีราคาแพงกว่าที่พวกเขาจะซื้อได้. พวกเขาจึงต้องกู้เงินจำนวนมาก และขอผ่อนชำระเป็นเวลาหลายปีหรือบางรายก็ไม่สามารถใช้คืนได้เลย.”
เสียเพื่อน
การขาดความอดทนมีผลเสียต่อวิธีที่เราพูดคุยกับคนอื่น. ถ้าคนเราไม่อดทนพอที่จะพูดคุยในแบบที่เสริมสร้าง เขาก็จะพูดออกมาโดยไม่คิด. นอกจากนั้น เขาอาจรู้สึกรำคาญเมื่อต้องฟังคนอื่นพูด. คนแบบนี้ต้องการให้คนอื่นพูดเข้าประเด็นเร็วที่สุด เขาอาจพูดแทนคนนั้นหรือใช้วิธีอื่นเพื่อเร่งคู่สนทนาให้พูดจบเร็วๆ
คนแบบนี้อาจเสียเพื่อน. ดร. เจนนิเฟอร์ ฮาร์ตสไตน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตที่อ้างถึงในบทความก่อนบอกว่า ไม่มีใครอยากอยู่ใกล้คนที่แสดงอากัปกิริยาที่น่ารำคาญ เช่น คอยดูเวลาอยู่ตลอด. เพื่อนของคุณคงจะตีตัวออกห่างถ้าคุณเป็นคนใจร้อนและไม่มีความอดทน.
|