ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 28119
ตอบกลับ: 25
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

เบี้ยแก้

[คัดลอกลิงก์]
เบี้ยแก้ หลวงปู่รอด วัดนายโรง


ประวัติความเป็นมา
"เบี้ยแก้สารพัดดี หลวงปู่รอด วัดนายโรง"
หลวงปู่รอดท่านเป็นชาวบ้านบางพรม อำเภอตลิ่งชัน อุปสมบทที่วัดเงิน (วัดรัชฎาธิษฐาน) อยู่ในคลองบางพรม ซึ่งเป็นวัดที่มีชื่อเสียงเลื่องลือมากในสมัยนั้น ต่อมาท่านได้ย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่วัดนายโรง จนได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสรูปที่ 3 ของวัดนายโรง ท่านเป็นพระที่มีความรู้ความชำนาญและเชี่ยวชาญในด้านวิปัสสนาธุระ อีกทั้งด้านพุทธาคมและเวทวิทยาคม ท่านจึงเป็นพระเถราจารย์ที่มีผู้เคารพศรัทธาเลื่อมใสมากองค์หนึ่งของย่านคลองบางกอกน้อย หลวงปู่รอดท่านได้สร้างเบี้ยแก้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังและนับว่าเป็นเลิศตั้งแต่อดีตจนมาถึงปัจจุบัน
การสร้างเบี้ยแก้ของหลวงปู่รอดนี้ บ้างก็ว่าท่านเรียนวิชาการทำเบี้ยมาจาก "หลวงปู่แขก วัดบางบำหรุ" บางท่านก็ว่าเรียนมาจาก "พระภาวนาโกศล (รอด) วัดโคนอน" (พระอาจารย์ของหลวงปู่เอี่ยม วัดหนังวรวิหาร) บ้างก็ว่าท่านได้วิชานี้มาจากชาวกะเหรี่ยง จนปัจจุบันก็ไม่มีใครสามารถสรุปหรือหาหลักฐานที่ชัดเจนได้ว่าหลวงปู่ท่านเรียนวิชาทำเบี้ยมาจากไหน รู้แต่เพียงว่า "เบี้ยแก้ของหลวงปู่รอด วัดนายโรงนั้นสารพัดดีอย่างแน่นอน"

การสร้างเบี้ยแก้ของหลวงปู่รอด วัดนายโรง

ท่านจะคัดตัวเบี้ยที่มีขนาดไม่ใหญ่จนเกินไป วัดขนาดใต้ท้องเบี้ยยาวประมาณ 3.5 ซม. กว้าง 2.5 ซม. หรือยาวประมาณ 3.4 ซม. กว้าง 2.4 ซม. ให้มีฟันครบ 32 ซี่ บรรจุปรอทแล้วจึงอุดด้วยชันโรงใต้ดิน แล้วจึงหุ้มด้วยแผ่นตะกั่ว บางตัวก็หุ้มหมดทั้งตัว บางตัวหุ้มเปิดที่ด้านหลังเบี้ยไว้ บางตัวก็ไม่มีตะกั่วหุ้มก็มี บางตัวอาจจะใช้ผ้ายันต์หุ้มแทนตะกั่วก็มี ตะกั่วที่หุ้มเบี้ยหลวงปู่จะลงอักขระพระเจ้า 16 พระองค์ และยันต์ตรีนิสิงเห แล้วจึงปลุกเสกอีกครั้งหนึ่งจึงมอบให้แก่ศิษย์ ถ้านำเบี้ยมาเขย่าใกล้ๆ หูจะได้ยินเสียงปรอทสั่นคลอนเบาๆ เบี้ยบางตัวมักถักเชือกกันเอาไว้ โดยฝีมือการถักของหลวงลุงชม ซึ่งมีมือละเอียดประณีตดีนักแล หูด้ายที่ถักบางทีก็มีหูเดียว บางทีก็มีสองหรือสาม คือถ้าเป็นเบี้ยสำหรับผู้หญิงมักมีหูถักอันเดียวไว้ร้อยกับเชือกสวมคอ แต่ถ้าเป็นของผู้ชายมักจะมีสองหรือสามหู เพราะผู้ชายจะใช้ร้อยเชือกคาดเอว จากนั้นจึงลงรัก หรือลงยางมะพลับไว้อีกทีหนึ่ง เพื่อความคงทนของเชือกที่ถัก เบี้ยบางตัวอาจจะมีการลงรักปิดทองไว้ด้วย หรือบางตัวก็มีการบรรจุตะกรุด ซึ่งหาดูได้ยากมาก
เบี้ยแก้ ของหลวงปู่รอด จัดว่าเป็นของ "สารพัดดี" มีพลานุภาพเข้มขลัง ใครมีไว้ติดตัวถือว่าดีนักแล และจะดียิ่งขึ้นหากท่านหมั่นภาวนาระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ รวมถึงทำความดีอยู่เนืองนิตย์

ที่มา http://men.sanook.com/1449/เบี้ยแก้-หลวงปู่รอด-วัดนายโรง/


2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-2-24 13:24 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้





คาถาเสกเบี้ยแก้

ตั้งนะโม  3  จบ  เสร็จแล้วให้ตั้งธาตุ
นะ  มะ  พะ  ทะ  ( 3  จบ )
จะ  ภะ  กะ  สะ  ( 3  จบ )
เมื่อตั้งธาตุเสร็จแล้ว  ให้ภาวนาคาถา  3  จบ  ดังนี้
“ อะสิสะติ  ธะนูเจวะ
สัพเพเต  อาวุธานิจะ
ภัคคะ  ภัคคาวิจุนนานิ
โลมังมาเม  นะผุสสันติ ”

สู้ไว้ข้างหน้า  ไม่กล้าไว้ข้างหลัง  เมตตามหานิยมไว้ขวา  กันอาวุธศาสตราไว้ซ้าย  แขวนคอ  แก้ลมเพลมพัด  อัมพาต  แขน  ขา  ปาก  คอ  หลัง  ลิ้นกระด้าน  ถอนคุณไสยรูปรอยลงบนใบหมอน  คลึงแป้งถอนคุณ  คลึงปูนถอนพิษ  ถอนเสา   ถอนพระภูมิ  ศาลเจ้า  เจว็ด  เสมา  กำแพง  เสกภาวนา  สมุหเนยยะ  สะมุหะนะติ  สะสุหะคะโต  สีมาคะตัง  พันธะเสมายัง  สะมุหะนิตัพโพ  เอวังเอหิ  นะเคลื่อนโมถอน  พุทคลอน  ธาเคลื่อน  ยะเลื่อนหลุดลอย  สวาหะ
“ โลปุสุ  สะวิพุ  สังภะอะ ”  ว่าแต่นารายณ์ถวายจักร  7  ที
ภาวนาก่อนใช้  อะสัง  วิสุ  โล  ปุสะพุภะ  พุทธะสังมิ  อิสะวาสุ
เอา ดอกไม้หลากสี  ดอกพุทธรักษา  ธูป  เทียนบูชา  อธิษฐานด้วยขันน้ำมนต์  และอธิษฐานเอาตามใจเถิด  แล้วภาวนาต่ออายุ  สะธะวิปิ  ปะสะอุ  3  ที
บทสักกัตตะวาด้วยก็ดี  ผูกขอดชายผ้ากันปืน
อะนิทัสสะนะอัปปะติ  ลั่นไกมิออก
อะนิทัสสะนะอัปปะติคา  ลูกมิออกลำกล้อง
อะนิทัสสะนะอัปปะติคายะ  ลำกล้องแตก
ภาวนาอภัยกรรม  ให้คนเกลียด  เดียด  โกรธ  เพ่งโทษ  จองเวร  ให้หายพยาบาทพยาเวร  ต่อแล้วดี  กันหายกัน  แล.
“ นะเมตตาจะมหาราชา  อะเมตตาจะมหาเสยส  อุเมตตาจะมหาชะนา  สัพพะสิเนหา  จะปชิตาสสัพพะสยัง  จะมหาลาภัง  ราชาโกธังวินัสสันติ  ชะนาโกธัง  วิสัสสันติ  สัพพะโกธัง  วินัสสันติ ”
วิธีใช้เบี้ยแก้
ตั้งนะโม  3  จบ
อิ ติปิโส  ภะคะวา  ยาตรายามดี  ได้ยามพระศรี  สวัสดีลาโภ  นะโมพุทธายะ  แล้วสวดคาถาหัวใจต่อ  อะสัง  วิ  สุ  โล  ปุ  สะ  พุ  ภะ  พุท  ธะ  สังมิ  อิสวาสุ
            
“ เบี้ยแก้ ”  นับแสนตัวของหลวงปู่เจือที่แพร่หลายไปทั่วประเทศ  ก่อเหตุการณ์นานาประการอันน่าอัศจรรย์มากมาย  มีคนเดินทางไปไต่ถามหลวงปู่เจือกันมากว่า  เบี้ยของหลวงปู่ดีทางไหน  หลวงปู่ได้แต่เมตตาไม่เคยคุยโม้โอ้อวด  นอกจากรอยยิ้ม  หรืออย่างมากก็บอกว่า “ ลองเอาให้ใช้ดู ”  มีบางรายกระเซ้ากระซี้อยากให้หลวงปู่ตอบว่าดีอย่างไร  ใช้อย่างไร  หนัก ๆ  เข้าจนหลวงปู่นึกอะไรไม่ทราบได้  ท่านกระซิบแผ่วเบาด้วยความเมตตาตอบกับผู้นั้นไปว่า  “ ไม่รู้  ฉันก็ไม่เคยใช้  ได้แต่ทำ ”


ที่มา http://watkbk.com/page.php?a=10&n=209&cno=130

3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-2-24 13:25 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้


เบี้ยแก้'หลวงพ่อโปร่ง ปัญญาธโร'สายอ่างทองเบี้ยแก้'หลวงพ่อโปร่ง ปัญญาธโร' สุดยอดเบี้ยแก้สายอ่างทองทีมากด้วยประสบการณ์ : พระองค์ครู เรื่องและภาพ ไตรเทพ ไกรงู
               "เบี้ยแก้เป็นอิทธิวัตถุชั้นหนึ่ง เตือนใจให้สะดุ้งกลัวภัยที่มองไม่เห็น หากบุคคลใด มีไว้เป็นสมบัติ นำติดตัวโดยคาดไว้กับเอวหรือโดยประการอื่น ย่อมปกป้องภยันตรายได้ทั้งปวง เป็นเมตตามหานิยม แคล้วคลาด มหาอุดคงกระพันทุกประการ คุ้มกันเสนียดจัญไร คุณไสย ยาสั่งและการกระทำย่ำยี ทั้งหลายทั้งปวงได้ชะงัด"




ที่มา http://www.komchadluek.net/detail/20130914/168177/เบี้ยแก้หลวงพ่อโปร่งปัญญาธโรสายอ่างทอง.html#.UwrlvUQ1MuE


4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-2-24 13:27 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้



เบี้ยแก้หลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน
สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน วันนี้เราก็มาคุยกันถึงเรื่องเบี้ยแก้ สายอ่างทองกันต่อ เบี้ยแก้ที่จะพูดถึงวันนี้ก็คือ เบี้ยแก้ของหลวงพ่อนุ่ม วัดนางในธัมมิการาม อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทองครับซึ่ง หลวงพ่อนุ่ม ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังของจังหวัดอ่างทองเช่นกันครับ
เบี้ยแก้หลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน เบี้ยแก้ของท่านนั้นก็เป็นที่นิยมกันมาก เนื่องด้วยมีประสบการณ์ต่างๆ มากมาย เบี้ยแก้ของหลวงพ่อนุ่มนั้นท่านได้สร้างไว้ มีทั้งเบี้ยพลู และเบี้ยจั่น


ที่มา http://www.tumsrivichai.com/inde ... 652270&Ntype=40
5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-2-24 13:59 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เบี้ยแก้ วัดท่าช้าง จ.อ่างทอง



เบี้ยแก้ นั้นเป็นสุดยอดเครื่องรางของขลัง ที่มีพุทธคุณครบทุกด้าน ด้านป้องกันคุณไสย ยาสั่ง แก้เหตุร้ายให้กลายเป็นดี แคล้วคลาดปลอดภัย และคงกระพันชาตรี เบี้ยแก้ หลวงพ่อโปร่ง นั้นถือได้ว่าเป็นอันดับต้นๆ ในสายอ่างทองที่เล่นหากันในหมู่นักสะสม
     ขั้นตอนการสร้างนั้นท่านจะเรียกปรอทเข้าตัวเบี้ยแล้วอุดด้วยชันโรงใต้ดิน ปิดทับด้วยตะกั่วจารยันต์ผนึกแปะทับบนชันโรงปากเบี้ย
     หลวงพ่อโปร่ง ปัญญาธโร ท่านเป้นอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าช้าง มรณภาพเมื่อ 21 ธันวาคม 2533 สิริอายุรวม 88 ปี ด้วยอภิญญาญาณของท่านทำสังขารชองท่านไม่เน่าไม่เปื่อยเป็นอัศจรรย์อย่างยิ่ง ลูกศิษย์ท่านจึงนำสังขารท่านบรรจุไว้ในโลงแก้ว เพื่อเป็นสักการะแก่ศิษยานุศิษย์ และญาติโยมทั่วไป
     การสร้างเบี้ยแก้ของวัดท่าช้างในครั้งนี้ ก็สืบตำราการสร้างเบี้ยแก้มาจากหลวงพ่อโปร่ง โดยไม่มีผิดเพี้ยน ทั้งการกรอกปรอท อุดชันโรงขังปรอท จารยันต์ผนึกบนตะกั่วปิดทับบนปากเบี้ยถูกต้องตามตำราทุกกระบวนการ เพื่อให้ง่ายต่อการพกพาจึงนำเชือกมาถักหุ้มเบี้ยเป็นลายกระสอบ เปิดหัวให้เห็นลายเบี้ย เปิดก้นให้เห็นตะกั่วจารมือ ครบถ้วนกระบวนความ เสกเดี่ยว และเสกใหญ่โดยเกจิอาจารย์ในสายวิเศษชัยชาญ อ่างทอง เข้มขลัง ศักดิ์สิทธิ์ ให้สมเป็นเบี้ยแก้แห่งเมืองอ่างทองที่พุทธคุณเข้มขลัง และทรงฤทธานุภาพ


ที่มา http://pleophloeng.blogspot.com/2013/07/blog-post_4324.html


มีเบี้ยเเก้ต้องมีเบี้ยกัน
7#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-2-25 13:53 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
oustayutt ตอบกลับเมื่อ 2014-2-24 19:55
มีเบี้ยเเก้ต้องมีเบี้ยกัน

มีแก้มีกัน
9#
 เจ้าของ| โพสต์ 2020-1-21 02:21 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

เมื่อแก้แล้ว เราต้องรู้วิธีป้องกันด้วย ครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้