ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 1989
ตอบกลับ: 1
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

พระผงพระบาทกบครูบาชัยวงค์

[คัดลอกลิงก์]
                    

พระผงพระบาทกบครูบาชัยวงค์


#ตำนานพระบาทกบ มีพญากบตนหนึ่งได้อาศัยอยู่แถวห้วยแม่ละใกล้ๆ กับพระพุทธบาทห้วยต้มไปทางทิศตะวันออกประมาณ ๕๐ วา ยังมีพระมหาเถระเจ้าองค์หนึ่งได้ท่องธุดงค์มาเรื่อยๆ จนมาพักอยู่ใกล้บริเวณนั้นภายใต้โคนไม้อยู่รุกขมูล ณ ที่แห่งนั้นตกค่ำพระมหาเถระเจ้าก็ได้สวดมนต์หรือเทศนาธรรมสวดมาติกาตามปกติ วันนั้นพญากบได้ขึ้นมาจากห้วยแม่ละมาถึงที่ กบหินอยู่ในปัจจุบัน ก็ได้ยินเสียงพระมหาเถระเจ้าเทศนาธรรมอยู่ก็นั่งฟังด้วยเข้าใจว่าเสียงธรรมที่ได้ยินอยู่นี้คงเป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า เสียงเทศนาธรรมของพระมหาเถระเจ้านั้นสดใสกังวาลไพเราะมากและเข้าอกเข้าใจดี ยิ่งฟังยิ่งซาบซึ้งติดใจเพลิดเพลิน จึงหยุดนิ่งตั้งใจฟังด้วยใจจดจ่อ ไม่ได้สนใจเสียงอื่นใใดเลยคงจับอยู่ในเสียงของพระมหาเถระเจ้าแต่เพียงผู้เดียว

        ในขณะนั้นเองได้มีหมอพรานปลาผู้หนึ่งซึ่งหากินด้วยการจับสัตว์นี้เลี้ยงชีพ พรานนั้นได้เดินมาจนถึงบริเวณที่พญากบฟังธรรมอยู่ พอมาถึงก็ได้ยินเสียงของพระมหาเถระเจ้า ก็เกิดสนใจที่จะเข้าไปนั่งฟัง แต่จะถือเอาฉมวกเข้าไปด้วยก็เกรงว่าจะเป็นการไม่สมควรจึงได้ปักเหล็กแหลมทิ่มเข้าไปในพุ่มไม้ไปโดนใส่พญากบโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะไม่รู้ว่ามีพญากบอยู่ตรงนั้น พญากบนั้นแม้ถูกเหล็กทิ่มแทงก็ไม่ได้รู้สึกตัวเพราะกำลังเพลิดเพลินในธรรมนั้นอยู่
        เมื่อหมอพรานเดินเข้าไปฟังธรรมเทศนาจนจบและรับศีลรับพรเรียบร้อยแล้ว ก็กราบลาพระมหาเถระเจ้าและเดินไปเอาเหล็กแหลมที่ปักไว้ จึงได้เห็นว่าเหล็กนั้นแทงใส่กบจนตาย ก็ถอนพลางร้องว่า "โอ้หนอ....เหล็กนี่แทงถูกกบตายเสียแล้ว"

ส่วนพระมหาเถระพอได้ยินเสียงเข้า จึงได้เดินไปดู ท่านก็พิจารณาแล้วก็บอกว่า "อ้าว..หมอพรานทำไมแทงใส่กบ กบนี่ไม่ใช่กบธรรมดา มันเป็นพญากบมาดักนิ่งฟังธรรมเทศนาอยู่" หมอพรานก็บอกว่า "ข้าพเจ้าไม่รู้ ไม่เห็นว่าพญากบอยู่ที่นี่...."

พระมหาเถระเจ้าก็เกิดสงสารกบตัวนั้น จึงได้ตั้งสัจจะอธิษฐานเอาเท้าเหยียบหลังกบให้เป็นรอยพระบาทไว้ให้เป็นอนุสรณ์ต่อไปในภายหน้า ต่อมาพญากบตัวนั้นได้กลยเป็นหินเป็นรูปร่างกบ มีรอยพระบาทประทับอยู่ที่หลัง

        พญากบตัวนั้นเมื่อถูกแทงก็ไม่รู้ตัวว่าตาย มารู้สึกตัวอีกทีก็กลายเป็นเทพบุตรเสวยสุขอยู่ในชั้นฟ้าดาวดึงส์มีนามว่า เมณฑกะเทวบุตร มีปราสาทสูง ๑๒ โยชน์ กว้าง ๑๒ โยชน์ มีเทพยดาเป็นบริวารมากมาย ทั้งนี้เนื่องจากบุญที่ได้ตั้งใจฟังเทศนาธรรม

        เสวยสุขมาจนถึงสมัยของ พระโคตมะพุทธเจ้า (สมัยของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน) จักลงมาเกิด เมณฑกะเทวบุตรได้ลงมาเกิดก่อนเป็นมหาเศรษฐีมีชื่อว่า เมณฑกะมหาเศรษฐี หรืออีกนามหนึ่งคือ ท่านอนาถบิณฑกะเศรษฐี เป็นใหญ่กว่าเศรษฐีทั้งหมดอยู่รอพระโคตมะพุทธเจ้า.....
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้