ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 992
ตอบกลับ: 0
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

กบฏภิกษุอลัชชี ร.๒ ไม่ประหารกลัวบาป

[คัดลอกลิงก์]
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย touch-578 เมื่อ 2022-12-3 09:31

“กบฏภิกษุอลัชชี” เล่นกลแล้วพาคนเข้าปล้นเผาเมือง! ร.๒ ไม่ประหารกลัวบาป จำคุกไว้ตลอดชีวิต!!
...


              ในปลายเดือนมกราคม ๒๓๖๒ ได้มีกบฏรายหนึ่งเกิดขึ้นที่เมืองจำปาศักดิ์ ซึ่งตอนนั้นอยู่ในความปกครองของไทยเช่นเดียวกับเวียงจันทน์ หัวหน้ากบฏเป็นพระภิกษุชาวข่ารูปหนึ่งมีชื่อเรียกกันว่า “สาเกียดโง้ง”
           “ข่า” หมายถึง ข้า หรือ ทาส ซึ่งเป็นคำที่คนลาวเรียกคนพื้นเมืองดั้งเดิมกลุ่มหนึ่งที่อยู่บนภูเขาสูงแถบล้านช้างมาก่อน แต่คนเผ่านี้เรียกตัวเองว่า “ขมุ”
ราวปี ๒๓๖๐ เมื่อพระภิกษุอลัชชีรูปนั้นซึ่งมีชื่อเดิมว่า สา บวชมาตั้งแต่เล็ก ได้เดินธุดงค์จากเมืองสารบุรีมาหยุดพักและอาศัยอยู่ที่เขาเกียดโง้ง ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำโขง เขตแขวงเมืองจำปาศักดิ์ ชาวบ้านจึงเรียกกันว่า “สาเกียดโง้ง” ได้ถอดจีวรออกทำตัวเป็นแค่คนถือศีล นุ่งขาวห่มขาว และอ้างตัวว่าเป็นผู้วิเศษมีอิทธิฤทธิ์ เอาแว่นแก้วมาส่องแดดจนลุกเป็นไฟ อวดว่าเรียกไฟจากฟ้ามาเผาให้วอดไปทั้งโลกได้ พวกข่ายังไม่มีความรู้ทางวิทยาศาสตร์จึงพากันเกรงกลัว
สาเกียดโง้งยังอ้างว่าระลึกชาติได้ เกิดที่นี่และสร้างเมืองขึ้นที่นี่มา ๓ ชาติแล้ว ชาติหนึ่งเคยเกิดเป็น ท้าวเจื่อง วีรกษัตริย์ในตำนานท้องถิ่นลุ่มน้ำโขง ที่มาเกิดในชาตินี้ก็เพื่อช่วยให้พวกข่าได้พ้นทุกข์เข็ญ พวกข่าจึงพากันนับถือสมัครเข้าเป็นข้ารับใช้ กล่าวกันว่าสาเกียดโง้งนิยมดูระบำรำฟ้อนของสาวๆมาก และมีเมียถึง ๓ คน
เมื่อเกลี้ยกล่อมชาวข่าในเขตสาละวันและคำทองในลาว กับอัตปือในเขมร มีจำนวนราว ๘,๐๐๐ คนแล้ว สาเกียดโง้งก็นำกำลังเข้าล้อมเมืองจำปาศักดิ์ ประกาศกับสาวกว่า ถ้าเขาได้ครองราชย์เมืองจำปาศักดิ์แล้ว ชาวข่าจะมีความสุขสบายกันทั่วหน้า จะไม่เป็นชาวเขาชาวป่ากันต่อไป ทำให้พลพรรคทั้งหลายพร้อมใจกันถวายชีวิตเข้าตีเมืองจำปาศักดิ์ จนเจ้าเมืองต้องหนีไปขอความช่วยเหลือจากพระยาพรหมภักดี (ทองอินทร์) ยกกระบัตรเมืองนครราชสีมา ซึ่งกำลังไปทำหน้าที่เกลี้ยกล่อมชาวพื้นเมืองแถวริมฝั่งโขง พระยาพรหมภักดีได้ยกกำลังไปนครจำปาศักดิ์ พบว่าสาเกียดโง้งหนีไปแล้ว จึงยึดเมืองไว้
ส่วนสาเกียดโง้งเมื่อยึดเมืองจำปาศักดิ์ได้แล้ว แทนที่จะขึ้นครองราชย์เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของชาวข่า กลับกวาดทรัพย์สินทั้งหมดแล้วเผาเมืองจนวอด ถอยไปหลบอยู่ที่ภูย่าปุ ภูเขาสูงในแขวงเมืองอัตปือ ทำลายทางขึ้นทุกทางเพื่อความปลอดภัย
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าฯจึงทรงมีตราสารสั่งให้เจ้าพระยานครราชสีมา (บุญจันทร์) จัดทัพไปปราบ และให้เจ้าอนุวงค์แห่งเวียงจันทน์ไปช่วยอีกทัพ เพื่อจับตัวสาเกียดโง้งมาลงโทษให้ได้
เจ้าอนุวงค์ได้มอบให้ เจ้าราชบุตร (โย้) ผู้เป็นโอรส ไปตามล่าสาเกียดโง้ง ซึ่งนอกจากจะได้ตัวกบฏอลัชชีและสาวกชาวข่าเป็นจำนวนมากแล้ว เจ้าราชบุตรยังจับพระยาพรหมภักดีส่งมากรุงเทพฯด้วย เพราะอ้ายสาเกียดโง้งให้การว่า พระยาพรหมภักดีเป็นผู้วางแผนให้ยึดเมืองจำปาศักดิ์
ผลการสอบสวนคดีนี้ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าฯไม่ได้ทรงลงโทษอ้ายสาเกียดโง้งถึงขั้นประหารชีวิต เพราะทรงเกรงว่าจะเป็นบาป จึงให้จำคุกไว้ตลอดชีวิต ส่วนสาวกชาวข่าทั้งหลายก็ให้เป็นตะพุ่นหญ้าช้าง ไปอยู่กันที่บางบอน ซึ่งเป็นเขตหนึ่งของ กทม.ในปัจจุบัน
ส่วนพระยาพรหมภักดีซึ่งสาเกียดโง้งให้การว่าเป็นผู้เลื่อมใสที่เข้ามาเป็นศิษย์ของตนคนหนึ่ง และเป็นผู้วางแผนให้เข้ายึดเมืองจำปาศักดิ์ แม้ว่าจะปฏิเสธ แต่ก็มีเค้าว่าทำความผิดจริงตามที่ถูกซัดทอด แต่รับสั่งว่า “ความดีมันมีมาก” จึงไม่ทรงลงโทษ ทั้งต่อมายังโปรดเกล้าฯให้เป็นเจ้าเมืองนครราชสีมาแทนเจ้าเมืองคนเก่าที่อ่อนแอด้วย
พระยาพรหมภักดีท่านนี้ ก็คือโอรสลับคนหนึ่งของพระเจ้าตากสินกับเจ้าจอมจวน ซึ่งต่อมาได้รับโปรดเกล้าฯเป็น เจ้าพระยากำแหงสงคราม แม่ทัพคนสำคัญในการปราบกบฏเจ้าอนุวงศ์และสงครามอานามสยามยุทธในรัชกาลที่ ๓ ด้วย
ความดีความชอบในการปราบสาเกียดโง้งครั้งนี้ เจ้าอนุวงศ์ได้ทูลขอให้เจ้าราชบุตรได้เป็นเจ้าเมืองจำปาศักดิ์ โดยมีกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ พระราชโอรส ทรงรับจัดการให้ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าฯก็ทรงโปรดฯตามที่ขอ
เรื่องนี้มีเบื้องหลังเล่ากันว่า เมื่อเจ้าฟ้ากรมหลวงพิทักษ์มนตรี โอรสในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์ ทรงทราบเรื่อง ได้รับสั่งในท้องพระโรงว่า อยากจะรู้นักใครเป็นผู้จัดแจงเพ็ดทูล แค่พ่อมีอำนาจอยู่ข้างฝ่ายเหนือก็พออยู่แล้ว ยังจะเพิ่มให้ลูกไปมีอำนาจโอบลงมาข้างฝ่ายตะวันออกอีกด้าน ต่อไปจะได้ความร้อนใจเรื่องนี้ กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ก็ทรงได้ยิน แต่นิ่งอยู่มิได้โต้เถียง
ต่อมาเมื่อกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ได้ขึ้นครองราชย์เป็นรัชกาลที่ ๓ ต้นรัชกาลเจ้าอนุวงศ์ก็เป็นกบฏ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯทรงโทมนัสพระราชหฤทัย ว่าเป็นจริงตามที่เจ้าฟ้ากรมหลวงพิทักษ์มนตรีทำนายไว้
นี่ก็เป็นฉากหนึ่งในประวัติศาสตร์ ก่อนที่จะมาเป็นบ้านเมืองของเราในวันนี้

https://youtu.be/U0h2L-QkK-A



ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้