ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 1869
ตอบกลับ: 1
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

ประเสริฐ อดุลสุทธานนท์กับปาฏิหาริย์พระหลวงพ่อใหญ่ที่บึงกาฬ

[คัดลอกลิงก์]
[url=][/url]

ประเสริฐ อดุลสุทธานนท์กับปาฏิหาริย์พระหลวงพ่อใหญ่ที่บึงกาฬ                                        ประเสริฐ อดุลสุทธานนท์กับ...ปาฏิหาริย์พระหลวงพ่อใหญ่ที่บึงกาฬ : เรื่องและภาพ ไตรเทพ ไกรงู                                                                
               “หลวงพ่อพระใหญ่” หรือ “หลวงพ่อใหญ่” เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองศูนย์รวมจิตใจของชาวบึงกาฬ และชาวจังหวัดใกล้เคียงรวมไปถึงในสปป.ลาว ที่อยู่ในลุ่มน้ำโขงแถบนี้ ประดิษฐาน ณ อุโบสถ วัดโพธาราม บ้านท่าไคร้ ต.บึงกาฬ หลวงพ่อพระใหญ่ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยศิลปะสมัยล้านช้าง หน้าตักกว้าง ๒ ศอก ๑ คืบ ๔ นิ้ว ดั้งเดิมเป็นพระพุทธรูปทองสำริดที่มีความงดงาม แต่ต่อมามีการพอกปูนฉาบไว้ ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นการอำพรางจากเหตุการณ์สงคราม

               นายประเสริฐ อดุลสุทธานนท์ ประธานหอการค้าจังหวัดบึงกาฬ หรือเจ้าของฉายา "ซ้ง บึงกาฬ" บอกว่า ตามประวัติไม่มีหลักฐานระบุชัดว่าหลวงพ่อพระใหญ่สร้างขึ้นในสมัยใด มีเพียงคำบอกเล่าของชาวบ้านระบุว่า ได้มีการพบองค์หลวงพ่อพระใหญ่ในบริเวณป่าทึบเมื่อประมาณกว่า ๒๐๐ ปีที่แล้ว ในขณะที่บางความเชื่อก็ว่าท่านลอยน้ำมาติดที่ริมน้ำโขง

               ทั้งนี้ทุกๆ ปี จะมีการจัดงานประเพณีทำบุญหลวงพ่อพระใหญ่ขึ้น ปีละ ๒ ครั้ง ครั้งแรกเป็นงานประเพณีบุญเดือน ๓ หรือบุญข้าวจี่ ที่จะมีการถวายปราสาทผึ้งด้วย ครั้งที่สองเป็นประเพณีสรงน้ำหลวงพ่อพระใหญ่ จัดขึ้นหลังช่วงเทศกาลสงกรานต์

               "เรื่องเล่าเกี่ยวกับอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อพระใหญ่นั้นมีมากหลาย โดยผู้ที่มากราบไหว้องค์หลวงพ่อพระใหญ่ มีความเชื่อว่าจะทำให้มีความเจริญรุ่งเรือง มีตำแหน่งการงานที่ใหญ่ขึ้น มีโชคลาภแคล้วคลาดปลอดภัย ซึ่งชาวบ้านที่นี่หลังบนบานสมหวังแล้ว มักนิยมแก้บนด้วยการจุดบั้งไฟน้อย(บั้งไฟลูกเล็ก) ๙ ลูก ยิงข้ามไปยังฝั่งโขง นับเป็นการแก้บนที่มีความเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นอีกแห่งหนึ่ง" ซ้ง บึงกาฬกล่าว

               ส่วนการสะสมพระเครื่องนั้น นายประเสริฐ บอกว่า เล่นพระมาเมื่อ ๓๐ ปี ก่อน ขณะนั้น จ.บึงกาฬ ขึ้นกับ จ.หนองคาย เริ่มจากเหรียญพระเกจิในท้องถิ่นก่อน มีหลวงพ่อพระใส จ.หนองคาย หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี พระเครื่องในดวงใจ เป็นพระหลวงปู่ทวด เนื้อว่าน พ.ศ. ๒๔๙๗ พิมพ์กลาง ซึ่งมีประสบการณ์และปาฏิหาริย์มาหลายครั้ง

                       พร้อมกันนี้ ซ้ง บึงกาฬ ยังบอกด้วยว่า ด้วยเหตุที่มีพระเครื่องจำนวนมาก การห้อยพระจึงขึ้นกับโอกาสด้วย แต่ละวันจะไม่เหมือนกัน ถ้าอยู่บ้านไม่เดินทางไกลจะใช้ พระหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า เพราะมีความเชื่อว่า นามอันเป็นมงลของท่านที่ว่า "ศุข" พ้องเสียงกับคำว่า "สุข" จึงคิดว่าแขวนแล้วจะมีความสุข ก่อนจะออกจากบ้านก็จะอาราธนาขึ้นคอ

ภูทอกอัศจรรย์แห่งบึงกาฬ

               นายประเสริฐ บอกว่า วัดเจติยาคีรีวิหาร หรือภูทอก ตั้งอยู่หมู่ ๖ ต.นาแสง อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ ถือว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่สุดในบรรดาสิ่งก่อสร้างทั้งหลาย เป็นวัดของท่านพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ พ.ศ. ๒๔๖๓-พ.ศ. ๒๕๒๓ วิศวะยังยอมแพ้ในการก่อสร้าง ว่าท่านพระอาจารย์จวนสร้างบันไดเวียนวนไปมารอบภูทอก ๗ ชั้น ด้วยบารมีอภิญญาท่านในการก่อสร้าง คนธรรมดาก่อสร้างไม่ได้แน่นอน

               พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ เป็นผู้มาบุกเบิกภูทอกแห่งนี้ให้มีความเจริญรุ่งเรือง เป็นธรรมสถานสำหรับการปฏิบัติธรรมของพระสงฆ์และฆราวาส เดิมทีได้มีพญานาคอาศัยอยู่ ณ ที่แห่งนี้ แล้วได้รับพระธรรมจากพระอาจารย์จวน พญานาคจึงได้ขอให้ท่านพำนักอยู่ ณ ที่แห่งนี้ และขอให้บอกกับประชาชนว่า ณ วัดภูทอก แห่งนี้ทั้งส่วนที่อยู่พื้นล่างและภูเขา โปรดอย่าถ่มน้ำลายลงพื้น อย่าทิ้งขยะ อย่าส่งเสียงดัง

               วัดเจติยาคีรีวิหาร หรือภูทอก ตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๓ โดยพระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ ได้มาบำเพ็ญเพียรอยู่ที่ภูวัว อ.เซกา เมื่อครั้งยังขึ้นอยู่กับ จ.หนองคาย คืนหนึ่งได้เกิดนิมิตขึ้นเห็นปราสาท ๒ หลัง ลักษณะสวยงามมากอยู่ทางด้านภูทอกน้อย ดังนั้นพระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ จึงได้เดินทางมาพิสูจน์ตามที่เกิดนิมิต และได้พบลักษณะภูมิประเทศที่สวยงามร่มรื่น เหมาะที่จะปฏิบัติธรรม จึงได้สำรวจ และปักกรดอยู่ที่ถ้ำบนภูทอก กับพระครูศริธรรมวัฒน์ ต่อมาชาวบ้านคำแคนเห็นพระอาจารย์จวน ธุดงค์มาอยู่ที่ภูทอก จึงพร้อมใจกันอาราธนาให้สร้างวัดขึ้นที่ภูทอก

สวยดีครับ
คล้ายๆๆพิมพ์แหวกม่านเลย
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้