ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 3857
ตอบกลับ: 3
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

~ หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ ~

[คัดลอกลิงก์]


หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ อ่างทอง

พระอุปัชฌาย์ คำ หรือนามตามสมณศักดิ์ ..พระครูวิตถารสมณกิจ นามสมณศักดิ์ของท่านได้รับพระราชทานโดยล้นเกล้า ฯ รัชกาลที่ ๖ ..

พระครูวิตถารสมณกิจ (อ่านว่า - วิด-ตะ-ถา-ระ-สะ-มะ-นะ-กิด) มีความหมายว่า พระผู้ทำกิจในวิชชาโดยบริบูรณ์

ครั้งที่ท่านเจ้าคุณพระธรรมวรนายก (ทองหล่อ ปทุมานนท์ ปธ.๘) อดีตเจ้าคณะภาค ๑๕ อดีจเจ้าคณะเขตดุสิต และอดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม กรุงเทพ ฯ
ซึ่งเป็นศิษย์แต่ครั้งบรรพชาเป็นสามเณรยังมีชีวิตอยู่ เคยไปเรียนถามประวัติจากท่าน ด้วยความไม่รู้ เรียกนามสมณศักดิ์ว่า พระครู-วิด-ตะ-ถาน-สะ-มะ-นะ-กิด ท่านเจ้าคุณแย้งว่า ไม่ใช่ ที่ถูกต้องอ่านว่า วิด-ตะ-ถา-ระ ฯ ซึ่งมีความหมายดังกล่าวแล้ว ในหลวงรัชกาลที ๖ ทรงพระราชทานนามเอง ด้วยทรงทราบในจริยวัตรอันงดงามของท่าน

พระครูวิตถารสมณกิจ หรือพระอุปัชฌาย์ คำ เป็นพระรัตตัญญู คือมีพรรษายุกาลมาก เป็นพระที่สมถะ ใจดี ไม่สะสมเงินทอง
ท่านมรณะภาพที่โรงพยาบาลสงฆ์ กรุงเทพ ฯ ด้วยโรคลมปัจจบัน เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๓
ภายหลังจากท่านมรณะภาพแล้ว ได้มีการสำรวจทรัพย์สินในกุฏิของท่าน ปรากฏว่า ไม่พบปัจจัยและทรัพย์สินมีค่าใด ๆ เลย
ท่านบริสุทธิ์โดยแท้...
สุปฏิปันโน สาวกสังโฆ..ฯลฯ ผู้สมควรแก่การกราบไหว้ ฯ

วัดโพธิ์ปล้ำ แต่เดิมมีสภาพที่ชำรุดทรุดโทรมมาก
ท่านเจ้าคุณพระธรรมวรนายก ท่านระลึกถึงพระคุณของพระอุปัชฌาย์
จึงได้ชักชวนญาติโยมไปร่วมบูรณะวัดโพธิ์ปล้ำ ทั้งวัด
เริ่มตั้งแต่..โบสถ์ ซ่อมใหม่ทั้งหลัง รวมถึงทำกำแพงแก้ว สร้างศาลาการเปรียญใหม่ ๑ หลัง สร้างหมู่กุฏิและหอสวดมนต์ใหม่ทั้งหมด
และเปลี่ยนชื่อวัดใหม่เป็น ..วัดโพธิ์คำธรรมาราม เพื่อเป็นเกียรติแก่พระอุปัชฌาย์ ซึ่งมีนามว่า .คำ..


ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-3-22 21:34 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
วัดโพธิ์ปล้ำ จ.อ่างทอง เป็นวัดโบราณสร้างมาแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี เดิมชื่อวัดพายทอง
ใครเป็นผู้สร้างไม่ปรากฏหลักฐานเป็นที่ยืนยันแน่นอน ด้วยอายุการสร้างที่ยาวนานผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายชั่วอายุคน ทั้งเจริญรุ่งเรืองหรือเสือมโทรมเป็นบางขณะ
จากลำดับเจ้าอาวาสหลายต่อหลายองค์จากอดีตจวบจนปัจจุบันนั้น
ดูเหมือนหลวงปู่คำ ปญฺญาสาโร ดูจะเป็นที่รู้จักแพร่หลายในวงการพระเครื่อง เนื่องจากท่านเป็นอีกหนึ่งพระคณาจารย์ดังของ จ.อ่างทอง
วัตถุมงคลที่สร้างและปลุกเสกเอาไว ้มีมากมายหลายชนิดทั้ง พระสมเด็จ เหรียญ พระเนื้อว่านผสมผงยา ผ้ายันต ์ตะกรุด รูปถ่าย
ที่ได้รับความนิยมสูงพร้อมทั้งมากล้นประสบการณ์คือ เบี้ยแก้

หลวงปู่คำวัดโพธิ์ปล้ำนามเดิมคือ คำ นามสกุล ทรัพย์ประเสริฐ
เป็นบุตรของพ่อเส็งแม่ไท
เกิดเมื่อวันพฤหัสบด ีเดือน 10 ปีฉล ูปีพ.ศ.2432 ณ ปากคลองวัดโพธ ิ์
ครั้นเมื่ออายุครบได้อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดโพธิ์โดยมีพระพระญาณไตรโลก (อาจ) วัดศาลาปูน เป็นพระอุปัชฌาย ์พระครูวินญานุโยก แห่งวัดกษัตราธิราชพร้อมทั้งพระอุปัชฌาย์จั่น วัดทำนบ เป็นพระกรรมวาจาจารย ์และอนุสาวนาจารย์ตามลำดับ

ได้ศึกษาพระเวทย์วิทยาคมพร้อมทั้งสรรพวิชาต่างๆ จากสมุดข่อย ที่พบในโพรงต้นโพธิ์ภายในวัดจนเชี่ยวชาญชำนาญอย่างยิ่งยวด
อีกทั้งยังแลกเปลี่ยนวิชากับอีกหลายพระคณาจารย์ ไม่ว่าจะเป็น ล.พ.พริ้ง วัดบางปะกอก, ล.พ.จง วัดหน้าต่างนอก, ล.พ.พักวัดโบสถ์และท่านเจ้าคุณสุธรรมธีรคุณ วัดสระเกศ เนื่องจากมีอายุใกล้เคียงกันแม้ว่าบางองค์จะอาวุโสมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับหลวงพ่อพักวัดโบสถ์จะไปมาหาสู่กันอยู่เสมอๆ

ซึ่งจะเห็นว่าเบี้ยแก้ของท่านทั้งสองจะมีลักษณะใกล้เคียงกันมาก
โดยเฉพาะเบี้ยเปลือย
จนบางครั้งยังมีการเล่นหาสะสมข้ามวัดข้ามสำนักกันอยู่เรื่อยเป็นประจำ

หลวงพ่อคำวัดโพธิ์ปล้ำถึงแก่มรณภาพเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2503รวมสิริอายุ 72 ปี 52 พรรษา

3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-3-22 21:35 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
การสร้างวัตถุมงคลลประเภทเบี้ยแก้ของท่านนั้น เริ่มสร้างมาตั้งแต่ก่อนปีพ.ศ.2493
เท่าที่พบเห็นเล่นหาเป็นสากลเบี้ยของท่านจะเป็นเบี้ยเปลือย ไม่มีการถักเชือกแต่อย่างใด
ส่วนการเลี่ยมจับขอบไม่ว่าจะด้วยเนื้อทองคำ เงิน นาค นั้น แล้วแต่ลูกศิษย์ที่ได้รับจะนำไปเลี่ยมกันเองไม่เกียวกับท่าน
ซึ่งร้านที่มักนิยมนำเบี้ยไปเลี่ยมนั้น เป็นร้านเดียวกับลูกศิษย์ของหลวงพ่อพักวัดโบสถ์นำไปเลี่ยมกัน เป็นร้านทองในตลาดวิเศษชัยชาญ
ฉะนั้นลักษณะการเลี่ยมหากเป็นเบี้ยเปลือยของทั้งสองสำนักนี้จึงมีลักษณะเดียวกัน เพราะเลี่ยมร้านเดียวกันนั่นเอง
จึงเป็นเรื่องยุ่งยากพอสมควรในการจะแย่งแยกและพิจารณา

แต่มักมีข้อเปรียบเทียบง่ายๆ อยู่ว่าเบี้ยแก้ของหลวงพ่อพัก วัดโบสถ์มักจะตัวใหญ่กว่าของหลวงปู่คำ วัดโพธิ์ปล้ำ
แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นข้อเท็จจริงในการชี้ชัดจุดตายตัวได้

การปิดท้องเบี้ยภายหลังบรรจุปรอทเข้าไปในตัวเบี้ยแล้วจะปิดทับด้วยชันโรงและแผ่นหรือ
ตะกรุดเนื้อทองแดง (ต่างจากหลวงพ่อพักที่ใช้ตะกรุดเนื้อชินเนื้อตะกั่ว)

ในส่วนของการปิดทับด้วยชันโรงนั้นแบ่งเป็น 3 ยุค 3 ลักษณะด้วยกัน
กล่าวคือเบี้ยแก้ยุคแรกจะปิดทับด้วยชันโรงที่ได้รับจากธรรมชาติอันแแท้จริง
แต่เนื่องจากเป็นของทนสิทธิ์ที่ได้จากธรรมชาติจึงหาได้ยาก
ต่อมาจึงเปลี่ยนมาเป็นชันยาเรือผสมว่านแทน และท้ายสุดอุดทับด้วยชันยาเรือผสมผงอิทธิเจ ซึ่งลักษณะประการหลังนี้พบเห็นได้น้อยมาก
ในเบี้ยแก้หลวงปู่คำวัดโพธิ์ปล้ำ จ.อ่างทองนั้น เมื่อเขย่าดู เสียงปรอทจะแตกต่างออกไปไม่เหมือนเบี้ยแก้สำนักอื่นๆที่เวลาเขย่าจะมีเสียงดังขลุกๆ
จะเสียงดังแซ๊กๆคล้ายกับเสียงของเม็ดทรายวิ่งอยู่ภายใน
นับเป็นเอกลักษณะอีกอย่างหนึ่งของเบี้ยแก้สำนักนี้ที่สามารถใช้เป็นจุดสังเกตได้

พุทธคุณของเบี้ยแก้สำนักนี้ก็เหมือนกับเบี้ยแก้สำนักอื่นๆ
คือป้องกันคุณไสยยาสั่งแก้เหตุร้ายให้กลับกลายเป็นดี
พร้อมทั้งแคล้วคลาดปลอดภัยคงกระพันชาตรี และ มหาอุตม์ เป็นต้น



ที่มา http://forum.ampoljane.com/index ... readed&pid=9355

กราบนมัสการ

ขอบคุณข้อมมูลครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้