ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 1841
ตอบกลับ: 0
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

หลวงพ่อคูณ มาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กู้ภัย ในเหตุการณ์โรงแรมรอยัลพลาซ่าถล่ม โคราชในอดีต เมื่อปี พ.ศ.2536

[คัดลอกลิงก์]
หลวงพ่อคูณ มาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กู้ภัย ในเหตุการณ์โรงแรมรอยัลพลาซ่าถล่ม โคราชในอดีต เมื่อปี พ.ศ.2536


13 สิงหาคม 2536 เวลา 10.30 น. เสียงวิทยุ และทีวีประกาศดังลั่น “โรงแรมรอยัลพลาซ่าถล่ม”...
ภายในโรงแรม ณ เวลานั้น มีพนักงานของโรงแรม แขกที่พักอยู่ตามห้องต่างๆ ข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการ โครงการพัฒนาบุคลากรสามัญศึกษา พร้อมทั้งพนักงานบริษัท เชลล์ เข้าประชุมสัมมนา ประมาณ 380 คน จึงทำให้มีผู้เสียชีวิต 137 คน และบาดเจ็บอีก 227 คน
โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ ถ.จอมสุรางค์-ยาตร อ.เมือง จ.นครราชสีมา เป็นอาคาร 6 ชั้น ประกอบด้วยห้องพัก ห้องอาหาร และแหล่งบันเทิงที่ครบวงจร
ต่อมา เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยและทุกภาคส่วนลงพื้นที่และใช้เครื่องมืออุปกรณ์ขุดเจาะขนาดเล็ก เครื่องเจาะแรงอัดลม เครื่องตัดเหล็กไฟฟ้า ทำการขุดเจาะช่วยเหลือ
เหตุการณ์ครั้งนี้ หลวงพ่อคูณเดินทางมาที่ซากตึกถล่ม เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และอาสากู้ภัย ที่เข้าช่วยเหลือคนที่ติดอยู่ในซากของโรงแรม และท่านยังได้แจกพระเครื่อง พร้อมกับกล่าวว่า "พวกมึงเหนื่อยกัน กูให้ของดีให้พวกมึงไว้คุ้มครองตัวกันเด้อ"
เหตุโรงแรมถล่มทำให้มีผู้บาดเจ็บล้มตายหลายร้อยคน โดยผู้รอดชีวิตหลายราย ออกมาเล่าว่า การรอดตายจากเหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นเพราะอิทธิฤทธิ์หลวงพ่อคูณที่ห้อยแขวนคอไว้ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ก็สังเกตเห็นว่า ผู้รอดชีวิตส่วนใหญ่ล้วนห้อยพระหลวงพ่อคูณทั้งสิ้น
“ที่รอดตายมาในครั้งนี้ เพราะอำนาจพุทธาคมจากพระเครื่องหลวงพ่อคูณนี่แหละที่ทำให้แคล้วคลาด” ชายคนหนึ่งกล่าว หลังถูกนำตัวออกมาจากใต้ซากอาคาร
ก่อนที่หลวงพ่อคูณจะเดินทางกลับ พล.ท.อานุภาพ ทรงสุนทร แม่ทัพภาคที่ 2 ในขณะนั้นได้กราบถามหลวงพ่อคูณว่า “ไอ้ตึกที่มันตั้งโด่เด่ อยู่แท่งเดียวนี้มันจะล้มไหมครับ?”
เท้าของหลวงพ่อที่กำลังจะก้าวขึ้นรถหยุดชะงัก แล้วท่านหันกลับมามอง ตึกอยู่ชั่วอึดใจ และค่อยๆ หลับตาลงชั่วครู่ ก่อนจะหันไปตอบแม่ทัพภาคที่ 2 ว่า “กูว่ามันไม่ล้มลงมาดอก”
คำพูดของท่านเป็นจริงตามที่ท่านว่าไว้ ตึกนี้ตั้งโด่เด่อยู่อีกหลายวัน จนเจ้าหน้าที่ ได้นำลวดสลิงและหมอนไม้มายึดรากฐานของตัวตึกได้สำเร็จ จนเป็นที่เลื่องลือว่า สาเหตุที่ตึกมันไม่ล้ม เพราะหลวงพ่อสะกดอาคมไว้นั่นเอง
หลังจากนั้น นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกล่าวกับสื่อมวลชนว่า “จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการละเลยเพิกเฉยในการดูแลการก่อสร้าง และเชื่อว่ายังมีอาคารสภาพเช่นนี้อีกหลายแห่ง เพราะในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังบูม จึงไม่ค่อยสนใจเรื่องของแบบแปลนการก่อสร้าง หรือมีการใช้อิทธิพลในท้องถิ่น โดยนายทุนใช้อิทธิพลกับข้าราชการ”
ทีมสอบสวน พบสาเหตุการทรุดของโรงแรม มาจากฐานรากระหว่างรอยต่ออาคารเก่า กับส่วนใหม่ที่ต่อเติม ทำให้ทรุดตัวกะทันหัน และจากการตรวจสอบพบน้ำใต้ดินที่ไหลสู่ฐานราก เจ้าของโรงแรมแก้ปัญหาโดยทำบ่อแล้วสูบน้ำใต้ดินออก ทำให้ฐานรากลดขีดสมรรถภาพในการรับน้ำหนัก เพราะน้ำที่ซึมถูกดูดออกไปเป็นดินด้วย โดยทำติดต่อกัน 2 ปี จึงทำให้เกิดโพรงเมื่อความหนาแน่นของดินใต้ฐานรากของแนวต่ออาคารเก่ากับใหม่ มีความหนาแน่นน้อย ฐานรากจึงรับน้ำหนักไม่ไหว
หลังจากเกิดเหตุ พล.ต.ต.สิทธิศักดิ์ อินทร์ถมยา ผบก.ภ. 4 ได้ตรวจพบหลักฐานการประชุมเมื่อปี 2530 ระบุว่าได้เกิดรอยร้าวตามฝาผนัง ซึ่งกรรมการบริหารทราบดี แต่ปกปิดและโบกปูนปิดไว้ กระทั่งปี 2534 ได้ต่อเติมห้องพักบนชั้น 5-6 เพื่อให้ทันกับการประชุมไลออนส์แห่งประเทศต่อมาก็มีรอยร้าวที่บันไดขยายวง กว้างขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจที่จะแก้ไข
พล.ต.ท.วินิจ เจริญศิริ ผช.อ.ตร. สรุปว่าการถล่มของโรงแรมมาจากฐานเสาคอนกรีตเสริมเหล็กเดิม ไม่สามารถรองรับน้ำหนักการต่อเติมได้ เมื่อมีแรงกดดันมากจึงทำให้อาคารถล่ม และถือว่าเป็นความประมาทของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่อนุญาตให้ก่อสร้างเพิ่มเติมโดยไม่ได้ดูแบบแปลนเดิม
.
ภาพและข่าวจาก - https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/1477816

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้