ตะกรุดไมยราพสะกดทัพ สุดยอดตะกรุดในตำนานตะกรุดหายากที่สุดในยุคนี้ ของหลวงพ่อกุน วัดพระนอน จังหวัดเพชรบุรี หลวงพ่อกุน วัดพระนอนพระครูสุชาตเมธาจารย์ เกิดเมื่อวันพุธ เดือน๖ ปีวอก พ.ศ.๒๔๐๓ ณ บ้านหนองกาทอง ตำบลโรงเข้จังหวัดเพชรบุรี ตั่งแต่เด็กท่านบรรพชาเป็นสามเณรที่วัดวังบัว จนอายุครบ ๒๐ ปี ก็ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุอยู่ที่วัดวังบัวขณะที่บวชเป็นพระนั่น หลวงพ่อกุนมีความอุตสาหะเป็นอย่างมาก ได้เดินทางไปศึกษาวิชากับอาจารย์แจ้งอยู่ทางวัดดอนไก่เตี้ย และได้ศึกษาวิชาการที่วัดข่อย ศึกษาทางช่างศิลป์กับท่านอาจารย์มุ่ย วัดใหญ่สุวรรณาราม และคุณพ่อฤทธิ์ (หนังใหญ่)วัดพลับพลาชัยหลวงพ่อกุน บวชอยู่ ๓ พรรษา ที่วัดวัดวังบัว ก็ได้ย้ายมาอยู่ที่วัดพระพุทธไสยาสน์(วัดพระนอน) ในสมัยพระครูสุวรรณมุนี ต่อมาได้เลื่อนเป็นสมุห์และเมื่อพระครูสุวรรณมุนีมรณะภาพ ก็ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดพระพุทธไสยาสน์ (วัดพระนอน)ได้รับพระราชทาน สมณศักดิ์เป็น พระครูสุชาตเมธาจารย์ ตะกรุดไมยราพสะกดทัพหรือเรียก ตะกรุดจันทรเพ็ญ ของหลวงพ่อกุนแห่งวัดพระนอน จังหวัดเพชรบุรีหลวงพ่อกุนท่านจะมีขั่นตอนดูและคำนวนฤกษ์ เสาร์ห้าเป็นฤกษ์ในการลงอักขระเลยยันต์และปลุกเสกตะกรุดสถานที่ปลุกเสกท่านก็ไปปลุกเสกในป่าช้า มีป่าช้าวัดพลับ วัดแก่นเหล็ก วัดวัดวังบัววัดพระนอน และวัดรอบๆเขาวัง หลังจากนั้นพอถึงคืนวันเพ็ญเดือน ๑๒หลวงพ่อท่านก็จะใช้ลูกสบ้ามอญ ลบถูรอยเหล็กจารที่ท่านได้จารไว้ออกและพอถึงฤกษ์เสาร์ห้า ก็กลับไปจารที่ป่าช้าอีก ท่านทำเช่นนั้นจนครบ ๓รอบท่านถึงจะนำออกมาแจกจ่ายแก่บรรดาลูกศิษย์ลูกหา รอยจารในตะกรุดเป็นเรื่องราวบางส่วนของมหากาพย์เรื่องรามเกียรต์ เรื่องมีอยู่ว่าทศกัณฐ์มีความแค้นเทวดาที่เป็นพยานให้แก่พระราม จึงทำพิธีปลุกเสกหอกกบิลพัทที่เชิงเขาพระสุเมรุและทำพิธีเผารูปเทวดา พระอิศวรจึงมีเทวบัญชาให้เทพบุตรพาลีมาทำลายพิธี ซึ่งทศกัณฐ์พุ่งหอกกบิลพัทหมายสังหารพิเภก แต่พิเภกได้หลบไปอนยู่หลังพระลักษณ์จึงทำให้พระลักษณ์ต้องหอกกบิลพัทของทศกัณฐ์สลบไป พิเภกทูลพระรามให้หายามาแก้พร้อมแม่หินบดยาที่เมืองบาดาลและลูกหินบดยาที่ทศกัณฐ์หนุนนอน พระรามจึงให้หนุมานไปหายาพร้อมแม่หินและลูกหินหนุมานจึงลักลอบเข้าเมืองลงกาเพื่อไปนำลูกหินบดยามา ภาพรอยจารในตะกรุดเป็นเรื่องราว ที่หนุมาน ลอบเข้าไปยังกรุงลงกาและทำการร่ายพระเวทสะกดให้เหล่ายักษ์หลับ แล้วลอบเข้าไปในปราสาทเห็นทศกรรฐ์นอนอยู่กับนางมณโฑก็เลยได้โอกาสแกล้งเอาผมนางมณโฑผูกติดกับเศียรทศกรรฐ์พร้อมกับเขียนคำสาปไว้ที่หน้าผากทศกรรฐ์ว่าหากจะแก้ผมให้หลุดต้องให้นางมณโฑตบกระบาล(หัว)สามทีพอทศกรรฐ์ตื่นขึ้นมาเห็นผมนางผูกติดกับเศียรตน และหินบดยาหายไปก็รู้ว่าศัตรูมาสะกดแล้วลักไปและไม่ว่าจะทำอย่างไรผมก็ไม่หลุดจึงให้เสนาไปนิมนต์ฤาษีโคบุตรมา ฤาษีเห็นคำสาปจารึกไว้ ก็บอกให้ทำตามคำสาปดังนั้นเมื่อนางมณโฑตบกระบาล(หัว)ทศกรรฐ์สามครั้งผมก็หลุดออก การทำตะกรุดของหลวงพ่อกุนนั้นท่านจะจารเองกับมือของท่านตลอดการบวช๔๐พรรษานั้น ท่านทำตะกรุดไม่เกิน ๕๐ ดอก มีเนื้อเงิน.ทองแดง.ตะกั่ว ยาว5-6-7นิ้วตามมาตราฐานแต่ก็ได้สอนวิชาการทำตะกรุดให้พระลูกวัดพระนอนจำนวนไม่มากนักเพราะเป็นวิชาที่ต้องตั่งใจเรียนประกอบกับการลงลายเส้นในตัวละครเรื่องรามเกียรติ์ แล้วยังต้องลงอักขระเลยยันต์และขั้นตอนอีกหลายอย่างอีกทั้งวิชาเหล่านี้ จะหาพระที่สืบทอดวิชาการทำตะกรุดของหลวงพ่อกุนนั่นยากมากทั่งต้องคำนวนดูฤกษ์ในการลงอักขระเลยยันต์ ฤกษ์ลงอักขระลายเส้นตัวละคร หนุมานทศกรรฐ์ นางมณโฑ และการนำตะกรุดไปจารในป่าช้าอีก จึงทำวิชาหายสาบสูญไปตามการละเวลา พระครูสุชาตเมธาจารย์หรือหลวงพ่อกุน มีชีวิตอยู่จนถึงปี พ.ศ.๒๔๖๓ ก็มรณภาพลงด้วยอายุ ๖๐ ปี ๔๐ พรรษา
|