ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 1725
ตอบกลับ: 8
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

เหตุผลที่ไม่กล้าเริ่มทำธุรกิจ

[คัดลอกลิงก์]
การลงทุนทำธุรกิจอะไรสักอย่างนั้นดูเหมือนจะเป็นเรื่องยาก เพราะต้องลงแรง เสียเวลา และที่สำคัญคือความเสี่ยงที่จะเสียเงินจำนวนมากมายไปกับการลงทุนถ้าหากทำพลาด ซึ่งตัวเราเองก็มีเหตุผลมากมายที่ทำให้ไม่กล้าเริ่มต้นลงมือทำสักที แต่ถึงแม้การทำธุรกิจจะมีความเสี่ยงและสามารถล้มเหลวได้ ซึ่งยังไม่นับรวมอุปสรรคต่างๆ มากมายที่รอให้ฝ่าฟัน แต่ถ้าเราไม่เริ่มต้นทำอะไรขึ้นมาสักอย่างแม้ว่าไอเดียธุรกิจนั้นจะน่าสนใจขนาดไหน ไม่ว่าเราจะเตรียมวางแผนมาดีเท่าไหร่ ธุรกิจนั้นก็จะไม่มีวันได้เกิดขึ้นมาอย่างแน่นอน ดังนั้นหนทางแห่งความสำเร็จคงไปถึงได้ไม่ยากถ้าเราขจัดเหตุผลที่คอยกวนเหล่านี้ออกไปได้ และนี่ก็คือ 9 เหตุผลที่ทำให้เราไม่กล้าเริ่มทำธุรกิจ ลองอ่านดูและลองหาหนทางเอาชนะความกลัวเหล่านี้ไปให้ได้

ถึงแม้ว่าเสี่ยงไปแล้วจะพลาดแต่สิ่งที่ได้ตอบแทนกลับมาก็ย่อมเป็นบทเรียนที่จะทำให้เราได้เรียนรู้เพื่อที่จะได้ไม่พลาดอีกในครั้งต่อๆ ไป
ชีวิตที่เรากำลังเผชิญอยู่ทุกวันนี้ก็มีแต่ความเสี่ยงมากมายอยู่แล้ว แค่เพิ่มความเสี่ยงขึ้นมาอีกสักอย่างจะเป็นอะไรไป ในเมื่อความเสี่ยงนั้นทำให้เราต้องวางแผนต่างๆ ให้รอบคอบมากและรู้จักระมัดระวังมากขึ้น ถึงแม้ว่าเสี่ยงไปแล้วจะพลาดแต่สิ่งที่ได้ตอบแทนกลับมาก็ย่อมเป็นบทเรียนที่จะทำให้เราได้เรียนรู้เพื่อที่จะได้ไม่พลาดอีกในครั้งต่อๆ ไป ถ้าเราตอนนั้นไม่ถอดใจไปซะก่อนนะ
ถ้าลองศึกษาธุรกิจบางอย่างดูแล้วจะพบว่ามีอยู่บางที่ธุรกิจที่มีความเสี่ยงน้อยๆ อยู่บ้าง อย่างเช่น แฟรนไชน์ปราบขยะ ที่เป็นธุรกิจที่ใช้เงินลงทุนไม่มากนักในระยะเริ่มต้น ถึงจะได้กำไรไม่มากสักเท่าไร แต่ความเสี่ยงที่มีก็น้อยตามไปด้วยเช่นกัน

2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-2-8 22:43 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ในความเป็นจริงแล้วมันจะสายก็ต่อเมื่อเราไม่ได้คิดที่จะพัฒนาสิ่งที่มีอยู่แล้วให้ดีขึ้นกว่าเดิม
อย่างน้อยๆ Mark Zuckerburg ก็ไม่ใช่คนแรกที่เริ่มต้น Social media เพราะทุกอย่างต้องมีการพัฒนาขึ้นไปข้างหน้าอยู่เสมอ และไม่เคยมีนวัตกรรมใดที่สร้างเพียงครั้งเดียวแล้วมีคุณสมบัติเสร็จสรรพโดยไม่การต่อยอดความคิดเข้าไปในนวัตกรรมอีก ซึ่งบริษัทต่างๆ ที่โด่งดังและมีชื่อเสียงมากมายก็ล้วนแล้วแต่นำสิ่งที่มีอยู่แล้วมาเพิ่มไอเดียเข้าไปแทบทั้งนั้น เช่น บริษัทอย่าง Facebook ก็ตัดสินใจที่จะสร้างเครือข่ายออนไลน์ทั้งๆ ที่ในตอนนั้นก็มี Myspace และ Hi5 อยู่แล้ว แต่ Facebook ก็ยังหาทางที่จะพัฒนาขีดความสามารถจากสิ่งที่มีอยู่แล้วให้เป็นที่ถูกใจคนทั่วโลกได้ ในความเป็นจริงแล้วเราจะมาสายก็ต่อเมื่อเราไม่ได้คิดที่จะทำอะไรที่มีอยู่ให้ดีขึ้น เร็วขึ้น ทนทานขึ้นหรือถูกกว่าสิ่งที่มีมาก่อนหน้าเรา

3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-2-8 22:44 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ผู้คนส่วนมากมักอยากได้ยินอะไรก็ตามที่สร้างความบันเทิง น่าสนใจ ตื่นตาตื่นใจ มีสาระ หรือเกี่ยวข้องกับตัวเอง ซึ่งถ้าพวกเขาไม่รับฟังในสิ่งที่เราเสนอหรืออยากจะบอก ปัญหานั้นก็ไม่ได้อยู่ที่พวกเขา แต่อยู่ที่เราต่างหาก ดังนั้นสิ่งที่เราควรปรับเปลี่ยนก็คงหนีไม่พ้นวิธีพูดของเรา เราควรเรียนรู้ที่จะพูดหรือเล่าเรื่องให้น่าสนใจ ลองปรับเปลี่ยนสารที่เราจะสื่อเพื่อให้ผู้คนทั่วไปนั้นสามารถเข้าถึงและสนใจมาฟังเราได้บ้าง เหมือนอย่างคุณต๊อบที่เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์เถ้าแก่น้อยที่ไม่ได้นำเสนอสินค้าตัวเองให้กับ 7-11 ผ่านตั้งแต่ครั้งแรก ทำให้เขาต้องกลับมานั่งคิดใหม่ว่าพูดอย่างไร จะนำเสนอและเล่าเกี่ยวกับสินค้าตัวเองอย่างไรให้มีคนฟังและสนใจ

4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-2-8 22:44 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เราไม่สามารถควบคุมในสิ่งที่เรามีไม่ได้ แต่เราสามารถเลือกจะทำในที่เหมาะสมกับสิ่งที่เรามีได้
ตามหลักคิดของนักลงทุนอย่าง Dave Lavinsky บอกเอาไว้ว่าการเป็นผู้ประกอบการนั้นคือศิลปะผสมผสานกับวิทยาศาสตร์ที่ต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อลดต้นทุน ลดจำนวนบุคลากร ลดเวลาที่ใช้ และอื่นๆ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ยังไงๆ เราก็ไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่าเรามีเงินทุนที่เพียงพอ เพราะถ้าเงินทุนเราไม่พอที่จะดำเนินธุรกิจนั้นก็หมายความว่าเราควรเปลี่ยนแผนและไปเริ่มต้นกับอย่างอื่นแทนได้แล้ว เพราะมีธุรกิจอีกมากมายที่ใช้การลงทุนไม่มาก อย่างการทำธุรกิจขายกาแฟเป็นต้น
ในเมื่อเราไม่สามารถควบคุมในสิ่งที่เรามีไม่ได้ แต่เราสามารถเลือกจะทำในที่เหมาะสมกับสิ่งที่เรามีได้ ซึ่งในปัจจุบันก็มีธนาคารมากมายที่มีการส่งเสริมธุรกิจ SME ด้วยโปรโมชั่นต่างๆ มากมาย ทั้งผ่อนระยะยาวและดอกเบี้ยต่ำ โดยหากสนใจก็ลองสอบถามรายละเอียดดูเพราะนี่ถือเป็นอีกตัวช่วยหนึ่งให้เรามีธุรกิจของตัวเองได้เร็วขึ้น

5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-2-8 22:44 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
การทำตารางเวลาเป็นอีกวิธีหนึ่งในการจัดสรรเวลาที่ได้ผลเป็นอย่างมาก
ทุกๆ คนล้วนมีเวลาในหนึ่งวันเท่ากันนั่นก็คือ 24 ชั่วโมง สิ่งที่ต่างออกไปคงมีเพียงอย่างเดียวนั่นก็คือแต่ละคนนั้นเอาเวลาที่มีไปทำอะไร ถ้าเราไม่ได้มัวแต่ใช้เวลาแต่ละวันไปกับการตามเช็ค Facebook, Twitter หรือนั่งแชทกับเพื่อนๆ อยู่ตลอดแล้ว เราจะเหลือก้อนเวลาว่างชิ้นใหญ่ในแต่ละวันเลยล่ะ ซึ่งการทำตารางเวลาก็เป็นอีกวิธีหนึ่งในการจัดสรรเวลาที่ได้ผลเป็นอย่างมาก เพียงเริ่มที่จะวางแผนในแต่ละวันเพื่อเรียงลำดับความสำคัญของงาน สิ่งใดที่ไม่จำเป็นมากนักก็สามารถตัดทิ้งและแบ่งเวลาไปสำหรับการทำธุรกิจบ้าง แม้จะเป็นเพียงที่ละก้าวสั้นแต่ถ้าผ่านไปในแต่ละวันเราก็ยิ่งใกล้เส้นชัยมากขึ้นกว่าเดิม

6#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-2-8 22:45 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ทักษะและความรู้ล้วนได้มาจากการขวนขวายไม่ใช่เกิดขึ้นมาได้เอง
ถ้าหากเรายังขาดทักษะนั่นไม่ใช่ปัญหาเลย เพราะนี่คือสิ่งที่เราสามารถเรียนรู้ได้ อยากรู้อะไรก็ขวนขวายหาที่เรียน หาหนังสืออ่าน ปรึกษาเพื่อนๆ หรือแม้แต่หางานที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เราสนใจ และอาสาที่จะช่วยงานฟรีๆ เพื่อให้ได้ประสบการณ์ ก็ช่วยให้เราได้เรียนรู้อะไรได้เยอะเลยทีเดียว หลายสิ่งอาจจะดูยาก แต่ก็ไม่เกินความสามารถของเราที่จะเริ่มต้นแน่นอน เพราะทักษะและความรู้ล้วนได้มาจากการขวนขวายไม่ใช่เกิดขึ้นมาได้เอง

7#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-2-8 22:45 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
การจะคิดค้นและสร้างสิ่งใหม่ๆ ขึ้นมานั้นมันช่างยากมากๆ แต่การต่อยอดความคิดกับสิ่งที่มีอยู่แล้วกลับง่ายกว่ามาก ลองเดินไปรอบๆ แล้วเริ่มถามตัวเองดูว่าตัวเรานั้นมีปัญหาอะไรในชีวิตประจำวันบ้าง ซึ่งเราคงจะพบว่าตัวเราเองนั้นช่างมีปัญหาต่างๆ มากมายที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ซึ่งแนวทางการแก้ไขนั่นแหละก็คือไอเดียที่จะนำไปใช้สร้างอะไรบางอย่าง นั่นเป็นเพราะสิ่งใหม่ๆ ยากที่จะสร้าง แต่สิ่งที่ดีกว่าช่างสร้างง่ายกว่ามาก

8#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-2-8 22:46 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
บางทีเราอาจจะมองตัวเองว่าเป็นเพียงคนธรรมดาที่ไม่ได้รู้จักหรือมีเครือข่ายกับผู้อื่นมากนักจนรู้สึกว่าคงทำธุรกิจได้ยาก แต่อย่าลืมว่าเราอยู่ในโลกอินเตอร์เนทที่คนทั่วทั้งโลกนั้นสามารถเชื่อมถึงกันได้ด้วยปลายนิ้ว ด้วยสื่อออนไลน์อย่าง Facebook, Twitter และ Social Media ชนิดอื่นๆ อีกมากมาย ก็สามารถทำให้เราเข้าถึงได้แม้แต่นายกรัฐมนตรีหรือคนดังๆ อีกมากมายอย่างไม่น่าเชื่อ
ลองเริ่มต้นจากการพูดคุยซักถามเพื่อนใกล้ๆ ตัวก่อน บางทีเพื่อนของเพื่อนของเพื่อน อาจจะเป็นคนที่เราต้องการจะรู้จัก หรืออาจจะรู้จักกับคนที่มีสิ่งที่เราต้องการอยู่ก็ได้

9#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-2-8 22:47 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
การค่อยๆ ลงมือทำวันละนิดๆ ก็ยิ่งทำให้เราเข้าใกล้เป้าหมายที่เราคิดว่ายากแสนยากได้มากขึ้น
หากเปรียบเทียบแล้วการวิ่งมาราธอนคงกลายเป็นงานยากเมื่อเทียบกับการที่แค่ก้าวเดินเพียงหนึ่งก้าว แต่การวิ่งมาราธอนคงไม่ได้ยากขนาดนั้นถ้าเราหมั่นฝึกฝนที่จะวิ่งอยู่ทุกวัน การค่อยๆ เดินวันละนิดๆ ก็ยิ่งทำให้เราเข้าใกล้เป้าหมายที่เราคิดว่ายากแสนยากได้มากขึ้น เหมือนกับการทำธุรกิจที่เราไม่ต้องเริ่มทุกอย่างหมดเลยในทีเดียว เราสามารถเริ่มต้นจากการศึกษาหาทำเลของธุรกิจก่อน วางแผนธุรกิจก่อน รวมถึงการไปหาข้อมูลหรือคำแนะนำจากผู้มีประสบการณ์ไว้ก่อน
เพราะไม่มีธุรกิจใดที่สามารถทำให้สำเร็จได้ในเพียงชั่วข้ามคืนหรอก แต่สิ่งที่เราทำได้คือก้าวไปทีละก้าว ถึงแม้ว่าจะเป็นก้าวสั้นๆ แต่สิ่งเหล่านั้นก็ทำให้เราเข้าใกล้จุดมุ่งหมายได้มากแน่นอน
• • •
มั่นใจได้เลยว่าผู้ประกอบการทุกคนต้องเคยมีเหตุผลเหล่านี้ในใจไม่มากก็น้อยก่อนที่จะเริ่มทำธุรกิจ แต่ทุกคนที่ประสบความสำเร็จก็คือคนที่สามารถก้าวผ่านเหตุผลเหล่านี้ไปได้ เราควรชั่งน้ำหนักดูว่าเหตุผลที่เราควรทำธุรกิจนี้มีมากกว่าหรือน้อยกว่าเหตุผลที่ไม่ควรทำ ซึ่งถ้าเหตุผลที่ควรทำมีมากกว่าแล้ว ก็เตรียมตัวหาจุดอ่อนของแต่ละเหตุผลที่คิดเอาไว้ และค่อยๆ ดำเนินการทำไปทีละนิดก็ได้ เพื่อที่จะได้เข้าใกล้ความสำเร็จในธุรกิจที่เราคิดไว้ได้ง่ายขึ้น

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้