|
ภายหลังจากพระราชทานเพลิงศพแล้ว ในปี พ.ศ. 2528 แม่ชีบุญฮี พรมเทพ ณ วัดอุดมรัตนาราม พบว่าอัฐิที่เก็บรักษาไว้บูชาด้วยความเคารพ ได้แปรสภาพเป็นพระธาตุ 2 องค์ มีสัณฐานดังช้างสารหัก มีสีขาวดุจงาช้าง
และต่อมาในปี พ.ศ. 2537 มีผู้ได้รับผงอังคารของท่านไว้บูชาคนหนึ่ง ได้พบว่าผงอังคารของท่านแปรสภาพเป็นพระธาตุ 2 องค์ องค์หนึ่งกลมมัน มีสีเทาดำ เหมือนสีของผงอังคาร อีกองค์หนึ่งสีขาวขุ่น ซึ่งในครั้งแรกที่พบไม่แน่ใจว่าจะใช่ผงอังคารแปรเป็นพระธาตุหรือไม่ แต่เมื่อนำไปถวายให้ หลวงปู่คำตัน ฐิตธมฺโม แห่งวัดป่าดานศรีสำราญ ต.ศรีสำราญ อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ พิจารณาแล้ว ท่านรับรองว่าเป็นพระธาตุของหลวงปู่จริง
ต่อมา คณะศิษยานุศิษย์ได้ประชุมปรึกษากัน เมื่อวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2533 โดยมี พระศรีธรรมวงศาจารย์ (ปาน) เจ้าคณะจังหวัดอุดรธานี วัดโพธิสมภรณ์ ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี เป็นประธาน ได้พิจารณาเห็นสมควรจัดสร้างเจดีย์พิพิธภัณฑ์เพื่อบรรจุอัฐิและเก็บรักษาเครื่องบริขารของท่าน ตลอดจนประดิษฐานรูปเหมือน เพื่อให้ศิษยานุศิษย์ทั้งหลายได้กราบไว้สักการบูชา ระลึกถึงพระคุณและพระธรรมคำสอนของท่าน
ดังนั้น จึงได้จัดงานวางศิลาฤกษ์เจดีย์เมื่อวันเสาร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2533 และดำเนินการก่อสร้างเรื่อยมา โดยมีสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาทั่วสารทิศได้ร่วมบริจาคทรัพย์เพื่อสร้างเจดีย์นี้ ตลอดจนได้รับความช่วยเหลือจากหลายฝ่าย เช่น การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย นำโดยคุณสุเมธ โสฬส ได้นำคณะผ้าป่ามาทอดถวาย และนิตยสารโลกทิพย์ ได้นำข่าวไปบอกบุญในหนังสือ ทำให้มีพุทธศาสนิกชนได้ทราบข่าวอย่างกว้างขวาง และร่วมทำบุญมาไม่ขายสาย เป็นต้น ทำให้การก่อสร้างดำเนินไปอย่างรวดเร็ว จนแล้วเสร็จสมบูรณ์ สิ้นค่าก่อสร้างประมาณ 3,000,000 บาท และทำการฉลองเจดีย์เมื่อปี พ.ศ. 2539
สำหรับรูปหล่อเหมือนขององค์หลวงปู่ท่านที่ประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์นั้น มีขนาดเท่าองค์จริง ปั้นโดยโรงหล่อแหลมสิงห์ ต.หน้าไม้ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เมื่อปี พ.ศ. 2537 ซึ่งมีฝีมือปั้นได้เหมือนจริงมาก แต่ก็เป็นที่น่าแปลกใจอย่างหนึ่ง คือ เมื่อไปติดต่อกับคุณแหลมสิงห์ ดิษฐพันธ์ เจ้าของโรงหล่อ จึงพบว่าหลวงปู่เคยมาจ้างให้โรงหล่อแห่งนี้เป็นผู้ปั้นรูปเหมือน ขนาดหน้าตัก 5 นิ้ว เมื่อสมัยท่านยังมีชีวิตอยู่ โดยยังมีภาพถ่ายของท่านที่ทางโรงหล่อถ่ายไว้สำหรับเป็นแบบปั้น ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีลูกศิษย์คนใดทราบหรือจำได้
หลวงปู่คำตัน ฐิตธมฺโม วัดป่าดานศรีสำราญ จ.บึงกาฬ
|
|