แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2013-10-9 06:52
ประวัติพระธาตุข้าวบิณฑ์
ในสมัยพุทธกาล สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จไปตามที่ต่างๆ เพื่อโปรดเวไนยสัตว์ ครั้งหนึ่งพระพุทธเจ้าได้เสด็จไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของแม่น้ำระมิงค์เพื่อโปรดพวกละว้า พวกละว้าเหล่านั้นอยู่ในภาวะอดอยาก ผืนดินแห้งแล้ง ทำการเพาะปลูกไม่ได้ผล ต้องหาหัวเผือกหัวมันมาต้มผสมกับข้าวกินเป็นอาหาร เมื่อพระพุทธองค์เสด็จมาถึงที่นั่น
พวกละว้าก็เอาข้าวผสมหัวมันซึ่งเป็นโภชนาหารของตนมาใส่บาตร พระบรมโลกนาถก็ทรงรับ แล้วฉันภัตตาหารเช้า ณ ที่นั้น ซึ่งเรียกว่า ดอนน้อย เสร็จแล้วก็ทรงให้ศีลให้พรพวกละว้าทั้งหลาย หลังจากนั้นจึงทรงนำข้าวที่เหลือก้นบาตรไปเทคว่ำไว้ และแสดงปาฎิหารย์ให้ข้าวนั้นกลายเป็นหิน (เป็นพระธาตุข้าวที่เห็นในปัจจุบัน)
พวกละว้าเมื่อเห็นดังนั้นก็เกิดเลื่อมใสศรัทธาเป็นอันมาก พระพุทธองค์จึงทรงให้ศีลห้าและแสดงธรรม และรับสั่งให้พวกละว้ารักษาดอนน้อยไว้ให้ดีและให้รักษาศีลห้าเป็นปกติ ถ้ารักษาได้ก็เหมือนอยู่ใกล้พระพุทธองค์ ถ้ารักษาไม่ได้ก็เหมือนอยู่ไกลสุดขอบฟ้าจักรวาล
การแสดงพุทธปาฎิหารย์แต่ละครั้ง ก็เพราะมีสาเหตุอันสมควรเท่านั้น พวกละว้าเหล่านี้แต่เดิม นับถือภูติผีต่างๆ การแสดงธรรมให้ผู้ที่ขาดความเลื่อมใสศรัทธาฟัง ก็เป็นการเสียเวลาเปล่าดังนั้นพระพุทธองค์จึงได้ให้พวกละว้าเกิดความเลื่อมใสศรัทธาในพระองค์ก่อนจึงบังเกิดผล
เมื่อหลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา ได้มาจำพรรษา เพื่อพัฒนาวัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ที่อำเภอลี้จังหวัดลำพูน ท่านได้นิมิตรเห็นพระธาตุข้าว ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 200 กิโลเมตร ที่ดอยเกิ้ง ท่านจึงได้อันเชิญพระธาตุข้าวบางส่วนมาไว้ที่วัด และแจกให้ลูกหลานนำไปสักการะบูชา
ผู้ที่อยู่ในศีลในธรรม และมีพระธาตุข้าวไว้บูชาแล้ว ความอดอยากขาดแคลนจะไม่บังเกิดขึ้นการทำมาค้าขายโดยสุจริตจะได้ผลเจริญงอกงาม
เมื่อประสงศ์สิ่งใด ให้ทำสมาธิจิตระลึกถึงคุณของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และหลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา แล้วให้ตั้งจิตอฐิษฐานในสิ่งที่ปราถนา จะได้ผลดีมากสำหรับผู้ที่รักษาศีลห้าเป็นปกติ พระธาตุข้าวบิณฑ์มีผลต่อ
ผู้ที่เป็นสัมมาทิฐิบุคคล สามารถเสด็จมาเพิ่มเติม และลดจำนวนลงได้
ถ้าหากเกิดโรคภัยไข้เจ็บ ที่รับประทานยาแผนปัจจุบันแล้ว ไม่สามารถบรรเทาทุกข์เวทนาให้หายลงได้ ก็ให้ทำน้ำพระพุทธมนต์โดยจุ่มพระธาตุข้าวลงในภาชนะ ใส่น้ำที่จะทำน้ำพระพุทธมนต์ ตั้งจิตอธิษฐานแล้วดื่มน้ำพระพุทธมนต์นั้น จะบรรเทาทุกข์และเวทนาที่เกิดขึ้นได้ และพระธาตุข้าวนี้อาจแตกหักได้ 2 กรณี คือ
๑) แตกโดยการชำรุด
๒) แตกหักโดยนำไปในสถานที่ ที่ไม่เป็นมงคล
ข้าวก้นบาตรที่กลายเป็นหินนี้ มีเทวดาคุ้มครองรักษาอยู่ ฉะนั้นผู้ที่ประกอบกรรมดี หมั่นกราบไหว้บูชาก็จะพบกับความมห้ศจรรย์
คือจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
หลวงปู่ครูบาฯกล่าวย้ำว่า ผู้ตั้งมั่นในศีลธรรม มีพระธาตุข้าวบิณฑ์ไว้บูชา จะไม่มีคำว่าอดอยาก ขาดแคลน
การทำมาค้าขาย การประกอบอาชีพที่สุจริตก็จะได้ผลเจริญงอกงาม
ผู้ใดรักษาศีล 5 จนเป็นปกติ เมื่อจะกระทำสิ่งใดการใดให้ทำจิตสมาธิตั้งมั่นระลึกถึงคุณขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
สิ่งที่ปรารถนาจะสำเร็จตามประสงค์ ถ้าเกิดโรคภัยไข้เจ็บที่รักษาด้วยแผนปัจจุบันแล้วไม่บรรเทาทุกข์เวทนาให้หายลงได้
ก็ให้เอาพระธาตุข้าวบิณฑ์นี้แช่ลงในน้ำสะอาดทำน้ำมนต์ ตั้งจิตอธิษฐานขอบารมีของพระพุทธเจ้าแล้วดื่ม
จะบรรเทาทุกข์และอาการเจ็บป่วยนั้นๆได้ตามสมควร.
...
ธรรมเทศนาหลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม อ.ลี้ จ.ลำพูน
คัดลอกมาจากหนังสือ กว่าจะเป็นห้วยต้ม
ที่มา.. http://www.jidsai.com |