ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 1960
ตอบกลับ: 2
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

งานพระธรรมทูตหลังพุทธกาล

[คัดลอกลิงก์]
งานพระธรรมทูตหลังพุทธกาล

                เมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว บุคคลผู้เผยแผ่พระพุทธศาสนาประเภทพระธรรมทูตก็ยังมีความจำเป็น และดูเหมือนจะจำเป็นมากขึ้น เพราะเหตุ ๓ ประการ คือ
                             ๑)  เพื่อเผยแผ่พุทธศาสนาไปยังประเทศที่ยังไม่มีพระพุทธศาสนา   
                             ๒) ได้มีคนแอบแฝงปลอมบวชในพระพุทธศาสนามาก แล้วประพฤติเสียหาย   
                             ๓)  เกิดมีศาสนาต่างๆ ขึ้นอีกหลายศาสนา
ด้วยเหตุ ๓ ประการนี้ งานพระธรรมทูตจึงเป็นสิ่งจำเป็น
               
การทำสังคายนาครั้งที่ ๓ เมื่อพระพุทธศาสนาได้รับการนับถือจากพระเจ้าอโศมหาราช ประชาชนก็ทะนุบำรุงพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก พวกนักบวชในศาสนาอื่นๆ เห็นว่าพระสงฆ์ในพุทธศาสนาได้ลาภสักการะต่างๆมาก ก็พากันปลอมบวชเข้าเป็นภิกษุเพื่ออาศัยกาสาวพัสตร์เป็นเครื่องเลี้ยงชีพ แต่ไม่ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย เป็นเหตุให้สงฆ์ไม่ทำสังฆกรรมร่วมกันนานถึง ๗ ปี  เมื่อเรื่องนี้ทราบถึงพระเจ้าอโศกมหาราชก็ทรงรับสั่งให้ไตร่สวน แล้วส่งทูตไปนิมนต์พระโมคคัลลีบุตรติสสเถระ มาเป็นประธานชำระความยุ่งเหยิงในพระศาสนา
                ผลของการชำระพระพุทธศาสนา  ปรากฏว่า มีพระปลอมถูกบังคับให้สึกถึง ๖๐,๐๐๐ รูป แล้วพระโมคคัลลีบุตรเถระให้ประชุมพระสงฆ์ซึ่งเป็นพระอรหันต์ทั้งสิ้น ๑,๐๐๐ รูป ทำการสังคายนาพระธรรมวินัยเป็นครั้งที่ ๓ ณ อโศการาม เมืองปาฏลีบุตร ซึ่งเป็นเมืองหลวงของแคว้นมคธในสมัยนั้น เมื่อปี พ.ศ.๓๐๓  การสังคายนาได้ทำกันอยู่ถึง ๙ เดือน จึงสำเร็จ การส่งสมณทูตไปประกาศศาสนา  เมื่อทำสังคายนาครั้งที่ ๓ เสร็จแล้ว พระเจ้าอโศกได้ทรงคัดเลือกพระเถระผู้มีความสามารถส่งไปเป็นสมณทูต ให้นำพระพุทธศาสนาไปสั่งสอนในต่างประเทศ หลายทิศ รายนามสมณทูตที่ปรากฎในปกรณ์บาลี มี ๙ สาย คือ


สายที่ ๑
         คณะพระมัชฌันติกะ  ไปแคชเมียร์และคันธาระ คือ ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือสุดของอินเดีย ปัจจุบันบางส่วนอยู่ในปากีสถาน บางส่วนอยู่ในอัฟกานิสถาน

สายที่ ๒
         คณะพระมหาเทวะ  ไปมหิสมณฑล ปัจจุบันได้แก่ รัฐไซเมอร์ อยู่ทางภาคใต้ของอินเดีย แถบลุ่มแม่น้ำโคธาวารี

สายที่ ๓
         คณะพระรักขิต ไปวนวาสี ได้แก่ บริเวณตะวันตกเฉียงใต้ของอินเดีย

สายที่ ๔
         คณะพระธรรมรักขิต ท่านผู้นี้เป็นฝรั่งชาติกรีก  และดูเหมือนจะเป็นฝรั่งคนแรกที่บวชในพระพุทธศาสนา ไปอปรันตชนบท  แถวชายทะเลเหนือ เมืองบอมเบย์

สายที่ ๕
         คณะพระมหาธรรมรักขิต  ไปแคว้นมหาราษฏร์  อยู่ทางตะวันออกของเมืองบอมเบย์

สายที่ ๖
         คณะพระมหารักขิต ไปประเทศโยนก คือ ประเทศกรีกในเอเชียกลาง

สายที่ ๗
         คณะพระมัชฌิมะ  ไปทางเหนือแถบภูเขาหิมาลัย

สายที่ ๘
         
          คณะพระโสณะและพระอุตตระ  ไปสุวรรณภูมิ ซึ่งมีผู้สันนิษฐานว่า อาจเป็นดินแดนซึ่งอยู่ในเขตประเทศไทย หรือประเทศพม่าในปัจจุบัน

สายที่ ๙
         คณะพระมหินทะ  พระโอรสของพระเจ้าอโศกเอง ไปเกาะลังกา คือ ประเทศศรีลังกา
พระมหินทเถระ  เมื่อไปถึงเกาะลังกา ได้ประกาศพระศาสนา สามารถทำให้พระเจ้าเทวานัมปิยติสสะ  กษัตริย์ลังกาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา จนสามารถประดิษฐานพระพุทธศาสนาได้อย่างมั่นคง


            
ความสามารถในการเผยแผ่ศาสนาของพระสงฆ์ที่คนศาสนาอื่นมองเห็น
มิชชันนารี ชาวโปรตุเกส ชื่อ กาสปาร์  ดาครูซ  ได้บันทึกไว้ในปี ค.ศ.๑๕๕๖ (พ.ศ.๒๐๐๙) ว่า  

               
“มีความภาคภูมิใจและเย่อหยิ่งอย่างเหลือเกิน  พวกเขาได้รับการบูชาสักการะราวกับเทพเจ้าเป็นๆ  ผู้ที่อ่อนอาวุโสกว่าในหมู่ภิกษุด้วยกัน  ก็บูชาผู้อาวุโสกว่าดุจเทพเจ้า  ทั้งสวดมนต์ภาวนาและกราบกราน ฉะนี้สามัญชนทั้งหลาย จึงเชื่อมั่นในพระภิกษุอย่างสูง ให้ความเคารพและกราบไหว้บูชา ไม่มีใครกล้าคัดค้านพระในเรื่องใดๆ บางครั้งขณะที่ข้าพเจ้ากำลังเทศน์อยู่ ผู้คนรอบข้างซึ่งได้ยินข้าพเจ้าพูดอย่างชัดเจนและพอใจในสิ่งที่ข้าพเจ้าสอน ทันทีที่พระเหล่านี้เดินผ่านมา และพูดเปรยว่า “นั่นก็ดีอยู่หรอก แต่ของเราดีกว่า”  พวกเขาก็จะเดินหนีไปหมด ทิ้งข้าพเจ้าไว้แต่ลำพัง”

สาธุ ขอบคุณครับ _/\_
สาธุ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้