ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 6271
ตอบกลับ: 4
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

ตะกรุดลูกอม

[คัดลอกลิงก์]
ตะกรุดลูกอม


ในสมัยที่หลวงพ่อหยอดยังทรงสังขารอยู่เครื่องมงคลที่ดูจะสร้่างชื่อเสียงให้กับองค์หลวงพ่อ นอกจาก

“ไหมเบญจรงค์ห้าสี ”
แล้ว “ตะกรุดโลกธาตุ” หรือที่เรียกกันอย่างง่ายๆ ว่า “ตะกรุดลูกอม” ก็ดูจะเป็นวัตถุมงคล
ที่มีประสบการณ์อย่างมากชนิดที่เรียกว่า “ปากต่อปาก” กันเลยที่เดียว...

ตะกรุดโลกธาตุ หลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ


“ตะกรุดโลกธาตุ” เป็นตะกรุดขนาดเล็กใช้พกติดตัว อุปเทห์วิธีการบูชาแต่
โบราณท่านว่ามีอิทธิฤทธิ์มากโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องแคล้วคลาด ตามตำรากล่าวไว้ว่าเมื่อถึงคราวคับขันจวนตัวจะถูกทำร้ายให้กลืนเข้าไปในท้อง
จะเป็นล่องหนหายตัวป้องกันอันตรายได้ทุกประการ ตะกรุดนี้เชื่อว่าสามารถออกจากร่างกายได้เอง โดยให้ตั้งจิตอธิษฐานก่อนนอน รุ่งขึ้นตะกรุดก็จะออกมาปรากฎอยู่ข้่างตัวนั่นเอง โดยจะไม่ออกทางทวารเบื้องต่ำโดยเด็ดขาด จึงเรียกว่า

“ตะกรุดลูกอม”
ตะกรุดโลกธาตุ หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี


มีเคล็ดวิชาการทำตะกรุดโลกธาตุเล่าสืบต่อกันมาว่าศิษย์คนใดขอเรียนวิชานี้ จะต้องทดลองนั่งสมาธิเพ่งจนไส้เทียนขาดเสียก่อนจึงจะได้เรียนวิชาจึงเชื่อได้ว่าพระอาจารย์ที่จะสร้างตะกรุดชนิดนี้จะต้องมีสมาธิจิตดีเยี่ยมเช่นกัน...
ตะกรุดโลกธาตุนี้จะลงด้วยหัวใจโลกธาตุ
“อิจฉันโต จิตโต อิจฉันโต โลกธาตุมหิ อัตตะภาเวนัง นาทุยิ วาระวีสะติ สิทธังละอะ”
ซึ่งเป็นพระคาถาพระพุทธเจ้าเดินจงกรมในพระครรภ์และกลึงปิดหัวท้ายพระยันต์ดังกล่าวด้วยยันต์ใบพัด วัสดุที่ใช้ทำตะกรุดโลกธาตุมักทำด้วย ทองคำ เงิน นาค และทองแดง ต้องมีน้ำหนัก 1 สลึง ขนาดยาวประมาณ 7 ใบมะขาม

ตะกรุดโลกธาตุ หลวงพ่อพระอาจารย์สุรศักดิ์ วัดประดู่


หากมีการเปิดคอคนดังในวงการพระเชื่อว่ามีอยู่ไม่น้อยทีเดียวที่จะต้องมีตะกรุดโลกธาตุ หรือตะกรุดลูกอมนี้บูชาติดตัวอยู่ อย่างน้อยๆ ผมก็เห็นว่ามีอาจารย์เบิ้ม วัดปากน้ำ ท่านหนึ่งล่ะที่มีตะกรุดโลกธาตุของหลวงพ่อหยอด บูชาติดตัวอยู่ในสร้อยที่ท่านอาราธนาอยู่เป็นประจำ ....

ตะกรุดโลกธาตุนี้ ต้องมีอะไรดีเป็นแน่ จริงไหม ?

ด้วยเข้าใจว่าเคล็ดการสร้่าง “ตะกรุดโลกธาตุ” ตามตำราคงจะสูญไปพร้อมกับองค์หลวงพ่อหยอด ด้วยว่าไม่ใคร่มีพระเถระรูปใดสร้่างตะกรุดโลกธาตุขึ้นมาอีก....
แต่แล้วก็มีข่าวดีแว่วมาจากลูกศิษย์ของท่านอาจารย์เบิ้ม ท่านหนึ่งรายงานมาว่ายังมี พระอยู่รูปหนึ่งที่อ.อัมพวา ยังคงสืบทอดการทำตะกรุดสายวิชาของลุ่มน้ำแม่กลองอยู่อย่างถูกต้องตามตำรา และได้ยินมาว่าทำได้ขลังนัก...
พระอาจารย์รูปนี้คือ

2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-4-17 09:28 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
พระมหาสุรศักดิ์ อติสักโข วัดประดู่ อ.อัมพวา
จ.สมุทรสงคราม




พระมหาสุรศักดิ์ อติสักโข วัดประดู่


จะว่าไปแล้วก็ดูเป็นที่น่าแปลกใจอยู่มิใช่น้อยที่ในที่สุดการสร้่างตะกรุดโลกธาตุนี้ หลังจากที่เดินทางไปไกลถึง จ.กาญจนบุรี แล้วกลับมาวนเวียนอยู่แถวแม่กลอง โดยหลวงปู่ใจ วัดเสด็จ หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬสมณี หลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ สุดท้ายก็กลับมาที่จุดเริ่มต้นดั้งเดิมของสายวิชาคือที่วัดประดู่ แห่งนี้เอง...

วัดประดู่วันนี้เป็นวัดที่ดูสงบ สะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย แสดงให้เห็นถึงได้รับการปกครองอย่างดีจากเจ้าอาวาส ในบริเวณวัดยังได้มีการจัดพิพิธภัณฑ์พระราชศรัทธาของล้นเกล้าพระพุทธเจ้าหลวงรัชกาลที่5 เมื่อครั้งได้เสด็จประภาสที่วัดประดู่แห่งนี้ในสมัยที่หลวงปู่แจ้งเป็นเจ้าอาวาสในครั้งอดีต หากมีเวลาแนะนำให้ขึ้นไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ได้นะครับโดยพิพิธภัณฑ์นี้จะปิดประมาณ 4 โมงเย็น...

แต่ด้วยการไปวัดประดู่ในครั้งนี้เป็นไปด้วยเหตุแห่ง “ตะกรุดขลัง” ดังนั้นต้องไปเยี่ยมชมตู้วัตถุมงคลของทางวัดก่อนเป็นอันดับแรก...
ตะกรุดที่มีให้บูชาอยู่ในตู้นอกจากตะกรุดโลกธาตุแล้ว ยังมีตะกรุดมหาระงับตามตำราของหลวงปู่ใจ วัดเสด็จ ,ตะกรุดดาวล้อมเดือน , ตะกรุดใบลาน , ตะกรุดมหาปราบ และเครื่องมงคลอีกหลายอย่างมากมายทีเดียวครับ ....


แต่คงต้องกระซิบดังๆ ว่า “ตะกรุด” คงเป็นไฮไลท์ของเครื่องมงคลทั้งปวงอย่างไม่ต้องสงสัย...
ท่านพระมหาสุรศักดิ์ เล่าว่าท่านเรียนวิชาการทำตะกรุดโลกธาตุและตะกรุดต่างๆตามตำราของหลวงปู่ใจ วัดเสด็จมาจากหลวงพ่อหยอดวัดแก้วเจริญด้วยท่านพระมหาสุรศักดิ์นี้มีความใกล้ขิดหลวงพ่อหยอดเป็นอย่างดี โดยท่านเป็นอดีตพระเลขานุการขององค์หลวงพ่อหยอดนั่นเอง ด้วยเหตุนี้จึงได้วิชามามิใช่น้อย


ด้วยเหตุที่ตามตำราเดิมนั้นผู้ที่จะทำตะกรุดโลกธาตุได้นั้นต้องขลังขนาดเพ่งไส้เทียนขาดผมเลยกราบเรียนถามหลวงพ่อพระอาจารย์มหาสุรศักดิ์ถึงเรื่องดังกล่าวซึ่งท่านได้เคลียร์ข้อสงสัยของผมได้อย่างหมดสิ้น...ท่านบอกว่ามันมีอีกเคล็ดวิชาหนึ่งของผู้ที่ต้องการจะเรียนการทำตะกรุดโลกธาตุคือหนึ่งให้เพ่งไส้เทียนจนขาดหรือไม่ก็ต้องถือ”อโกรธ” คือความไม่โกรธ ไม่ว่ากล่าวหรือแช่งผู้ใดและให้บวชตลอดชีวิตหลวงพ่อก็เลยเฉลยให้ฟังว่าท่านรับปากหลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญว่าจะไม่โกรธ ไม่แช่งผู้ใด และจะบวชตลอดชีวิตผมก็เลยถึงบางอ้อ ณ. กาลบัดนั้น...

เมื่อได้พูดคุยกับท่านพระมหาสุรศักดิ์แล้วทำให้รู้สึกได้อย่างหนึ่งว่าท่านเป็นพระที่พูดจาได้ไพเราะยิ่ง ทุกประโยคจำลงท้ายด้วยคำว่า “จ้ะ” หรือ “จ๊ะ” เสมอ เช่น “มากันนานแล้วหรือจ๊ะ”

มีเรื่องเล่ากันในหมู่ลูกศิษย์ว่ามีคราวหนึ่งที่ท่านพระมหาสุรศักดิ์ต้องลงกระหม่อมให้กับท่านอาจารย์ฆราวาสท่านหนึ่งจะเป็นด้วยความอาวุโสของอาจารย์ท่านนั้น หรือด้วยเพราะ “กระหม่อม” ของอาจารย์ท่านนั้น “เต็ม” ไปด้วย “ของเดิม” ที่ลงไว้โดยพระเถระที่มีชื่อเสียงในอดีตถึงปัจจุบันนับไม่ถ้วน และยัง“สรรพวิชา” ซึ่งอาจารย์ท่านนั้นได้เล่าเีรียนมาจากอาจารย์ของท่านแต่ครั้งอดีตอีก


ท่านพระมหาสุรศักดิ์ได้ปฏิเสธการลงกระหม่อมให้กับอาจารย์ท่านนั้นด้วยวาจาอันไพเราะว่า

“ไม่ต้องลงอีกก็ได้จ้ะ”

แต่ท่านอาจารย์ฆราวาสท่านนั้นก็ยังนอบน้อมกราบเรียนท่านไปว่า “ลงให้หน่อยเถอะครับ”
ก่อนที่ท่านพระมหาสุรศักดิ์จะจรดเหล็กจากลงบน “กระหม่อม” ท่านก็คงพูดอย่างไพเราะอีกว่า
“ขออภัยนะจ๊ะ”
จากนั้นจึงลงกระหม่อมตามวิชาที่ท่านได้เล่าเรียนมา
แต่หลังจากนั้นก็ลงให้กับลูกศิษย์อีกหลายคนแต่ไม่ปรากฏว่าท่านพระมหาสุรศักดิ์กล่าว “ขออภัย” อีกแต่อย่างใด .....


พระอาจารย์มหาสุรศักดิ์ลงจารของให้ลูกศิษย์

ผู้ที่จะเข้าใจความหมายของการสนทนานี้อย่างแจ่มแจ้งคงมีแต่เพียงท่านพระมหาสุรศักดิ์ กับอาจารย์ฆราวาสท่านนั้นเท่านั้น คนที่นั่งอยู่รายรอบคงไม่ทราบว่าท่านทั้งสองคุยกันนี้เรื่องอะไร

น่าแปลกดีไหม !!?

หากจะให้เดาคงจะเป็นไปในทางที่ว่า “ปราชญ์ย่อมเข้าใจในปราชญ์” เป็นแน่
ต่างฝ่ายคงต่างทราบถึง “วิชา” ที่แต่ละคน “ถือครอง” อยู่นั่นเอง....
จากการสอบถามตะกรุดต่างๆของท่านพระมหาสุรศักดิ์นี้ทำการสร้่างด้วยวิธีโบราณคือลงเหล็กจารด้วยมือทุกดอกโดยท่านพระมหาสุรศักดิ์เองมิได้ทำการสร้่างแม่พิมพ์แล้วปั๊มโลหะอย่างที่บางสำนักอาศัยความสะดวกในการสร้่าง
อย่างในปัจจุบัน และคงเป็นด้วยเหตุที่ต้องลงจารด้วยมืออย่างโบราณทำให้มีการเรียกสูตรสนธิของอักขระแต่ละตัวตามตำราก่อให้เกิดความขลังกับตะกรุดแต่ละชนิดตามเคล็ดวิชาจึงมีประสบการณ์ตามมาจากผู้อาราธนาติดตัวอยู่มิได้ขาด...
วัดประดู่นี้อยู่ไม่ไกลจากวัดแก้วเจริญของหลวงพ่อหยอดมากนัก ใครที่เคยไปกราบหลวงพ่อหยอดเมื่อในอดีตย่อมไปวัดประดู่ได้ไม่ยากหากไปไม่ถูกก็ถามคนที่อัมพวาดูคงได้ลายแทงไม่ยาก ....


ที่มา..http://www.oknation.net/blog/print.php?id=398879
สาธุครับ
พระอาจารย์มหาสุรศักดิ์ ท่านเป็นผู้คงแก่เรียนอีกท่านหนึ่ง ท่านเรียนมาหลายอาจารย์เหมือนกัน  อยากรู้จังครับท่านลงอะไรบ้าง และใครคือ บุคคลที่ท่านขออภัยก่อนลงกระหม่อม    
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้