คนชอบเสือ

oustayutt

"อ๊อด เสือสำเพ็ง" เจ้าของ...รังเสือหลวงพ่อปาน แห่งยุค“เสือ” ของหลวงพ่อปาน วัดมงคลโคธาวาส หรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า วัดบางเหี้ย อ.คลองด่าน จ.สมุทรปราการ ถือเป็นสุดยอดของ "เครื่องรางของขลัง" อันดับหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ต้องการของหลายๆ คน เพราะเสือของท่านมีประสบการณ์ในทางมหาอำนาจ และคงกระพันชาตรียอดเยี่ยม หรือจะใช้ในทางเมตตามหานิยม ค้าขายของก็ดีเยี่ยมมาแต่โบราณกาล มีค่านิยมสูงมาก มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน                                                                
มีเรื่องเล่าว่า ค่าตัวของเสือหลวงพ่อปานที่ออกเมื่อครั้งที่หลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่นั้นมีราคาตั้งแต่ ๑ บาท ๒ บาท จนถึง ๓ บาท นั่นคือราคาที่แพงที่สุด
นอกจากนี้แล้ว ยังมีเรื่องเล่าอีกว่า มีคหบดีท่านหนึ่งให้ราคาเสือถึง ๕ บาท เพื่อให้ช่างหาเขี้ยวและนำมาแกะเป็นตัวเสือ เรื่องที่จะได้ "เสือ" ราคาถูกๆ จึงไม่มีมาตั้งแต่สมัยเก่าก่อนแล้ว
มาถึงทุกวันนี้ เมื่อต่างรู้ว่า ใครมีเสือหลวงพ่อปาน ราคาค่าตัวจึงถูกประมูล และผู้ที่มีไว้ครอบครองส่วนใหญ่ต้องให้ราคาค่อนข้างสูงกว่าปกติทั่วไป จึงจะได้สิทธิครอบครองเสือจริง
และปัจจุบันนี้ ถ้าพูดถึงผู้ครอบครองเสือหลวงพ่อปานมากที่สุด และน่าจะเป็นเจ้าของรังเสือแห่งยุค คือ นายอัควินท์ จตุจินดา และด้วยจำนวนเสือที่มีมากนี้เองเขาจึงได้รับฉายาว่า "อ๊อด เสือสำเพ็ง"
"เมื่อ ๑๕ ปีก่อน ผมแขวนพญาครุฑก่อนที่จะมาเล่นเสือ จนกระทั่งมาเดินตลาดพระ ได้ยินกิตติศัพท์เรื่องพุทธคุณเสือของหลวงพ่อปาน จึงตัดสินใจเช่าตัวแรกในราคา ๓๐,๐๐๐ บาท จากนั้นเช่าต่ออีก ๓ ตัวในราคาใกล้เคียงกัน จากนั้นก็เอาเสือทั้ง ๔ ตัวไปให้ หมึก ท่าพระจันทร์ ดู โดยได้บอกว่า เสือทั้ง ๔ ตัวไม่ดี พร้อมๆ กับบอกให้ไปขอคำแนะนำจาก เล็ก รูปหล่อ และโก๋ วัดราช ยังไม่ทันที่โก๋ วัดราช จะใช้กล้องส่องดู ทั้งๆ ที่ยืนอยู่ห่างถึง ๒ เมตร ได้รับเสียงบอกมาว่า เสือกล้วยแขก ขณะเดียวกัน เล็ก รูปหล่อ ก็บอกว่าไม่ดี ทั้งๆ ที่ไม่ได้หยิบกล้องขึ้นมาส่องด้วยซ้ำ นับแต่นั้นเป็นต้นมา ทำให้เกิดอคติกับคนในวงการพระเครื่อง คิดหันหลังให้วงการเช่าเสือ ภายหลังกลับมาได้ศึกษา ก็กลับมาเล่นเสืออีกครั้ง และได้ส่งคืนเสือปลอม ๔ ตัว กลับคืนสู่รังเจ้าของเดิม พร้อมๆ กับได้เงินคืนมาด้วย ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ไม่ได้คบค้ากันอีกเลย" นี่คือจุดเริ่มต้นของการเล่นเสือหลวงพ่อปาน จากคำบอกเล่าของ อ๊อด เสือสำเพ็ง
เสือหลวงพ่อปานที่เป็นของแท้ตัวแรกที่ซื้อมานั้น อ๊อด เสือสำเพ็ง บอกว่า ซื้อมาในราคา ๑๓๐,๐๐๐ บาท โดยใช้เวลามานานในการตัดสินใจ ขณะเดียวกันก็ซื้อด้วยความสะใจ เพราะได้เสือของแท้มาครอบครอง จากนั้นก็ไล่ล่าซื้อเสือหลวงพ่อปานเรื่อยมา แม้จะขึ้นชื่อเจ้าของหวงแหน และขึ้นชื้อว่าแพง แต่ก็ซื้อ เมื่อได้เสือมาจำนวนหนึ่งก็มาวางเทียบเคียงกัน พบว่าเสือหลวงพ่อปานแต่ละตัวไม่เหมือนกันเลย  สังเกตไปสังเกตมาในที่สุดก็พบว่า เสือทุกตัวของหลวงพ่อปานจุดที่เหมือนกัน ทั้งนี้คนที่จะรู้เอกลักษณ์เฉพาะตัวเสือหลวงพ่อปาน ต้องมีเสือจำนวนมากนั่นเอง จากนั้นก็เริ่มที่จะเช่าด้วยตัวเองได้ โดยเช่ามาถูกที่สุดในราคา ๘,๐๐๐ บาท
ส่วนเสือหลวงพ่อปานตัวแพงที่สุด ซื้อมาในราคา ๔ ล้านบาท ซึ่งแรกเริ่มเดิมทีนั้นเป็นของพี่พยัพ คำพันธุ์ นายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย เท่าที่ทราบ พี่พยัพซื้อมาในราคา ๓๕๐,๐๐ บาท ตามไปตามมาก็ใช้เวลานานถึง ๑๒ ปี ถึงได้เสือตัวดังกล่าวมาอยู่ในรัง และเสือตัวดังกล่าวก็ถูกจัดพิมพ์ไว้ปกหน้าหนังสือเสือหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย เมื่อรวมเสือหลวงพ่อปานในรังแล้วมีกว่า ๘๐ ตัว โดยได้แบ่งไปเฝ้าธนาคาร ๕๐ ตัว ส่วนอีก ๓๐ ตัว เฝ้าบ้าน และที่ผ่านมาไม่เคยขายเสือที่ซื้อมาออกไปเลยสักตัวเดียว ขณะเดียวกันก็มีความตั้งใจว่า จะซื้อไปเรื่อยๆ
"เสือหลวงพ่อปานทั้ง ๘๐ ตัว ไม่เคยแสดงปาฏิหาริย์เลยสักครั้งเดียว ผมจึงไม่รู้เลยว่า อะไรคือปาฏิหาริย์จากเสือ แต่ทุกครั้งที่ผมคิดว่า ปัญหาจะเกิดขึ้นทั้งเรื่องส่วนตัว และเรื่องธุรกิจ ก็ผ่านพ้นไปด้วยดี นอกจากนี้แล้ว มีสิ่งหนึ่งที่ยากเกินอธิบาย คือ ทุกครั้งที่เข้าหาผู้ใหญ่ ไม่จะเป็นเรื่องใดก็จะได้พบและได้พูดคุยธุระผ่านไปด้วยดี ทุกวันนี้แม้จะมีเสือหลวงพ่อปานมากถึง ๘๐ ตัว มูลค่าถึงหลักร้อยล้านบาท แต่มีเสือหลวงพ่อปานเพียงตัวเดียว ซึ่งมากพอที่จะคุ้มครองให้ตัวเองปลอดภัยอยู่แล้ว"  นี่คือคำยืนยันของอ๊อด เสือสำเพ็ง
  ทั้งนี้ อ๊อด เสือสำเพ็ง ได้พูดถึงการเล่นพระเครื่องและเครื่องรางไว้อย่างน่าคิดว่า  "ทั้งพระเครื่องและเครื่องราง ต้องเล่นตามาตรฐานสากล และต้องเล่นด้วยตัวเอง เล่นให้เป็น ไม่ใช่เล่นตามปากเซียนที่บอกว่าแท้แล้วต้องแท้ด้วย การสะสมพระเครื่องและเครื่องรางที่เป็นของแท้ ไม่แตกต่างจากการนำเงินฝากไว้ในธนาคาร หรือซื้อทองคำ แต่พระเครื่องและเครื่องรางเหนือกว่า คือ นอกจากมีราคาแล้วยังมีพุทธคุณอีกด้วย ณ วันนี้ ผมไม่ได้มองว่าเสือหลวงพ่อปานเป็นเพียงเครื่องราง หากมองเป็นทรัพย์สมบัติอันมีค่า เสือแต่ละตัวมีค่าไม่ตำกว่า ๑๕๐,๐๐๐ บาท ซึ่งผมไม่คิดขายออกเลยสักตัว"
อนุสรณ์ ๑๐๐ ปี หลวงพ่อปาน
"หนังสือเสือหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย" เป็นหนังสือที่ "อ๊อด เสือสำเพ็ง" บอกว่า วัตถุประสงค์ หนังสือเล่มนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ให้แก่หลวงพ่อปาน ในวาระที่ท่านมรณภาพครบ ๑๐๐ ปี ในวันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๕๓ และในปีนี้ก็ประจวบเหมาะตรงกับปีนักษัตร “ขาล” จากความศรัทธา นำมาซึ่งการเสาะแสวงหา โดยได้ตั้งจิตอธิษฐานไว้ว่า ถ้าเสือของท่านไม่ทำให้ตนเองเดือดร้อนและลำบาก จะไม่ขายเสือเลยสักตัว ขณะเดียวกันหากมีเงินก็จะเข้ามาเก็บเรื่อยๆ วันนี้มีโอกาสก็จะรวบรวมเสือทั้งหมดในรังจัดพิมพ์เป็นหนังสือ เพื่อประกาศกิตติคุณและเป็นอนุสรณ์
เนื้อหาในเล่ม ประวัติ พระครูพิพัฒนิโรธกิจ (หลวงพ่อปาน) วัดบางเหี้ย เจ้าของตำนานเขี้ยวเสือแกะอันลือชื่อ รวมทั้งภาพเขี้ยวเสือหลวงพ่อปานตัวดังๆ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ที่แท้ดูง่ายและเป็นที่ยอมรับของวงการทั่วทั้งประเทศ เท่าที่จะรวบรวมมาได้ เพื่อเป็นแนวทางในการศึกษาและสะสม ซึ่งเขี้ยวเสือหลวงพ่อปานหลายๆ ตัวที่นำมาลงในหนังสือเล่มนี้ ผู้จัดทำกล้าพูดได้ว่า ไม่เคยปรากฏให้พบเห็นในหนังสือเล่มใดมาก่อน
จึงเป็นโอกาสอันดีสำหรับผู้ที่ศรัทธาและนิยมชมชอบในเขี้ยวเสือหลวงพ่อปาน ที่ "อ๊อด เสือสำเพ็ง" สะสมไว้ในรังกว่า ๘๐ ตัว ทั้งนี้ ทีมงานนิตยสารพระท่าพระจันทร์ได้เป็นผู้ออกแบบหนังสือ เสือหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย พิมพ์ ๔ สี ด้วยกระดาษอย่างดี ความหนากว่า ๔๐๐ หน้า บรรจุในกล่องสวยงาม พิมพ์จำนวน ๓,๐๐๐ เล่มเท่านั้น หนังสือทุกเล่ม มีเลขรันนัมเบอร์กำกับทุกเล่ม ผู้สนใจหนังสือ เสือหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย สอบถามรายละเอียดได้ที่โทร.๐๘-๑๘๕๗-๘๓๘๓
"การสะสมพระเครื่องและเครื่องรางที่เป็นของแท้ ไม่แตกต่างจากการนำเงินฝากไว้ในธนาคาร หรือซื้อทองคำ แต่พระเครื่องและเครื่องรางเหนือกว่า คือ นอกจากมีราคาแล้ว ยังมีพุทธคุณอีกด้วย ณ วันนี้ ผมมองว่า เสือหลวงพ่อปานเป็นทรัพย์สมบัติอันมีค่า"

sriyan3

ขอบคุณคร้าบ

matmee2550

เยี่ยม

sritoy

มากมายจริงๆ