ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 13120
ตอบกลับ: 7
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

>> ตามรอยตำนาน หนุมาน หลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุล ที่สุดแห่งสยามประเทศ <<

[คัดลอกลิงก์]
ตามรอยตำนาน หนุมาน หลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุล
ที่สุดแห่งสยามประเทศ



ภาระกิจของเราในครั้งนี้ ได้มีจุดมุ่งหมายในการ ตามรอยตำนาน สุดยอดของขลัง
ขุนกระบี่วานร ฤทธิเกริกไกร หนึ่งในสยาม ของหลวงพ่อสุ่น แห่งวัดศาลากุน






ซึ่งเหล่าบรรดานักสะสมพระ จัดหนุมานของท่านเป็นหนึ่งใน
เบญจภาคีเครื่องรางเลยทีเดียว ดั่งคำกลอนที่ว่า


"ปลัดขิกหลวงพ่อเหลือ เสือหลวงพ่อปาน หนุมานหลวงพ่อสุ่น
วัวปั้นหุ่นหลวงพ่อน้อยศีรษะทอง
เบี้ยแก้กันของหลวงปู่รอด วัดนายโรง
"



ภาระกิจครั้งนี้จะเป็นเช่นไร ??
เราจะเจอเจ้าขุนกระบี่ในตำนานของท่านไหม ??
และเราจะได้ของดี จากตำนานแห่งนี้หรือเปล่า ??
ต้องมารอติดตามกันนะคร๊าบบ !!




ลงเรือ แล่นตามรอยตำนาน




โฉมหน้าผู้เข้าร่วมภาระกิจในครั้งนี้




ไม่รอช้า หนทางข้างหน้ายังอีกไกล ช่วยมาเป็นกำลังใจกันนนะคร๊าบ

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-4-4 07:44 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
หลวงพ่อสุ่น จันทะโชติโก
แห่งวัดศาลากุล




ประวัติของหลวงพ่อสุ่น ไม่เป็นที่กระจ่างมากนัก เล่ากันว่าท่านชื่อ สุ่น นามสกุล ปานกล่ำ
เป็นชาวปากเกร็ดโดยกำเนิด เกิดเมื่อประมาณ พ.ศ.๒๔๓๕
เมื่อบวชแล้วได้ฉายาว่า จันทโชติโก แปลว่า รุ่งเรืองดุจจันทร์เพ็ญ ไม่ปรากฏนามพระอุปัชฌาย์อาจารย์

จำพรรษาอยู่ที่วัดศาลากุน ตั้งแต่หนุ่ม ปลูกต้นรัก และต้นพุดซ้อน ดูแลอย่างดี
ตั้งแต่ยังไม่ได้เป็นสมภาร ด้วยการทำน้ำมนต์รดต้นไม้ทั้งสองเสมอมา
เมื่อเป็นสมภารคลองวัด จึงให้ลูกศิษย์ขุดรากไม้รักและพุดซ้อนตากจนแห้ง
ให้ช่างมีฝีมือแกะเป็นรูปหนุมานทรงเครื่องสวยงาม



ต้นพุดซ้อนที่ส่วนมากหลวงพ่อนำมาใช้แกะหนุมาน


หลวงพ่อสุ่น เป็นสหธรรมิกของ หลวงพ่อกลิ่น วัดสะพานสูง
โดยมีอายุมากกว่าหลวงพ่อกลิ่นประมาณ ๕ ปี

เมื่อราว พ.ศ.๒๔๘๑-๒๔๘๒ หลวงพ่อสุ่นมรณภาพ สิริอายุประมาณ ๗๘ ปี
ในวันประชุมเพลิงหลวงพ่อสุ่นเมื่อ พ.ศ.๒๔๘๙ นั้น
หลวงพ่อกลิ่นมาเป็นเจ้าภาพด้วยตัวเอง  


เคยมีเรื่องเล่าถึงศิษย์หลวงพ่อสุ่น

ส่วนหนึ่งที่ตอนหลังได้ไปรับใช้ชาติโดยการเป็นทหารเรือในยุคสมัยของรัชกาลที่ 5 เสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์(เสด็จในกรม)พระบิดาแห่งกองทัพเรือไทย ท่านได้ทำน้ำพระพุทธมนต์รับขวัญทหารใหม่ พรมไปที่ร่างเหล่าทหารใหม่ทั้งหลาย หลายคนเฉยๆไม่แสดงอาการอะไร แต่พวกที่พกหนุมานไม้แกะของหลวงพ่อสุ่น แทบทุกคน ของขึ้นเป็นลิงเป็นหนุมานกันหมด!!!! แสดงถึงอำนาจจิตและเจตสิกของหนุมานของท่านได้เป็นอย่างดีครับ เสด็จเตี่ยท่านถึงกับเอ่ยชมหลวงพ่อสุ่นในคราวนั้นเองว่า " พระอาจารย์รูปนี้เก่ง"

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-4-4 07:45 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ทำไมหลวงพ่อสุ่นถึงปลุกเสกหนุมานได้เข้มขลังนัก ??


บางตำนานเล่าว่า....

การปลุกเสกหนุมานของหลวงพ่อสุ่นมีความพิเศษ มีความเเปลกเเละพิศดารเป็นอย่างมาก   ก่อนที่ท่านจะลงมือทำการปลุกเสกหนุมานในตอนเช้า  หลวงปู่สุ่นท่านจะให้ลูกศิษย์ไปตัดต้นไม้ที่มีหนามมาไว้มากๆ ส่วนมากจะเป็นจำพวกต้นไผ่ ต้นมะขามเทศ ต้นพุทธา  ส่วนช่วงค่ำท่านก็จะทำวัตรกับพระลูกวัดตามปกติเหมือนทุกวัน หลังจากที่ท่านทำวัตรเสร็จเเล้ว ท่านกจะเข้าไปในกุฎิประมาณหนึ่งชั่วโมงท่านก็จะออกมาพร้อมกับอุ้มบาตรออกมาเเล้วเรียกลูกศิษย์ให้อุ้มบาตรเข้าไปในโบสถ์ (ท่านกำชับบอกลูกศิษย์ว่าห้ามเปิดบาตรเด็ดขาด  ท่านมักพูดลอยๆว่า “ขี้เกียจจับ”)  เเละท่านก็จะกลับมานั่งทำวัตรอีกครั้ง เมื่อทำวัตรเสร็จเเล้วหลวงปู่สุ่นท่านก็นั่งหันหลังให้พระประธานเเล้วเอา บาตรตั้งไว้ด้านหน้าจากนั้นก็จะให้ลูกศิษย์นำกิ่งไม้มีหนามที่เตรียมไว้ มาสุมไปที่ตัวท่านให้เต็มจนหาทางเข้า-ออกไม่ได้   ท่านก็จะให้ลูกศิษย์ออกจากโบสถ์เเล้วลั่นกลอนปิดประตูโบสถ์ไว้  และห้ามผู้ ใดเข้าออก  ครั้นเมื่อถึงเวลาประมาณตี4 ท่านจะเรียกลูกศิษย์ให้เข้าไปในโบสถ์ เพื่อเก็บหนุมานที่ท่านปลุกเสกไว้ติดอยู่กับกิ่งไม้เเละหนามที่สุมตัวท่าน ตัวไหนที่หล่นอยู่กับพื้นให้เเยกไว้ต่างหาก  ท่านว่ายังใช้การไม่ได้เพราะ ปลุกไม่ขึ้น  สิ่งที่คาใจในลูกศิษย์คือหนุมานขึ้นไปติดกับกิ่งไม้เเละหนาม ได้อย่างไร ที่สำคัญท่านออกมาจากกองหนามกิ่งไม้ที่สุมตัวท่านได้อย่างไร  โดยทุกอย่างอยู่ในสภาพเดิมทั้งสิ้น


อีกทั้งท่านยัง

หมั่นคอยดูแลรดน้ำต้นรักและพุดซ้อนโดยนำน้ำสะอาดมาทำเป็นน้ำมนต์เพื่อรดต้นไม้ทั้งสองทุกครั้งจนเจริญเติบโต เมื่อต้นไม้เจริญเติบโตได้ที่ท่านจึงดูฤกษ์ยามทำพิธีพลีและสังเวยก่อนแล้วลง มือขุดด้วยตัวเอง


หรือเพราะทำเลของเกาะเกร็ดแห่งนี้ ที่โบราณท่านว่า สามารถต้านทานน้ำให้ไหลออกข้างแล้วบรรจบกันอีกทีได้ ซึ่งสถานที่ลักษณะนี้เสกอะไรก็ขลัง!!


แต่จากประวัติการจัดสร้างซึ่งน้อยมากใครที่จะเล่นหาต้องศึกษาให้มากนะครับครับ!!

สำหรับ จำนวนการสร้างหนุมานหลวงพ่อสุ่นนั้น ลุงด้วง สุขทอง (เกิด พ.ศ.๒๔๖๑) บุตรชายของ นายปลิว สุขทอง อดีตมัคทายกวัดศาลากุน ซึ่งมีชีวิตอยู่ในสมัยเดียวกับหลวงพ่อสุ่นได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการสร้างหนุมานของหลวงพ่อสุ่นว่า

หนุมาน แกะจากไม้รากพุดซ้อน และงาช้างขนาดเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน ช่างแกะชื่อ นายมี ไม่ทราบนามสกุล แกะเป็นรูปหนุมานทรงเครื่อง และไม่ทรงเครื่อง ตัวไม่ใหญ่โตมากนัก กว้างประมาณครึ่งนิ้ว สูงประมาณ ๑ นิ้วเศษ โดยมีการสร้างครั้งใหญ่ๆ อยู่ ๒ ครั้ง คือ

ครั้งแรกสร้างเมื่อ พ.ศ.๒๔๖๘ จำนวนการสร้างไม่มากนัก น่าจะไม่เกิน ๑๐๐ ตัว แกะจากไม้รากพุดซ้อน เป็นหนุมานไม่ทรงเครื่อง ทำแจกฟรีในงานบุญต่างๆ ของวัดโดยไม่มีการจำหน่าย

ครั้ง ที่ ๒ สร้างปลาย พ.ศ. ๒๔๗๐-พ.ศ. ๒๔๗๑ โดยนำออกจ่ายแจกในงานทอดกฐินของวัดศาลากุน ใน พ.ศ.๒๔๗๒   มีทั้งแบบทรงเครื่องหน้าโขน และหนุมานหน้ากระบี่ไม่ทรงเครื่อง แกะจากไม้รากพุดซ้อน และงาช้าง จำนวนการสร้างประมาณ ๒๐๐ ตัว ญาติโยมทางกรุงเทพฯ ได้รับแจกไปจำนวนมาก เพราะเป็นเจ้าภาพในบุญทอดกฐินปีนั้น

ข้อสังเกตหนุมานหลวงพ่อสุ่น  สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจน คือถ้าเป็นเนื้อไม้จะมีรอยร้าวและเนื้อไม้จะแห้ง ส่วนหนุมานเนื้องาแกะ เนื้อจะต้องแห้งเก่า แต่แฝงด้วยความฉ่ำ แบบเดียวกับงาแกะเนื้อหลวงพ่อเดิม


อ้างอิงข้อมูล : http://www.bp.or.th/webboard/index.php?topic=8417
4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-4-4 07:49 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
สักการะหลวงพ่อสุ่น ผู้สร้างตำนานแห่ง ขุนกระบี่วานร


....หลวงปู่ชื่นท่านเคยกล่าวให้อาจารย์สรายุทธฟังว่า....


" เวลาเราจะสร้างวัตถุมงคลอะไรก็ตาม เราก็ควรไปกราบสักการะขอบารมี
ผู้ที่สร้างมาก่อนเก่าเสียก่อน ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นการให้เกียรติท่าน
และ ให้เกียรติครูบาอาจารย์ของท่านด้วย
เมื่อได้ทำเช่นนั้นแล้วจะปลุกเสกอะไรก็ขลัง
เพราะท่านคณาจารย์เหล่านั้นก็จะลงมาช่วยประสิทธิให้"


เมื่อได้ฟังเรื่องราวเช่นนั้นแล้ว ก็ไปร่วมขอพรจากหลวงปู่สุ่นกันเลยดีกว่า
ให้การสร้างหนุมานครั้งนี้ ขลัง!! อย่างที่ท่านเคยได้จัดสร้างไว้ !!


ภาพวิหารหลวงปู่สุ่น







เมื่อย่างก้าวเข้ามาในวิหาร เจ้าวุ่นถึงกับต๊กกะใจ กรี๊ดลั่น
อยู่ดีๆก็มีเสียงเพลงเปิดขึ้นมา ทั้งๆที่ไม่มีใครอยู่ในวิหาร
สร้างความประหลาดใจแก่ผู้เข้าร่วมภาระกิจครั้งนี้เป็นอย่างมาก
หรือจะเป็น การต้อนรับ ของหลวงปู่สุ่น ก็เป็นได้ !!




อาจารย์ไม่รอช้าเข้าไปกราบของพร ขอบารมีหลวงปู่สุ่น
ให้การดำเนินการต่างได้อย่างสำเร็จด้วยเทอญ




เหล่าบรรดาหนุมาน พิทักษ์วิหาร หลวงพ่อสุ่น





โบสถ์วันศาลากุลที่หลวงปู่เคยปลุกเสกหนุมานจนเป็นตำนาน




ศาลาที่หลวงปู่สุ่นเคยทำวัตร



ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-4-4 07:52 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
รูปเหมือนจำลอง หลวงปู่สุ่น
ซึ่งภาพใต้ฐานได้บรรจุอัฐฐิของหลวงปู่




ขอบารมีหลวงปู่สุ่น ช่วยอธิฐานจิต
แผ่นยันต์หนุมาน สายหลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ





ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
6#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-4-4 07:55 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
หลวงปู่สุ่น ให้ของดี


หลังจากสักการะหลวงปู่ ก็ได้เดินทางรอนแรมรอบเกาะเกร็ด เป็นทักษิณาวัตร ถวายหลวงปู่สุ่น
เนื่องจากหลวงพ่อที่เฝ้าวิหารของหลวงปู่สุ่น มีกิจนิมนต์ไปที่อื่น
จนทำให้เหล่า สว ถึงกับเหงื่อตก ไม่คิดว่าจะไกลขนาดนี้ หรือมันไม่ไกลแต่สังขารไม่เอื้ออำนวยก็มิทราบได้


พอเวียนวนครบรอบเกราะเกร็ดก็กลับเข้าสู่วิหารหลวงปู่สุ่นอีกครั้ง
ได้เจอกับพระครูผู้เฝ้าวิหารอยู่พอดี ท่านได้เล่าเรื่องราวตำนานของหลวงปู่สุ่นมากมาย




แล้วจึงถามหลวงพ่อว่าท่านพอจะมีมวลสารของหลวงปู่สุ่นบ้างหรือเปล่าครับ??
หลวงพ่อท่านเล่าว่าไม่มีหรอก หลวงพ่อก็ไปขอหลวงมวลสารศักดิ์สิทธิ์จากวันอื่นเหมือนกัน
แต่ท่านเล่าว่า ไม่ลองเอาผงธูปอธิฐานหลวงปู่สุ่นไปหล่ะ
เพราะ เกจิชื่อดังหลายท่าน ก็นำเอาผงธูปอธิฐานของหลวงปู่สุ่นไปสร้างหนุมานกัน
ก็ขลัง และมีประสบการณ์ไม่น้อย !!


แล้วยังได้คุยกันถึงต้นรักและพุดซ้อนที่หลวงปู่ท่านปลูกว่ายังมีอยู่หรือเปล่า
หลวงพ่อท่านก็ไม่ทราบเพราะว่าท่านเกิดไม่ทัน แต่ก็เห็นว่ามีต้นพุดซ้อนอยู่ใกล้ๆวิหารเหมือนกัน
มีกิ่งที่ตายจากน้ำท่วม ท่านว่าให้เอาไปใช้สิ


ไม่เพียงแค่นั้น
หลังจากที่อาจารย์เข้าไปสักการะปิดทองหลวงปู่สุ่นใกล้ๆ
ก็เหลือบไปเห็นรังหมาร่าที่เกาะอยู่บนรูปเหมือนของหลวงปู่สุ่น
ท่านว่านี่แหละของดี ท่านว่าคนเฒ่าคนแก่สั่งกันนักหน่าว่านี่แหละของดี
ซึ่งหมาร่าเป็นแมลงขนาดเล็ก จะไปนำเอาขี้ธูป ที่มีคนมาอธิฐานมากมาย
มาสร้างเป็นรัง ซึ่งท่านว่าเป็นรังพิเศษ เป็นของดี ของอาถรรพ์ที่ไม่ธรรมดา หายาก !!



อาจารย์จึงของอนุญาติหลวงปู่สุ่น และ พระครูผู้ดูแลวิหาร นำมาเป็นมวลสาร
และถือเป็นการทำความสะอาดหลวงปู่ไปด้วย


สุดท้ายก็จุดธูปบอกกล่าวหลวงปู่ให้ท่านช่วยเมตตาประสิทธิให้อีกครั้ง


ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
7#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-4-4 07:57 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แถมๆ หนุมานที่ทางวัดจัดสร้าง
ของดีที่ราคาไม่แพง!!
ใครไปเที่ยวก็ช่วยอุดหนุนหลวงพ่อกันนะครับ







ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
อนุโมทนาครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้