ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 5645
ตอบกลับ: 10
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

ประกาศเปิด เขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี ประจำปี 2557

[คัดลอกลิงก์]
นมัสการพระบาทพลวง ที่ เขาคิชฌกูฏจันทบุรี






   


   

   


   


   


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ Mogmag, อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฎ    และ คู่หูเดินทาง

           อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ หรือที่ใคร ๆ เรียกกันจนติดปากว่า "เขาคิชฌกูฏ" มีพื้นที่ครอบคลุมอำเภอมะขาม และกิ่งอำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรีและยังเป็นต้นน้ำสำคัญของแม่น้ำจันทบุรีสภาพป่าในบริเวณนี้มีทั้งป่าดิบชื้น ป่าดิบเขา และป่าไม้ผลัดใบมีสมุนไพรและกล้วยไม้ป่านานาชนิด รวมทั้งมีพันธุ์ไม้หายาก คือ ไม้กฤษณา

          สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในบริเวณ อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏได้แก่ น้ำตกกระทิง, น้ำตกคลองช้างเซ, ยอดเขาพระบาท และที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นพิเศษนั้น เห็นจะเป็นการนมัสการรอยพระบาทเขาคิชฌกูฏ หรือ พระบาทพลวง นั่นเอง

          ทั้งนี้ ประชาชนจะนิยมไปนมัสการพระบาทหลวงเป็นจำนวนมากเพื่อเสริมสิริมงคลให้กับตัวเองโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีนถึงช่วงวันมาฆบูชาของทุกปีจะมีประชาชนขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาททั้งกลางวันและกลางคืนขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของเขาคิชฌกูฏ ก็ได้จัดงานนมัสการพระบาทพลวงเป็นประจำทุกปีในช่วง ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 3 อีกด้วย

          อย่างไรก็ตาม กำหนดเปิดให้นมัสการรอยพระพุทธบาทในวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2557 ถึงวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2557 โดยจะมีพิธีบวงสรวงปิดป่าเปิดงานในวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2557 ทั้งนี้ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก เขาพระบาทพลวง จันทบุรี

          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่...

          วัดกระทิง โทรศัพท์ 0 3945 2056
          เทศบาลตำบลพลวง โทรศัพท์ 0 3930 9281
          ศูนย์กู้ชีพเทศบาลตำบลพลวง โทรศัพท์ 08 1722 1662 (สอบถามและขอความช่วยเหลือได้ 24 ชั่วโมง) หรือวิทยุสื่อสารติดต่อได้ทาง CB245 ช่อง 30 ความถี่ 245.3625MHz ส่วนวิทยุสมัครเล่นปีนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ติดต่อ

          จุดบริการประชาชนด้านการแพทย์ ในปี 2557

          เขาคิชฌกูฏ จัดตั้งเป็นหน่วยกู้ชีพเฉพาะกิจ ชื่อ "กู้ชีพเขาคิชฌกูฏ จันทบุรี" มีจุดให้บริการด้านการแพทย์ ดังนี้

          โรงพยาบาลเขาคิชฌกูฏจันทบุรี มีจุดบริการการแพทย์ โดยเจ้าหน้าที่พยาบาล

          1. วัดพลวง บริการเฉพาะเสาร์-อาทิตย์-วันหยุด
          2. ลานเจดีย์ (จุดต่อรถขั้นที่ 2) บริการเฉพาะเสาร์-อาทิตย์-วันหยุด
          3. ลานพระบาทยอดเขา บริการทุกวัน

          ทีมกู้ชีพเขาคิชฌกูฏ (กู้ชีพ ทต.พลวง, กู้ชีพ ทต.คลองพลู, กู้ชีพ อบต.ตะกาดเง้า) มีเจ้าหน้าที่กู้ชีพดูแลทุกวัน 24 ชั่วโมง

          1. ห้องพยาบาลลานพระสีวลี (จุดลงรถสุดท้ายก่อนเดินเท้าขึ้นเขา)
          2. ห้องพยาบาลลานพระเมตตา (เส้นทางเดินเท้าจากลานพระสีวลี-ลานพระบาท)
          3. ห้องพยาบาลจุดชมวิว (เส้นทางเดินจากลานอินทร์-ผ้าแดง)

          ทั้งนี้ ผู้เจ็บป่วยฉุกเฉินสามารถขอความช่วยเหลือตามจุดดังกล่าวที่ใกล้เคียง หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ตลอดเส้นทางตลอด 24 ชั่วโมง ผู้มีโรคประจำตัว หัวใจ ความดัน เบาหวาน ลมชัก ฯลฯ โปรดติดต่อห้องพยาบาลใกล้เคียงก่อนเดินเท้าขึ้น เพื่อได้รับความดูแลในเส้นทางเป็นพิเศษ
2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-1-30 19:38 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตำนานรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ

          ตำนานรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏมีอยู่ว่า นายติ่งและคณะได้ขึ้นบนเขาเพื่อไปหาไม้กฤษณามาขาย และได้ไปพักเหนื่อยบนลานหินกว้าง ระหว่างนั้นเพื่อนของนายติ่งคนหนึ่ง ได้ถอนหญ้าเพื่อนอนพักก็พบแหวนใหญ่ขนาดสวมหัวแม่เท้าได้ เเละเมื่อช่วยกันตรวจดูก็พบหินแผ่นหนึ่ง มีพื้นที่เป็นรอยรูปก้นหอย ต่อมานายติ่งและเพื่อนได้นำบุตรชายไปอุปสมบทที่วัดพลับ รุ่งขึ้นก็มีงานปิดรอยพระพุทธบาทจำลอง นายติ่งซื้อทองไปปิดแล้วจึงพูดว่าแถวบ้านตนก็มีรอยแบบนี้เช่นเดียวกัน พอดีมีพระได้ยินเข้าจึงไปเรียนให้เจ้าอาวาสวัดรับทราบ เจ้าอาวาสจึงเรียกนายติ่งเข้าไปสอบถาม พร้อมกับส่งคณะขึ้นไปพิสูจน์ดู ก็พบว่าเป็นความจริง และเมื่อตรวจดูบริเวณรอบ ๆ ก็พบกับสิ่งประหลาดมหัศจรรย์อีกหลายอย่าง รอยพระพุทธบาทนั้นท่านทรงเหยียบจารึกไว้ที่ศิลาแผ่นใหญ่ บรรจุคนนั่งได้ร้อยกว่าคน บนยอดเขาสูงสุด กว้าง 1 เมตร ยาว 2 เมตร

          ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของรอยพระพุทธบาทมีหินกลมก้อนหนึ่งใหญ่มาก เรียกว่า หินลูกพระบาท ตั้งขึ้นมาอย่างน่าแปลกประหลาดมหัศจรรย์ มองดูคล้ายลอยอยู่เฉย ๆ มีคนกล่าวว่าเขาเคยเอาด้ายสายสิญจน์คล้องแล้วหลุดออกมาได้ และยังมีหินอีกลูกอยู่ตรงข้ามกับหินลูกพระบาทนี้ ก็มีรอยพระหัตถ์ไปรับหินก้อนนี้ จากรอยพระพุทธบาทกับรอยพระหัตถ์นั้น ห่างกันประมาณ 5 เมตร และยิ่งแปลกไปกว่านั้น ในก้อนหินตรงกันข้ามกับรอยพระหัตถ์ ยังมีรูปรอยเท้าใหญ่ ซึ่งเรียกกันว่ารอยเท้าพญามาร เพียงแหงนหน้าขึ้นไปจะมองเห็นได้ทันที สูงประมาณ 15 เมตร

          ต่อจากนั้นไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ห่างจากหินลูกนี้ไปเพียง 15 วา มีหินลูกข้างบนเป็นลานและมองเห็นรอยรถหรือรอยเกวียน เมื่อยืนบนหินลูกนั้นมองลงไปทางทิศเหนือจะเห็นถ้ำเต่า หันไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของรอยพระพุทธบาทจะเห็นถ้ำช้าง และถ้ามองจากรอยพระพุทธบาทขึ้นไป จะเห็นหินก้อนหนึ่งมีรูปลักษณะคล้ายช้างจริง เลยจากช้างไปสูงสุดนั้นเรียกกันว่าห้างฝรั่ง เพราะฝรั่งได้ขึ้นไปตั้งห้างส่องกล้องเพื่อทำแผนที่ มองไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ยังมีถ้ำอีกถ้ำหนึ่งเรียกว่าถ้ำสำเภา เพราะมีหินก้อนหนึ่งข้างบนถ้ำมีลักษณะคล้าย ๆ เรือสำเภา และยังมีอีกถ้ำหนึ่งใต้พระบาทนี้เรียกว่าถ้ำตาฤาษี

   



   


          พระบาทพลวง หรือ พระพุทธบาทพลวง ประดิษฐานอยู่บนเขาคิชฌกูฎ โดยพระบาทพลวงนี้เป็นรอยพระพุทธบาทขนาดใหญ่ กว้าง 1เมตร ยาว 2 เมตร อยู่บนยอดเขาสูงจากระดับน้ำทะเล 1,000 เมตรที่จังหวัดจันทบุรี และถือว่าเป็นรอยพระพุทธบาทที่สูงที่สุดของประเทศไทยและอยู่ห่างจากตัวเมืองจันทบุรีประมาณ 40 กิโลเมตร

          โดยการจัดเดินป่าขึ้นยอดเขาคิชฌกูฏ เป็นงานประเพณีที่ปฏิบัติสืบทอดกันมานาน โดยมีความเชื่อว่าจะได้บุญสูง และเป็นการฝึกจิตใจให้มีความอดทน ไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก...ในอดีตจะเป็นการเดินเท้าขึ้นสู่ยอดเขา แต่ในปัจจุบันมีรถบริการให้ประชาชน ได้เดินทางขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทแห่งนี้ได้สะดวกยิ่งขึ้น
3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-1-30 19:39 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
          ส่วนกิจกรรมในงานกราบสักการะรอยพระพุทธบาท ซึ่งประดิษฐานอยู่บนยอดเขาคิชฌกูฎ การเดินทางเริ่มต้นที่วัดพลวงไปตามถนนระยะทาง 8 กิโลเมตร จากนั้นเดินขึ้นเขาไปอีกประมาณ 1.2 กิโลเมตร ทิวทัศน์บนยอด เขาคิชฌกูฏ หรือ เขาพระบาท นี้เป็นปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยา ที่นำมาผูกกับตำนานทางพระพุทธศาสนา ได้แก่ ศิลาเจดีย์ รอยพระพุทธบาท หินรูปบาตรคว่ำ ถ้ำฤาษี ลานแข่งรถพระอินทร์ หินที่มีรูปร่างคล้ายเต่าและช้างขนาดยักษ์ บนยอดเขาพระบาทซึ่งมีอากาศเย็นสบายนั้น สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเทือกเขาสระบาป เขาสุกิม เกาะนมสาว และตัวเมืองจันทบุรีได้อย่างชัดเจน

   

   

   

             ซึ่งในช่วงเทศกาลนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวงพุทธศาสนิกชนที่มีศรัทธาจะเดินทางขึ้นเขาไปแสวงบุญเป็นจำนวนมากเพราะนอกจากจะได้นมัสการพระพุทธบาทศักดิ์สิทธิ์แล้วยังจะได้ชมความงดงามแปลกอัศจรรย์ของหินลูกพระบาท ก้อนหินกลมใหญ่ริมหน้าผาและได้รับความสดชื่นจากบรรยากาศบนยอดเขาคิชฌกูฏ นอกจากนี้ผู้ที่ถึงวัดพลวงตอนเย็น สามารถพักค้างคืนเพื่อเริ่มขึ้นยอดเขาในตอนเช้าได้โดยทางวัดมีที่พัก และที่อาบน้ำไว้รองรับคนได้จำนวนมาก (ว้าว...)  

     

     


           สำหรับการเดินทางนั้นก็ง่ายแสนง่าย หากมาตามถนนสุขุมวิท ถึงทางแยกเข้าตัวเมืองจันทบุรี (สี่แยกเขาไร่ยา)ให้เลี้ยวลงถนนทางน้ำตกกระทิง หรือถนนบำราศนราดูร จากทางแยกเขาไร่ยาไปถึงน้ำตกกระทิงประมาณ 20 กิโลเมตร เลยวัดระทิงไป 400 เมตรถึงแยกขวามือไปวัดพลวง เป็นถนนลูกรังระยะทาง 3 กิโลเมตร เมื่อถึงวัดพลวงจะเป็นจุดเริ่มต้นขึ้นไปยังยอดเขามีรถรับจ้างทดเฟืองพิเศษรับไปส่งถึงจุดที่ใกล้ที่สุดและเดินเท้าต่ออีกประมาณ 40 นาที     

ที่มา http://travel.kapook.com/view9265.html

ขอบคุณคร้าบ
อยากไปครับ
ขอบคุณครับ
ปีนี้ไปกันอีกมั้ยก๊าบบบบบบบบ
จะไปวันที่12คงต้องเตรียม ยาหอมยาลมยาดมยาหม่องไปด้วยแน่
9#
 เจ้าของ| โพสต์ 2015-1-20 18:06 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
                                                                                                                                                                                                  เริ่มแล้ว ! ประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ 19 ม.ค.-19 มี.ค.นี้  
                                                                                                                  
                            ที่มา : http://travel.kapook.com/view109941.html
                                                            ภาพมุมสูง..ประชาชนแห่นมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ จันทบุรี เปิดให้ขึ้นไปนมัสการตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม-19 มีนาคม 2558

                  เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2558 ที่ผ่านมา นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้เป็นพิธีปิดป่า-เปิดเขา ในประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ ประจำปี 2558 ซึ่งเป็นประเพณีประจำท้องถิ่นมานานกว่า 100 ปี โดยในวันดังกล่าวมีประชาชนมาร่วมพิธีปิดป่า-เปิดเขา จำนวนเกือบ 2,000 คนเลยทีเดียว

                  สำหรับใครที่จะมาร่วมงานประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ ทางการกำหนดเปิดให้ขึ้นไปนมัสการได้ตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม-19 มีนาคม 2558 รวมทั้งสิ้น 60 วัน โดยจะมีรถบริการรับส่งขึ้น-ลงเขา ตลอด 24 ชั่วโมง

                  ส่วนในวันนี้ (20 มกราคม 2558) เรามีภาพมุมสูงจากงานประเพณีนมัสการพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏมาฝากกัน โดยบรรยากาศช่วงเช้าเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนแห่แหนมาร่วมนมัสการอย่างมากมายท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บ อย่างไรก็ดี ทางผู้จัดงานแนะนำว่า ควรจะเดินทางมาในวันธรรมดามากกว่า เนื่องจากจะได้มีโอกาสเห็นวิวทิวทัศน์และชื่นชมธรรมชาติได้มากกว่าวันหยุดที่มีประชาชนหนาแน่น                                                                        
                                                            

ชอบตอนนั่งรถขึ้นเขามันมาก ช่วงรถสวนกันนี่เสียวดี  แต่คนเยอะ  ไปเช้าๆไปดูพระอาทิตย์ขึ้น มีเสกกระเป๋าตังด้วย ชอบๆ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้