<<< “บัวบังใบ” >>>

touch-578

<<< “บัวบังใบ” >>>


            วัตถุมงคลที่....เหล่าสานุศิษย์   ของหลวงปู่ชื่น และ อ.สรายุทธ   ให้ความเชื่อมั่นและนำมาใช้คู่กับ..ขุนแผนทุกรุ่น ของหลวงปู่ และ อ.สรายุทธ  เป็นของเสริมเพิ่มความแรง และยังเป็นเครื่องรางเสริมเสน่ห์แก่เพศตรงข้ามได้ดีอีกด้วยคับ     มหาเสน่ห์บัวบังใบ เป็นเครื่องรางของขลังที่ ว่ากันว่า “น้ำนิ่ง ไหลลึก” โดยเฉพาะ กลุ่มลูกศิษย์สายหลวงปู่ชื่น ต้องมีและพกติดตัวทุกคน ด้วยเหตุที่ว่า ต่างคนต่างพบเจอประสบการณ์กันโดยตรง และทราบกันดีว่า มวลสารหลักก็เป็นของหลวงปู่ชื่น ที่ทันท่านเสกเอาไว้ โดยเฉพาะ    ผงเทพรัญจวนล้วน ,ว่านเสน่ห์จันทร์ทั้งห้า และที่สะดุดตาต้องใจกัน นั่นก็คือ “ด้านหลังบัวบังใบ บรรจุฝังพลอยเสก” ของหลวงปู่ชื่น ซึ่งเป็นพลอยเสก เดียวกันกับที่ฝังด้านหลัง ขุนแผนแขนอ่อน ซึ่งขุนแผนรุ่นแรก ที่ท่านสร้างไว้เสียด้วย บัวบังใบ ออกแบบและจัดสร้างโดย อ.สรายุทธ(ลูกศิษย์หลวงปู่ชื่น)

       โดยอ.สรายุทธได้สร้าง และมอบถวาย “บัวบังใบ” ให้อ.สาย ซึ่งเป็นฆราวาส สายเขมร และท่านทำการปลุกเสกแบบต้นตำรับ  หลวงพ่อไสว  ผนวกด้วยวิชาสายเขมรโบราณโดยแท้ แบบเต็มสูตร บัวบังใบ ด้านหน้ายันต์? มองลึกๆจ้องนานๆ มองให้เหนือล้ำจินตนาการ ท่านจะพบเห็นเป็นภาพ หญิง-ชายเสพสังวาสกัน @@@@@


        อาจารย์สรายุทธ  กล่าวว่า.....    " บัวบังใบ ชุดนี้ ถือว่าครบถ้วนกระบวนความอาจารย์ฆราวาสเสก   เรื่องเสน่หาบางเรื่อง  หลวงพ่อ  พระคุณเจ้าท่าน  ท่านเป็นพระสงฆ์ อาจจะติดในข้อศีลมากางกั้น   ดังนั้นในส่วนมนต์วิชาบางประการ   ในเรื่องรักๆใคร่ๆอาจารย์ฆราวาสจึงสามารถประจุคุณได้เต็มที่มากกว่า    จึงเชื่อได้ว่าบัวบังใบชุดนี้ จะเป็นเครื่องรางที่เปี่ยมด้วยฤทธิ์ ด้วยอิทธิคุณ   ให้บังเกิดฤทธานุภาพ   เกิดความขลังความศักดิ์สิทธิ์  เมตตามหาเสน่ห์    น่าบูชาอย่างยิ่งแน่นอน   ผู้ใดที่นำไปบูชา คิดหวังสิ่งหนึ่งสิ่งใด  ที่ปรารถนา ขอให้สำเร็จ สำเร็จ สำเร็จ ไม่เลือกกาลเวลา ขอให้เป็นที่เสน่หารักใคร่ของผู้คนทั้งแผ่นดิน  ใครได้พบเจอ  พบเห็น ก็จงนึก  เมตตา  รักใคร่  เข้ามาช่วยเหลือ "

        บัวบังใบ เนื้อผงอาถรรพณ์เทพรัญจวน ใช้ในทางเสน่ห์ เมตตา มหานิยม ใช้ผัดหน้าก่อนทำกิจการ เจรจาค้าขาย เข้าสังคม ทำให้คนมองเห็นหน้า เกิดมีเมตตา รักใคร่หลงใหล


          บัวบังใบเนื้อผงอาถรรพณ์เทพรัญจวน สร้างจากว่านเสน่ห์จันทร์ทั้งห้า ผสมกับสรรพยาได้แก่ ดอกรักซ้อน มะลิซ้อน ดอกกาหลง กฤษณากะรำพัก ชะมด ชะลูด เกสร บัวหลวง ขอนดอกจันทร์แดงจันทร์ขาว ขี้ไคลเจดีย์ ขี้ไคลเสมา ฯลฯ และผงรัญจวน ผงนะหน้าทอง ผงธาตุทั้งสี่ ฯลฯ


          ถ้าประสงค์จะค้าขายให้อาราธนา “บัวบังใบ” ใส่ในน้ำ 1 แก้ว เทน้ำใส่ฝ่ามือลูบหน้า 3 ครั้ง ส่วนน้ำที่เหลือใช้ประพรมสินค้า ถ้าปรารถนาให้ท่านหนึ่งท่านใดเมตตาเป็นพิเศษ ถ้าจะทำให้เป็นมหาละลวย เอา “บัวบังใบ” แช่น้ำหอม น้ำมันจันทร์ เจิมหน้าทาคิ้วสีปาก และทาหลังตา เป็นมหาละลวยดีนัก ทำให้คนเห็นหน้ามีเสน่ห์ เมตตารักใคร่ ด้านหลังทำเป็นรูปดาว 6 แฉกตามสัญลักษณ์หมายถึงการกระทำอาถรรพณ์หรืออาจหมายถึงความอุดมสมบูรณ์ก็ได้ และพิเศษคือโรยพลอยเสกอาถรรพณ์อันมีฤทธิ์ช่วยให้ให้พลอยได้ตามชื่อ


คาถาบูชาบัวบังใบ      "อินทะจิตตังมานิ"  9จบ


ขอขอบคุณ.....ข้อมูลดีๆจาก    อ.สรายุทธ  และ  เวปฯ บ้านจอมพระ


สนใจบูชา โทร0899240386
หรือทักทางข้อความ……พี่จ้อ
ขอบคุณค่ะ

touch-578

ประวัติความเป็นมาของวัตถุมงคล..." บัวบังใบ "




             อันวิชาบัวบังใบนั้น  พวกเราได้ยินกิตติศัพท์มาตั้งแต่สมัยเมื่อ30กว่าปีที่แล้ว ว่าเป็นเลิศในด้านสายมหาเสน่ห์ เมตตาอีกแขนงหนึ่ง มิได้เป็นสองรองใครเลย ซึ่งมีหลวงพ่อไสว  วัดปรีดาราม  เป็นต้นตำรับอันโด่งดัง แต่ในสมัยนั้นที่อาจารย์สรายุทธไปหาหลวงพ่อไสว ท่านเมตตาสงเคราะห์สอน เรื่องการตบทองเข้าหน้าผากให้ เลยได้มีโอกาสเรียนวิชา บัวบังใบกับท่านโดยตรงจวบจนท่านมรณะภาพ แต่ภายหลังต่อมาท่านอาจารย์สรายุทธ  ได้มีโอกาสรับการถ่ายทอดตำรา รวมถึงชี้แนะวิชานี้มาจากลูกศิษย์ของหลวงพ่อไสว อีกหลายท่าน  พร้อมทั้งเคยได้เห็นอิทธิคุณอันศักดิ์สิทธิ์ของบัวบังใบอยู่หลายครา จึงทำให้บังเกิดมีความศรัทธา และอยากสร้างเครื่องรางบัวบังใบนี้ขึ้นมา เพื่อเป็นการบูชาครู ในสายวิชานี้สืบไป

       ต้นฉบับวิชาบัวบังใบคือหลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม ที่อาจารย์เปล่ง บุญยืน (บางท่านอาจจะยังไม่รู้ว่า อ.สรายุทธ ท่านเป็นเครือญติกัน กับ อ.เปล่ง) ยังยอมรับว่าท่านแรงจริง บัวบังใบที่สร้างในครั้งนี้คนสร้างคือ อาจารย์สรายุทธ ซึ้งท่านเรียนวิชาบัวบังใบจาก หลวงพ่อไสว วัดปรีดารามเจ้าตำหรับวิชาบัวใบ   วิชาบัวบังใบมหาเสน่ห์เมตตา  เพราะฉะนั้นคนที่บูชาบัวบังใบ  ไปจึงมั่นใจได้ว่าวิชาเป็นของแท้  มีที่มาที่ไปชัดเจน   เพื่อความมั่นใจ


         รูปลักษณ์ที่จัดสร้างขึ้นมานั้น ได้อาศัยจากเค้าโครงเดิมของหลวงพ่อไสว   อันเป็นการให้ความเคารพและไม่ทิ้งรอยครู แต่มีการปรับเปลี่ยนบางส่วนเพื่อให้เกิดความสวยงามตามยุคสมัยมากขึ้น โดยกำหนดเอาเป็นรูปหัวใจแทนความรัก ความเสน่หาในโลกมนุษย์ใบนี้ และเพิ่มรูปยันต์บัวบังใบขึ้น ดั่งดอกบัวแฝด  ซึ่งในรูปลักษณ์บัวแฝดแบบนี้ อุปมาดั่งมนตรา มหาละลวยแฝด หรือการยกกำลังสองแห่งพลังฤทธิคุณให้บังเกิดเพิ่มพูนขึ้นไปอีกเป็นเท่าทวี

touch-578

            หากเรามองในมุมทางโลกียะ อันเป็นเรื่องทางโลกของปุถุชนเราๆท่านๆ บัวบังใบนั้น ตัวดอกบัวเองคล้ายตัวแทนแห่งเพศชายคือศิวลึงค์(พ่อ) และใบบัวนั้นแทนด้วยเพศหญิงคือโยนิ(แม่) เมื่อดอกบัวและใบบัวมาแนบชิดสนิทกัน ย่อมก่อเกิดพลังแห่งความรัก และความสุขสมปรารถนาซาบซ่านฤดี ซึ่งในทางฮินดูก็เชื่อว่าการเสพสมในรสรักนั้นเป็นสิ่งสวยงามตามธรรมชาติที่อยู่คู่กับมนุษย์โลกมาช้านาน มิได้เป็นการลามก หรือหยาบโลนอันใด เป็นสัญลักษณ์แห่งความเจริญงอกงามไพบูลย์ เผยแผ่ขยายเผ่าพันธุ์สืบไปของเหล่าสรรพสัตว์

             ดังนั้นบัวบังใบจึงเป็นสัญลักษณ์แห่งความสุขสมดั่งปรารถนา​   สุขทั้งทางด้านร่างกายเเละจิตใจ​   แม้นคิดปรารถนาเงินทอง​ การงาน​  เกียรติ​ยศชื่อเสียง ความรักรูปรสพิศวาส  หรือสิ่งใดๆที่มนุษย์​ผู้ยังมีกิเลสปรารถนาอยู่นั้น ก็จักได้สมดั่งปรารถนา​ทุกๆประการ​ ได้สุขเกษมสมใจดั่งบัวที่ได้เข้าบดบังใบสำเร็จใคร่สมฤดี ​

มวลสารหลักในการจัดสร้าง  บัวบังใบ  พำนักติคญาโณ  ได้แก่

-ผงบัวแฝด ที่อธิษฐานจิตในคืนวันเพ็ญเดือนสิบสอง จำนวนหลายคู่
-ผงอิทธิเจหลวงปู่ชื่น
-ผงเทพรัญจวน
-ผงเสน่ห์ยาแฝด
-สีผึ้งต่างๆ(หลวงปู่ชื่น)
-น้ำมันเมตตามหานิยม(ของหลวงพ่อไสว)
-ผงสวาท ผงดอกรัก ผงว่านดอกทอง ผงเสน่ห์จันทร์
-แป้งเสก มหาเสน่ห์
-รวมถึงว่าน เมตตา มหาเสน่ห์ต่างๆ (ที่หลวงปู่ชื่นอธิฐานจิตเก็บไว้)