หินหมากเป้งเป็นหินศักดิ์สิทธิ์สามก้อนอันเป็นที่มาและความหมายของวัดแห่งนี้ หลวงปู่เทศก์ได้กล่าวถึงหินหมากเป้งเอาไว้ว่า หินหมากเป้งเป็นชื่อหินสามก้อนซึ่งตั้งเรียงรายกันอยู่ท่าน้ำริมฝั่งโขง ภายในบริเวณวัดมีรูปลักษณะคล้ายลูกตุ้มชั่งทองคำสมัยเก่า คำว่าลูกตุ้มชั่งชาวบ้านแถบนี้เรียกว่าเต่งหรือเป้งย้อยหรือหมากเป้ง คนแก่คนเฒ่าเล่าสืบต่อกันมาว่า หินหมากเป้งก้อนที่อยู่เหนือน้ำเป็นของหลวงพระบาง หินหมากเป้งก้อนกลางเป็นของบางกอกหรือกรุงเทพ หินหมากเป้งก้อนใต้เป็นของเวียงจันทน์ ต่อไปในการข้างหน้ากษัตริย์ทั้งสามนครจะมาสร้างหินหมากเป้งบริเวณนี้ ให้เจริญรุ่งเรือง ความดังกล่าวคงเป็นผู้มีญาณวิเศษพยากรณ์ไว้เป็นแน่ จากสภาพป่าดงดิบเมื่อการก่อนนี้ บัดนี้อาณาบริเวณก้อนหินศักดิ์สิทธิ์สามก้อนเจริญรุ่งเรืองกลายเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจพุทธศาสนิกชนทั้งหลายดังที่ปรากฏ ภายหลังจากหลวงปู่เทสก์ เทสก์รังสี มรณภาพคณะศิษย์ได้พร้อมใจกันสร้างหุ่นขี้ผึ้งรูปเหมือนหลวงปู่เทสก์ขึ้น และอัญเชิญพระอัฐิธาตของหลวงปู่เทสก์บรรจุบนหลบแก้วครอบไว้เพื่อเป็นตัวแทนของดวงประทีบแหล่งลุ่มน้ำโขง พระธรรมคำสอนและวัตรปฏิบัติของหลวงปู่เทสก์ ให้พุทธศาสนิกชนทั้งใกล้ไกลได้มาเที่ยวชมวัดหินหมากเป้งได้ศึกษาและปฏิบัติ อาณาบริเวณวัดหินหมากเป้งและลุ่มน้ำโขงแถบนี้เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ แม้เมื่อครั้งอดีตคนเฒ่าคนแก่บอกว่า บริเวณวัดหินหมากเป้งเป็นดินแดนเถื่อนและอาถรรพ์ที่ไม่ค่อยจะมีใครกล้าย่างกลายเข้ามาใกล้ ชีวิตคน ชีวิตสัตว์ป่าได้เคยสังเวยมานับศพไม่ถ้วนแล้ว ณ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้มักมีเรื่องราวกล่าวขานเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับมหัศจรรย์ เกี่ยวกับเหล่ากายทิพย์เทวดาพญานาคกับพระอริยะสงฆ์ซึ่งเรามักจะเคยได้ยินเสมอๆ ทั้งจาการบอกเล่าไว้ของอริยะสงฆ์เองและจากสัจจานุสิตนำมาบอกเล่าต่อๆกันว่า พระอริยะสงฆ์ท่านสามารถติดต่อกับเหล่าเทพ เทวดา พญานาคทั้งหลายได้ด้วยญาณวิเศษและบรรดาเทพ เทวดา พญานาคเหล่านั้น ต่างก็มาก็เข้ามาคอยรับฟังธรรมะจากพวกท่านอยู่เสมอ
|