ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 2273
ตอบกลับ: 6
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

เหรียญสมเด็จโต รุ่นพานแตก วัดไก่จ้น อยุธยา

[คัดลอกลิงก์]
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2019-9-29 08:15

ลานโพธิ์ฉบับเดือนกุมภาพันธ์2558 นี้ ได้ลงเรื่องราวเหตุการณ์ที่หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน ซึ่งได้รับนิมนต์ไปปลุกเสกวัตถุมงคลวัดไก่จ้น ปี2521 แล้วในระหว่างพิธีได้เพ่งพานแตกซึ่งเรื่องราวในเหตุการณ์ น่าอัศจรรย์มาก                                                    โดยคุณเก่ง รางน้ำ น้องที่สนิทกัน ได้เขียนเรื่องราวดังนี้



                                                                                             
""" เหตุใดเหรียญหลวงปู่ลำภู จึงนิยมรุ่น 3 มากที่สุด          ผมเคยนำเสนอท่านผู้อ่านกันไปแล้วถึงประวัติหลวงปู่ลำภู คงฺคปญฺโญ และพระสมเด็จบางขุนพรหม ปี พ.ศ. 2502 ของท่าน เลยมีหลายท่านอยากทราบถึงเหรียญของหลวงปู่ลำภู กันบ้างว่ามีกี่รุ่นและรุ่นไหนนิยมมากที่สุด เพราะเหตุใด ผู้เขียนเก่งรางน้ำ เลยรวบรวมข้อมูลมาเขียนให้ท่านผู้อ่านได้รับทราบกันถึงเหรียญที่หลวงปู่ลำภูสร้างนั้นมีอยู่4รุ่นและเหรียญรุ่น3นั้น นิยมมากที่สุด ผมจะเขียนแบบเจาะลึก กันอย่างละเอียดเลยทีเดียว ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณ หลวงตาประยูร เจ้าอาวาสวัดไก่จ้นองค์ปัจจุบัน (ท่านเป็นศิษย์เอกและลูกบุญธรรม) ที่ช่วยชี้แจงข้อสงสัยในเรื่องต่างๆ ของเหรียญรุ่น 3 นี้ ว่าทำจำนวนทั้งหมด 3 พิมพ์ คือ 1. เหรียญสี่เหลี่ยมหลวงพ่อโตนั่งฐานสิงห์เต็มองค์ รุ่นนี้สร้างแค่เนื้อนวะเท่านั้นสร้างจำนวน 200 เหรียญ แจกให้เฉพาะผู้ร่วมทำบุญสร้างโบสถ์วัดไก่จ้น ตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป 2. เหรียญกลมหน้าหลวงพ่อโต พิมพ์ใหญ่-เล็ก โดยมีเนื้อเงิน พิมพ์ใหญ่จำนวน 200 เหรียญ พิมพ์เล็กจำนวน 200 เหรียญ เนื้อนวะ พิมพ์ใหญ่จำนวน 800 เหรียญ เนื้อนวะนี้ไม่มีเหรียญเล็ก เนื้อทองแดง พิมพ์ใหญ่จำนวน 1,500 เหรียญ พิมพ์เล็กจำนวน 1,000 เหรียญ และเนื้อกะไหล่ทองพิมพ์เล็กจำนวน 1,000 เหรียญ 3. เหรียญกลมหน้าหลวงพ่อลำภู พิมพ์ใหญ่เนื้อเงินจำนวน 300 เหรียญ พิมพ์เล็กจำนวน 500 เหรียญ เนื้อนวะไม่มีทั้งใหญ่-เล็ก เนื้อทองแดง พิมพ์ใหญ่จำนวน 2,000 เหรียญ พิมพ์เล็กจำนวน 2,500 เหรียญ พระภปร (* ส่วนเหรียญที่มีผิวไฟนั้น ผมถามหลวงตาประยูรท่านถึงเหรียญรุ่นนี้ว่าทำไมมีผิวไฟ ก็ได้ความว่า เหรียญที่จัดทำนั้นทางโรงงานปั๊มกันเกินไว้เผื่อเหรียญชำรุด เมื่อทางโรงงานคัดเหรียญที่ดีแล้วตามจำนวนจึงนำไปรมดำและทำกะไหล่ทองเหรียญเล็ก                 
ส่วนเหรียญที่เกินนั้นทางโรงงานได้นำมาถวายหลวงปู่ลำภู รวมทั้ง 2 พิมพ์ ใหญ่-เล็ก แล้วก็ประมาณเกือบ 500 เหรียญ หลวงปู่ลำภูท่านก็รับไว้ แล้วนำมาแจกจ่ายในตอนหลัง ทั้งนี้จึงต้องแจ้งให้ทราบเพื่อจะได้ไม่เกิดการเข้าใจผิดกัน ส่วนเหรียญพิมพ์ใหญ่กะไหล่ทองนั้นทางวัดไม่ได้ทำครับ)นอกจาเหรียญแล้วยังมีสมเด็จปี พ.ศ.2521โดยมีทั้งหมด6พิมพ์2เนื้อ(1.พิมพ์ใหญ่พิเศษ2.พิมพ์ใหญ่3.พิมพ์เส้นด้าย4.พิมพ์เจดีย์5.เพิมพ์เจดีย์มีหู6.พิมพ์สังฆาฏิ)และยังมีพิมพ์พิเศษโรยผงตะไบอีก3พิมพ์2เนื้อ(มีเนื้อผงน้ำมันและผงใบลานมีพิมพ์ใหญ่.พิมพ์เส้นด้าย.พิมพ์เจดีย์) ซึ่งรวมพระทั้งหมดแล้วจำนวน 84,000                                  องค์พระเกจิที่มาร่วมปลุกเสกนั้นล้วนสุดยอดเกจิทั้งนั้น 1. ประธานนั่งปรกคือ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี(ประธานจุดเทียนชัย) 2. หลวงปู่ลำภู วัดบางขุนพรหม 3. หลวงปู่ย้อย วัดอัมพวัน (หลวงปู่ย้อยเนี่ยแหละที่ทำให้เหรียญรุ่นนี้มีชื่อว่ารุ่นพานแตก ส่วนรายละเอียดต้องติดตามคับ ผมเขียนในฉบับนี้เลย) 4. หลวงปู่คำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ 5. หลวงปู่พริ้ง วัดโบสถ์ 6. หลวงปู่สิมมา  วัดบ้านหมอ 7. หลวงปู่หน่าย วัดบ้านแจ้ง 8. หลวงปู่ถิร วัดป่าเลไลย์9. หลวงปู่บาง วัดหนองพลับ 10.หลวงปู่นอ วัดกลางท่าเรือ 11.หลวงปู่พล วัดหนองคนที 12.หลวงปุ่แพ วัดพิกุลทอง  และเจ้าพิธีคือ หลวงตาประยูรเจ้าอาวาสวัดไก่จ้นองค์ปัจจุบัน แค่เห็นรายชื่อพระที่มาร่วมปลุกคงรู้กันแล้วสิครับว่าดีขนาดไหน ปลุกเสกกันตอนกลางคืนวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2521 และวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2521
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ สิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถได้เสด็จพระราชดำเนินวัดไก่จ้น ทรงประกอบพิธียกช่อฟ้าอุโบสถทรงตัดหวายลูกนิมิต ทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่เกตุพระประธาน หลวงพ่อแสนสุขในอุโบสถ จึงทำให้เหรียญรุ่นนี้ทุกพิมพ์ จะมีอักษรพระปรมาภิไธย่อ ภปร  ด้วยความที่ผมได้คบกับพี่ต่อเสาไห้ จึงทำให้ได้รับรู้เรื่องราวในครั้งนี้ พี่ต่อเล่าว่า คุณทองสุข ได้ติดตามพระอุปัชฌาย์ของท่านคือหลวงพ่อสิมมา วัดบ้านหมอ สระบุรี โดยไปกับคุณสิงห์ชัยเพื่อนสนิท เข้าไปในโบสถ์ แต่เนื่องจากอยู่ไกลและที่คับแคบประกอบกับคุณสิงห์ชัยได้ชวนนั่งหลังหลวงพ่อย้อย ห่างเพียงศอก ระหว่างพิธีพุทธาภิเษก คุณทองสุขได้สังเกตขณะหลวงพ่อย้อยนั่งปลุกเสกที่ศีรษะท่านมียุงตัวหนึ่งกัดท่านอยู่นานจนเลือดแดง ตัวอ้วนเปล่ง หลวงพ่อย้อยท่านนิ่งเฉย มีสมาธิแน่วแน่ในการตั้งใจปลุกเสกไม่สนใจยุงตัวนั้น ไม่ตบจนยุงตัวนั้นกินเลือดอิ่มแล้วก็บินไป คิดอยู่ในใจว่าท่านเป็นพระที่ประเสริฐเหลือเกิน มีเมตตาจริงๆ ถ้าเป็นคนอื่นยุงตัวนั้นคงตายไปนานแล้วต่อมาได้ยินเสียงเหมือนระเบิดตึ้งดังสนั่นโบสถ์เหมือนเสียงปืน ทุกสายตามองที่พานแก้วที่วางหน้าหลวงพ่อย้อย สำหรับวางหญ้าคาเพื่อพรมน้ำมนต์ ระเบิดออกแล้วไปรวมกองที่เดียวกันแบบน่าอัศจรรย์ที่ระเบิดแล้วไม่กระจายออกไปที่ไหนเลยรวมตัวกันเป็นกองกระจุกที่เดียว ภาพและเสียงนั้นทำให้ทุกคนในโบสถ์อยู่ในอาการที่นิ่งด้วยความประหลาดใจ แต่ในใจทุกคนทราบว่าต้องมีปาฏิหาริย์เกิดจากการปลุกเสกของหลวงพ่อย้อยแน่นอน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นต่อหน้าคุณทองสุข อ่อนละมัยและคุณสิงห์ชัย แก้วจินดา ก็นึกแปลกประหลาดใจ ปรึกษาคุยกันถึงเรื่องหลวงพ่อย้อยท่านเก่งจริงและมีอะไรดีที่น่าศรัทธามากแน่ๆ เลย

2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2019-9-29 08:13 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้



ด้วยความสนใจจึงได้ถาม “คุณลุงเลี้ยม” ลูกศิษย์ติดตามพระรูปนี้ว่าท่านชื่ออะไรอยู่วัดไหนทำไมเก่งจัง จนได้ความว่าพระรูปที่ตนศรัทธาชื่อ หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน เสาไห้ สระบุรี เมื่อพิธีเสร็จเทียนชัยดับลง หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ประธานในพิธีเดินทางกลับ ระหว่างทางเดินผ่าน คุณสิงห์ชัย ได้ยินหลวงปู่โต๊ะ ได้กล่าวชมกับหลวงพ่อย้อยอีกว่า “ท่านเก่งน้อ” แล้วหลวงปู่โต๊ะเดินทางกลับ ด้วยเหตุการณ์นั้นยังอยู่ในความทรงจำที่ประทับใจและความศรัทธาเป็นอันมาก หลังจากเหตุการณ์ไม่กี่วันท่านพระครูประจักษ์จริยะคุณ (สุนทร สุนฺทโร) ผู้ที่ไม่ค่อยเชื่อเรื่องไสยศาสตร์ง่ายๆ ได้ชวนพระครูวิสุทธิธรรมากร(หลวงตาประยูร)มาหาหลวงพ่อย้อยเพื่อสอบถามว่าพานแก้วสำหรับวางหญ้าคาไว้พรมน้ำมนต์ วางอยู่เฉยๆ แตกได้ยังไง วันหนึ่งความที่คุณทองสุข สงสัยเหตุการณ์ที่วัดไก่จ้นนั้นมานานจึงได้เขียนเป็นตัวหนังสือ (ตอนนั้นหลวงพ่อย้อยท่านได้มีอาการ “หูตึง”) เขียนถามท่านหลวงพ่อย้อยว่า “หลวงพ่อครับทำไมพานแก้วที่วางหน้าหลวงพ่อย้อยตอนปลุกเสกที่วัดไก่จ้นถึงได้แตก” หลวงพ่อย้อย พูดตอบว่า “มีคนลองของเรา ไม่มีใครทำอะไรเราได้หรอก เสียดายที่ทำพานเขาแตกไป” ด้วยคำตอบสั้นๆ อย่างนี้ทำให้คุณทองสุข เห็นว่าหลวงพ่อย้อยท่านมีความเก่งในวิทยาคมกระแสจิตที่แรงมากๆ และมีความดีจริงๆ ชนิดแบบไม่ทำร้ายใครตอบ เพียงแค่สอนมวยให้รู้ว่าเราก็มีดีมีวิชากับเขาเหมือนกัน อย่ามายุ่งมารังแก อย่ามาลองของ แต่ไม่ทำร้ายใคร ไม่โอ้อวดใคร ชอบสงบ หลังจากพิธีนี้หลวงพ่อย้อยไม่รับนิมนต์ไปปลุกเสกที่อื่นอีกเลย (ข้อมูลเหล่านี้ขอขอบคุณพี่ต่อ   เสาไห้สายตรงหลวงพ่อย้อย วัดอัมพวันด้วยครับ)                 ผมจึงขอแนะนำเหรียญดี พิธีใหญ่ครับ เหรียญสมเด็จโต วัดไก่จ้น รุ่นพานแตกครับ เป็นเหรียญสมเด็จ (โต) ที่แกะบล็อกได้สวยที่สุดเท่าที่เคยพบมาตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบันครับ เป็นเหรียญกลมเส้นผ่านศูนย์กลาง 3 ซม. ออก ณ วัดไก่จ้น อ.ท่าเรือ จ.อยุธยา เหรียญนี้สร้างเมื่อปี 2521 เนื่องในงานปิดทองฝังลูกนิมิตวัดไก่จ้น มีอายุการสร้าง 36 กว่าปีแล้วครับ ผมเล่นพระมา 13 ปีเศษ ไม่เคยเห็นเหรียญสมเด็จ (โต) ไม่ว่าจะออกที่ใดก็ตาม จะมีความงามเท่าเหรียญที่ออกวัดไก่จ้นปี 21 ท่านลองพิจารณาจากภาพแล้วนึกดูว่าใช่หรือไม่? ยามหยิบเหรียญขึ้นมามองใบหน้าสมเด็จโตในเหรียญ รู้สึกให้ความสงบสุขอย่างประหลาด เหรียญสมเด็จโตวัดไก่จ้น ปี 21  นี้ เป็นเหรียญดีมีประสบการณ์มาก แต่ไม่ค่อยมีใครรู้กันเพราะขาดแรงเชียร์... ผมจึงหยิบขึ้นมาแนะนำครับ ---ข้อดีประการแรกคือเป็นเหรียญรูปพระอรหันต์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ---ข้อดีต่อมาเป็นเหรียญที่สร้าง ณ วัดซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดของเจ้าประคุณสมเด็จเอง (สมเด็จพระพุทธาจารย์โตท่านถือกำเนิดที่ท่าน้ำวัดไก่จ้น อ.ท่าเรือ ท่านจึงมาสร้างพระนอนองค์ใหญ่ สร้างวัดขึ้นที่ริมแม่น้ำป่าสัก ตรงข้ามวัดไก่จ้นซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนามพระพุทธไสยยาสน์วัดสะตือครับ ---เป็นเหรียญที่มีพิธีพุทธาภิเษกดี มีประวัติถูกบันทึกไว้เป็นที่แน่นอน เนื่องจากเสด็จพระราชดำเนินของพระมหากษัตริย์ในงานครานั้นด้วยพระเกจิที่เข้มขลังในพุทธาคมที่ร่วมปลุกเสกเท่าที่ผมรู้จักและจำได้มี หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี หลวงปู่หน่ายวัดบ้านแจ้ง หลวงพ่อถิรวัดป่าเลไลย์ หลวงพ่อสิมมาวัดบ้านหมอ หลวงพ่อย้อยวัดอัมพวัน และอีกหลายองค์ หลังจากพุทธาภิเษกแล้วหลวงพ่อแพได้ปลุกเสกเดี่ยวอีกครั้งด้วย ---อภินิหารเป็นที่ประจักษ์เริ่มตั้งแต่พิธีพุทธาภิเษกกันเลยทีเดียว คือในขณะที่พระผู้เรืองอาคมกำลังปลุกเสกกันอยู่นั้น พานแก้วหน้าหลวงพ่อย้อยวัดอัมพวันขยับลั่นแล้วลอยขึ้นระเบิดเปรี้ยงเสียงดังสนั่น เหลือเชื่อยิ่งกว่านั้นเศษแก้วที่ควรกระจายจากการระเบิดนั้น กลับร่วงลงมากองรวมอยู่ที่เดิมไม่ได้กระจายออกไปให้เป็นอันตรายแม้แต่ชิ้นเดียว อัศจรรย์ครั้งนั้นเป็นที่เล่าลือเล่าขานทราบกันดีทั่ว อ.ท่าเรือ เหรียญรุ่นนี้ชาวท่าเรือจึงเรียกกันว่าเหรียญหลวงพ่อโตรุ่นพานแตก หลังจากเหรียญออกมาราว 10 ปี มีการไปลองยิงปรากฏว่านัดที่ 1 ไม่ออก นัดที่ 2 ไม่ออก คนที่ยิงก็เกิดป๊อดขึ้นมา (หลวงพ่อโตนั้นชาวท่าเรือนับถือกันมาก คนทำผิดปากแข็งให้สาบานอย่างอื่นเขาอาจจะยอมสาบานแต่ถ้าให้สาบานกับหลวงพ่อโต ไม่มีใครกล้าครับ) เมื่อคนที่ลองยิงกดไปสองนัดไม่ออกเกิดกลัวขึ้นมา บอกว่ากูไม่เอาแล้ว เพื่อนอีกคนก็ด่าว่า...ป๊อดไปได้ ว่าแล้วคว้าปืนจากมือเพื่อจ่อเข้าไปใกล้ๆ เหรียญแล้วเหนี่ยวไก...ตูม! ...ลำกล้องแตก กระดูกข้อมือแตก เมื่อข่าวนี้ถูกเล่าขานกันออกไป เหรียญรุ่นนี้ก็ถูกเรียกว่าเหรียญรุ่นปืนแตกมาตั้งแต่ราวปี 30 กว่าๆ เป็นต้นมา เมื่อมาถึงราวปี 50 หลวงพ่อย้อยวัดอัมพวัน สระบุรี ซึ่งปลุกเสกเหรียญรุ่นนี้จนพานแก้วแตกระเบิด เริ่มโด่งดังขึ้นมามาก พระเครื่องของท่านราคาขยับขึ้นมากและเป็นที่ต้องการของนักสะสม ก็เป็นเหตุให้เหรียญหลวงพ่อโตวัดไก่จ้นนี้มีผู้หันกลับมาเรียกว่าเหรียญรุ่น “พานแตก” เหมือนเดิมอีก ---ดีอีกประการคือมีขนาดพอเหมาะและความสวยงามเป็นเลิศ ---อีกประการคืออายุการสร้างผ่านมา 36 กว่าปีแล้ว แต่ท่านอาจจะพบเจอในราคาเช่าหาอาจจะถูกกว่าพระที่เพิ่งสร้างใหม่ เพราะคนรู้จักกันน้อยครับ ไม่มีคนเชียร์ ทั้งๆ ที่ประสบการณ์เพียบครับ นี่ถึงเป็นสาเหตุที่เหรียญรุ่นนี้ได้รับความนิยมทั้งพื้นที่และคนที่ทราบประวัติครับ
3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2019-9-29 08:14 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2019-9-29 08:15 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้


5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2019-9-29 08:16 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้


6#
 เจ้าของ| โพสต์ 2019-9-29 08:17 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้



7#
 เจ้าของ| โพสต์ 2019-9-29 08:18 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้



ที่มาบทความ..https://www.facebook.com/photo.p ... p;theater&ifg=1
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้