ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก
เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด
เข้าสู่ระบบ
บ้านหลวงปู่
คศช.
ข่าวสารล่าสุด
ประสบการณ์
โชว์วัตถุมงคล
สอบถาม
นานาสาระ
นครนาคราช
ร่วมประมูล
บูชาวัตถุมงคล
เพื่อน
กระทู้แนะนำ
บุ๊คมาร์ก
ไอเท็ม
เหรียญ
ภารกิจ
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
ดูบริการทั้งหมด
เว็บบอร์ด
BBS
บูชาวัตถุมงคลหลวงปู่ชื่น
ศรีสุทธรรมนาคราช
ร้านจอมพระ
ศูนย์พระเครื่องจอมพระ
ค้นหา
ค้นหา
HOT TAG:
พระศรีราม
ขุนแผนแสนตรีเวทย์
พระเจ้าชัยวรมัน
บอร์ดนี้
บทความ
เนื้อหา
สมาชิก
Baan Jompra
›
นานาสาระ
›
ตำนาน เรื่องเล่า เกร็ดความรู้ เรื่องลี้ลับ
»
เสือคน
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
ดู: 2005
ตอบกลับ: 2
เสือคน
[คัดลอกลิงก์]
oustayutt
oustayutt
ออฟไลน์
เครดิต
22903
ไปยังโพสต์
1
#
โพสต์ 2016-11-10 20:50
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
|
โพสต์ใหม่ขึ้นก่อน
|
โหมดอ่าน
◎วิชาเสือโคร่งคน◎
ไพฑูรย์ย้ำกับผู้เขียนเสมอว่า “คาถาอาคมเป็นของจริง” ผ่านกาลเวลามาเป็นเวลานาน จากขอมดำดินสมัยลพบุรีมาลอบสังหารพระร่วงเจ้าแห่งกรุงสุโขทัย จนถึงกรุงศรีอยุธยาที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงใช้พระโอษฐ์คาบพระแสงดาบปีนค่ายพระเจ้านันทบุเรงถูกทหารรักษาค่ายแทงสวนด้วยหอกทรงพลัดตกลงมาจากบันไดถึง 3 ครา แต่มิได้ทรงมีบาดแผลหรือทรงได้รับอันตราย
มาจนถึงวีรชนค่ายบางระจันพ่อจันหนวดเขี้ยวขี่ควายควงขวานต่อสู้กับพม่าข้าศึกที่ฟันแทงพ่อจันไม่เข้า ต้องใช้ตะลุมพุกทุบศีรษะจึงถึงแก่ความตาย ด้วยเหตุนี้ไพฑูรย์จึงสนใจเรียนวิชาอาวุธโบราณและคาถาอาคมต่างๆอย่างถึงแก่น ยิ่งมาเป็นนายทหารพระธรรมนูญตามความฝันด้วยแล้วไพฑูรย์ว่า “มันรู้สึกแกว่นกล้ายิ่งนัก” ผู้เขียนเคยท้วงว่า “แกร่งกล้ามากกว่ามั้งพี่ไพฑูรย์”
บุ๊คมาร์ก
0
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
oustayutt
oustayutt
ออฟไลน์
เครดิต
22903
2
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2016-11-10 20:52
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
คำตอบคือ
“โบราณเขาใช้คำว่าแกว่น หมายถึง ไม่เคยกลัวใคร ลองมีสิบนิ้วเหมือนกันละก็อย่ามารังแกหรือหยามกัน หาไม่ก็ต้องเจอกันแบบศัตรูในการต่อสู้การเป็นศัตรูย่อมต้องยุ่ยกันไปข้างหนึ่ง ไม่ต้องค้านยุ่ยคือหนังไม่เหนียว”
ผู้เขียนเห็นว่าจะไปกันใหญ่พอดีเที่ยงเลยพาไปหาอะไรกินแถวสะพานวันชาติเพราะสำนักพิมพ์วัชรินทร์การพิมพ์ที่พิมพ์พระเครื่องประยุกต์ตั้งอยู่ที่สะพานวันชาติ (ปัจจุบันปิดกิจการไปแล้ว)
ไพฑูรย์เป็นผู้ที่มีลักษณะหวาดระแวงอยู่แล้วเป็นนิจ โดยเจ้าตัวบอกว่าติดมาจากการซอกซอนหลบหนีเงื้อมมือกฎหมายที่ตามล่าจนต้องระวังตัวอยู่เป็นประจำ แม้ออกจากคุกมาแล้วก็ต้องระวังการทำร้ายล้างแค้นจากวงศาคณาญาติของผู้ที่ไพฑูรย์เคยสังหาร แม้ยามเมื่อบวชเป็นพระก็ไม่เว้นถูกบุกเข้าหมายสังหารให้ตายคาผ้าเหลือง
ไพฑูรย์เล่าว่าในการแหกคุกครั้งสุดท้ายการตามล่าตามล้างของตำรวจเป็นไปอย่างเข้มงวดรวดเร็วเพราะหลวงอดุลทานไม่พอใจที่ไพฑูรย์กระโดดน้ำทั้งโซ่ตรวนขณะท่านคุมตัวมาทางเรือรูดโซ่ตรวนด้วยพระเวทสังข์ถ่วงต่อหน้าต่อตาท่าน จึงออกคำสั่งให้ล่าตัวมาให้ได้ไม่ว่าจะเป็นภาคไหนให้สายสืบออกตามลากคอมาเข้าบางขวางให้ได้ ส่วนคุณพระกล้ากลางสมรที่ท่านได้เป็นอธิบดีกรมราชทัณฑ์ท่านก็สั่งให้ทางเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ร่วมกับตำรวจท้องที่ล่าตัวไพฑูรย์ให้จงได้เพราะเป็นนักโทษที่แหกคุกซ้ำแล้วซ้ำอีกไม่เคยเกรงกลัวอาญา
ซ่องลับก็ถูกตำรวจพบสหายทั้ง 3 เตลิดหนีจากซ่องไม่กล้าไปนางเลิ้งเกรงพี่เสงี่ยมจะเดือดร้อนไปด้วย ไพฑูรย์จะไปเยาวราชก็ไม่ได้เพราะตำรวจกองปราบได้ไปพบตั้วเฮียแจ้งให้ทราบว่าการให้ที่พักพิงกับเสือไพฑูรย์เป็นความผิด หากสายรายงานว่าเสือไพฑูรย์เตลิดเข้าเยาวราชทางกองปราบจะร่วมกับตำรวจท้องที่บุกตะลุยเยาวราชทุกตารางนิ้ว
ตำรวจกองปราบทำงานได้ผลทางด้านจิตวิทยาเพราะรู้ดีว่าในเยาวราช ณ เวลานั้นทำอะไรกันอยู่ การที่ตำรวจให้ปกครองดูแลกันเองไม่เข้ามาตรวจค้นถือว่าเป็นการให้เกียรติแก่ตั้วเฮียและชาวจีนในเยาวราช ตั้วเฮียให้เถ้าแก่ไปแจ้งแก่แม่ดอกเหมยที่รักว่าห้ามรับไพฑูรย์มาหลบภัยเป็นเด็ดขาดเธอจึงต้องยอมทำตาม
สำหรับไพฑูรย์แล้วเสือไม่เคยจนตรอกเมื่อเมืองไทยอยู่ไม่ได้ก็หลบหนีไปให้พ้นจากแผ่นดินสยามแต่การจะออกจากแผ่นดินสยามนี่ซีต้องหาช่องทางให้ดีที่สุด เพราะช่องทางพรมแดนตำรวจจะส่งกำลังผลัดกันไปเฝ้า ต้องเดินเท้าเข้าไปตามป่าตามช่องทางที่พรานป่าเขาใช้กัน จะให้พรานช่วยก็ไม่ได้เพราะเกรงว่าเรื่องจะไปถึงหูตำรวจ
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
oustayutt
oustayutt
ออฟไลน์
เครดิต
22903
3
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2016-11-10 20:53
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
คราวนั้นมุ่งไปยังเกาะลังกาวีในดินแดนมาเลเซียอีกครา หลังจากที่เคยแหกคุกจากเกาะตะรุเตาด้วยการคำนวณยามอุบากองของท่านโหรเลี่ยมที่นักโทษการเมืองให้ความนับถือเรียกว่า “อาจารย์เลี่ยม” จนติดปาก แต่ไปไม่ได้เพราะเพื่อนนักโทษหาเรือให้ไม่ได้อีกทั้งเป็นฤดูมรสุมไม่มีใครกล้าออกเรือ
ไพฑูรย์ลงมาถึงราชบุรีแล้วเข้านครปฐมไปไหว้หลวงพ่อแช่มวัดตาก้องก่อนออกเดินทางไปกาญจนบุรี ซ่อนตัวอยู่ 7 วันไม่ได้ออกไปไหน จนที่สุดเมื่อทุกอย่างเงียบเชียบไพฑูรย์จึงได้รับการนำทางจากพรานป้อเข้าไปสู่ประเทศพม่าทางด้านรถไฟสายมรณะอันเป็นช่องทางที่หากไม่ใช่พรานแล้วจะหลงทางตายในป่า พรานป้อเป็นพ่อของนักโทษชายหมื่นที่ต้องคำพิพากษาศาลชั้นต้นและอุทธรณ์ให้จำคุกตลอดชีวิตที่ไปฆ่าลูกชายของกำนันอิทธิพลทั้งๆที่เป็นการป้องกันตัวเอง
แต่ด้วยตำรวจกับอัยการทำสำนวนมัดโดยสอบพยานทางฝ่ายโจทก์ส่วนทางฝ่ายจำเลยทำแบบเสียไม่ได้ ไพฑูรย์ช่วยเขียนฎีการ่วมกับทนายความที่เป็นสหายกันเมื่อไพฑูรย์เป็นนายทหารพระธรรมนูญ ช่วยหาหลักฐานใหม่มาสู้คดีจนในที่สุดศาลฎีกาตัดสินให้เป็นการป้องกันตัวลดโทษเหลือเป็นการจำคุก 20 ปี ทำให้นักโทษชายหมื่นบอกกับพ่อเมื่อตอนมาเยี่ยมที่บางขวางว่า
“ฝากอาจารย์ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม ด้วยหากเดือดร้อนไปพึ่งพาเพราะช่วยให้ผมได้รับการลดโทษลงมาเหลือ 20 ปี ถ้าอาจารย์ไม่ออกหน้าคงไม่มีโอกาส”
เมื่อไพฑูรย์ไปขอความช่วยเหลือพรานป้อจึงพาไปพักในป่ารอจนกว่าทางปลอดจะไปนำทางเข้าไปในพม่าทางด้านทางรถไฟสายมรณะ ครั้นได้เวลาปลอดพรานป้อจึงนำทางไพฑูรย์เข้าไปในพม่าซึ่งในตอนนั้นญี่ปุ่นเริ่มถอยร่นจากพม่า จีน และเกาหลีเพื่อรับมือกับสหรัฐอเมริกาด้านแปซิฟิก ทางรถไฟสายมรณะจึงไม่มีรถไฟวิ่งต่อเข้าไปในพม่ากลายเป็นรางร้าง เล่าลือกันว่าผีดุ เพราะมีการพูดเปรียบเทียบว่ากันว่าทุกไม้หมอนจะมีศพเชลยศึกที่เสียชีวิตนอนอยู่หนึ่งศพ
ตอนกลางดึกสงัดชาวบ้านป่าที่อยู่สองข้างทางรถไฟจะได้ยินเสียงคนทำงานส่งเสียงเอะอะเหมือนตอนที่สร้างรางรถไฟเชื่อกันว่าวิญญาณเชลยศึกที่เสียชีวิตระหว่างรางรถไฟออกมาสำแดงเดชเพราะศพเชลยศึกนิรนามอีกหลายร้อยศพมิได้รับการค้นพบและนำมาฝังไว้ในสุสานเชลยศึกนิรนามเมืองกาญจนบุรี
พรานป้อเป็นพรานอายุรุ่นราวคราวเดียวกับบิดาของไพฑูรย์ เป็นพรานจอมขมังเวทคนหนึ่งสอนคาถาให้ไพฑูรย์หลายบท การเลือกทำเลพักนับว่าเป็นยอด จะนอนที่ใดจะร่ายพระเวทสะกดไพรมิให้สัตว์ร้ายมากล้ำกรายได้เลย โดยเฉพาะเสือโคร่งในเขตพม่าน่ากลัวมาก ตัวใหญ่และดุร้าย พรานป้อบอกว่าเสือธรรมดาไม่น่ากลัวแต่เสือที่เกิดจากคนที่กลายร่างเป็นเสือเรียกว่า “เสือโคร่งคน” น่ากลัวกว่า วิชานี้ตกทอดกันมาในหมู่ชาวพม่าที่นับถือคาถาอาคม เสืออาคมหากทำผิดครูแล้วละก็จะเกิดภัยแก่ตัวเอง
การผิดครูหรือที่เรียกกันเป็นภาษาไทยว่า “คะลำ” ผู้นั้นจะกลายเป็นเสือในวันแรม 15 ค่ำอันเป็นวันเดือนดับ (อวมาสี) ออกหาสัตว์หรือคนกิน ตอนกลายร่างเป็นเสือจะไม่รู้สึกตัวครั้นก่อนรุ่งสางจะกลับเป็นคน มีคราบเลือดติดปากติดมือและส่วนต่างๆของร่างกายได้แต่เสียใจแต่ทำอะไรไม่ได้สายไปเสียแล้ว
พรานป้อบอกว่าทุกวันนี้มีเสือโคร่งคนเหลืออยู่เพียงตัวเดียวชื่อ ตุนวิน หากินอยู่ใน ระแวกพรมแดนไทยพม่าที่เรากำลังเดินทางอยู่นี่แหละ พรานป้อบอกว่าทุกวันเดือนดับตุนวินจะ กลายร่างออกอาละวาดฆ่าฟันสัตว์และคนเป็นอาหาร พรานป้อบอกว่าตุนวินเป็นพรานเหมือนกันจึงมีสัญชาตญาณผิดกับเสือโคร่งแท้ๆในการหนีอันชาญฉลาดกับการย้อนรอยพรานระหว่างการล่า
พรานป้อบอกว่าเสืออาคมจะคำรามไม่เหมือนเสือทั่วไปแต่จะเพี้ยนเหมือนเสียงคนเราเลียนแบบเสียงเสือแห้งๆไม่มีความกังวานหรืออำนาจอยู่ด้วย ไพฑูรย์นอนะวังตัวได้ยินเสียงคำรามของเสือจึงสะกิดพรานป้อๆตื่นเงี่ยหูฟัง พอเสือคำรามอีกครั้งพรานป้อก็มีสีหน้าไม่ดีกระซิบบอกไพฑูรย์ว่า
“เตรียมตัวให้พร้อมอย่าตื่นเต้นตกใจ นั่นแหละมันล่ะไอ้ตุนวิน วันนี้เป็นวันเดือนดับพอดีเชียว ผมมาหลายเที่ยวไม่เคยเจอ แต่วันนี้คุณไพฑูรย์แปลกหน้ามามันจึงผิดกลิ่นออกมาลองดี เอาละเอาอย่างนี้ ตอนนี้กองไฟหรี่แสงลงแล้วปล่อยไว้อย่างนั้นแหละไม่ต้องไปซุนหรือเติมฟืนไม่ต้องลุกขึ้นให้ผิดสังเกต เตรียมปืนให้พร้อม ค่อยๆพลิกตัวคว่ำแล้วเสือกตัวไปข้างหน้าไปหาโคนไม้ใหญ่โน่นพลิกตัวกลับเสือกตัวบังต้นไม้ อย่าผลีผลามยิงให้ผมยิงก่อนแล้วคุณซ้ำเข้าไปอีกที”
ไพฑูรย์เล่าว่าเป็นปืนลูกซองเดี่ยวตราเสือแบบลูกโดดในมือของลุงป้อถูกประทับบ่าเล็งไปทางกองไฟที่ค่อยๆหรี่แสงลง ลมพัดมาวูบหนึ่งกลิ่นสาบเสือลอยมากระทบจมูก เสียงพรานป้อกระซิบเตือนว่า “อย่าขยับตัวนะคุณไพฑูรย์”
ทันใดนั้นเสียงคำรามเลียนแบบเสือแห้งๆดังขึ้นติดกันสามครั้ง ร่างของเสือโคร่งลายพาดกลอนวิ่งผ่านข้างกองไฟพอได้ระยะจึงกระโดดลอยตัวเข้าหาพรานป้อที่ประทับปืนเตรียมอยู่แล้วลั่นไกใส่ทันที
“ตั้ม บึ้ม บึ้ม บึ้ม โครก โครก บั้ก”
ตั้มเป็นสียงปืนจากอีเดี่ยวตราเสือในมือพรานป้อแผดเสียงคำรามก่อน ตามด้วยปืนพกในมือของไพฑูรย์ติดต่อกันสามนัด เห็นชัดเลยว่าอีเดี่ยวระเบิดกระสุนลูกโดดทะลวงร่างของเสือที่พุ่งเข้ามาอย่างจัง ติดตามด้วยลูกปืนของไพฑูรย์ จนหล่นลงกระแทกพื้นจากนั้นจึงกระโดดหนีไปด้านข้าง เสียงพรานป้อกระซิบว่า ไม่ต้องตามรอสว่างก่อนตอนนี้กลับไปเติมฟืนไห้สว่างก่อน เดี๋ยวเสือจริงมาจะยุ่งกันใหญ่
รุ่งอรุณวันใหม่หลังจากจัดการอาหารเช้าแล้วลุงป้อดับกองไฟเดินไปดูรอยเลือดที่หยดอยู่บนพื้นชายป่าแล้วบอกไพฑูรย์ว่า
“ออกเดินทางกันได้แล้ว มีหมู่บ้านข้างหน้าเดี๋ยวก็รู้ว่าเป็นอย่างไร”
ไปถึงหมู่บ้านผู้คนกำลังโกลาหล ลุงป้อเข้าไปสอบถามเป็นภาษาพม่ากับคนที่ท่าทางเป็นหัวหน้าหมู่บ้านว่าเกิดอะไรขึ้นพอได้คำตอบแล้วจึงหันมาบอกกับไพฑูรย์ว่า
“เรียบร้อย ไอ้ตุนวินจอดสนิท เดี๋ยวเราไปดูกันว่าเป็นอย่างไร”
ร่างของตุนวินนอนหงายเหยียดยาวอยู่ที่พื้นดินหน้ากระท่อมพัก ที่หน้าอกด้านซ้ายมีรูกระสุนปืนลูกซองแบบลูกโดดทะลวงเข้าไปเป็นรูโบ๋ ตามด้วยกระสุนปืนพกของไพฑูรย์ ไพฑูรย์บอกว่าที่น่ากลัวที่สุดคือมือซ้ายของตุนวินกลับเป็นอุ้งตีนเสือ ลุงป้อบอกกับผมว่า
“เจ้าตุนวินมันกลายร่างเป็นคนแต่ไม่ทันหมดก็สิ้นใจก่อนจึงเหลือมือซ้ายเป็นอุ้งตีนเสือ”
ลุงป้อกล่าวคำอำลาหัวหน้าหมู่บ้านเตรียมเดินทางต่อระหว่างทางลุงป้อบอกว่า
“หัวหน้าหมู่บ้านบอกว่าขอบคุณที่ช่วยกำจัดเสือโคร่งคนให้เพราะพวกชาวบ้านไม่กล้า”
ไพฑูรย์ถามพรานป้อว่าทำไมเสือโคร่งคนจึงไม่ทนกระสุนลุงป้อหัวหึๆก่อนจะตอบว่า
“มันเป็นเคล็ด ผมเอาลูกโดดไปคลุกกับน้ำใบสาบเสือคั้นเสกด้วยหัวใจเสือโคร่งว่า โอมพยัคโฆนะโมพุทธายะซ้ำเสือคนมันแพ้ใบสาบเสือครับคุณไพฑูรย์”
(กลับมาเเล้วครับ)
https://www.youtube.com/watch?v=KxyOA3i3V8w
หลักการภาวนาตอนที่1
https://www.youtube.com/watch?v=4Xb3AzxUB8Q
หลักการภาวนาตอนที่2
สำหรับแฟนเพจที่สงสัยว่าคาถาอาคมไสยศาสตร์นั้นเป็นเรื่องงมงายเหนือธรรมชาติโปรดฟังพระอาจารย์ท่านบรรยายครับเมื่อฟังจบเเล้วจะรู้ได้ทันทีว่า ไม่ใช่เรื่องที่เกินไปกว่าจิตมนุษย์ทำได้เลย แม้เเต่พระพุทธเจ้าเองท่านก็ยังเคยใช้ไสยศาสตร์ครั้นเมื่อท้าวจตุโลกบาลทั้ง4ได้นำบาตรทั้ง4ใบมาถวายพระองค์จะรับของใครคนใดคนหนึ่งไว้ก็เกรงที่เหลือจะน้อยใจจึงทรงอธิษฐานด้วยพระคาถาว่า ''จัตตาโร ยะถา ปัตโต เอโก ปัตโต อธิษฏฐามิฯ''
อธิษฐานให้บาตรทั้ง4รวมเป็นใบเดียว ไม่ว่าใครๆก็เคยใช้ไสยศาสตร์มาด้วยกันทั้งนั้นบางคนไม่เชื่อในไสยศาสตร์แต่กลับใช้ไสยศาสตร์โดยไม่รู้ตัวก็มี ดังเช่นว่า เมื่อท่านกราบพระสวดมนต์ภาวนาเพื่อให้จิตสงบจากกิเลสทั้งหลายโดยไม่หวังผลอะไรนั้นเรียกว่าการอบรมจิต หากท่านสวดมนต์ภาวนาทั้งหลายโดยหวังผลตอบเเทนจากการกระทำนั้นจะกลายเป็นท่านใช้ไสยศาสตร์ทันที ไปไหว้พระขอให้ถูกหวย ขอให้อายุยืน ขอให้แคล้วคลาด ขอรวย ฯลฯโดยที่ท่านหวังผลประโยชน์สิ่งตอบเเทนทุกสิ่งเรียกว่าไสยศาสตร์
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
โหมดขั้นสูง
B
Color
Image
Link
Quote
Code
Smilies
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ลงชื่อเข้าใช้
|
ลงทะเบียน
รายละเอียดเครดิต
ตอบกระทู้
ข้ามไปยังโพสต์ล่าสุด
ตอบกระทู้
ขึ้นไปด้านบน
ไปที่หน้ารายการกระทู้
Share To Facebook
Share To Twitter
Share To Google+
Share To ...