ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

สมุนไพรไทย

[คัดลอกลิงก์]
21#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-12-9 01:23 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย metha เมื่อ 2013-12-9 01:27

นมน้อย


ชื่ออื่น
น้ำเต้าแล้ง (นครราชสีมา) น้ำน้อย (เลย) ต้องแล่ง (มหาสารคาม)นมน้อย
ชื่อวิทยาศาสตร์
Polyalthia evecta (Pierre) Finet & Gagnep.
ชื่อวงศ์
Annonaceae
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ไม้พุ่มขนาดเล็ก สูง 0.5-1 เมตร เปลือกลำต้นเรียบ สีน้ำตาลดำ กิ่งก้านเล็ก เปลือกต้นมีช่องแลกเปลี่ยนอากาศจำนวนมาก ใบเดี่ยวเรียงสลับ รูปขอบขนานหรือรูปวงรี กว้าง 2-4 เซนติเมตร ยาว 6-12 เซนติเมตร ฐานใบรูปลิ่ม ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ ผิวใบเรียบ ใบด้านบนสีเขียวเข้ม เกลี้ยง ด้านหลังมีขนสั้น ประปราย เส้นใบไม่เด่นชัด เส้นกลางใบเป็นร่อง ดอกเดี่ยว ออกที่ซอกใบ บริเวณกิ่งอ่อน ตรงรอยร่วงของใบ ระหว่างข้อหรือใต้ข้อ กลีบดอกสีเหลือง เนื้อหนา มี 2 ชั้น ชั้นละ 3 กลีบ แบ่งเป็นกลีบดอกชั้นนอก คล้ายกลีบเลี้ยง สีเขียวอมเหลือง รูปสามเหลี่ยม แยกกัน กลีบดอกชั้นในหนาอวบ มีขนาดใหญ่กว่ากลีบดอกชั้นนอก สีเหลืองนวล ทอรัส รูปนูน เกสรเพศผู้ รูปลิ่ม มีจำนวนมาก อัดกันแน่น หันออกด้านนอก บนฐานล้อมรอบรังไข่จำนวนมาก ซึ่งอยู่กลางฐาน เกสรเพศเมีย มีรังไข่เหนือวงกลีบ กลีบเลี้ยง บางคล้ายกระดาษ รูปสามเหลี่ยม ด้านนอกของกลีบมีขนสั้นบางสีทอง ด้านในเกลี้ยงผลเป็นผลกลุ่ม มีหลายผลย่อยรวมเป็นช่อ ผลย่อยรูปทรงกลม ขนาดประมาณ 1 เซนติเมตร ผลแก่สีน้ำตาลปนแดง เมื่อสุกสีแดง ผลรับประทานได้ ออกดอกช่วงเดือนมิถุนายน ถึงสิงหาคม พบตามป่าละเมาะ ชายทะเล ที่ทิ้งร้าง ชายป่า

สรรพคุณทางยาสมุนไพร
ส่วนที่เป็นยาคือราก แก้ฝีภายใน แก้ร้อนใน ท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้ปวดเมื่อย ต้มรากดื่มขณะอยู่ไฟหลังคลอดบุตร ต้มน้ำดื่ม แก้กล้ามเนื้อท้องเกร็ง บำรุงน้ำนม แก้ปวดเมื่อย
22#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-12-9 01:28 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ก่อหิน

ชื่ออื่น
ก่อหิน (จันทบุรี) ก่อกินลูก (ตรัง) ก่อเหิบ (นครพนม) ก่อใหญ่ ก่อใบเลื่อม ก่อตาหมู ก่อหมาก
ชื่อวิทยาศาสตร์
Castanopsis piriformis Hickel & A. Camus
ชื่อวงศ์
Fagaceae
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูง 10-30 เมตร เปลือกต้นสีน้ำตาลปนเทา แตกเป็นสะเก็ด เปลือกในสีน้ำตาลหรือชมพูอ่อน ใบเดี่ยวเรียงแบบสลับ รูปรีหรือรูปใบหอก กว้าง 7-10 เซนติเมตร ยาว 9-15 เซนติเมตร ปลายใบเรียวแหลม ฐานใบสอบถึงแหลมทู่ ขอบใบเรียบ แผ่นใบค่อนข้างหนา ผิวใบเกลี้ยง ด้านบนสีเขียวเข้มเป็นมัน ด้านล่างสีอ่อนกว่า เส้นแขนงใบข้างละ 8-11 เส้น ก้านใบยาว 1-1.5 เซนติเมตร ผิวเกลี้ยง ก้านงอเล็กน้อยและบวมบริเวณโคนก้าน ดอกช่อ ออกเป็นกระจุกแน่นที่ปลายกิ่ง ดอกย่อยไม่มีก้านดอก สีขาวปนเหลืองเป็นกระจุกละ 3-5 ดอก มีกลิ่นฉุน ร่วงง่าย ช่อดอกเพศผู้และเพศเมียแยกต่างช่อหรือร่วมช่อ หากร่วมช่อ ช่อดอกเพศเมียอยู่โคนช่อ ช่อดอกเพศผู้มักแยกแขนงมาก กลีบเลี้ยง แยกกันอิสระ 6 กลีบ แต่ละกลีบมีขนด้านนอก เกสรเพศผู้ 12 อัน ผิวเกลี้ยง รังไข่รูปลูกข่าง มีขนปกคลุมหนาแน่น มี 3 ช่อง มีออวุล 2 เมล็ด ยอดเกสรเพศเมียมี 3 อัน ผลเชื่อมต่อกันเป็นกลุ่มเบียดอัดกันแน่นบนก้านที่อ้วนสั้น ช่อผลยาว 10-15 เซนติเมตร ผลแก่แข็งมาก ผิวเกลี้ยง รูปกลมหรือรี คล้ายรูปลูกข่าง เส้นผ่าศูนย์กลาง 2-3 เซนติเมตร ก้านผลยาว 0.5-1 เซนติเมตร กาบหุ้มผลสีเขียวอ่อนหุ้มมิดตัวผล ผิวกาบผลมีแนวเส้นคดโค้งไปมา กาบหุ้มจะแยกจากปลายสู่โคนเมื่อผลแก่จัด แต่ละกาบหุ้มมีผล 1 ผล พบตามป่าสนผสม ป่าผลัดใบ ป่าดิบแล้ง ที่ความสูง 250-950 เมตร ออกดอกราวเดือนกันยายนถึงธันวาคม ติดผลราวเดือนมิถุนายนถึงกันยายน
สรรพคุณทางสมุนไพร
ตำรายาไทย ราก ต้มน้ำดื่ม แก้ปัสสาวะขัด ผลแก่รับประทานได้ โดยนำเมล็ดมาต้ม หรือคั่วให้สุก มีแป้งอยู่มาก และนำมาทำเครื่องประดับ เปลือก มีน้ำฝาด ใช้ในการฟอกหนัง หรือย้อมแหอวน

23#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-12-9 01:28 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
สะบ้าลิง

ชื่ออื่น
มะบ้าวอก (เหนือ), ผักตีนแลน, มะบ้าลิง (เชียงใหม่), มะบ้าปน (เชียงใหม่, ลำพูน), ทบทวน, ลิ้นแลน, มะขามเครือ (ชัยภูมิ), หมากแทน (ยโสธร), บ้าบนใหญ่ (อุบลราชธานี), สะบ้าลาย (กลาง)
ชื่อวิทยาศาสตร์
Entada glandulosa Pierre ex Gagnep.
ชื่อวงศ์
Leguminosae -Mimosoideae
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ไม้เถาเนื้อแข็ง เลื้อยพาดพันต้นไม้ใหญ่ กิ่งมีขน ใบประกอบแบบขนนกสองชั้น ปลายใบคู่ เรียงสลับ ช่อใบประกอบที่มีใบย่อย 2 คู่ ใบประกอบคู่ปลายเปลี่ยนรูปร่างเป็นมือเกาะ ใบย่อยมี 5-8 คู่ เรียงตรงข้าม รูปวงรีถึงรูปขอบขนาน กว้าง 0.5-1.7 เซนติเมตร ยาว 1.2 – 4 เซนติเมตร ฐานใบเบี้ยวเล็กน้อย ปลายใบกลมมีติ่ง ขอบใบเรียบมีขน ผิวใบด้านบนมีขน ผิวใบด้านล่างเกลี้ยง ก้านใบยาว 1.8-4 ซม. แกนกลางใบประกอบยาว 4.5-10 ซม. ดอกช่อกระจะเชิงลด ออกที่ซอกใบและเหนือซอกใบ ยาว 7-12 เซนติเมตร มีขนละเอียด ก้านดอกย่อยเกือบไร้ก้าน กลีบดอกสีขาวแกมเหลือง มี 5 กลีบ ยาว 4.5-5.5 มม. ด้านนอกช่วงล่างมีแนวต่อมขนาดเล็ก 2 แนว รูปขอบขนานแกมรูปหอก ปลายแหลม ขอบเรียบ โคนเชื่อมกัน ปลายแยก กลีบเลี้ยง 5 กลีบ เชื่อมกันเป็นรูปถ้วย ผิวด้านนอกมีขนละเอียด ผิวด้านในเกลี้ยง ยาวประมาณ 2-2.5 มม. ปลายแยกเป็น 5 แฉก รูปสามเหลี่ยมตื้นๆ เกสรเพศผู้มี 10 อัน เชื่อมกันที่ฐาน ยาว 9 อัน สั้น 1 อัน ก้านชูอับเรณูยาวประมาณ 1 ซม. หรือยาวกว่าเล็กน้อย เกสรเพศเมีย มีรังไข่เหนือวงกลีบ ผิวเรียบ รังไข่เกลี้ยง ยาวประมาณ 3 มม. ผลเป็นฝัก รูปขอบขนาน โค้งงอ สีน้ำตาล ยาวได้ถึง 35 ซม. กว้าง 2.2-2.6 ซม. มีรอยเว้าระหว่างเมล็ด ผนังด้านนอกค่อนข้างหนา เมื่อแก่หักเป็นท่อนๆ แต่ละท่อนมี 1 เมล็ด รูปเกือบกลม แบน เส้นผ่านศูนย์กลาง 1-1.8 ซม. เปลือกนอกแข็งสีน้ำตาลดำ พบตามป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณ ระดับความสูงไม่เกิน 500 เมตร ออกดอกราวเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม
สรรพคุณทางสมุนไพร ยาพื้นบ้านอีสาน ใช้ เมล็ด หรือราก ฝนเหล้าทา และฝนน้ำกิน แก้โรคผิวหนัง และแผลเรื้อรัง ทั้งต้น ผสมในลูกประคบ แก้ปวดข้อ ปวดเมื่อย
ตำรายาไทย เนื้อในเมล็ดดิบ รสเบื่อเมา แก้โรคผิวหนัง ผื่นคัน โรคเรื้อน คุดทะราด มะเร็ง เป็นยาเบื่อเมา ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ถ้าสุมไฟให้ไหม้เกรียมดำผสมกับยาอื่นๆรับประทานแก้ไข้พิษเซื่องซึม

24#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-12-9 07:15 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย metha เมื่อ 2013-12-9 07:17

หญ้าหนวดแมว   มีสรรพคุณในการขับปัสสาวะเนื่องจากมีเกลือโพแทสเซียมมากและช่วย รักษานิ่วในกระเพาะปัสสาวะ ชนิดเป็นกรดยูริกได้ ผู้เป็นโรคหัวใจ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้สมุนไพรตัวนี้

              
25#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-12-9 07:19 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
  มะขามแขก   เป็นยาระบายที่ดี ช่วยบรรเทาอาการท้องผูก โดยรับประทานเมื่อมีอาการท้องผูกแต่ไม่ควรทานติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้ขาดสารโพแทสเซียม

           

26#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-12-9 07:19 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เพชรสังฆาต  มีสรรพคุณ ขับลมในลำไส้ช่วยบรรเทาอาการริดสีดวงทวารหนัก
  เป็นสมุนไพรที่ต้องทานติดต่อกันอย่างน้อย 1 เดือนถึงจะเห็นผล

                  

27#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-12-9 07:19 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
กระเทียมแคบซูล มีสรรพคุณช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดและละลายลิ่มเลือดได้ คนที่เป็นที่เป็นแผลในกระเพาะอาหารควรระมัดระวังในการใช้เพราะอาจเกิดการระคายเคืองได้

                  

28#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-12-9 07:20 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ยาตำหรับชื่อว่า "ธรณีสัณฑะฆาต" ซึ่งประกอบตัวยาหลายชนิดด้วยกัน ใช้ในอัตราส่วนที่กำหนดไว้ ได้แก่ พริกไทยร่อน ยาดำ เนื้อลูกสมอไทย มหาหิงค์ การบูร เนื้อลูกมะขามป้อม กานพลู หัวบุก ขิง ชะเอมเทศ  ลูกกระวาน เมื่อนำตัวยามาผสมกันแล้วจะช่วยในการ แก้ท้องผูก ปวดท้อง เถาตาน ใช้เป็นยากษัยเส้นได้ ข้อควรระวัง คือไม่ควรทำทานสมุนไพรชนิดนี้เมื่อมีไข้ สตรีมีครรภ์ ก็ห้ามทาน

           

29#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-12-9 07:20 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ขี้เหล็ก  สรรพคุณทางยา คือ ช่วยแก้อาการท้องผูก เพราะมีสารสำคัญพวก แอนทราควิโนน หลายชนิด ที่ออกฤทธิ์เป็นยาระบาย อีกทั้งยังช่วยเจริญอาหาร เพราะมีรสขม ช่วยให้อยากทานอาหารยังช่วยให้นอนหลับเพราะมีสารจำพวกอัลคาลอยด์และช่วยบรรเทาอาการเป็นไข้ได้

                  

30#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-12-9 07:21 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
บอระเพ็ด มีสรรพคุณ ช่วยลดน้ำตาลในเลือด แก้ไข้ ได้ รวมทั้งรสขม
  จะช่วยในการเจริญอาหาร แต่ไม่ควรทานติดต่อกันเป็นเวลานาน

                    

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้