บารมีพระยาตากพระคาถาหักหาญผลาญศัตรู

oustayutt

บารมีพระยาตาก

ชาวเมืองตากทุกคนถือเสมือนว่าสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชคือพระบิดาแห่งชาวตาก เพราะก่อนที่กรุงศรีอยุธยาจะแตกทรงเป็น “พระยาตาก”ปกครองเมืองตากให้ร่มเย็นเป็นสุข

พ่อของไพฑูรย์เคยเล่าให้ฟังว่า ชุมโจรร้ายที่เคยอาละวาดปล้นฆ่าชาวบ้านเมื่อพระยาตากมาเป็นเจ้าเมืองได้ดูถูกว่าขุนนางผู้ดีจากกรุงศรีอยุธยาหรือจะมาปราบโจร มาให้โจรปราบมากกว่ายิ่งรู้ว่าเป็นขุนนางที่มีเชื้อสายจีนด้วยก็ต่างเปรียบเทียบว่าเป็น”งิ้ว” ที่มาเปิดโรงแสดงให้เห็นขบขัน เมื่อพระยาตากออกประกาศไปติดไว้สี่มุมเมืองว่า

oustayutt

พ่อของไพฑูรย์เคยเล่าให้ฟังว่า ชุมโจรร้ายที่เคยอาละวาดปล้นฆ่าชาวบ้านเมื่อพระยาตากมาเป็นเจ้าเมืองได้ดูถูกว่าขุนนางผู้ดีจากกรุงศรีอยุธยาหรือจะมาปราบโจร มาให้โจรปราบมากกว่ายิ่งรู้ว่าเป็นขุนนางที่มีเชื้อสายจีนด้วยก็ต่างเปรียบเทียบว่าเป็น”งิ้ว” ที่มาเปิดโรงแสดงให้เห็นขบขัน เมื่อพระยาตากออกประกาศไปติดไว้สี่มุมเมืองว่า

“พวกโจรร้ายทั้งหลายมีทางเลือกอยู่สองทาง ทางแรกออกมามอบตัวเพื่อรับโทษ เพื่อปรับตัวเป็นคนดี ทางที่สอง รอรับมือทหารที่จะไปทำการปราบปรามด้วยการประหารถ่ายเดียวไม่มีการรามือ”

พวกโจรเร่งอาละวาดหนักขึ้นเพื่อให้เห็นว่าไม่กลัวคำประกาศของพระยาตาก พระยาตากให้สายสืบที่นำมาจากกรุงศรีอยุธยาฝึกงานที่เรียกว่า “ย่องดอด” (ไพฑูรย์ว่าหากจำไม่ผิดต่อมาสุนทรภู่มาเขียนเป็นตัวละครชื่อย่องตอดในเรื่องพระอภัยมณี) หมายถึงการเข้าไปปะปนในหมู่โจรและสายโจรเพื้อนำความในออกมาให้ทางการรู้ เพื่อหาทางเข้าไปปราบ

พ่อบอกว่าหากไม่ได้พวกย่องดอดแล้วการเข้าตีชุมโจรและการสกัดการปล้นจะทำได้ลำบากแม้ทางทหารของเจ้าเมืองตากจะมีฝีมือแต่การเข้าตีแบบคนตาบอดนั้นมีแต่สูญเสีย เมื่อได้เวลาอันสมควร พระยาตากให้นายทองดี ฟันขาว (จ้อย)ต่อมาได้เป็นพระยาพิชัยดาบหัก ตอนนั้นเป็นหลวงพิชัยอาสาควบคุมกองทะลวงฟันดาบสองมือเป็นหน่วยกล้าตาย

พระยาตากคุมพลปืนทั้งที่เป็นทหารไทยและอาสาโปรตุเกสมีปืนใหญ่ขนาดเล็กบรรทุกเกวียนไปพร้อมกับจังกา ปืนใหญ่ขนาดเล็กนั้นไทยมีประสบการณ์มาจากสมัยศึกตะเบงชเวตี้ว่าพม่าใช้ปืนใหญ่ขนาดเล็กตั้งยิงบนหลังช้างทำลายค่ายคูประตูหอรบของฝ่ายไทยเสียหายยับเยินมากกว่าปืนใหญ่ขนาดมาตรฐานจึงซื้อเข้ามาใช้ในราชการ

หน่วยปืนใหญ่ขนาดเล็กของพระยาตากทำหน้าที่ยิงเบิกทางเพื่อเปิดการรุกของทหารภาคพื้นดิน หน่วยย่องดอดจะทำแผนที่ตั้งของชุมโจรส่งมาให้กับทางราชการเพื่อศึกษาและวางแผนเข้าตี ด้วยยุทธวิธีแบบก้าวหน้านี้สามารถทำลายชุมโจรใหญ่ที่เป็นหลักชัยของพวกโจรลงได้โดยเฉพาะชุมโจร ” เส่งหม่อง ” พม่าเชื้อสายไทยใหญ่ทีมีวิชาอาคมแก่กล้าก็ไม่อาจรอดการวางแผนล้อมจับกุมของพระยาตากได้เพราะย่องดอดได้ทำแผนที่ทางลับส่งมาให้พร้อมกับแผนที่ชุมโจร

oustayutt

เส่งหม่องถูกจับเป็นด้วยการใช้ตะลุมพุกตีเพราะอาวุธไม่อาจผ่านเนื้อหนังของเส่งหม่องเข้าไปได้ เมื่อถูกพิจารณาคดีเป็นสัตย์แล้วจึงให้ประหารชีวิตเส่งหม่องด้วยการนั่งสวนหลาวไม้ไผ่อันเป็นการประหารผู้ที่อยู่ยงคงกระพัน พ่อเล่าให้ไพฑูรย์ฟังว่า

“ให้นำหลาวไม้ไผ่ปลายแหลมเฉลียงฝังโคนลงไปในดินให้ปลายหลาวโผล่ขึ้นมาจากดินเป็นความยาวประมาณจากปากทวารหนักขึ้นไปถึงยอดอกของนักโทษประหาร เมื่อจะประหารนักโทษให้เอาผ้าผูกตาให้นั่งพนมมือถือดอกไม้ธูปเทียน มัดข้อมือสองข้างติดกัน ให้เหยียดเท้าไปข้างหน้ามัดข้อเท้าให้มั่น

จึงให้หามไปยังที่ประหารยกตัวขึ้นให้รูทวารตรงกับปลายไม้รวกแหลม ให้เพชฌฆาตสองคนกดไหล่ของนักโทษประหารลงไปบนปลายหลาวให้ตรงกับรูทวารหนักจึงกดกระแทกพร้อมกันปลายหลาวไม้รวกจะสวนรูทวารหนักขึ้นไปถึงลำไส้ใหญ่จนถึงลิ้นปี่ นักโทษจะตายเพราะเลือดตกในท่วมปอดและหัวใจ”

การประหารแบบนี้ทำให้เกิดความน่าสยดสยองพองขนแก่ผู้ได้พบเห็น และ พวกโจรใหญ่น้อยที่เหลืออยู่ ดันให้รีบมามอบตัวยอมใช้กรรมดีกว่าจะตายแบบสวนทวารด้วยหลาว ไพฑูรย์บอกว่า ต้นแผ่นดินแห่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อทรงเป็นยุวกษัตริย์ พระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ เป็นผู้สำเร็จราชการท่านเจ้าพระยาฯ บัญชาการ ให้ทหารหลวงตามล่าไอ้อ่วม อกโรย จอมโจรปล้นฆ่าฉุด ลูกสาว มาข่มขืนทำเมียได้ทั้งเป็น จึงนำมา พิจารณา โทษ ให้ทำการประหารให้ตายตกตามกันไป กับผู้ ที่ได้ปล้นฆ่าข่มขืน

ท่านเจ้าพระยาฯ มิได้ใช้ การประหารด้วยการใช้ดาบตัดศีรษะ แต่เปลี่ยนเป็นให้นอนบนเขียงไม้มะขามขนาดใหญ่ เอาขวานจามผ่าหน้าอกให้แบ่งออกเป็น 2 ซีกทั้งเป็น ศพประจานะจานส่วนอีกรายหนึ่ง ให้ใช้เลื่อย เลื่อยให้ขาด 2 ท่อน นับแต่นั้นมาก็ไม่มีโจรปล้นฆ่ารายใหญ่อีกเลย นี่คือการเชือดไก่ให้ลิงดูโดยแท้

หลังจากปราบปรามโจร ราบคาบสร้างความสงบให้กับเมืองตาก พระยาตาก ได้ทำนุบำรุง วัด ดอน แก้ว สถานที่ที่ได้เสี่ยงสัตย์อธิษฐานว่า คำทำนายของซินแซ เมื่อตอนที่พระยาตาก ได้บวชเป็นพระภิกษุ จริงหรือไม่ ก็อธิษฐาน ไม่นานเกิดโจรผู้ร้ายชุกชุมที่เมืองกำแพงเพชร สมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์จึงมีพระบรมราชโองการ ให้พระยาตากเดินทางขึ้นมากรุงศรีอยุธยา พระราชทานยศให้เป็น ” พระยาวชิรปราการ” ไปปกครองเมืองกำแพงเพชร แต่ถูกพม่าล้อมกรุงไว้ก่อน จะได้เดินทางไปรับตำแหน่งใหม่ จนที่สุดทรงพาทหารคู่ใจ ฝ่าวงล้อมพม่าข้าศึกออกไปทำสงครามกู้ชาติหลังกรุงแตก

oustayutt

พระยาตากจะเดินทางออกจากเมืองตากได้แวะไปนมัสการ ขรัวเฒ่า วัดดอนแก้ว ขรัวเฒ่าวัดดอนแก้ว ได้มอบประคำ ที่ลูกประคำ ทำจากกระดาษสา ลงยันต์ลงรักปิดทอง จนแห้ง ให้กับพระยาตาก ประคำ เส้นนี้ติดตัวพระยาตากมาตั้งแต่เริ่มกู้ชาติจนถึงก่อนจะถูกปลงพระชนด้วยท่อนไม้จันทน์ ได้ถอดมอบ ให้กับสามเณรน้อยผู้เป็นอุปัฏฐากใกล้ชิดขณะเมื่อผนวชเป็นที่ระลึก

ขรัวเฒ่า วัดดอนแก้ว ยังได้มอบคาถา ที่เรียกว่า” หักหาญผลาญศัตรู” ที่ว่า

“ชะยะตุภวังค์ สัพพะศัตรู วินาศสะตุ”

พระยาตากแขวนประคำและภาวนาคาถา หักหาญผลาญศัตรู ทำการรบในสนนามรบ ทั้งกับพม่าข้าศึก ที่ล้อมกรุงศรีอยุธยา และในการทำสงคราม กู้ชาติที่นับว่าอันตรายที่สุด คือ การเคลื่อนพลผ่าน ตำบลเกยไชย ที่เจ้าเมืองพิษณุโลกสองแควให้กำลังทางเรือมาซุ่มดักสังหารพระยาตากที่จากออกมายืนถือดาบอยู่ที่หัวเรือนำกองทัพเรือมุ่งไปข้างหน้า

มือปืนวิลาศโปรตุเกส ซุ่มยิงอยู่บนตลิ่ง หมายหน้าอกพระยาตากแต่ขณะที่เหนี่ยวไกปล่อยกระสุนออกไป เกิดคลื่นประหลาดซัดจนเรือลำที่พระยาตากสินประทับยืนลอยขึ้นสูงจากพื้นน้ำ กระสุนจึงลงต่ำเจาะเข้าที่พระชงฆ์ (เข่า)ต้องเสด็จกลับมารักษาตัว ที่กรุงธนบุรีศรีมหาสมุทร ก็ด้วยอำนาจแห่งประคำและคาถาหักหาญผลาญศัตรูเป็นหลัก

ชาวอุตรดิตถ์ เทิดทูนพระยาพิชัยดาบหัก เป็นวีรบุรุษเยี่ยงใด ชาวตากก็เทิดทูนสมเด็จพระเจ้าตากสิน มหาวีรกษัตริย์ชาตินักรบ ผู้กู้เอกราชกู้แผ่นดินให้ลูกไทยหลายไทย ได้ซุกหัวนอนเป็นครั้งที่ 2 ในสงครามกรุงแตกเสียกรุงศรีอยุธยา จนมีกวีได้ถ่ายทอดออกมาเป็นบทเพลงเอาไว้ว่า

” กรุงแตกหญ้าแพรกก็พลอยแหลกลาญ ข้าศึกเผาผลาญเรือนชานวอดวาย ขืนอยู่เห็นทีจะต้องตาย ต่างหลบลี้หนีภัยก่อนศัตรูมันจะมา ต้องเอาไปฝังไว้ในดิน เงินทองเพชรนิลทรัพย์สิ่งของมีค่า หากรอดชีวิตกลับมา จะได้ค้นหาคืน”

พ่อบอกกับไพฑูรย์ว่า คาถาหักหาญผลาญศัตรู ให้ไพฑูรย์จดจำไว้ใช้ว่า

ให้เลือกวันอังคารหรือวันเสาร์ข้างขึ้น ใส่บาตรสององค์ องค์หนึ่ง อุทิศกุศลให้ขรัวเฒ่าวัดดอนแก้ว อีกองค์หนึ่งอุทิศน้อมถวายแด่ดวงพระวิญญาณแห่งสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ขอประสิทธิเมเข้าเถิดจะขลังนัก

ให้เป็นมหาอุด ให้เอาปลายลิ้นดุนเพดานปากเอาไว้ พึงภาวนาคาถาให้มั่นคง อธิษฐานจิตขอบารมีขรัวเฒ่าวัดดอนแก้ว และบารมีดวงพระวิญญาณสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ตราบใด ถอนปลายลิ้นออกจากเพดานปากปืนกี่กระบอกก็ยิงไม่ออก

ให้เป็นแคล้วคลาด ให้ภาวนาไว้ให้มั่นใจอธิษฐานจิตขอบารมีขรัวเฒ่าวัดดอนแก้วและบารมีดวงพระวิญญาณสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ลูกปืนและอาวุธเป็นห่าฝน ไม่ตกต้องตัวได้เลย มีอานุภาพดุจเดียวกับการภาวนาพระคาถากระทู้ 7 แบก

การบนบานศาลกล่าว ดวงพระวิญญาณสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทำได้ทุกอย่างยกเว้นให้รอดการเกณฑ์ทหาร ใครบนโดนใบแดงทุกคนไป การกระทำผิดคิดร้ายต่อส่วนรวมและแก่ประเทศชาติ ด้วยสมเด็จพระเจ้าตากสินได้ทรงยอมสละพระชนม์ชีพเข้าทำสงครามกู้ชาติหลังกรุงแตก จนแผ่นดินไทยเกิดความสงบ เป็นที่ซุกหัวนอนจนทุกวันนี้ พระองค์จึงทรงรักและหวงแหนแผ่นดินที่พระองค์ทรงกอบกู้มาด้วยสองพระหัตถ์และพระแสงดาบคู่พระราชหฤทัย ดวงพระวิญญาณสถิตเหนือหลังม้าทรงออกตรวจเยี่ยมทหารกล้าทุกสมรภูมิเพื่อคอยคุ้มครองรักษาเหล่าทหารหาญ

ไพฑูรย์เคยบอกว่าหากจะให้ดีให้ทหารหาญที่เคยมีประสบการณ์รอดชีวิตจากน้ำมือของอริราชศัตรูเขียนจดหมายมาเล่าประสบการณ์ รับรองว่าลงไม่หวาดไม่ไหวก็แล้วกัน

Sornpraram