ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 10458
ตอบกลับ: 12
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

นางกวักมหาเสน่ห์

[คัดลอกลิงก์]
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2014-7-22 13:00

นางกวักคือใคร?  

นางกวักที่เราพบเห็นก็เป็นรูปปั้นของผู้หญิงนั่งคุกเข่าในท่าเทพธิดา มือขวายกขึ้นในท่ากวักมือเรียก มือซ้ายวางไว้ข้างลำตัว หรือวางไว้บนตัก


นางกวักแต่งกายด้วยชุดไทย
(โดยส่วนใหญ่จะเป็นสีแดง) มีเครื่องประดับทอง อยู่ที่ศีรษะ คอ และ ต้นแขน ข้อมือ นั่งอยู่ในท่าคุกเข่า มือขวายกขึ้นในท่ากวักมือ ซึ่งมีลักษณะแตกต่างจาก นางไม้ (นางไม้มีลักษณะคล้ายกันกับนางกวัก แต่มือขวาวางทาบไว้บนตัก)

นางกวักเป็นเทพีแห่งความเป็นมงคลและโชคลาภตามปรารถนาในตำนานไทยโบราณ เปรียบเสมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เรียกเงินทองโชคลาภ และรักษาสถานที่ที่ประทับอยู่

       
cr. tarad.com

ตำนานนางกวักมาจากไหน?




เมื่อกว่า 2500 ปีที่แล้วสมัยพุทธกาล มีผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ สุภาวดี บิดาชื่อ สุจิตพราหมณ์ และมารดาชื่อ สุมณฑา อาศัยอยู่ที่เมืองมัจฉิกาสัณฑ์ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเมืองสาวัตถี ในประเทศอินเดีย ครอบครัวของนางประกอบอาชีพค้าขายซึ่งรายได้แค่พอเลี้ยงปากเลี้ยงท้องไปวันๆ

อยู่มาวันหนึ่ง สุภาวดีไปช่วยครอบครัวขายของที่ตลาด จึงได้มีโอกาสพบพระกัสสปะเถระเจ้า ซึ่งในขณะนั้นท่านกำลังแสดงธรรมเทศนา นางมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการฟังธรรมเป็นอย่างมาก พระกัสสปะเถระ (หนึ่งในพระอรหันต์) จึงประสาทพรให้แก่นางและครอบครัว

ต่อมา นางก็ได้ติดตามไปช่วยบิดาขายของเช่นเคย และได้มีโอกาสฟังธรรมจากพระสิวลีเถระเจ้า (ท่านมีชีวิตที่วิเศษมาก ท่านอยู่ในครรภ์มารดาเป็นเวลานานถึง 7 ปี 7 เดือน และได้คลอดออกมาพร้อมด้วยบารมี โชคลาภ วาสนาที่ดี ท่านจึงประสบพบเจอแต่กับสิ่งดีและมีโชคลาภเสมอๆ) นางสุภาวดีได้ฟังธรรมอย่างตั้งอกตั้งใจจนแตกฉานในหลักธรรมคำสอน เมื่อนางจะเดินทางกลับ พระสิวลีจึงตั้งจิตอธิษฐานและประสาทพรให้แก่นางและครอบครัว หลังจากนั้นครอบครัวของนางก็เจริญรุ่งเรือง ทำมาค้าขายประสบความสำเร็จ เพราะได้รับพรจากพระอรหันต์ถึงสององค์

บิดาของนางจึงมักให้นางไปช่วยทำมาค้าขายด้วยเสมอๆ เพราะเชื่อว่านางเป็นสิริมงคลที่ช่วยให้การค้าขายดี หลังจากนางเสียชีวิตลง ชาวบ้านก็ได้สร้างรูปนางสุภาวดีเพื่อบูชา ขอให้ทำมาค้าขายดี ประสบความสำเร็จ และต่อมาความเชื่อนี้จึงได้แพร่เข้ามาในประเทศไทยจนเป็นที่นิยมอย่างที่เห็นในปัจจุบัน


ความเชื่อของคนไทยเกี่ยวกับนางกวัก

การบูชานางกวักมีจุดประสงค์หลากหลายที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้

  • เพื่อให้มีโชคลาภ ประสบแต่ความโชคดี            
  • เพื่อดึงดูดคนให้รักใคร่เมตตาตนเอง ส่วนใหญ่ใช้กับเรื่องหน้าที่การงาน ในการช่วยให้เจ้านายหรือผู้บังคับบัญชา มีความเมตตากรุณา (รวมทั้งความรัก)
  • เพื่อทางธุรกิจ เกี่ยวกับการค้าขาย มักจะบูชาพร้อมๆ กับพระพุทธรูปและเครื่องรางของขลังหลายอย่าง เพราะมีความเชื่อว่าจะช่วยให้ตนโชคดีและสามารถดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น
เรามาดูกันเลยดีกว่า ว่าร้านค้า/ร้านอาหาร เค้ามีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้าง…




คุณกมลวรรณ เจ้าของร้าน กมลวรรณข้าวต้มทรงเครื่องเล่าเรื่องนางกวักที่ตนบูชา
“พี่มีความเชื่อในการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ค่ะ โดยเฉพาะนางกวักที่เป็นของโบราณที่สืบทอดกันมาจากทางครอบครัว ไหว้และขอพรจากท่านให้ร้านขายดี และขอให้ตัวเองโชคดี”

เจ้าของร้าน เฟรชชี่ดริ้งค์ เล่าถึงนางกวักในร้าน
“เรียกท่านว่า แม่ตุ้ยนุ้ย จะไหว้ท่านด้วยธูปและน้ำแดงทุกวัน และขอพรให้โชคดีและขายดี มีลูกค้าเยอะๆ”

เจ้าของร้าน ลุงไก่ข้าวมันไก่ กล่าวถึงนางกวัก
“ถวายน้ำแดงทุกวันเลยค่ะ ตอนเช้าก็จะสวดมนต์และขอให้ขายดีๆลูกค้าเยอะๆ”



คุณแก้ว เจ้าของร้าน เจ๊แก้วข้าวหอม กล่าวกับ MThai Inter
“ป้าได้รับนางกวักองค์นี้มาจาก วัดต้นสน จ.อ่างทอง ศักดิ์สิทธิ์มาก ป้าสวดมนต์และทำจิตใจให้สงบเพื่อที่จะขอพรให้ท่านช่วยดลบันดาลให้ ลูกค้าเข้ามาเยอะๆ และยังเคารพบูชาภาพของเสด็จพ่อ ร.5 อีกด้วย เพื่อเสริมการค้าขายให้ดียิ่งขึ้น”
คนจำนวนไม่น้อยเลยที่เชื่อในความุมานะพยายาม และ ความทุ่มเทในการทำงานของตัวเอง เพื่อความสำเร็จในหน้าที่การงาน อาจจะไม่เชื่อหรือไม่ค่อยขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในทางกลับกัน ความเชื่อของคนไทย การเป็นคนดีมีศีลธรรม หมั่นสวดมนต์ไหว้พระก็เป็นส่วนหนึ่งในการประสบความสำเร็จด้วยเช่นกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งประกอบกับความมุ่งมั่นตั้งใจทำงาน ย่อมส่งผลให้บรรลุเป้าหมายได้อย่างดี ถึงแม้จะเป็นความเชื่อหนึ่งที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้แต่อย่างน้อย การที่เราบูชาท่านแล้วมีความสบายใจ มีความมั่นใจก็จะส่งผลให้มีความตั้งใจในการทำการค้าขาย และย่อมส่งผลให้ประสบความสำเร็จในที่สุด

http://www.mthai.com
2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-4-20 05:40 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
โอมปู่เจ้าเขาเขียวมีลูกสาวคนเดียวชื่อว่านางกวัก


(โอม = อะ อุ มะ  เป็นคำขึ้นต้นคาถาของพราหมณ์)





ผู้ที่ทำการค้าขาย  มักบูชานางกวักด้วยเชื่อว่า จะช่วยกวักเงินทองเข้าบ้านกวักเรียกลูกค้าเข้าร้าน
3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-4-20 05:41 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2014-7-22 13:01

ประวัตินางกวัก  

                     นางกวัก   ชื่อจริงว่า    สุภาวดี    บิดาชื่อ สุจิตพราหมณ์     มารดาชื่อ สุมณฑา   เกิดที่เมืองมัจฉิกาสัณฑ์    (อยู่ห่างไม่ไกลจากเมืองสาวัตถี)    มีครอบครัวประกอบอาชีพทำมาค้าขาย   ต่อมาสุจิตตพราหมณ์ผู้เป็นพ่อ ได้ขยายกิจการซื้อเกวียนมา 1 เล่ม    นำสินค้าไปเร่ขายในต่างถิ่น  บางครั้งบุตรสาวขออนุญาตเดินทางไปด้วย    เพื่อเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ ระหว่างการค้าขาย
             สุภาวดีได้มีโอกาสพบกับ     "พระกัสสปเถระ"    เป็นอริยสงฆ์แสดงธรรม   หลังจากสุภาวดีฟังธรรมเทศนาอย่างตั้งใจแล้ว     พระกัสสปเถระเจ้าได้กำหนดจิตเป็นอำนาจจิตพระอรหันต์ ประสิทธิ์ประสาทพรให้สุภาวดีและครอบครัว     โดยได้ตั้งกุศลจิตประสาทพรเช่นนี้ทุกครั้งที่สุภาวดีมีโอกาสไปฟังจนจบอำลากลับ      ต่อมา สุภาวดีได้เดินทางติดตามบิดาไปทำการค้า และมีโอกาสฟังธรรมพระอริยสงฆ์อีกท่านหนึ่ง นามว่า     "พระสิวลีเถระเจ้า"     สุภาวดีได้ฟังธรรมอย่างตั้งใจ     สุภาวดีจึงมีความรู้แตกฉานในหลักธรรมต่างๆ เป็นอันมาก    พระสิวลีเป็นผู้มีชีวิตอัศจรรย์กว่าพระสงฆ์อื่น    คือ    ท่านอยู่ในครรภ์มารดานานถึง 7 ปี 7 เดือน จึงคลอดออกมา พร้อมด้วยวาสนา     บารมี   ที่ติดกับวิญญาณธาตุของท่าน    ท่านจึงเป็นผู้มีลาภสักการบูชามาหาท่านตลอด     เมื่อถึงคราวจำเป็น    และต้องการ ทุกครั้งที่สุภาวดีได้ฟังธรรมและลากลับ พระสิวลีเถระเจ้าได้กำหนดกุศลจิต     ประสาทพรให้สุภาวดีและครอบครัว เช่นเดียวกัน จิตของสุภาวดีจึงได้รับประสาทพรจากพระอรหันต์ถึงสององค์     ส่งผลให้บิดาทำการค้าได้กำไร   ไม่เคยขาดทุน
   นางได้รับพรว่า     "ขอให้เจริญรุ่งเรืองไพบูลย์ด้วยทรัพย์สินเงินทอง จากการค้าขายสินค้าต่างๆสมความปรารถนาเถิด"
   บิดารู้ว่าสุภาวดีคือผู้ที่เป็นสิริมงคลที่แท้จริง     เป็นที่ไหลมาแห่งทรัพย์สมบัติของครอบครัว ครอบครัวร่ำรวยขึ้นเป็นมหาเศรษฐี     มีเงินทองและกองเกวียนสินค้ามากมาย เทียบได้กับธนัญชัยเศรษฐี      บิดาของวิสาขาแห่งแคว้นโกศล     บิดาของสุภาวดีได้ฟังธรรมพระพุทธเจ้า ปฏิบัติธรรมด้วยความศรัทธา     เมื่อนางสิ้นชีวิตแล้ว     ชาวบ้านจึงปั้นรูปแม่นางสุภาวดีไว้บูชา ขอให้การค้ารุ่งเรือง    และความเชื่อดังกล่าวนี้     ก็แพร่หลายเข้ามายังดินแดนสุวรรณภูมิ จากการเผยแพร่ของพราหมณ์ และยังคงเป็นความเชื่อที่สืบมาจนถึงทุกวันนี้
คงต้องบูชาคู่แม่เหมา
จะได้กวักมาเหมา


7#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-7-22 12:51 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
นางกวัก นับเป็นรูปเคารพนับถือกันเป็นอย่างมาก นางกวักมีรูปลักษณะสำคัญเป็นสตรีไทยสมัยโบราณ ผมยาวประบ่า ห่มผ้าสไบเฉียง นุ่งผ้ายกดอก ประกอบด้วยพาหุรัด ทองกร และสร้อยสังวาล





นั่งพับเพียบเรียบร้อยอยู่บนแท่นทอง หัตถ์ขวายกงอขึ้นในลักษณะท่ากวักมือ หัตถ์ซ้ายส่วนมากจะถือถุงเงิน และจารึกอักขระขอม เป็นหัวใจพระสีวลีผู้เป็นเอตทัคคะทางโชคลาภ คือ นะ ชา ลิ ติ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม เป็นที่กล่าวขานกันว่า "นางกวัก" สามารถดลบันดาลโชคลาภให้บังเกิดแก่ผู้กราบไหว้บูชา และทำมาค้าขึ้น ซื้อง่าย ขายคล่อง และมีเสน่ห์มหานิยมแก่ผู้พบเห็นอีกด้วย  

โดยเฉพาะในมวลหมู่ผู้มีอาชีพค้าขายด้วยเชื่อว่านามของ "นางกวัก" มีความหมายในทางทำมาหากินคล่องเจริญก้าวหน้า ตามร้านค้าจึงพบเห็นรูปนางกวักบนหิ้งบูชา หรือแม้กระทั่งรถเข็นค้าขายในตะกร้าเก็บสตางค์ หรือมุมเล็กๆ ต้องมีรูปนางกวักอยู่ด้วยเสมอ  


นอกจากนี้แล้วนามของ"นางกวัก" มีนัยเป็นการ "กวัก" เรียกผู้คนมาอุดหนุนร้านค้า รูป"นางกวัก" จึงมีพระเกจิอาจารย์นิยมสร้างขึ้นมากมายหลายสำนัก


ประวัตินางกวัก หรือแม่นางกวัก


ตามประวัติพุทธสาวกในสมัยพุทธกาลที่เมืองมิจฉิกาสีณฑนคร อยู่ไม่ไกลนักจากเมืองสาวัตถีมีครอบครัวหนึ่ง ประกอบอาชีพซื้อขายสินค้าต่างๆ เลี้ยงชีพสองสามีภรรยามีลูกสาวคนหนึ่งชื่อ "สุภาวดี" ต่อมาสุจิตตพราหมณ์ผู้เป็นพ่อ ได้ขยายกิจการซื้อเกวียนมา ๑ เล่ม นำสินค้าไปเร่ขายในต่างถิ่น บางครั้งบุตรสาวขออนุญาตเดินทางไปด้วยเพื่อเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ  


การไปค้าขายกับบิดานี่เองณ จุดพักขายสินค้า ทำให้สุภาวดี ได้มีโอกาสพบกับ "พระกัสสปเถรเจ้า" เป็นอริยสงฆ์แสดงธรรม


หลังจากสุภาวดีฟังธรรมเทศนาอย่างตั้งใจแล้ว พระกัสสปเถรเจ้ากำหนดจิตเป็นอำนาจจิตพระอรหันต์ ประสิทธิประสาทพรให้สุภาวดีและครอบครัว  โดยได้ตั้งกุศลจิตประสาทพรเช่นนี้ทุกครั้งที่สุภาวดีมีโอกาสไปฟังจนจบอำลากลับ  


เมื่อสุภาวดีติดตามบิดาไปค้าขายยังเมืองอื่น ด้วยกุศลบารมีบันดาลให้สุภาวดีมีโอกาสฟังธรรมพระอริยสงฆ์อีกท่านหนึ่งนามว่า "พระสิวลีเถรเจ้า" ในถิ่นที่บิดานำสินค้าไปขายการได้ฟังธรรมอย่างตั้งใจ สุภาวดีจึงมีความรู้แตกฉานในหลักธรรมต่างๆเป็นอันมาก  



พระสิวลีเป็นผู้มีชีวิตอัศจรรย์กว่าพระสงฆ์อื่น คือท่านอยู่ในครรภ์มารดานานถึง ๗ ปี ๗ เดือน จึงคลอดออกมา พร้อมด้วยวาสนา บารมี ที่ติดกับวิญญาณธาตุของท่านท่านจึงเป็นผู้มีลาภสักการบูชามาหาท่านตลอด เมื่อถึงคราวจำเป็นและต้องการ  



ทุกครั้งที่สุภาวดีได้ฟังธรรมและลากลับ พระสิวลีเถรเจ้าได้กำหนดกุศลจิตประสาทพรให้สุภาวดีและครอบครัว เช่นเดียวกัน จิตของสุภาวดีจึงได้รับประสาทพรจากพระอรหันต์ถึง๒ องค์ ส่งผลให้บิดาทำการค้าได้กำไรไม่เคยขาดทุน



  นายวันชัยอธิบายต่อว่า บิดารู้ว่า สุภาวดีคือผู้ที่เป็นสิริมงคลที่แท้จริง เป็นที่ไหลมาแห่งทรัพย์สมบัติของครอบครัวเวลาผ่านไปไม่นาน ครอบครัวร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีมีเงินทอง และกองเกวียนสินค้ามากมาย เทียบได้กับธนัญชัยเศรษฐี บิดาของวิสาขาแห่งแคว้นโกศล  



เมื่อร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีแล้ว บิดาของสุภาวดีได้ฟังธรรมพระพุทธเจ้าปฏิบัติธรรมด้วยความศรัทธา  พร้อมทั้งใช้ทรัพย์สินที่ได้มาจากบุญบารมีของลูกสาวนั้น บำรุงศาสนา เช่น สร้างอุทยานแห่งหนึ่งแล้วยกถวายเป็นที่พักแก่พระภิกษุสงฆ์จากทั่วทุกทิศได้พัก พร้อมทั้งสร้างวิหารแล้วยกให้เป็นของวัด ถวายปัจจัยแก่พระสงฆ์อย่างสม่ำเสมอ  



เมื่อนำสินค้าไปขายต่างเมืองก็ถามพระภิกษุ ภิกษุณี และประชาชนรวมถึงคนที่นับถือศาสนาอื่น ที่มีกิจธุระไปยังเมืองนั้นๆ บ้างก็จัดหาพาหนะไปส่งช่วยเหลือคนตลอด



ผู้คนต่างรับรู้เรื่องราวและบารมีของสุภาวดี(นางกวัก) ที่เป็นที่มาแห่งความร่ำรวยก่อโชคลาภทางการค้าขาย ทั้งเป็นผู้มีศีลธรรม และคุณธรรม แม้เมื่อสุภาวดีตายไปแล้ว ความมีอิทธิฤทธิ์ในทางโชคลาภและการค้า ก็เล่าสืบต่อกันมาถึงคนรุ่นหลัง มีผู้นับถือมากมายถึงกับปั้นรูปสุภาวดีไว้บูชา ขอให้การค้ารุ่งเรืองและความเชื่อดังกล่าวนี้ก็แพร่หลายเข้ามายังสุวรรณภูมิ จากการเผยแพร่ของพราหมณ์  



"การสร้างนางกวัก มีมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ มาจนถึงปัจจุบัน ทั้งเก่าและใหม่ ท่านที่ปรารถนาอยากจะได้นางกวักไว้บูชาเพื่อให้การค้าขายเจริญรุ่งเรือง ก็ลองไปดูตามวัดวาอารามต่างๆ จะนิยมสร้างกันมาก ส่วนราคาถ้าเก่าหายากก็แพง ถ้าใหม่ก็ไม่แพง หรือบางท่านไปซื้อ(นางกวัก)ตามร้านเครื่องสังฆภัณฑ์ และนำ(นางกวัก)ไปให้พระเกจิอาจารย์ที่นับถือ อธิษฐานจิตปลุกเสก พุทธคุณก็เหมือนกัน"  


ตำนานนางกวัก
ธิดาของ"ปู่เจ้าเขาเขียว"ส่วนอีกตำนานหนึ่งซึ่งเป็ของทางฟากไทยยังมีกล่าวถึงว่า มีความสืบเนื่องมาจากเรื่อง รามเกียรติ์ ตอนพระรามออกตามหานางสีดา


พระรามได้พบกับท้าวอุณาราชพญายักษ์เจ้านครสิงขร พระรามจึงแผลงศรเอาต้นกกเป็นศรมาถูกยอดอกท้าวอุณาราช คนทั้งหลายจึงเรียกกันว่า ท้าวกกขนาก  


พระรามได้สาปให้ศรตรึงท้าวอุณาราชอยู่ภายในถ้ำเขาวงพระจันทร์ ซึ่งอยู่ทางทิศเหนือของจ.ลพบุรี แล้วยังสาปสำทับไว้ว่า ท้าวกกขนากจะต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ในถ้ำเขาวงพระจันทร์จนกระทั่งถึงศาสนาพระศรีอาริย์  


นางประจันทร์ธิดาของท้าวอุณาราช ทราบเรื่องก็เข้ามาเฝ้าปฏิบัติเป็นเพื่อนบิดาทั้งยังเอาใยบัวมาทอทำเป็นจีวร เตรียมไว้ถวายเมื่อถึงคราวพระศรีอาริย์เสด็จมา เป็นการสร้างกุศลอุทิศให้บิดา  


ขณะนั้นชาวเมืองต่างเกรงกลัวท้าวอุณาราชหรือท้าวกกขนาก จะฟื้นคืนชีพขึ้นมาอาละวาด เห็นนางประจันทร์เอาน้ำส้มสายชูไปหล่อที่ศรก็พากันขับไล่นางประจันทร์ พร้อมกับกลั่นแกล้งด้วยนานาประการ  



ความได้ทราบไปถึง"ปู่เจ้าเขาเขียว" ผู้เป็นสหายของท้าวอุณาราชจึงส่งธิดาองค์หนึ่ง ซึ่งมีรูปโฉมงดงามเป็นที่สุด เป็นที่แสนเสน่หาแก่มนุษย์และสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงในแผ่นดิน มาเป็นเพื่อนนางประจันทร์ เพื่อนางประจันทร์จะได้เสื่อมคลายความเศร้าโศกลงบ้าง



  ปรากฏว่านับแต่ธิดา(แม่นางกวัก) ของปู่เจ้าเขาเขียวมาอยู่เป็นเพื่อนนางประจันทร์แล้ว ประชาชนที่เคยเกลียดชังนางประจันทร์มาแต่ก่อนกลับใจเป็นรักใคร่ นำของกำนัลต่างๆ มาให้นางประจันทร์เป็นบรรณาการอยู่เสมอไม่ขาด  



แม้การเดินทางจะแสนทุรกันดารเพียงไร ประชาชนเหล่านั้นก็หาย่อท้อไม่พยายามเดินทางมาด้วยความรัก และเมตตาต่อนางประจันทร์เป็นที่ยิ่งมุ่งหน้ามาทำบุญกุศลกันอย่างคับคั่งมากมาย ความเกลียดชังที่ท่วมท้นเป็นอันเสื่อมสลายไปสิ้น  



ด้วยเหตุนี้ นางประจันทร์จึงตั้งชื่อให้ธิดาของปู่เจ้าเขาเขียวว่า "นางกวัก" ด้วยคุณงามความดีอันมหาศาลนี้สัตบุรุษุทั้งหลาย จึงได้ให้พระเกจิอาจารย์ผู้ขลังทางเวทมนตร์สร้างรูป "แม่นางกวัก" ขึ้นไว้เป็นที่สักการบูชา เพื่อผลทางมหานิยมในการค้าขาย  


http://www.nightsiam.com
8#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-7-22 12:53 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2014-7-22 12:55

โอมปู่เจ้า เขาเขียว
มีลูกสาวคนเดียว
งามเพรียบพร้อมบุญหนัก
โสภา อ่าองค์ ยิ่งนัก
เธอชื่อว่านางกวัก


ใครเห็นใครรักลุ่มหลง
งามรูปงามใจ
งามทั้งวาจา สูงส่ง
ชวนให้ พะวง
งวยงงตะลึงจังงัง


..งามรูปคิ้ว คันศร
ขน ตางอน
แก้มอิ่มปี๋นวลปลั่ง

เสียงนาง ดังเสียงระฆัง
ซึมซาบเหมือนมนต์สั่ง
คนชังหลงกลับ มาชม


เลื่องลือไกล
หญิงและชาย นิยม
บุญแม่ สร้างสม
เกิดมาให้คน บูชา


เสน่ห์เมตตามหานิยม
หญิงชอบชายชมทั่วทั้งธารา
สาวหนุ่มรักกันอธิษฐานใจ
ชาวบ้านทั่วไปขอพึ่งบุญญา

หนุ่มสาวยามความรักโรยรา
บนบาน ได้ดัง จินตนา
แม่แผ่เมตตา ทั่ว ไป

..โอมลูกนี้ขาดรัก
วอนกราบแม่นางกวัก
ช่วยกวักรักมาให้
เมตตา อย่าให้ลูก แก่ตาย
ด้วยถูกหญิงแหนงหน่าย
เห็นใจช่วยโปรดดูแล

มนต์เมตตา
มหานิยม ของแม่
สาว ๆ แอบชะแง้
หันแลด้วยแม่กวักมา...



9#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-7-22 12:53 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
Sornpraram ตอบกลับเมื่อ 2014-7-22 12:53

ฟังแล้วครับ เพราะดีครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้