ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 13749
ตอบกลับ: 5
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

พระครูถาวรสังฆกิจ (หลวงพ่อภา ถาวโร) วัดสองห้อง จังหวัดนครปฐม

[คัดลอกลิงก์]
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย รามเทพ เมื่อ 2014-1-22 15:59

หลวงพ่อภา ถาวโร หรือท่านพระครูถาวรสังฆกิจ วัดสองห้อง อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม ท่านเป็นผู้สืบทอดสรรพวิชาอาคมสายหลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก และท่านยังได้ศึกษาวิชาจากหลวงพ่อแช่ม อินทฺโชโต วัดตาก้อง อีกด้วย หลวงพ่อภาเป็นพระเกจิอาจารย์ร่วมยุคสมัยกับหลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ,หลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม,หลวงพ่อลำใย วัดทุ่งลาดหญ้า เป้นต้น ท่านมักได้รับนิมนต์ไปนั่งปรกปลุกเสกพระอยู่เป็นประจำ พระเครื่องที่ท่านสร้างและปลุกเสกมีประสบการณ์ไม่น้อยครับ



หลวงพ่อภา ถาวโร เป็นชาวบ้านตำบลห้วยขวาง อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม เกิดเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ.2472 บรรพชาอุปสมบทที่วัดลำเหย ปัจจุบันอยู่ในเขตอำเภอดอนตูม จ.นครปฐม พระอุปัชฌาย์ของท่านคือ พระครูปาน เจ้าอาวาสวัดหนองปลาไหล ภายหลังได้ได้รับสมณศักดิ์เป็นพระครูพรหมวิสุทธิ์ และได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอกำแพงแสน หลวงพ่อปาน วัดหนองปลาไหลเป็นพระเกจิที่มีชื่อเสียงโด่งดังอยู่ในท้องถิ่น วัตถุมงคลของท่านก็มีเหรียญรูปเหมือนพระโมคคัลลาน์เนื้อดินเผา พระบูชาเนื้อดินเผา พระกรรมวาจาจารย์ก็คือ พระอธิการปาน วัดลำเหย รูปนี้ก็เป็นพระเกจิเรืองอาคมมีชื่อเสียงในด้านวิทยาคม ผุ้คนเคารพนับถือท่านมาก ส่วนพระอนุสาวนาจารย์ ได้แก่หลวงพ่อจันทร์ เจ้าอาวาสวัดสองห้อง

หลวงพ่อภา ถาวโร ท่านใฝ่ใจในการศึกษาเล่าเรียนทางวิปัสสนาธุระจึงมุ่งมั่นเดินทางไปฝากตัวเป็นศิษย์ของพระมงคลเทพมุนี (หลวงพ่อสด) วัดปากน้ำภาษีเจริญ หลวงพ่อภาได้เล่าให้ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ฟังตั้งแต่ปีพ.ศ. 2541 เกี่ยวกับประสบการณ์ที่ท่านได้ไปฝึกนั่งสมาธิกับหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ท่านตั้งใจไว้อย่างแน่แน่วว่าภายใน 7 วันถ้าไม่เกิดผลอะไร ไม่เกิดสมาธิไม่เห็นแสงสว่างระหว่างทำสมาธิ ท่านก็จะกลับไปลาสิกขาบท เพราะตอนที่บรรพชาอุปสมบทท่านมีความประสงค์เพียงเพื่อบวชตามประเพณีของชาวพุทธ ตั้งใจอุทิศอานิสงค์ให้กับโยมบิดา,มารดา เป็นการแสดงความกตัญญูกตเวที ต่อผู้มีพระคุณอันยิ่งใหญ่ในชีวิต

ดังนั้นตลอดระยะเวลา 7 วัน หลวงพ่อภา ถาวโร จึงอธิฐานจิตเจริญวิปัสสนากัมมัฏฐานอย่งแน่วแน่มั่นคงอยู่ที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ หลังจากที่นั่งสมาธิไปได้ 3 วัน จิตใจก็ยิ่งเพิ่มความฟุ้งซ่าน มีความกังวล หลวงพ่อสด จนฺทสโร วัดปากน้ำซึ่งเป็นอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนากัมมัฏฐาน ท่านสังเกตเห็นกิริยาอาการ ด้วยความที่ท่านเป็นพระนักปฏิบัติที่มคความเชี่ยวชาญในการเจริญสมาธิจิต ท่านจึงทราบถึง ปลิโพธ ความกังวลที่เกิดขึ้นกับหลวงพ่อภา ท่านจึงเรียกเข้าไปพบอบรมสั่งสอนให้สติว่าเมื่อครั้งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านเจริญสมาธิภาวนาเพื่อแสวงหาความหลุดพ้น ท่านตรัสรุ้ได้อย่างง่ายๆหรือเปล่า เรียนพุทธประวัติมาท่านก็น่าจะทราบดี ทำไมจะต้องไปวิตกกังวลเมื่อได้รับฟังคำสอนจากหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ทำให้ท่านได้คิด ตรึกตรองด้วยสติปัญญา พอออกมาจากกุฏิหลวงพ่อสด เท่านั้น ท่านก็เป็นลมทันที เพราะร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ


หลวงพ่อภา ถาวโร กราบลาหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ เดินทางกลับไปที่วัดสองห้อง เจริญสมาธิวิปัสสนากัมมัฏฐาน ตามแบบฉบับหลวงพ่อสด จนกระทั่งในคืนหนึ่ง ท่านได้เกิดนิมิตระหว่างเจริญสมาธิ ได้เห็นสุนัขดำตัวใหญ่ตาแดงก่ำ ยืนมองจ้องมาที่ท่านอย่างอาฆาตแค้น ท่านจึงกำหนดจิตเพื่อให้นิมิตหายไป แต่นิมิตนั้นเหมือนภาพติดตา พอกำหนดจิตหายไปก็กลับเข้ามาอีก ด้วยความสงสัย ท่านจึงกลับไปวัดปากน้ำ สอบถามหลวงพ่อสด ผู้ซึ่งเป็นพระอาจารย์ หลวงพ่อสดถามว่า"ท่านเคยฆ่าสุนัขหรือเปล่า?" หลวงพ่อภา ตอบว่า "จำไม่ได้" นึกไม่ออก หลวงพ่อสดจึงกล่าวว่าในอดีตท่านเคยใช้มีดฟันสุนัขคอขาดตาย วิธีแก้ไขคือ....ให้ขออโหสิกรรมในสมาธิจิต หลวงพ่อภา จึงทำตามคำแนะนำ ปรากกฎว่าตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นไปไม่ปรากฎภาพของสุนัข สีดำมาให้เห็นในนิมิตอีกเลย

ประสบการณ์ทั้งหลายที่เกิดขึ้นในครั้งนั้นทำให้หลวงพ่อภา ถาวโร มีความเชื่อมั่นในความมหัศจรรย์ของพลังจิตตานุภาพ การเจริญสมาธิจิตตามหลักธรรมคำสอนในทางพระพุทธศาสนา เชื่อในความลึกลับมหัศจรรย์ต่างๆที่อยุ่ในห้วงมหรรณพที่รู้ได้ด้วยตนเอง ด้วยเหตุนี้เองท่านจึงไม่ลาสิกขา มุ่งมั่นปฏิบัติธรรมตามคำสอนอย่างเคร่งครัดและจริงจัง ท่านเล่าให้ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ฟังต่อว่า....วันไหนไม่ได้สวดมนต์ไหว้พระเจริญวิปัสสนากัมมัฏฐานท่านจะนอนไม่หลับจำวัดไม่ได้ หลวงพ่อภา ถาวโร จึงเป็นผู้ที่มีความขยันหมั่นเพียรในการสวดมนต์ไหว้พระทำวัตรเจริญภาวนาปฏิบัติธรรมตามหลักธรรมคำสอนครบถ้วนทั้งด้านปริยัติ ปฏิบัติ และปฏิเวธ

พระครูถาวรสังฆกิจ หรือหลวงพ่อภา ถาวโร เป็นผู้ใฝ่ใจในการศึกษา ค้นคว้าเล่าเรียนอักขระเลขยันต์ เขียนอ่าน จารหนังสือขอม ท่านได้มรดกตกทอดเป็นตำรับตำราวิทยาคมของหลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก โดยอาจารย์ห้อย วัดสองห้อง ซึ่งเป็นศิษย์ใกล้ชิดทำหน้าที่เลี้ยงช้างเลี้ยงม้าให้หลวงพ่อทา เป็นผู้นำตำรามาถวาย หลังจากที่หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก มรณภาพแล้ว ได้ทำพิธีฌาปนกิจศพ อาจารย์ห้อยได้นำอัฐิของหลวงพ่อทา ส่วนหนึ่งมาถวายหลวงพ่อภา วัดสองห้อง ซึ่งอัฐิดังกล่าวหลวงพ่อภาพได้บรรจุไว้ที่รูปเหือนเท่าองค์จริงของหลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก โดยหลวงพ่อภา ได้หล่อรูปเหมือนขึ้นสำหรับเป็นที่กราบไหว้บูชา ในฐานะที่เป็นบูรพาจารย์และเป็นผู้นำสำคัญในการสร้างวัดสองห้อง หลวงพ่อภาได้ศึกษาถ่ายทอดวิชาความรู้จากตำรับตำราของหลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตกอย่างตั้งใจ ด้วยความเลื่อมใสศรัทธา ต่อมาท่านทราบว่ามีศิษย์สืบทอดพุทธาคมสายหลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตกอีกรูปหนึ่งที่มีชื่อเสียงอยู่ในขณะนั้น ก็คือหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ จ.เพชรบุรี หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ เป็นศิษย์สืบทอดพุทธาคมไปจากหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง และหลวงพ่อแช่ม เป็นศิษย์ศึกษาเล่าเรียนวิทยาคมไปจากหลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก



2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-1-22 15:55 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย รามเทพ เมื่อ 2014-1-22 16:02

  หากจะสืบสายพุทธาคมจากสำนักวัดพะเนียงแตก ตั้งแต่หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง หลวงพ่อแช่มมีศิษย์เอกสามรูปได้แก่ หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม ,หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ และหลวงพ่อเต้า วัดเกาะวังไทร ด้วยเหตุนี้เองหลวงพ่อภา ถาวโร จึงได้เดินทางไปฝากตัวเป็นศิษย์ขอศึกษาเล่าเรียนวิชาอาคมจากหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ ซึ่งเป็นศิษย์สายพุทธาคมสำนักวัดพะเนียงแตก คำแนะนำสั่งสอนที่ได้รับจากหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ จึงทำให้เกิดความรู้ มีความั่นใจในตำรับไสยเวทวิทยาคมของหลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตกเป็นอย่างดี.







หลวงพ่อภา ถาวโร เริ่มมีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะพระเกจิอาจารย์เรืองอาคมตั้งแต่มีผู้มาขอให้ท่านรดน้ำมนต์ ขับไล่ภูตผีปีศาจ ขับคุณไสย เจิมบ้าน เจิมรถ ลงอักขระเลขยันต์ปลุกเสกวัตถุมงคล เครื่องรางของขลังต่างๆ ต่อมาศิษยานุศิษย์ได้ขอให้ท่านสร้างวัตถุมงคล ท่านจึงเริ่มสร้างวัตถุมงคล โดยท่านเริ่มสร้างวัตถุมงคลเป็นครั้งแรก พ.ศ. 2504 การสร้างวัตถุมงคลรุ่นที่ 1 ได้สร้างเป็นเหรียญพระพุทธหล่อโบราณพิมพ์ดอกจิก เนื้อตะกั่ว ด้านหน้าเป็นรูปพระพุทธปางสมาธิ ด้านหลังเป็นยันต์พระเจ้า 5 พระองค์ คือ นะ โม พุทธา ยะ ไม่มีตัวหนังสือภาษาไทยระบุรายละเอียด เหรียญรุ่น 1 ทราบว่ามีพุทธคุณโดดเด่นในด้านแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี และมหาอุด นอกจากนี้ก็มีพระสมเด็จ 3 ชั้น รุ่น1 พิมพ์นิยม ปัจจุบันค่อนข้างจะหายาก หลวงพ่อภา จึงได้สร้างพระสมเด็จ รุ่น 2 พิมพ์เล็ก พิมพ์ใหญ่ด้านหลังมีตัวหนังสือภาษาไทย จารึกไว้ว่าพระครูภา วัดสองห้อง

วัตถุมงคลของหลวงพ่อภา วัดสองห้อง สร้างตามคตินิยมการสร้างตามแบบโบราณาจารย์ ไม่ได้เน้นศิลปะความสวยงาม แต่จะเน้นหนักไปทางพิธีกรรมการสร้างการปลุกเสกตามตำรับบูรพาจารย์ที่กำหนดแบบแผนไว้ หลวงพ่อภา มีความรู้ ความเชี่ยวชาญในการสร้างและปลุกเสกวัตถุมงคลเป็นอย่างดี ดังนั้นท่านจึงสร้างวัตถุมงคลออกมาได้ทุกรูปแบบ ได้แก่ เหรียญหล่อหยดน้ำรุ่น 1 ,เหรียญหล่อหยดน้ำรุ่นเสาร์ 5,เหรียญหล่อเสาร์ 5 รุ่นไร้ร่าง หรือรุ่นสลายร่าง เททองไม่ติดเพราะเกิดปาฏิหาริย์บล็อกแตก มีผู้นำเหรียญรุ่นนี้ไปทดลองยิง ด้วยปืนปรากฎว่า"ยิงไม่ออก" เหรียญดังกล่าวจึงหมดเกลี้ยงไปจากวัดอย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ก็มีเหรียญเสาร์ 5 รุ่นปืนไขว้ เหรียญเสาร์5 รุ่นพิเศษแจกในงานศพโยมบิดามารดา รูปหล่อลอยองค์หลวงพ่อภา เสาร์5 พระบูชาหลวงพ่อภา รุ่น1 นางกวักแบบบูชา ผ้ายันต์ ในปี พ.ศ. 2539 หลวงพ่อภาสร้างเหรียญออกมาสวยงามมาก เป็นเหรียญเสาร์5 เนื้อทองสวิสซ์ เป็นรูปหลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก และหลวงพ่อภา วัดสองห้อง การที่ท่านสร้างเหรียญรูปแบบนี้เพราะต้องการบูชาครูคือพระครูอุตรการบดี(ทา) หลวงพ่อภาท่านได้รับมอบตำรับตำราเป็นมาดกตกทอดมา ท่านได้นำวิชาความรุ้จากตำรับตำราดังกล่าวมาสร้างวัตถุมงคล และใช้ช่วยเหลือสงเคราะห์ผู้คนทั่วไป




3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-1-22 15:56 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
นอกจากนี้ยังมีวัตถุมงคลที่หลวงพ่อภาอนุญาตให้วัดใหม่ปิ่นเกลียวสร้างเป็นรุ่นพิเศษออกให้บูชาในงานประจำปี 2541 ได้แก่เหรียญนั่งทับปืนไขว้ และรูปเหมือนปั๊มรุ่น 1 สร้างและปลุกเสกที่วัดใหม่ปิ่นเกลียว มีพระเกจิอาจารย์อธิษฐานจิตปลุกเสกได้แก่ หลวงพ่อภา วัดสองห้อง หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม หลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม หลวงพ่อพุฒิ วัดกลางบางพระ และ หลวงพ่อสมพงษ์ วัดใหม่ปิ่นเกลียว.
4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-1-22 15:56 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
หลวงพ่อภา ถาวโร เริ่มมีอาการอาพาธมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 แพทย์ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี กรุงเทพมหานคร วินิจฉัยว่าท่านเป็นโรคหัวใจ หท่านก็รักษาตัวมาตลอด พ.ศ.2542 หลวงพ่อภา เข้ารับการรัษาที่โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม เป็นเวลา 15 วัน แพทย์วินิจฉัยพบว่าต่อมลูกหมากอักเสบ และเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลธนบุรี และโรงพยาบาลศิริราช กลับเข้ามารักษาผ่าตัดที่โรงพยาบาลธนบุรี และกลับมาที่วัดสองห้อง จนกระทั่งละสังขารไปอย่างสงบ เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ.2545 เวลา 03.25 น. รวมอายุได้ 73 ปี พรรษา 51 นับเป็นการสูญเสียพระเกจิอาจารย์นักพัฒนาครั้งใหญ่ของจังหวัดนครปฐม หลวงพ่อภา ถาวโร ท่านลาจากวัดสองห้องและจากศิษยานุศิษย์ไปแล้ว เหลือแต่คุณงามความดีที่ท่านสั่งสมไว้ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในร่มกาสาวพัสตร์ เป็นสังฆานุสสติที่เตือนใจให้ระลึกถึงหลวงพ่อผู้เป็นที่เคารพรักของทุกคน

.
5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-1-22 15:57 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
วัตถุมงคลรุ่นปฏิสังขรณ์อุโบสถและซื้อที่ดิน


6#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-1-22 15:57 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย รามเทพ เมื่อ 2014-1-22 16:00

รุ่นไร้ร่าง หรือ รุ่นสลายร่าง





ในบรรดาศิษย์สายวัดพะเนียงแตกแล้ว  ท่านถือเป็นศิษย์คนสุดท้าย แต่ไม่เคยแม้แต่พบกับหลวงพ่อทา
เนื่องจากเมื่อท่านบรรพชา หลวงพ่อทาสิ้นแล้ว  
ทำไม ?
ท่านถึงได้ชื่อว่าเป็นศิษย์องค์สุดท้ายของหลวงพ่อทา
เมื่อท่านบรรพชาแล้ว  ในคืนนึง ท่านได้นิมิตรไปว่า
หลวงพ่อทา ได้มาหา และบอกให้ท่านไปนำตำราของท่านมาศึกษา
เมื่อรุ่งเช้า ท่านได้เดินทางไปที่วัดพะเนียงแตก และบอกกล่าวกับเจ้าอาวาส ตามที่ได้นิมิตรมา
เมื่อไปค้นหาตามนิมิตร  ปรากฎว่า
ท่านได้พบกับตำราพุทธาคม  ตามนิมิตร  
ท่าน จึงนำตำรานั้น มาศึกษาและปฎิบัติตามตำรา แต่เมื่อติดขัดประการใด ท่านก็ได้มาปรึกษากับหลวงพ่อเต๋ ศิษย์พี่ของท่าน จนเชี่ยวชาญและต่อมาท่านได้รับการยอมรับว่า
เป็นหนึ่งในศิษย์สายวัดพะเนียงแตก องค์สุดท้าย
ชื่อของท่านคือ  หลวงพ่อภา วัดสองห้อง
เหรียญพิมพ์นี้ ไม่ใช่เหรียญรุ่นแรก  เป็นเหรียญรูปเหมือนที่ท่านอนุญาต ให้สร้างขึ้น เป็นเหรียญเนื้ออัลปาก้า แต่ว่าท่านได้ทำการปลุกเสกมวลสาร ก่อนที่จะนำไปรีดเป็นแผ่น เพื่อที่จะมาปั๊มเป็นเหรียญ
ในขณะที่ปั๊มเหรียญ ปรากฎว่า
เกิดบล็อคแตก เมื่อปั๊มครั้งแรก และเมื่อเปลียนบล็อคใหม่ ก็ปรากฎว่า
เหตุการ์ณยังเหมือนเดิม คือ
บล็อคแตกทุกบล็อค
จนไม่สามารที่จะปั๊มเป็นรูปเหมือนของท่านได้ แต่ว่าทางโรงงานก็ยังคงปั๊มเหรียญต่อไปจนครบจำนวน แต่ว่า
ไม่มีเหรียญใด  ติดรูปเหมือนของท่านเลยแม้แต่เหรียญเดียว
เมื่อทางโรงงานนำเหรียญมามอบให้กับท่าน
ท่านก็นำเหรียญเหล่านั้น ไปปลุกเสก  แต่ท่านก็ไม่ได้แจกจ่าย แต่ว่า
ท่านนำเหรียญไปวางไว้ที่โคนต้นไม้ภายในวัด
พร้อมกับกำชับว่า
อย่านำไปใช้ เพราะไม่มีรูปใดๆเลย
การณ์ กลับตรงกันข้าม  มีเด็กวัยรุ่นคึกคะนอง  นำเหรียญที่วางทิ้งไว้ไปแขวนติดตัว กลับเกิดประสบการณ์ แคล้วคลาดจากอุบัติเหตุหลายครั้ง จน
เป็นที่กล่าวขาน
และชาวบ้านละแวกวัด นำพระที่ทิ้งไว้ไปแขวนติดตัวจนหมด ต่างก็พบกับประสบการณ์ แคล้วคลาดมากมาย  จึงพากันเรียกขานเหรียญรุ่นนี้ว่า
สลายร่าง หลวงพ่อภา
ในยุคปี พ.ศ.2530 เหรียญสลายร่าง มีค่านิยมมากว่าเหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อแย้ม ทั้งๆที่
อ.ภา มีอาวุโสน้อยกว่าหลวงพ่อแย้มร่วมหนึ่งรอบ
เพราะประสบการณ์ล้วนๆ
พระเครื่องหรือเครื่องรางใด ถ้าท้องถิ่นไม่นิยมและศรัทธา
ก็ไม่ต้องเก็บ  เสียเวลาเปล่า
แต่กับเหรียญสลายร่างแล้ว กลับเป็นตรงกันข้าม
ปัจจุบันนี้ เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อแย้ม ค่านิยมเกือบสามหมื่น ในเหรียญเนื้อทองแดง
แต่ว่า
เหรียญสลายร่าง ค่านิยมแค่ พันเศษเท่านั้นเอง
เหรียญสลายร่าง มีแต่เนื้ออัลปาก้า
มีทั้งจารและไม่มีจาร
แต่ไม่มีของเก๊
ถ้าพบเจอในสนาม  อย่าปล่อยผ่าน
เพราะนั่นคือ
ของดี ที่คุ้มครองชีวิตเพื่อนๆสมาชิกได้
ขอให้ทุกท่านโชคดี  ได้พบเจอ
เหรียญสลายร่าง หลวงพ่อภา วัดสองห้อง กำแพงแสน นครปฐม
หมายเหตุ: หลวงพ่อภา ถาวโร เป็นศิษย์หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง หลวงพ่อสด วัดปากน้ำฯ ศิษย์รุ่นพี่สายวัดตาก้อง หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม หลวงพ่อเต้า วัดเกาะวังไทร  ฯลฯ
ขอบคุณข้อมูล คุณเจริญสิทธิ์
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้