ในสมัยแรกที่พระมหาสมบูรณ์ท่านนิมนต์หลวงปู่สีมาอยู่ที่วัดเขาถ้ำบุญนาค ก่อนที่จะมีกุฏิหลังเล็กที่หน้าปากถ้ำหน้าวัด หลวงปู่สีท่านจะจำวัดอยู่บนก้อนหินที่ในถ้ำ มีอยู่คราหนึ่งหลวงปู่สีท่านไม่สบาย ลุงแตงเล่าให้ฟังว่า ตอนนั้นมีอยู่ ๓คน ที่มานอนเฝ้าหลวงปู่คือ ลุงแตง ทิดสว่าง และลุงขุ่ย นอนกับหลวงปู่ในถ้ำ ช่วงพลบค่ำหลวงปู่ท่านมาสะกิดให้ลุงทั้ง๓ คน ขึ้นมานอนบนก้อนหิน หลวงปู่บอกว่า ” เดี๋ยวเขาจะมาคุยกับหลวงปู่” ในถ้ำแห่งนี้จะมีถ้ำเล็ก ๆ ซอยย่อยออกไปอยู่มากมายหลังจากที่หลวงปู่สีท่านบอกได้ซักพักก็มีตัวอะไรไม่ แน่ใจ เลื้อยออกมาจากถ้ำเล็กที่ปิดไว้ ลำตัวขนาดเท่าลำต้นตาลสีดำ บริเวณหัวมีหงอนสีแดง ยาวเท่าไหร่ไม่รู้เพราะมืด เลื้อยมาชูคอตรงหน้าหลวงปู่สี และหลวงปู่ท่านก็พูดด้วยแต่พูดอะไรกันไม่รู้ สักพักก็เลื้อยออกไปจากถ้ำ ทั้ง ๆ ที่ถ้ำนั้นทำการปิดไว้อยู่ พอสอบถามหลวงปู่ ท่านก็บอกว่า”เขาเป็นผู้รักษาถ้ำนี้และมาขอให้ช่วยรักษาถ้ำนี้ไว้อย่าให้ใคร มาทำลาย” และก็มักจะมีปรากฏการณ์แปลกเกิดขึ้นคือ บริเวณถ้ำหน้าวัดนี้เป็นส่วนหนึ่งของกองภูเขาเล็กที่โรงปูนฯตาคลี จะต้องทำการระเบิดเป็นเศษหิน ไว้สำหรับบดทำปูนซีเมนต์ และเป็นที่ทราบกันดีว่าก่อนจะทำการระเบิดหิน จะต้องมีการเปิดหวอเตือนภัยให้ชาวบ้านละแวกนั้นให้ทราบ เพื่อที่จะไม่เข้ามาเพราะอาจทำให้เกิดลูกหลงจากแรงระเบิดได้ และนับเป็นเรื่องอัศจรรย์ ที่ทุกครั้งจะทำการระเบิดบริเวณใกล้ ๆ ปากถ้ำ คนวางแนวระเบิดแล้วและกำลังจะกดสัญญาณหวอเตือนให้ดัง ระเบิดจะติดก่อนหรือไม่ก็ด้านไปในทุกที หลวงปู่สี
มีพระพุทธรูปในสระน้ำ
หลังจากที่หลวงปู่สีท่านย้ายจากในถ้ำมาอยู่ที่กุฏิหลังเล็กหน้าปากถ้ำ ตรงบริเวณด้านหน้ากุฏิหลังนี้จะมีสระน้ำลึกอยู่ มีอยู่วันหนึ่งหลวงปู่สี ท่านมองไปที่สระน้ำและบอกกับพระอาจารย์สมบูรณ์ว่า ใต้สระน้ำนี้มีพระพุทธรูปเก่าอยู่สององค์ ปีหน้าน้ำในสระจะแห้งให้เด็กในวัดไปงมขึ้นมานะ หลังจากเวลาผ่านไปหนึ่งปี น้ำในสระก็แห้งจริงตามที่หลวงปู่สีท่านได้กล่าวไว้ พระอาจารย์สมบูรณ์ท่านจึงให้เด็กวัดลงไปงมหาพระตามที่หลวงปู่ได้เคยบอกไว้ และปรากฏว่าพบพระพุทธรูปโบราณจริง ๆ ตามที่หลวงปู่สีท่านบอกไว้ทุกประการ
แสนครั้งยังไม่เท่าหนึ่ง(เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับคณะชลบุรีกับหลวงปู่สี) สืบเนื่องจากคณะชาวชลบุรีเกิดความ ศรัทธาหลวงปู่ที่หลวงปู่ได้ไปโปรดที่จังหวัดชลบุรี จึงตามมาหาหลวงปู่ถึงวัด ครั้นพอถึงเวลาฉันเพลแล้ว ชาวชลบุรีก็นำอาหารที่เตรียมมาถวายเพล ท่านก็ลุกขึ้นมานั่งยอง ๆ ฉันอาหาร โดยมีแมวและสุนัขนั่งล้อมหน้าล้อมหลัง ชาวจังหวัดชลบุรีกลุ่มนั้น เมื่อได้เห็นอากัปกิริยาของหลวงปู่เช่นนั้น คือนั่งไม่สำรวม ก็ไม่ศรัทธา จึงได้พากันเดินทางต่อไปยังวัดท่าซุง เพื่อกราบนมัสการหลวงพ่อฤาษีลิงดำ พวกเขาได้เล่าให้หลวงพ่อฤาษีลิงดำฟังถึงหลวงปู่สีว่า “เป็นพระที่ไม่น่านับถือ” แต่หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านกลับตอบไปว่า “กราบฉันแสนครั้งยังไม่เท่าได้กราบหลวงปู่สีครั้งเดียว” ต่อมาภายหลังชาวชลบุรีกลุ่มนี้ก็กลับกลายมาเป็นศิษย์ที่นับถือหลวงปู่สีมาก ที่สุดกลุ่มหนึ่งอย่างไม่น่าเชื่อ และได้สร้างพระถวายหลวงปู่สีอยู่หลายรุ่น ขอขอบพระคุณท่านเจ้าของภาพ เจ้าของบทความ และที่มาเนื้อหาข้อมูลมา ณ ที่นี้ ศิษย์มีครู เพื่อเผยแผ่กิตติคุณเป็นสังฆบูชา
|