ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 4047
ตอบกลับ: 10
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

เธอปรารถนาจะทำกรรมใดด้วยวาจา

[คัดลอกลิงก์]
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2014-1-12 09:46





ดูกรราหุล เธอปรารถนาจะทำกรรมใดด้วยวาจา เธอพึงพิจารณาวจีกรรมนั้น


เสียก่อนว่า เราปรารถนาจะทำกรรมใดด้วยวาจา วจีกรรมของเรานี้ พึงเป็นไปเพื่อเบียดเบียนตนบ้าง

เพื่อเบียดเบียนผู้อื่นบ้าง และเพื่อเบียดเบียนทั้งตนและผู้อื่นบ้าง วจีกรรมนี้เป็นอกุศล มีทุกข์
เป็นกำไร มีทุกข์เป็นวิบากกระมังหนอ. ถ้าเธอพิจารณาอยู่ พึงรู้อย่างนี้ว่า เราปรารถนาจะทำ
กรรมใดด้วยวาจา วจีกรรมของเรานี้ พึงเป็นไปเพื่อเบียดเบียนตนบ้าง เพื่อเบียดเบียนผู้อื่นบ้าง

และเพื่อเบียดเบียนทั้งตนและผู้อื่นบ้าง วจีกรรมนี้เป็นอกุศล มีทุกข์เป็นกำไร มีทุกข์เป็นวิบาก
ดังนี้ไซร้ วจีกรรมเห็นปานนั้น เธอไม่ควรทำโดยส่วนเดียว. แต่ถ้าเธอพิจารณาอยู่ พึงรู้อย่างนี้ว่า
เราปรารถนาจะทำกรรมใดด้วยวาจา วจีกรรมของเรานี้ไม่พึงเป็นไปเพื่อเบียดเบียนตนบ้าง เพื่อ
เบียดเบียนผู้อื่นบ้าง และเพื่อเบียดเบียนทั้งตนและผู้อื่นบ้าง วจีกรรมนี้เป็นกุศล มีสุขเป็นกำไร
มีสุขเป็นผลดังนี้ไซร้ วจีกรรมเห็นปานนั้น เธอควรทำ. ดูกรราหุล แม้เมื่อเธอกำลังทำกรรม
ด้วยวาจา เธอก็พึงพิจารณาวจีกรรมนั้นแหละว่า เราทำอยู่ซึ่งกรรมใดด้วยวาจา





วจีกรรมของเรานี้

ย่อมเป็นไปเพื่อเบียดเบียนตนบ้าง เพื่อเบียดเบียนผู้อื่นบ้าง และเพื่อเบียดเบียนทั้งตนและผู้อื่น
บ้าง วจีกรรมนี้เป็นอกุศล มีทุกข์เป็นกำไร มีทุกข์เป็นวิบากกระมังหนอ. ถ้าเธอพิจารณาอยู่
พึงรู้อย่างนี้ว่า เราทำอยู่ซึ่งกรรมใดด้วยวาจา วจีกรรมของเรานี้ ย่อมเป็นไปเพื่อเบียดเบียนตน
เพื่อเบียดเบียนผู้อื่น และเพื่อเบียดเบียนทั้งตนและผู้อื่น

วจีกรรมนี้เป็นอกุศล มีทุกข์เป็นกำไร
มีทุกข์เป็นวิบากดังนี้ไซร้

เธอพึงเลิกวจีกรรมเห็นปานนั้นเสีย. แต่ถ้าเธอพิจารณาอยู่ พึงรู้อย่างนี้ว่า


เราทำอยู่ซึ่งกรรมใดด้วยวาจา วจีกรรมของเรานี้ ย่อมไม่เป็นไปเพื่อเบียดเบียนตนบ้าง เพื่อ
เบียดเบียนผู้อื่นบ้าง และเพื่อเบียดเบียนทั้งตนและผู้อื่นบ้าง วจีกรรมนี้เป็นกุศล มีสุขเป็นกำไร
มีสุขเป็นวิบากดังนี้ไซร้ เธอพึงเพิ่มวจีกรรมเห็นปานนั้น.

ดูกรราหุล แม้เธอทำกรรมด้วยวาจา

แล้ว เธอก็พึงพิจารณาวจีกรรมนั้นแหละว่า เราได้ทำแล้วซึ่งกรรมใดด้วยวาจา วจีกรรมของเรานี้
ย่อมเป็นไปเพื่อเบียดเบียนตนบ้าง เพื่อเบียดเบียนผู้อื่นบ้าง เพื่อเบียดเบียนทั้งตนและผู้อื่นบ้าง
วจีกรรมนี้เป็นอกุศล มีทุกข์เป็นกำไร มีทุกข์เป็นวิบากกระมังหนอ. ถ้าเธอพิจารณาอยู่

พึงรู้อย่างนี้ว่า เราได้ทำแล้วซึ่งกรรมใดด้วยวาจา วจีกรรมของเรานี้ ย่อมเป็นไปเพื่อเบียดเบียน
ตนบ้าง เพื่อเบียดเบียนผู้อื่นบ้าง เพื่อเบียดเบียนทั้งตนและผู้อื่นบ้าง วจีกรรมนี้เป็นอกุศล
มีทุกข์เป็นกำไร มีทุกข์เป็นวิบากดังนี้ไซร้ วจีกรรมเห็นปานนั้น

เธอพึงแสดง เปิดเผย

ทำให้ตื้น ในพระศาสนาหรือในเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลายผู้วิญญู ครั้นแล้วพึงสำรวมต่อไป. แต่
ถ้าเธอพิจารณาอยู่ พึงรู้อย่างนี้ว่า เราได้ทำแล้วซึ่งกรรมใดด้วยวาจา วจีกรรมของเรานี้ ย่อมไม่
เป็นไปเพื่อเบียดเบียนตนบ้าง เพื่อเบียดเบียนผู้อื่นบ้าง เพื่อเบียดเบียนทั้งตนและผู้อื่นบ้าง
วจีกรรมนี้เป็นกุศล มีสุขเป็นกำไร มีสุขเป็นวิบากดังนี้ไซร้ เธอพึงมีปีติและปราโมทย์
ศึกษาในกุศลธรรมทั้งกลางวันและกลางคืน อยู่ด้วยวจีกรรมนั้นแหละ


สาธุ สาธุ สาธุ
3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-1-12 09:39 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2014-1-12 09:41




..การกล่าวโทษผู้อื่นโดยขาดการไต่ตรอง เป็นการสั่งสมโทษ และบาปใส่ตน
ให้ได้รับความทุกข์ จึงควรสลดสังเวช ต่อความผิดของตน งดความเห็นที่เป็นบาปภัยต่อตน เสีย..

ความทุกข์เป็นของน่าเกลียดน่ากลัว แต่สาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ ทำไมพอใจสร้างขึ้นเอง..

เมื่อเกิดมาอาภัพชาติแล้ว อย่าให้ใจอาภัพอีก ผู้เกิดมาชาตินี้อาภัพแล้ว
อย่าให้ใจอาภัพ คิดแต่ผลิตโทษ ทำบาปอกุศล เผาผลาญตนให้ได้ทุกข์ เป็นบาปกรรมอีกเลย....."


หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-1-13 08:12 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2014-1-13 08:25






การพิจารณาตัดสินผู้อื่น มีแต่จะเพิ่มความหยิ่งทะนงตน จง"เฝ้าดูตัวเอง"

อย่าตัดสินใจ ว่าใคร "ไม่ดี" เพียงแค่ "ฟังเขามา"

อย่าเอาใครไป "นินทา" ถ้ายังไม่รู้จักเขา "ดีพอ"



เพราะฉะนั้น ตัวเราเองต่างหากที่ต้องปรับตัวปรับใจให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆให้ดี

แม้ว่าที่เราไปจะมีแต่ความวุ่นวาย มีแต่ปัญหา เรื่องไม่ดี เรื่องความรุนแรง ใส่ร้ายป้ายสี

จับผิดนินทาว่าร้าย หลอกตนเองไปวันๆ
แต่ทุกอย่างจะสงบ เพราะเมื่อใจเราไม่ไหวหวั่น

และสงบในท่ามกลางความสับสนวุ่นวายได้ เราก็สามารถอยู่กับสิ่งเหล่านี้ได้อย่างสันติภายในตัว
เอง


เปรียบเสมือนดอกบัวในทะเลเปลวเพลิง

5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-1-13 08:18 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2014-1-13 08:45


ธรรมะไม่เคยแบ่งแยก เพราะต้องการให้ทุกคนเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันโลกเราถึงจะสันติสุขได้ เพราะถ้าหากเรามีจิตเมตตา เราจะรักทุกๆคนเท่าเทียมกันหมด ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง นี้แหละครับ ทางสายกลาง

ธรรมะไม่แบ่งแยก ไม่บอกว่า ศาสนาหรือลัทธิใดดีที่สุด ศาสนาไม่ไดเสื่อมแต่จิตใจเราเสื่อมเพราะถูกกิเลสครอบงำเท่านั้นเอง ทุกวันนี้ ปากบอกว่าพวกเราทะนุบำรุงพุทธศาสนาก็จริงอยู่ แต่ใจเราพุทธจริงหรือไม่ ทำไมเล่ายิ่งนับวัน ดวงตายังไม่เห็นธรรมแท้จริงเสียที


และที่สำคัญหลายคนไม่อาจเอาชนะใจมารของตนเองได้เวลาเจอปัญหา อุปสรรค วิบากกรรม บททดสอบอีกมากมาย

เพราะมารเก่งกว่าพระ เขารู้จุดอ่อนทุกคน และยิ่งคนปัญญาเก่งๆ รู้ธรรมสูงๆ ศึกษามากมาย มารยิ่งชอบเลย คือ ทำให้เราหลงผิดแบบไม่รู้ตัว
ตกจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ

ธรรมะหรือ อนุตตรธรรมก็อยู่ในตัวเรานั่นเองครับ ไม่ได้อยู่ที่ใครคนใด จะทำอะไรก็ต้องชิมรสเองจึงรู้รสชาติเอง ไม่ต้องไปให้คนอื่นไปชิมรสชาติแทนเรา เวลาคนอื่นที่นำพาเราสร้างบาปกรรม เขาจะมารับผิดชอบวิบากกรรมให้เราหรือเปล่า เขาจะชดใช้กรรมในขุมนรกกับเราด้วยไหม ก็ไม่

เพราะฉะนั้น...

อย่าได้บำเพ็ญตนไหลไปตามกระแสน้ำ เพราะไม่แน่ว่า กระแสน้ำมิอาจนำพาเราให้พลอยตกเหวไปด้วย จะฟังใคร ก็ต้องพิจารณาด้วยปัญญาง่ายๆว่าสิ่งที่เขาพูด เขาเล่าให้เราฟัง มันเป็นการสร้างบาป สร้างความเดือดร้อนให้เราไหม

แล้วมันทำให้เราไปเกี่ยวกรรมกับพวกเขาเหล่านั้นด้วยไหม กรรมของพวกเขาที่พวกเขาสร้างเอง ทำไมเราต้องไปรับแทนเขาด้วยเล่า..??????


จริงอยู่เราเองผู้ซึ่งยังเต็มไปด้วยกิเลสราคะตัณหาและสร้างบาปเวรกรรมมากมายในชีวิตประจำวัน

เราจะสามารถไปตัดสินดีชั่วของผู้ใดได้อีก ในเมื่อตัวเราเองยังเอาตัวเองไม่รอด ยังไม่สามารถปฎิบัติจริงๆได้ แล้วจะอ้างคำสอนพระพุทธเจ้าที่เมตตาว่า ด้วยศีลห้า ได้อย่างไร บางคนใช้คำพูดทำร้ายจิตใจคนอื่นด้วยวาจาปรามาส ลบหลู่ มองในแง่ลบหมด ถึงแม้จะเป็นการแสดงความเห็นก็เถิด ศีลข้อที่สี่และข้อที่หนึ่ง ก็ไม่บริสุทธิ์เสียแล้ว

อย่าได้โทษธรรมะหรืออนุตตรธรรมหรือโทษใครๆเพราะตัวเราเองต่างหากที่ไม่เข้าใจธรรมะ หรือ เข้าใจผิดเสียเอง คนเราหากไม่มีศีลมีธรรมไม่มีปัญญาในการแยกแยะอะไรควรไม่ควร กาย วาจา ใจก็สร้างบาปเวรกรรมไปตามเหตุปัจจัย

เพราะดีชั่ว ทุกข์สุข เรื่องราวต่างๆล้วนเกิดจากใจตนเองทั้งสิ้น ถึงแม้จะพบเจอปัญหามากมายในกลุ่มอนุตตรธรรม มันก็อยู่ที่ใจเรา ในทุกศาสนา ล้วนมีปัญหาทั้งนั้น มีทั้งคนนิสัยดีและไม่ดีปนเปไปด้วย

เพราะฉะนั้น ตัวเราเองต่างหากที่ต้องปรับตัวปรับใจให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆให้ดี แม้ว่าที่เราไปจะมีแต่ความวุ่นวาย มีแต่ปัญหา เรื่องไม่ดี เรื่องความรุนแรง ใส่ร้ายป้ายสี จับผิดนินทาว่าร้าย หลอกตนเองไปวันๆ

แต่ทุกอย่างสงบ เพราะเมื่อใจเราไม่ไหวหวั่นและสงบในท่ามกลางความสับสนวุ่นวายได้ เราก็สามารถอยู่กับสิ่งเหล่านี้ได้อย่างสันติภายในตัวเอง เปรียบเสมือนดอกบัวในทะเลเปลวเพลิงครับ โชคดีครับ



6#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-1-13 08:50 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2014-1-13 08:51

เมื่อใดก็ตามที่เราโกรธ เกลียด เพ่งโทษ มุ่งร้าย ใครสักคน ตอนนั้นเอง เราหาได้ทำร้าย คนที่เราโกรธหรือเกลียดไม่ แต่เรากำลังทำร้าย และข่มเหงตัวเราเอง โดยไม่รู้ตัว และความรู้สึก และอารมณ์นั้นๆ ก็มิได้เป็นความสุขสงบเย็น และทำให้ผู้ถือมั่นในอารมณ์ และความรู้สึกเช่นนี้ ก็จะสะสมพอกพูน ความน่ารังเกียจให้กับตนเอง

ไม่ตัดสินใคร ไม่ว่ากล่าวใคร เหมือนเรากำลังเหยียบเบรคอยู่ โทสะเราก็จะไม่วิ่งไป เพราะเรามองเห็นว่า ไอ้สิ่งที่คนนั้นคนนี้ พูดมันใช่เรื่องจริงหรือไม่???

ถ้าเราหรือใครคนนั้นไม่ได้เป็นอย่างที่คนนั้นคนนี้พูด ก็ไม่เห็นต้องไปตอบโต้อะไร เพราะคนที่พูดนินทาคนอื่นก็คือคนที่ไม่ได้สนใจในข้อเท็จจริงที่เป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว

การที่เราไปแสดงตนตอบโต้

ก็เหมือนเป็นการเอาข้อมูลไปให้เขาต่อเติมเสริมแต่งมีเรื่องไปพูดได้อีก

เราจึงควร "เอาใจใส่" ทุกอย่าง

แต่ไม่ควร "เอาทุกอย่าง" มา "ใส่ใจ"


7#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-1-13 09:20 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2014-1-13 09:22

อภัยทาน

คำสอนสมเด็จองค์ปฐม


ผู้อภัยทานแล้วก็ย่อมไม่พูดจาซ้ำเติมหรือทับถมบุคคลที่ถูก..

กฎของกรรมอันเป็นอกุศลเข้าเล่นงาน

ผู้อภัยทานมีจิตอ่อนโยน คือ มุทิตา ไม่สร้างอารมณ์รุ่มร้อนอิจฉาริษยา
หรือส่อเสียด นินทา ยุยงส่งเสริมให้เขาแตกร้าวกัน และผู้อภัยทานย่อม
มีอุเบกขา คือ การวางเฉยไม่ทุกข์ไม่ร้อนไปกับบุคคลอื่นที่ต้องเสวยผล
ตามกฎของกรรมชั่วที่ทำเอาไว้นั้น ๆ

จิตของผู้มีอภัยทาน จึงมีความสุขเยือกเย็นสงบถึงที่สุด
ไม่ว่าต่อหน้าหรือลับหลัง คือ สงบจริงทั้งกาย วาจา ใจ





8#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-1-19 22:15 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ปล่อยวางกันบ้างนะครับพี่น้อง
9#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-1-19 22:22 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เรื่องกรรมของคนหมู่มากอย่าเอาตัวเราเข้าไปเกี่ยวข้อง เรียกว่าอภิกรรมใหญ่มีผลมากนะครับ
เลี่ยงได้ให้เลี่ยง  เสียนะครับข้อร้อง
10#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-1-20 08:42 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้