ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 1714
ตอบกลับ: 2
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

อย่าไป...อยู่ใกล้...พระอรหันต์...นาน

[คัดลอกลิงก์]
"อย่าไป...อยู่ใกล้...พระอรหันต์...นาน"


โอวาทธรรม : หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก จ.พระนครศรีอยุธยา...ที่ได้เมตตา ตักเตือนศิษย์ฯ


ซึ่งแน่นอนว่า ใครๆฟังประโยคนี้แล้ว มักจะรู้สึกขัดๆ เพราะคนส่วนใหญ่ มักเชื่อว่า อยู่ใกล้พระอรหันต์ หรือ พระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบนานๆ ก็น่าจะยิ่งดีสิ จะได้ใกล้ชิดแหล่งบุญ ใกล้ชิดแหล่งธรรมะ ใครอยู่ใกล้ชิดท่าน ถือว่ามีบุญมาก


แต่ความละเอียดรอบคอบของหลวงปู่ ท่านมีมากกว่าเรามาก ท่านจึงมองเห็น จุดที่เรามองไม่เห็น หรือ มองข้าม

เราลืมตระหนักว่า ที่ๆเป็น “เนื้อนาบุญ” อันเยี่ยม ก็ย่อมเป็น “เนื้อนาบาป” ไปพร้อมกันด้วย


ดังที่ พระพุทธองค์ ตรัสรับรองว่า การล่วงเกินพระอริยเจ้านั้น เป็นกรรมหนัก


ตัวอย่างเช่น...นางขุชชุตตรา


“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ในอดีต ครั้งที่พระพุทธเจ้านามว่ากัสสปะ นางขุชชุตตรา ได้เกิดในตระกูลเศรษฐี ในเมืองพาราณสี มีภิกษุณี ผู้เป็นพระอรหันต์รูปหนึ่ง ซึ่งมีความคุ้นเคย กับตระกูลของนาง มาเยี่ยมเยือนที่บ้าน


ขณะนั้น นางกำลังแต่งตัวอยู่ ได้ออกปาก ขอให้พระเถรี ช่วยหยิบกระเช้า เครื่องประดับส่งให้ พระเถรีนั้น คิดว่า “ถ้าเราไม่หยิบส่งให้ นางก็จักโกรธอาฆาตเรา เพราะกรรมนี้ เมื่อนางตายไปแล้ว ก็จะไปเกิดในนรก


แต่ถ้าเราหยิบส่งให้ นางก็จักเกิดเป็นหญิงรับใช้คนอื่น เพราะกรรมที่ใช้พระอรหันต์" ภิกษุณี จึงเลือกกรรมสถานเบา เพื่อเป็นการอนุเคราะห์ต่อนาง จึงได้หยิบกระเช้าส่งให้ เพราะกรรมนี้ นางจึงเกิดเป็นหญิงรับใช้บุคคลอื่น”

นี่กรรม ที่ดูเล็กน้อย(ในสายตาของเราๆ)ยังส่งผลถึงเพียงนี้


ดังนั้น หลวงปู่ท่าน จึงเมตตาปกป้องลูกศิษย์ท่าน ไม่ให้ได้บาป โดยให้มีความละเอียดลออ ในเรื่องเหล่านี้ ขนาดว่าการเอ่ยปาก ให้ครูบาอาจารย์หยิบซอง(เพื่อจะใส่ปัจจัยทำบุญ)หลวงปู่ก็ยังให้หลีกเลี่ยงเลย


หลวงปู่ดู่ท่านจึงสอน ไม่ให้อยู่ใกล้พระอรหันต์นาน เพราะโดยธรรมชาติของจิต ที่ขาดปัญญา หากมีโอกาสได้ใกล้ชิดครูบาอาจารย์นานๆแล้ว ก็มักเกิดความยึดมั่นถือมั่นว่า เราเป็นศิษย์ใกล้ชิด หรือศิษย์ก้นกุฏิ สามารถพูดหยอกล้อ พูดไหว้วานให้ท่านหยิบโน่น ทำนี่ให้ หรือ ถึงขนาดหยิบฉวยของในกุฏิท่าน(ซึ่งถือเป็นของสงฆ์)ได้ตามอำเภอใจ


ในสมัยหลวงปู่มีชีวิต ก็เคยมีศิษย์ทำนองนี้ให้ได้เห็น ซึ่งบางครั้ง นอกจากจะหยิบพระ หรือ วัตถุมงคลที่ท่านทำเอาไว้แจกกำนั่งสมาธิ ออกไปจากกุฏิโดยพลการแล้ว หนักเข้า ก็หยิบแจก คนโน้น คนนี้ ตามชอบใจ แล้วค่อยมาบอกกล่าวหลวงปู่ในภายหลัง(เข้าทำนอง แจ้งเพื่อทราบ มิใช่ กราบเรียนขออนุญาต)


ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกัน มิให้คนใกล้ตัวท่าน ต้องสะสมบาปโดยไม่รู้ตัว หากหลวงปู่ท่านสอนได้ ท่านก็จะสอน หากสอนไม่ได้เพราะทำตัวเป็นน้ำล้นถ้วย ไม่ฟังคำตักเตือนของใครๆ หลวงปู่ท่าน ก็จำต้องเอ่ยปาก ให้ออกไปเสียจากวัดสะแก


คำว่า “อย่าไปอยู่ใกล้พระอรหันต์นาน” เป็นโอวาทที่หลวงปู่มอบให้ เพื่อไม่ให้พวกเราขาดทุนกำไร  


ไปวัด ไปกราบ ไปสนทนากับครูบาอาจารย์ ก็ให้ได้บุญล้วน ๆ อย่าได้มีบาปกลับบ้านไปเลย น้อยหนึ่ง ก็อย่าให้มี


ให้ตระหนักว่า สิ่งใดเป็นกุศล สิ่งใดเป็นอกุศล สิ่งใดควร สิ่งใดไม่ควร ถ้าเป็นศิษย์(ก็ทำตัวเป็นศิษย์ใหม่อยู่เสมอ)ไม่ลามปามหรือตีตัวเสมอ


ถ้าเป็นพระ ก็ทำตัวเป็นพระนวกะ(พระบวชใหม่)อยู่เสมอ เพราะธรรมชาติของพระบวชใหม่ มักมีความสำรวมระวัง กลัวจะผิดศีลข้อนั้นข้อนี้


ไม่ควรทำตัวแก่วัด แก่ครูบาอาจารย์ เพราะจะทำให้ขาดความสำรวมระวัง เอาครูบาอาจารย์ เป็นเพื่อนเล่น กล้าพูดสวนและวานใช้ครูบาอาจารย์ หรือ หยิบฉวยของๆท่าน ไปโดยพลการ


บทความ : จากเวบ...ลานธรรมจักร


ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้