หลวงพ่อขำท่านเป็นพระที่เชียวชาญวิปัสสนากรรมฐานและวิชาอาคม สมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่ วัดจะมีประชาชน และข้าราชการทหาร ตำรวจจากจังหวัดพิษณุโลก พิจิตร สุโขทัย และกำแพงเพชร ขี่ม้ามาขอบูชาเครื่องรางของขลังอย่างไม่ขาดสาย จึงทำให้ท่านมีปัจจัยมากพอที่จะบูรณะปฏิสังขรณ์วัดดังได้กล่าวมาแล้ว นอกจากนี้ยังมีพระภิกษุมาจำพรรษาที่วัดโพธิ์เตี้ยเป็นจำนวนมาก เพิ่อฝากตัวเป็นศิษย์ ขอเรียนวิปัสสนากรรมฐานและวิชาอาคมจากท่าน วัดโพธิ์เตี้ยในสมัยนั้นจึงรุ่งเรืิองมาก ชื่อเสียงของหลวงพ่อขำก็โด่งดังมาก มีประชาชนเคารพนับถือท่านมาก ยิ่งหลวงพ่อขำมีชื่อเสียงมากเพียงใด ย่อมนำไปสู่ความอิจฉาริษยาของบุคคลบางกลุ่มที่ไม่หวังดี ในที่สุดก็มีการใส่ร้ายป้ายสีหลวงพ่อขำ ว่าท่านประพฤติตนไม่เหมาะสม อวดอุตริผิดมนุษย์ ซึ่งความดังกล่าวก็นำไปสู่การร้องเรียนที่เป็นเท็จต่อพระครูวิเชียรโมลี(ปลั่ง) ประมาณปี พ.ศ.๒๔๗๐ ซึ่งขณะนั้นท่านเจ้าคุณวิเชียรโมลีดำรงสมณศักดิ์เป็นพระครูเมธีคณานุรักษ์รั้งตำแหน่ง รักษาการเจ้าคณะจังหวัดกำแพงเพชร
ท่านเจ้าคุณวิเชียรโมลี(ปลั่ง)ก็ได้ขี่ม้ามาตรวจสอบความประพฤติของหลวงพ่อขำตามคำร้องเรียนที่วัดโพธิ์เตี้ย เมื่อท่านเจ้าคุณได้เดินตรวจดูบริเวณวัดโพธิ์เตี้ย ก็เห็นความสะอาดและความมีระเบียบของวัด และเมื่อท่านเจ้าคุณได้พบและสนทนากับหลวงพ่อขำ ก็ทราบได้ว่าคำร้องเรียนนั้นเป็นเท็จ และยังทราบว่าหลวงพ่อขำท่านเป็นพระที่เชี่ยวชาญวิปัสสนากรรมฐานและมีความรู้ในวิชาอาคมขั้นอาจารย์ ท่านเจ้าคุณวิเชียรโมลีจึงขอฝากตัวเป็นศิษย์ และขอเรียนวิชาลงตะกรุดหนังหน้าผากเสือ และในเวลาต่อมาท่านเจ้าคุณวิเชียรโมลีก็ได้แต่งตั้งหลวงพ่อขำเป็นพระอุปัชฌาย์ จากเหตุผลที่กล่าวมา จึงเชื่อได้ว่าหลวงพ่อขำท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เก่งที่สุดและอาวุโสที่สุดของจังหวัดกำแพงเพชรที่เคยมีการบันทึกมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิชาคงกระพันชาตรี แคล้วคลาดแะมหาอุด ท่านเป็นหนึ่งไม่เป็นสองรองใครในจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง(หลวงปู่สุข วัดมะขามเฒ่า หลวงพ่อเงิน บางคลานกินท่านไม่ลง)
เหรียญหล่อพระพุทธอุข้างพิมพ์หน้าเล็ก(พิมพ์นิยม) หลวงพ่อขำ ปี พ.ศ.๒๔๖๖
เหรียญหล่อพระพุทธอุข้างพิมพ์หน้าเล็ก(พิมพ์นิยม) หลวงพ่อขำ ปี พ.ศ.๒๔๖๖
เหรียญหล่อพระพุทธอุหลัง พิมพ์หยดน้ำหลังอุ หลวงพ่อขำ ปี พ.ศ.๒๔๖๖
เมื่อประมาณปี พ.ศ.๒๕๑๒หรือ๒๕๑๓ได้มีคนร้ายเข้ามาขุดทำลายพระเจดีย์องค์ซ้ายมือซึ่งบรรจุพระเครื่องและวัตถุมงคลของหลวงพ่อขำ แต่คนร้ายไม่สามารถนำพระเครื่องไปได้ ขณะนั้นหลวงพ่อโนหรือพระครูวินิจวชิรคุณ เจ้าอาวาสวัดแก้วสุริย์ฉาย(วัดลานกระบือ) และเป็นเจ้าคณะตำบล ได้ถือโอกาสนั้นทำพิธีเปิดกรุพระเจดีย์องค์ที่ถูกขุด(ในพิธีเปิดกรุได้นิมนต์หลวงพ่อโถม วัดธรรมปัญญารามหรือวัดหนองสีดา อำเภอคีรีมาส จังหวัดสุโขทัย มาร่วมพิธี) เมื่อเปิดกรุได้พระเครื่องเป็นจำนวนมากมายหลายแบบหลายพิมพ์ มีทั้งพระเนื้อดิน พระเนื้อชินและพระเหรียญหล่อโบราณพิมพ์พระพุทธอุข้างเนื้อขันลงหิน ประมาณ ๗๒๐ เหรียญ หลวงพ่อโนหรือพระครูวินิจวชิรคุณได้นำพระเครื่องเหล่านั้นออกให้ประชาชนได้บูชา แล้วนำปัจจัยทั้งหมดมาเป็นค่าใช้จ่ายในการเท่หล่อรูปเหมือนเท่าองค์จริงของหลวงพ่อขำและหลวงพ่อกลับ รูปหล่อท่านทั้งสองได้ประดิษฐานอยู่ที่วัดแก้วสุริย์ฉาย(วัดลานกระบือ)
เหรียญหล่อพระพุทธอุข้างพิมพ์หน้าใหญ่ หลวงพ่อขำ ปี พ.ศ.๒๔๖๖
(ห่วงหัก)
เหรียญหล่อโบราณพิมพ์พระพุทธอุข้าง เนื้อขันลงหินของหลวงพ่อขำเป็นพระเครื่องที่ได้รับความนิยมสูงสุดในบรรดาพระเครื่องของหลวงพ่อขำ เป็นพระเครื่องที่เปี่ยมด้วยประสบการณ์ เป็นเหรียญที่ชาวจังหวัดกำแพงเพชรหวงแหนมาก และเป็นเหรียญเก่าที่หายากเหรียญหนึ่งของจังหวัดกำแพงเพชร ค่านิยมอยู่ประมาณ ๗๐,๐๐๐๐ บาทอนาคตมีสิทธิ์ขึ้นถึงหลักแสนแน่นอน เหรียญหล่อพิมพ์พระพุทธอุข้าง ผู้เขียนสันนิฐานว่าสร้างประมาณปี พ.ศ.๒๔๖๖(บางเหรียญด้านหลังมีรอยข้อความว่า"สุโขทัย ๒๔๖๖") เหรียญหล่อพิมพ์พระพุทธอุข้างมีทั้งหมด ๓พิมพ์ เข้าใจว่าสร้างเพื่อตอบแทนผู้ร่วมบริจาคทรัพย์สร้างพระอุโบสถ ปี พ.ศ.๒๔๗๐
ประสบการณ์อยู่ยงคงกระพันชาตรี มหาอุด แคล้วคลาด และเมตตามหานิยม
เหรียญปั๊มรุ่นแรก หลวงพ่อขำ ลานกระบือ
|