ประสบการณ์สยอง

oustayutt

   **เรื่องนี้ผมเจอกับเพื่อนสนิทที่ จ.สระบุรี คือผมทำงานอยู่สระบุรี แถวๆห้างแม็กโครสระบุรี ซอยข้างๆ โรงแรม สระบุรีอินน์
บริษัทที่ผมทำงานอยู่ มีห้องพักให้พนักงานและครอบครัวอยู่ฟรีโดยไม่เสียแม้แต่ ค่าน้ำ ค่าไฟ (เงินเลยเหลือเยอะ ^^) ที่นี้ผมมีเพื่อนสนิทอยู่คนหนึ่ง ชื่อ แมน ซึ่งเหมือนก่อนมันกับผมเกลียดหน้ากันมาก (เพราะผมเคยไปจีบน้องสาวมัน) แต่เอาไปเอามา ดันมาเป็นสนิทกันซะงั้น... สนิทมากจนคนอื่นชอบแซวว่าผมกับมันเป็นคู่เกย์ O_o เราไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด ไม่เคยพลาดเลยซักครั้ง....
      เรา 2 คน เป็นสาวกเกมส์ Online เกมส์หนึ่ง ซึ่งถ้าวันไหน ไม่ได้ทำ OT เราจะชวนกันไปร้านประจำ ที่อยู่ข้างหลังบริษัท.... แต่มันมีทางรถไฟตัดผ่าน เราเลยต้องเดินข้ามไป เพราะถ้าขับรถไป มันอ้อมไกลมากๆ พอข้ามทางรถไฟมา ก็จะเป็นถนน ที่ทะลุไปออก ต.ตาลเดียว ออก แก่งคอยได้ พวกเราก็เดินริมถนนไปหน่อย ก็เจอวัด ซึ่งมีซอยเล็กๆ เข้าไปถึงร้านเกมส์
    แต่ไอ้ซอยเล็กๆ นี่มันอยู่ติดวัด แล้วตรงนั้นมี เมรุ หน้าเมรุจะเป็น ลานกีฬาที่ อบต.มาสร้างไว้ ซึ่งพวกเราก็เดินผ่านกันทุกวี่ทุกวัน เวลาผมเล่นเกมส์ก็จะเล่นจนร้านปิด คือเที่ยงคืน แล้วก็เดินกลับมาตามทางนั้นแหละครับ.... ไม่เคยเจออะไร จนวันนั้น...
    เที่ยงคืน เราออกจากร้านมาเหมือนทุกวัน ก่อนจะถึงลานกีฬาข้างวัด อยู่ดีๆ เพื่อนผมก็หยุดเดิน แล้วเพ่งมองไปตรงเครื่องออกกำลังกายอันหนึ่ง ผมเลยถามมันว่า "เป็นอะไร เห็นผีหรือไง" (คือเพื่อนผมคนนี้ มีเซ้นต์) มันก็พยักหน้าแล้วบอกว่า มันเห็นเหมือนเด็ก 2 คน ยืนแกว่ง (เครื่องตามรูปด้านบน ซึ่งขอเรียกง่ายๆ ว่า "ชิงช้า" ละกันนะครับ) ผมก็มองตามมันไป แต่ไม่เห็นอะไร ผมเลยบอก "ป่ะ เดินไปดูกัน" เราก็เดินไปได้ 4-5 ก้าว มันบอกว่า หายไปแล้ว เห็นแวบบๆว่าลอยหายไปหลังเมรุ (ตอนนั้นคิดว่า มันอาจจะอำเล่นก็ได้)
พอเราเดินไปถึง ชิงช้า อันนั้น.... เราก็เห็น มันแกว่ง !!!! มันแกว่งอยู่ทั้งๆที่ไม่มีใคร มันแกว่งเพียงแค่ข้างเดียว มันแกว่งด้วยแรงสม่ำเสมอ นาที่นั้นทั้งผม ทั้งมัน อี้งครับ คือหาคำตอบไม่ได้ว่าเกิดจากอะไร ตอนนั้นกลัวนะครับ แต่ไม่ได้กลัวจนสติแตกขนาดนั้น
    ถามว่า เห้ย...ลมพัดหรือเปล่า บอกเลยครับ ตอนนั้นไม่มีลม และต่อให้มีมันคงไม่แรงขนาดที่ว่าจะทำให้เหล็กแบบนั้น ขยับได้... หรือสมมุติว่าถ้าลมมันทำได้ ทำไมมันแกว่งข้างเดียว...
พวกผมยื่นดูมันประมาณ 5 นาที มันก็ยังไม่เบาลงตามแรงเฉื่อยแบบที่มันควรจะเป็น พวกเราเลยตัดสินใจ ว่า จะอยู่ดูมันอีกสักพัก เลยนั่งเลยครับ ริมถนนตรงนั้นแหละ.... ผ่านไป 10 นาที พวกเราสูบบุหรี่หมดกันคนละมวน มันก็ยังแกว่งของมันอยู่อย่างนั้น บร๊ะเจ้า!!!
จนผมง่วงอ่ะครับ เลยชวนมันเดินกลับห้อง.... ก่อนจะหลับสายตา ยังหันกลับไปมองมันอีกครั้ง.... คุณว่ามันยังแกว่งอยู่ไหม ??
   ถูกต้องครับ... มันยังแกว่งอยู่  จนวันนี้ก็ยังไม่รู้ว่า สรุปแล้วมันเกิดจากอะไร...

* เรื่องที่เกิดขึ้น ขอยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงทั้งหมด
** โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

oustayutt

  นอกจากงานบริษัทที่ทำประจำอยู่ที่ สระบุรี แล้ว.... งานอีกอย่างหนึ่งที่พวกเราทำคือ "เป็นอาสาสมัครกู้ภัย" เป็นงานที่ทำด้วยใจ ไม่ได้เงิน แต่ได้บุญ ^^
กู้ภัยก็ทำแทบทุกอย่างตามที่ชาวบ้านจะร้องเรียนมา ตั้งแต่ จับงู , ช่วยน้องหมา , แจกมาม่าตอนน้ำท่วม ไปจนถึงการ "เก็บศพ"
(นั้นคือเหตุผลที่ทำให้พวกเราไม่ค่อยกลัวผี แต่ไม่ใช่ไม่กลัวเลยนะครับ)
   แล้วในแต่ละปี จะมีกิจกรรมบำเพ็ญประโยนช์เพื่อสังคม โดยต้องไปร่วมกับ ศูนย์ที่เป็นเครือข่ายเดียวกัน แต่อยู่ต่างจังหวัด ส่วนใหญ่จะเป็นการ ล้างป่าช้า , ล้างสุสานศพไร้ญาติ ปีนั้นพวกเราไปที่ ชลบุรี มีอาสา ฯ ไปทั้งหมด ประมาณ 30-40 คน ตอนนั้นนอกจากผมกับเพื่อนแล้ว ยังมีเพื่อนรุ่นน้องที่บริษัทขอไปด้วยอีก 2 คน พวกเราออกจากศูนย์ ฯ สระบุรี ตอน 4 ทุ่มกว่าๆ นั่งกะบะหลังรถพี่ ที่เป็นหัวหน้าจุดที่พวกเราประจำอยู่ (กู้ภัยเค้าจะแบ่งพื้นที่รับผิดชอบเป็นจุดๆ เวลามีเหตุตรงไหน พนักงานวิทยุประจำศูนย์ ฯ จะ ว. มาบอก แล้วจุดไหนอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ ก็ต้องไปถึงก่อน)
รถวิ่งไปทาง ปราจีนบุรี ผ่าน นครนายก วิ่งกันไปเป็นแถวๆ เปิดไฟผ่าหมากวิ่งไป...
   ไปถึงศูนย์ ฯ ที่ชลบุรี ตอนเช้ามืด หลังจากนั้นทุกคนก็นอนหลับเอาแรง แล้วต้องรอ อาสา ฯ จากที่อื่นมาสมทบอีก
พวกเราตื่นมา ตอน 8 โมงเช้า หลังจากล้างหน้าล้างตา ก็กินข้าว แล้วมาประชุมถึงแผนงาน ตามแผนเดิม จะต้องไปทั้งหมด 3 ที่ 3 สุสาน แต่พอเอาเข้าจริงๆ มีคนมาเยอะมากกกกกก ทั้งอาสา ฯ ทั้งคนทั่วไป ประมาณ 250+ คน เลยต้องเปลี่ยนแผนใหม่ โดยให้แบ่งเป็นกลุ่มๆ ไปกลุ่มละที่ พวกเราก็ อ่ะ.. Ok เราไปที่วัดแห่งหนึ่ง แถวๆศูนย์ ฯ แหละครับ ไม่ไกลมาก วัดนี้มีหลุมฝังศพไร้ญาติ
    พอไปถึงก็มีพระจีน พระไทย มาทำพิธีอะไรซักอย่าง เสร็จแล้วก็เปิดหลุมครับ คือหลุมมันเป็นบ่อซีเมนต์ก่อขึ้นมา ขนาดเท่าตัวคน สิ่งที่ต้องทำคือ นำศพออกมาล้างทำความสะอาด ส่วนหญ่เหลือแต่กระดูกแล้วครับ เลยง่ายหน่อย (ถ้าศพฉีดน้ำยาไว้ ยังไม่เน่า ก็อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เขา) หลังจากทำความสะอาดแล้ว กระดูกจากหลุมไหน สามารถประกอบเป็นร่างได้ ก็ประกอบแล้วจะมี พระ มาสวดเป็นร่างๆ ไป
พวกเราเสร็จจากวัดนั้นตอนบ่ายๆ แต่ยังคึกกันอยู่ เลย ว. ไปถามอีกสุสานหนึ่งกะว่าจะไปช่วย แต่ทางนั้นบอกว่า คนเยอะแล้ว เยอะจนบางคนไม่มีอะไรทำ  เราเลยขอตัวกลับก่อน แต่จริงๆ ไม่ได้กลับหรอกครับ ไปเล่นน้ำที่พัทยา บางคนก็นอน บางก็เล่นน้ำไปตามประสา....
    4 โมงเย็น พวกเราก็ขับรถออกมาจากหาด คราวนี้กลับจริงๆ รถพี่ที่เรานั่งอยู่คันหลังสุด ก็ขับตามกันไปเหมือนเดิม แต่ทีนี้ รถคันหน้าพาหลงทาง วิ่งวนกันจน 2 ทุ่มครึ่ง ก็หลุดออกมานครนายก ซึ่งฝนพึ่งหยุดตก ตกแรงมาก เพราะเห็นกิ่งไม้เล็กๆ ร่วงตามถนน ไฟดับด้วยเพราะมืดไปหมด ขับไปได้สักพัก คันหน้าก็ ว. มาบอกว่า มีต้นใม้ล้มขวางถนนอยู่ รถยนต์ผ่านไม่ได้ กู้ภัย(ประจำจังหวัดนั้น) กำลังตัดอยู่..... อ่ะ พวกเราก็จอดรอ คุยกันไปเรื่อย ตอนนั้นมี มอ' ไซค์ขับมา 3 คัน มาจอดข้างๆรถเรา เป็นสาวประเภท 2 ทั้งหมด เจ๊แกถามพวกเราประมาณว่า ไปไหนกันมาหรอ มากันตั้งเยอะ แล้วทำไมมานั่งเบียดกันอยู่คันเดียว 6-7 คน
    ตอนนั้นพวกเราก็หูพึ่งเลย...... แบบว่า หืมมม 6-7 คน กรูว่าพวกกรูมาแค่ 4 นะ แต่ยังไม่ทันได้ถามอะไรต่อ เจ๊แกก็ขับรถออกไป พวกเราก็มาคุยกันว่า เจ๊แกเห็นพวกเรามา 6-7 คนจริงหรอ หรือแกอำเล่น กะลังคุยๆ รถก็วิ่งต่อได้พอดี แล้วตอนที่วิ่งผ่าน ตรงที่กู้ภัยเค้าตัดต้นไม้เค้าก็โบกมือให้พวกเรา แล้วตะโกนบอกเหมือนเจ๊นั้นเลย ประมาณว่า ขับรถดีๆนะครับ แล้วน้องไปนั่งเบียดกันทำไมตั้งหลายคน ไม่ไปคันอื่นบ้างละ
พวกเราก็มองหน้ากัน คิดในใจว่า เจ๊แกไม่ได้อำแล้วมั้ง เลยนั่งปรึกษากันมาตลอดเรื่องที่เค้าพูด  สุดท้ายก็ได้ข้อสรุปว่า เขา (ผี , วิญญาณ) อาจจะตามมาส่งพวกเราก็ได้
    เรากลับถึงศูนย์ ฯ ตอนเที่ยงคืนพอดี รู้สึกดีครับ รู้สึกได้บุญมาก ถึงใครอาจจะมองว่าเป็นงานไม่ดี แต่อย่างน้อยพวกเราก็ได้ทำอะไรให้คนตายเป็นครั้งสุดท้าย....

* เรื่องที่เกิดขึ้น ขอยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงทั้งหมด
** โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน