ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก
เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด
เข้าสู่ระบบ
บ้านหลวงปู่
คศช.
ข่าวสารล่าสุด
ประสบการณ์
โชว์วัตถุมงคล
สอบถาม
นานาสาระ
นครนาคราช
ร่วมประมูล
บูชาวัตถุมงคล
เพื่อน
กระทู้แนะนำ
บุ๊คมาร์ก
ไอเท็ม
เหรียญ
ภารกิจ
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
ดูบริการทั้งหมด
เว็บบอร์ด
BBS
บูชาวัตถุมงคลหลวงปู่ชื่น
ศรีสุทธรรมนาคราช
ร้านจอมพระ
ศูนย์พระเครื่องจอมพระ
ค้นหา
ค้นหา
HOT TAG:
พระศรีราม
ขุนแผนแสนตรีเวทย์
พระเจ้าชัยวรมัน
บอร์ดนี้
บทความ
เนื้อหา
สมาชิก
Baan Jompra
›
นานาสาระ
›
มรดกธรรม เส้นทางสู่ทางสงบในชีวิตและจิตใจ
»
8 จำพวกคบไม่ได้
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
ดู: 3720
ตอบกลับ: 2
8 จำพวกคบไม่ได้
[คัดลอกลิงก์]
Sornpraram
Sornpraram
ออฟไลน์
เครดิต
36164
ไปยังโพสต์
1
#
โพสต์ 2014-1-13 09:11
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
|
โพสต์ใหม่ขึ้นก่อน
|
โหมดอ่าน
บุคคล 8 จำพวกที่คบไม่ได้
เครดิตคติธรรมคำคม ขอบคุณครับ
1.เฝ้าจับผิด
2.คิดทำลาย
3.ใจอคติ
4.ตำหนิผู้อื่น
5.จุดยืนไม่มี
6.เสียดสีริษยา
7.มารยาวอกนัก
8.เที่ยวปล่อยข่าว
ลองนึกถึงการมีโชคดีของตนเอง และหยุดเฝ้าจับผิดคนอื่นๆ และคอยซ้ำเติมกัน อย่างสนุกสนาน ผู้คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีเวลาเฝ้ามองตัวเอง ลอง ลด ละ เลิก เรื่องราวภายนอกและคนอื่นๆดูนะครับ แล้วชีวิตคุณจะมีความสุขมากขึ้นครับ
เพราะในทุกๆ เช้าที่เราตื่นขึ้นมาได้อย่างปลอดภัย นับว่าเป็นโชคอันยิ่งใหญ่ที่สุดของชีวิต ในขณะที่ผู้คนอีกมากมายหลายเผ่าพันธุ์ ต่างเพศต่างวัยไม่มีโอกาสได้ตื่นขึ้นมาดูโลกนี้อีกเลย หลายคนอาจกำลังประสบเคราะห์กรรมจากอุทกภัย
พวกเขาต้องสูญเสียทรัพย์สินสูญสิ้นชีวิต และหมดสิ้นความหวังและกำลังใจ ภัยธรรมชาติอาจทำให้พวกเขาไม่มีชีวิต ไร้ที่อยู่ ไม่มีอาหาร เสื้อผ้า และขาดแคลนยารักษาโรค
แต่คนส่วนใหญ่มักไม่ค่อยได้ฉุกคิดถึงการมีโชคดีของตนเอง แต่มีเวลาพูดถึงความโชคร้ายของคนอื่นๆ เฝ้าจับผิดคนอื่นๆ และคอยซ้ำเติม อย่างสนุกสนาน ผู้คนไม่ค่อยมีเวลาเฝ้ามองตัวเอง
แต่มีเวลานั่งดูโทรทัศน์ได้เป็นครึ่งค่อนวัน อายุยิ่งนานมากเท่าไร ก็เสมือนเดินห่างออกไปไกลจากความเข้าใจตัวเองมากขึ้นๆ เรื่อยๆ เดินหลงทางไปสู่ความมืดมน และไร้จุดหมายปลายทาง ชีวิตคนส่วนใหญ่ชอบที่จะเดินไปตามทางที่ถูกชักนำ
คนส่วนใหญ่ชอบสนุกสนาน ชอบเที่ยวกินดื่ม และชอบการพูดคุยเรื่องไร้สาระ เพราะพวกเขาเข้าใจว่า ความสุขย่อมได้มาจากการดื่ม การกิน การเที่ยวและการเล่นสนุกสนาน และหรือจากการบันเทิงเริงรมณ์ทางกายเพียงเท่านั้นเอง
หากมีคนเสนอว่า น่าจะมีหนทางอื่นที่สูงกว่านี้ที่ จะทำให้ตนเองมีความสุขที่ลึกซึ้ง ความสุขที่ไม่ต้องการการกระตุ้นเร้าและพึงพิงอิงอาศัยสิ่งภายนอกมากนัก ไม่ต้องดิ้นรนค้นหาจากที่ต่างๆ ความสุขที่ไม่มีขายตามร้านสะดวกซื้อตลอด ๒๔ ชั่วโมง หรือตามห้างสรรพสินค้าชื่อดังทั่วๆ ไป
คนส่วนใหญ่ไม่สนใจตนเอง ละเลยตนเองอย่างไร้สติและปัญญา ไม่ตระหนักในการทำหน้าที่ของตนเอง ไม่ไตร่ตรองในแต่ละวันว่าตัวเองมีหน้าที่จะต้องทำอะไร แต่กลับหันเหไปสนใจคนอื่นๆ เช่น นักกีฬา ดารา นักร้อง นักการเมือง ที่มีชื่อเสียง
จำได้แม้กระทั้งวันเกิด วันเจ็บ วันอกหัก วันแต่งงานครั้งแรก วันหย่าครั้งที่สอง จำได้หมดว่า เขาและเธอ ชอบใส่เสื้อผ้าสไตน์ไหน กินอาหารรสอะไร ที่ร้านไหน ขับรถญี่ห้ออะไร รู้ไปหมดอะไรต่างๆ นาๆ ที่เกี่ยวข้องกับคนอื่นๆ
ความสนใจจนเกินเลยไป ไม่มีสติและปัญญาควบคุม ไม่มีความเข้าใจอย่างถูกต้องตรงตามจริง จึงกลายเป็นความบ้าคลั่งที่น่ากลัว อาจจะมีผลประโยชน์มากมายมหาศาลของคนส่วนน้อยที่ซ้อนเร้นอยู่ บนความบ้าคลั่งของคนส่วนใหญ่
แน่นอน ผลที่ตามมาคือความสูญเสียของคนส่วนใหญ่ที่ไม่เข้าใจ มีตัวอย่างเหตุการณ์มากมายที่พวกเราเห็นในอดีตและเหตุการณ์นั้นๆ ได้ย้อนกลับมาเกิดขึ้นในปัจจุบัน การรู้อย่างละเอียดละออถึงคนสำคัญของโลก
ก็มีแง่ดีเหมือนกันแต่นั้นเป็นเพียงการรู้รอบถึงคนอื่นๆ ความรู้เช่นนี้ ย่อมมีประโยชน์สูงสุดต่อชีวิต เมื่อสามารถทำให้เป็นแรงบันดาลใจทำให้เราได้รับรู้ถึงชีวิตคนอื่นๆ ในแง่มุมต่างๆเพื่อการพัฒนาชีวิตของเรา ความรู้เหล่านั้นอาจทำให้เราเก่งในสายตาคนรอบข้าง แต่ไม่ทำให้เราหมดทุกข์ หมดความสงสัยหายจากความกังวลใจ
เป็นความจริงว่า ผู้คนส่วนใหญ่แม้จะสนใจตนเอง ก็เพียงแต่สนใจสิ่งภายนอก เสื้อผ้า อาหาร เครื่องดื่มเครื่องใช้ภายในบ้านสนใจจะแต่งตัวให้สวยงาม แต่ไม่สนใจจะแต่งใจตนเองให้ดีงาม ไม่สนใจตนเองในสิ่งที่ละเอียดและสำคัญยิ่งกว่า
นั่นคือ ใจลมหายใจความสงบ การฝึกสติ การเพาะบ่มปัญญาต่อปัญหาต่างๆ การชนะอารมณ์ขุ่นข้อง และขัดใจของตนเองในขณะปัจจุบัน
คนส่วนใหญ่ใช้เวลาไปกลับการอยู่กับความเศร้า ความทุกข์ ความผิดหวัง ความอึดอัดคัดเคืองใจที่ผ่านมาแล้ว สิ่งเหล่านั้นทั้งหมดเป็นเพียงเหตุการณ์ในอดีต ที่ไม่อาจจะหวนกลับไปแก้ไขได้อีกแล้ว
จึงกล่าวได้ว่า พวกเขาไม่มีปัจจุบัน เพราะพวกเขาใช้เวลาคิดและเป็นอยู่กับเรื่องราวๆ ต่างๆ ในอดีตซึ่งส่วนมากทั่วๆ ไปมักจะเป็นเรื่องความเศร้า ความผิดหวัง และความสูญเสียทั้งหมดทั้งปวง อดีตจึงเป็นเพียงประสบการณ์ที่ผ่านมา และเป็นบทเรียนแห่งชีวิตที่เราได้เรียนรู้ และใช้เพื่อฝึกอบรมตนเอง
หลายคนเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ที่จะยึดมั่นกับเรื่องราวในอดีตที่เจ็บปวด ทรมานใจ เราควรจะได้ปล่อยวางอย่างชาญฉลาด รู้เท่าทัน ไม่หลงงมงาย กับเรื่องทุกข์ต่างๆ จงบอกตัวเราเองว่า
“ความทุกข์มีไว้ให้เห็น ไม่ใช่มีไว้ให้เป็น”
และขอจงให้ใช้เรื่องราวในอดีตให้เกิดเป็นประโยชน์สูงสุดต่อชีวิตในปัจจุบันคนส่วนใหญ่สูญเสียปัจจุบัน เพราะกังวลและเครียดกับความไม่มั่นคงในอนาคต มีชีวิตอยู่ด้วยความกลัว กลัวสิ่งที่ไม่รู้ กลัวอะไรมากมายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต กลัวความผิดหวัง กลัวการถูกทอดทิ้ง กลัวการสูญเสียคนรักและทรัพย์สิน ชีวิตจึงไม่มีความสงบ
ไม่มีความสงบจริงๆ เพราะทุกลมหายใจเข้าออก เต็มไปด้วยความกลัว ความกังวล ความเครียด ถึงคนอื่นๆ อาทิเช่น ลูก ภรรยา สามี ญาติพี่น้อง พวกพ้องบริวารพร้อมกันนี้ยังมีความหวั่นไหว กับเรื่องต่างๆ ในอนาคต
แท้จริงแล้ว อนาคตจึงเป็นเพียงความคิดการคาดการณ์ของเราเอง อาจจะเป็นหรือไม่เป็น อาจจะมีหรือไม่มีก็ได้ แล้วจะเศร้า กลัว และกังวลไปทำไมกันขณะนี้ อาจจะได้เวลาแล้วใช่มั๊ย? ที่เราจะอยู่กับปัจจุบัน ขณะนี้ และเดี๋ยวนี้
ลองหันกลับมาสนใจตัวเองอย่างจริงจัง เฝ้าดูสนใจลมใจทุกขณะที่เข้าออก รู้ตัวทั่วพร้อม เพียรพร้อมพยายามฝึกอบรมใจให้หยุดนิ่งอยู่กับความสงบ ไม่กลัวความเงียบที่จะนำเราไปสู่ความเข้าใจตนเอง มีเวลาแห่งการเฝ้าตามรู้ความคิดตนเอง ไม่หวั่นไหว และเพียรพยายามอย่างสม่ำเสมอที่จะเข้าใจตนเองจริงๆ
ไม่ตกอยู่ภายใต้ความโกรธความหลง และความต้องการอย่างไร้ขอบเขตไม่เป็นทาสของสิ่งกระตุ้นเร้าภายนอกอันจักนำเราไปสู่ความสุขเพียงชั่วประเดี๋ยวประด๋าวที่ไม่จีรังยั่งยืน ความสุขที่ได้เพียงตอบสนองความต้องการพอใจ สะใจ เท่านั้นเอง
และอย่ารีรอเวลาที่จะพิจารณาตัวเอง โดยปราศจากอคติทั้งปวง เฝ้ามองตัวเองอย่างแจ่มแจ้ง ชัดเจนในทุกๆ ขณะความคิดและอารมณ์ ต่อเหตุการณ์ต่างๆ เพื่อประโยชน์สูงสุดในปัจจุบัน ปัจจุบันเท่านั้นคือเวลาที่แท้จริงสูงสุดของเรา
อดีตก็เป็นเพียงประสบการณ์ที่ผ่านมา อนาคตก็เป็นแค่การคิดคาดฝันและคาดคะเนเท่านั้นเอง พวกเราต้องถามตัวเองเดียวนี้ว่า เราได้เฝ้ามองและฝึกหัดตนเอง มีความสุขสงบกับสิ่งที่เรามี มีความสุขกับสิ่งที่เราเป็น ไม่ทุกข์ร้อนในสิ่งที่เรามี และไม่เบื่อหน่ายในสิ่งที่เราเป็น ไม่เศร้าสลดในอดีตที่สูญเสีย และไม่หวั่นไหวและหวาดกลัวกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง
และจงเพียรพยายามพัฒนาตนเองให้เจริญขึ้นทั้งทางร่างกายและจิตใจจงรีบเร่งแบ่งเวลามาดูตนเอง เรียนรู้ตนเอง สอนตัวเอง เป็นครูและเป็นนักเรียนของตนเอง มองเข้ามาในใจตนเอง ลด ละ เลิก เรื่องราวภายนอกและคนอื่นๆ ไว้ก่อน
ตอนนี้ ขณะนี้ และเดี๋ยวนี้ เป็นเวลาที่แท้จริงของตนเอง เป็นเวลาแห่งการเฝ้ามองตนเองอย่างปราศจากอคติทั้งหลายเป็นเวลาทำงานวิจัย ศึกษาค้นหาตนเอง เป็นเวลาที่สร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นในใจตนเอง เป็นเวลาแห่งการภาวนาทางใจอย่างแท้จริง ถ้าหากคุณรอจะเริ่มต้นวันพรุ่งนี้ วันพรุ่งนี้อาจจะไม่มี และอาจจะสายเกินไปแล้วก็ได้ หวังว่า คุณคงไม่รอให้สายเกินไปนะครับ
ลองนึกถึงการมีโชคดีของตนเอง และหยุดเฝ้าจับผิดคนอื่นๆ และคอยซ้ำเติมกัน อย่างสนุกสนาน ผู้คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีเวลาเฝ้ามองตัวเอง ลอง ลด ละ เลิก เรื่องราวภายนอกและคนอื่นๆดูนะครับ แล้วชีวิตคุณจะมีความสุขมากขึ้นครับ
ที่มา..
http://diarylove.com
บุ๊คมาร์ก
0
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Nujeab
Nujeab
ออฟไลน์
เครดิต
27800
2
#
โพสต์ 2014-1-13 11:59
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวและข้อคิดดีๆครับ
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
TATIE
TATIE
ออฟไลน์
เครดิต
2341
3
#
โพสต์ 2014-1-14 10:27
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
โชคดี พวกขี้เมาไม่ติด 1 ใน 8
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
โหมดขั้นสูง
B
Color
Image
Link
Quote
Code
Smilies
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ลงชื่อเข้าใช้
|
ลงทะเบียน
รายละเอียดเครดิต
ตอบกระทู้
ข้ามไปยังโพสต์ล่าสุด
ตอบกระทู้
ขึ้นไปด้านบน
ไปที่หน้ารายการกระทู้
Share To Facebook
Share To Twitter
Share To Google+
Share To ...