|
มาอยู่วัดกลางชูศรีเจริญสุข
ในปี พ.ศ. ๒๕๒๒ หลวงปู่บุดดาต้องเข้ารักษาตัว ณ โรงพยาบาลตำรวจ เมื่อหายแล้ว ท่านได้กลับไปเยี่ยมและพักผ่อน ณ วัดบุญทวี ถ้ำแกลบ จ.เพชรบุรี ช่วงระยะหนึ่งเมื่อจวนเข้าพรรษา หลวงปู่เย็น ทานรโต เจ้าอาวาสวัดกลางชูศรีเจริญสุข อ.พักทัน จ.สิงห์บุรี ในสมัยนั้นได้นิมนต์ขอให้หลวงปู่ไปจำพรรษากับท่าน หลวงปู่จึงได้จำพรรษาอยู่กับหลวงปู่เย็นโดยมีพระมหาทอง กาญจโน ศิษย์และอุปัฏฐากผู้ใกล้ชิดติดตามมาอยู่ด้วย สำหรับวัดกลางชูศรีเจริญสุขนั้น ได้สร้างมาตั้งแต่สมัยต้นกรุงศรีอยุธยา ต่อมาเป็นวัดร้าง หลวงปู่เย็นได้เริ่มดำเนินการบูรณะและก่อสร้างโบสถ์ขึ้นก่อน ต่อเมื่อหลวงปู่บุดดามาอยู่ ด้วยบารมีของท่านและหลวงปู่เย็น และด้วยการบริหารของพระมหาทองจึงทำให้วัดกลางชูศรีเจริญสุขพัฒนาขึ้นจนเป็นวัดที่มีความสมบูรณ์สวยงามสง่านับเป็นวัดที่ทันสมัยวัดหนึ่ง
เนื่องจากคณะศิษย์จำนวนมากในช่วงหนึ่ง ทราบว่าหลวงปู่เป็นผื่นคันตามตัว ต่างคนต่าง ก็นำแป้งหอมชนิดต่างๆ มาน้อมถวายคราวละมาก ๆ เมื่อจะลากลับ หลวงปู่ได้เมตตานำแป้งที่ได้รับไว้กลับเอามา แล้วให้แบมือขึ้นเทแป้งใส่ให้ พร้อมกับบอกให้ทาแป้งมงคลเสีย กันขี้กลาก ขี้เกลื้อน กันหลง กันลืม ให้หายโรคหายภัย จนกระทั่งเป็นเอกลักษณ์ของหลวงปู่ ที่แจกแป้งมงคลให้คณะศิษย์ธรรมได้หน้าขาว สวยสง่าขึ้นทุก ๆ คน ซึ่งท่านจะแจกให้หมดทั้งพระสงฆ์ สามเณร และโยม พร้อมบอกว่า “ตั้งแต่ศีลแปดขึ้นไป ก็ทาเป็นยาได้.... เอาแป้งไปทาแล้ว มันหายโรคหายภัยได้จะว่าอย่างไรเล่า !”
หลังจากจบกิจ พรรษาที่ ๔ แล้วท่านได้ออกจาริกทั่วทั้งประเทศไทยตลอดจนถึงพม่า ลาว เขมร เวียดนาม มาเลเซีย และได้ออกเทศนาสั่งสอนทั้งภิกษุ สามเณร ตลอดจนพุทธศาสนิกชน ด้วยการสั่งสอน โปรดสัตว์ ช่วยการก่อสร้างถาวรวัตถุระดับคุณธรรมให้สูงขึ้นทุกเพศชั้นวรรณะโดยหลวงปู่ได้ออกเยี่ยมเยียนจนถึงที่อยู่ เช่นเดียวกับสมเด็จพระสัมมาพระพุทธเจ้า ซึ่งได้กล่าวแก่สาวกทั้งหลายว่า จงจาริกไปเพื่อประโยชน์แก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
ในช่วงระหว่างปี ๒๕๒๒ จนถึง ๖ ก.พ. ๒๕๓๖ หลวงปู่คงจาริกไปโปรดศิษย์และญาติโยม โดยอาศัยรถพาหนะของรถวัดกลางชูศรีฯ และศิษย์ผู้ติดตามทั้งพระภิกษุ สามเณรและฆราวาส โดยเฉพาะพระครูโสภณจารุวัฒน์ (พระมหาทอง กาญจโน) รองเจ้าคณะอำเภอบางระจัน เจ้าอาวาสวัดกลางชูศรีเจริญสุข และพระสมบุญ ญาณวิเวโกได้เฝ้าดูแลใกล้ชิด ติดตามท่านออกโปรดญาติโยมที่นิมนต์ท่าน แม้ว่าท่านเองจะไปด้วยตนเองไม่ไหวต้องอาศัยศิษย์ช่วยพยุงท่านเดินถึง ๒ ท่าน มีพยาบาลจาก รพ.สิงห์บุรีคอยดูแล หลวงปู่ก็ยังรับนิมนต์จากศิษย์และญาติโยมออกโปรดด้วยการแสดงธรรม หรือพุทธาภิเษก ฉัน รับสังฆทานร่วมพิธีต่าง ๆ อาจารย์มหาทอง กาญจโน เป็นเจ้าอาวาสและติดตามอุปัฏฐากหลวงปู่มาแต่ปี ๒๕๒๐ จนถึงที่สุดแห่งวาระชีวิตของหลวงปู่
หลวงปู่ได้ปฏิบัติของพระศาสนาดังกล่าวมานี้ไม่สามารถจะหาที่เปรียบพระคุณหลวงปู่ได้ แม้กระทั่งว่า ศิษย์ได้สอบถามท่านว่าเวลาพักผ่อนของหลวงปู่เวลาจะหลับตั้งใจให้หลับ หรือว่าหลับไปเอง ท่านกล่าวให้ฟังว่า หลับไปเอง กลางวันทำงาน ๑๐ ชม. พักผ่อน ๒ ชม. และกลางคืนทำงาน ๑๐ ชม. พักผ่อน ๒ ชม. เว้นแต่หลวงปู่เจ็บป่วย
จากการสอบถามและได้รับเมตตาจากหลวงปู่เล่าให้ฟังปะติดปะต่อมา หลวงปู่ได้เคยไปสนทนาธรรมพบปะ และเยี่ยมเยียนกันกับพระเถระที่มรณภาพไปแล้วหลาย ๆ ท่าน ได้แก่ ครูบาศรีวิชัย หลวงปู่มั่น หลวงพ่อเติม หลวงพ่อจาด หลวงพ่อจง หลวงพ่อรุ่ง หลวงพ่อเงิน หลวงพ่ออี๋ หลวงพ่อปาน มีทั้ง ๓ ปาน ครูบาพรหมจักร ท่านเจ้าคุณนรฯ เจ้าคุณอุบาลี สมเด็จพุฒาจารย์ (อาสภเถระ) หลวงปู่ดู่ หลวงปู่ชา ท่านพุทธทาส หลวงปู่เทสก์ หลวงปู่สิม หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงปู่วัย หลวงพ่อสังวาลย์ หลวงพ่อพุธ ครูบาชัยวงษา หลวงพ่อแพ หลวงปู่ชอบ หลวงปู่แว่น หลวงพ่อคง จันตตามโร ครูบาธรรมชัย หลวงพ่อมหาอำพัน หลวงปู่สาม หลวงปู่โง่น ครั้งป่วยอยู่ รพ.ศิริราชฯ และพระเถระที่ยังมีชีวิตอยู่ ได้แก่ สมเด็จสังฆราชญาณสังวรฯ หลวงพ่อเพ็งฯ, หลวงพ่อ บุญเพ็ง, หลวงปู่เหรียญ, อาจารย์วิชัย, อาจารย์จำเนียร, อาจารย์จรัล, หลวงพ่อเหรียญ, หลวงพ่ออุตตมะ ฯลฯ
|
|