ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 1928
ตอบกลับ: 1
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

เมื่อสมเด็จวังบูรพาทรงขอตัว “นายศร” (หลวงประดิษฐ์ไพเราะ)

[คัดลอกลิงก์]
วันนี้ขอนำเสนอเรื่องราวเมื่อครั้ง นายศร บุตรคนสุดท้องของของนายสินและนางยิ้ม แห่งบ้านอัมพวา เมืองสมุทรสงคราม ได้ถวายตัวเป็นมหาดเล็กในสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช มาเล่าสู่กันฟังดังนี้
“ในสมัยนั้น การดนตรีไทย คือปี่พาทย์ เป็นที่นิยมยกย่องมาก เจ้านายและขุนนางชั้นผู้ใหญ่ เมื่อมีงานสำคัญๆ ต้องมีปี่พาทย์ ประชันวงประดับพระเกียรติ นักดนตรีจะต้องแสดงฝีมือด้วยการบรรเลงเพลงเดี่ยวประกวดกันเสมอ ครั้งหนึ่งในงานคล้ายวันเกิดของเจ้าจอมสำลี จอมมารดาในสมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า นายศรได้แสดงฝีมือเดี่ยวเพลงกราวในเถา ซึ่งมีวิธีบรรเลงยากมาก ต้องใช้เวลาแสดงนานประมาณ ๑ ชั่วโมง จึงจะจบเพลง นายศรบรรเลงได้อย่างดียิ่งเป็นที่พอพระทัยของเจ้านายที่เสด็จมาในงานนั้นเป็นอันมาก ได้รับประทานรางวัลจากสมเด็จกรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ และเจ้านายอื่นอีกหลายพระองค์
ต่อจากนั้น การแสดงฝีมือของนายศร ได้เป็นที่สนใจของบรรดาผู้ที่รักการดนตรีไทยทั้งหลายมากขึ้น จนในวันหนึง สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช (เวลานั้นเป็นสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ ในรัชกาลที่ 5 : รอยใบลาน) เสด็จไปบัญชาการรับเสด็จสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง (รัชกาลที่ ๕) เสด็จพระราชดำเนินประพาสถ้ำเขางู จังหวัดราชบุรี สมเด็จเจ้าฟ้าฯ ได้ทรงทราบฝีมือนายศรว่าเล่นดนตรีดีมาก ได้รับสั่งให้หาตัวและขอดูตัว เมื่อได้ทรงฟังฝีมือบรรเลงเพลงของนายศรแล้วทรงพอพระทัยเป็นอันมาก ทรงขอตัวนายศรจากท่านบิดาให้เข้ามาเป็นมหาดเล็กในพระองค์ ขณะนั้นนายศรอายุได้ ๑๙ ปี
เมื่อสมเด็จเจ้าฟ้าฯ ทรงขอตัวนายศรจากท่านบิดาแล้ว ทรงโปรดชุบเลี้ยงให้อยู่ในวังบูรพาภิรมย์ ทรงแต่งตั้งเป็นที่จางวางมหาดเล็กในพระองค์ ได้ทรงพระกรุณาให้อุปสมบท ณ วัดบวรนิเวศวิหาร ๑ พรรษา โดยสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ทรงเป็นพระอุปัชฌาย์ ต่อจากนั้น ทรงพระกรุณาจัดการแต่งงานให้กับ น.ส. โชติ หุราพันธ์ ธิดา พันโท พระประมวญประมาณพล จางวารศรได้ตั้งปฏิบัติหน้าที่สนองพระกรุณาด้วยความจงรักภักดีอย่างสุดความสามารถตลอดมา…”
กล่าวกันว่า เมื่อนายศร ตีระนาดถวายสมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช ทรงพอพระทัยมาก ถึงกับยังตีเพลงเดี่ยวกราวในยังไม่ทันจบ ได้ทรงถอดพระธำมรงค์ประทานแก่นายศร และตรัสขอตัวจากบิดาให้ตามเสด็จเข้าวังในทันที โดยหลวงประดิษฐ์ไพเราะ ได้บันทึกเหตุการณ์สำคัญในชีวิตของท่านไว้ว่า
“ปีกุน ร.ศ.๑๑๘ เจ้าเมืองสมุทรสงครามให้นายอำเภอ คือ ขุนราชปุการ เชย ไปหาบิดาที่บ้าน บอกว่าสมเด็จวังบูรพาฯ ให้ไปตีระนาดถวายที่เขางู เมืองราชบุรี ออกจากบ้านมา ก็เลยเข้ามาอยู่ที่กรุงเทพฯ ทีเดียว ไปตามเสด็จเมืองพิษณุโลก หล่อพระพุทธชินศรีกลับลงมา รุ่งขึ้น ร.ศ.๑๑๙ เดือนยี่ทำการสมรสที่บ้านหน้าวัง ในปีนี้ท่านบิดาถึงแก่กรรม”
“…ความสามารถของท่านทำให้สมเด็จวังบูรพาโปรดปรานมาก ได้ทรงจัดการอุปสมบทและแต่งงานประทานให้ เมื่อเกิดบุตรชายหัวปี ๒ คนแรก ก็ทรงรับไปเลี้ยง แต่ถึงแก่กรรมเสียตั้งแต่ยังเด็ก ครั้นมีลูกคนต่อๆ มา ท่านจึงต้องปิดเป็นความลับ ไม่ทูลให้ทรงทราบด้วยอยากจะเลี้ยงเอง และก็ปรากฎว่า เลี้ยงรอดจนเจริญเติบโตเป็นนักดนตรีต่อมา สมเด็จวังบูรพาทรงเคี่ยวเข็ญให้ฝึกซ้อมอย่างหนัก พยายามหาครูมาสอนจนแม้แต่ครูเอง สอนไม่นานก็รู้ตัวว่าลูกศิษย์นั้นปราดเปรื่องไม่มีใครสู้และสอนจนสิ้นฝีมือแล้ว ปรากฎว่าลูกศิษย์มีฝีมือเลยหน้าครูต่อไปอีก
ทำให้วังบูรพามีชื่อเสียงว่า มีวงปี่พาทย์ฝีมือเยี่ยมที่สุดในสมัยปลายรัชกาลที่ ๕ ถึงกระนั้นสมเด็จวังบูรพา ก็ยังทรงบังคับให้ฝึกซ้อมเพื่อที่จะให้ได้ชื่อว่าคนของท่านเก่งที่สุด ไม่มีใครสู้ได้ ทำให้อาจารย์หลวงประดิษฐ์ไพเราะรู้สึกท้อถอยหลายครั้ง บางครั้งถึงกับทรงกริ้ว เมื่อท่านฝึกซ้อมไม่ได้ผลเป็นที่พอพระทัย มีของสิ่งใดอยู่ใกล้พระหัตถ์ เช่น ทรงหยิบปี่งา ได้ก็ฟาดลงไปบนศีรษะคุณหลวงฯ ทั้งนี้ ด้วยทรงรักใคร่และอยากให้คุณหลวงได้ดีเกินหน้านักดนตรีทั้งหลายในยุคนั้น บางครั้งคุณหลวงท่านก็น้อยใจหนีกลับบ้านที่สมุทรสงครามก็มีรับสั่งให้มหาดเล็กไปตามกลับมาอีก สำหรับปี่งาเลาที่ทรงใช้ตีคุณหลวงฯ นั้นได้ทรงสลักข้อความลงบนเลาปี่แล้วประทานให้เป็นของขวัญ…”
(สยามรัฐ ๗ มีนาคม ๒๕๒๔ : พูนพิศ อมาตยกุล)
ที่มาจาก เรื่องเล่าของรอยใบลาน

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้