ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

ภาพปริศนาธรรม

[คัดลอกลิงก์]
11#
 เจ้าของ| โพสต์ 2016-9-4 20:47 | ดูโพสต์ทั้งหมด


9.อยู่ให้เหมือนลิ้นงูในปากงู

"นั่นลูกตามองเห็นไม่เป็นหมัน
เขาใช้มันเล็งแลแก้ปัญหา
อยู่ในโลกอย่างไรไม่ทรมาน์
พิจารณาตรองไปให้จงดี.

อยู่ให้เหมือนลิ้นงูในปากงู
ไม่เคยถูกเขี้ยวงูอยู่สุขศรี
อยู่ในโลกไม่เคยถูกเขี้ยวโลกีย์
เป็นเช่นนี้อุปมาอย่าฟั่นเฟือน

คิดดูบ้างนั่งได้ในปากงู
ไม่เคยถูกเขี้ยวงูอยู่เสมือน
นั่งในห้องแสนสบายภายในเรือน
มีเค้าเงื่อนเหมือนพระภควันต์

อยู่ในโลกไม่กระทบโลกธรรม
อยู่เหนือกรรมเหนือทุกข์เป็นสุขสันต์
ใครมีตารีบเคารพนอบนบพลัน
รีบพากันทำตามยามนี้เอย ฯ

เขี้ยวของโลกที่ขบขย้ำคนอยู่ คือ โลกธรรม ๘ ประการ กลุ่มแรก คือ ลาภ, ยศ,

สรรเสริญ, สุข. กลุ่มหลัง คือ เสื่อมลาภ, เสื่อมยศ, นินทา, ทุกข์.

นั่นคือการได้และการเสีย, หรือบวกกับลบ นั่นเอง, ซึ่งเป็นเพียง "มายา" ปรากฏการณ์

ชั่วคราว ตามเหตุและปัจจัยปรุงแต่งขึ้น.

เห็นความ "เกิด-ดับ" ของมายานี้แล้ว "ไม่ถือมั่น" ไม่หวั่นไหวต่อโลกธรรม จึงอยู่ในโลก

ไม่ต้องหนีไปไหน แต่ก็ไม่ถูกเขี้ยวของโลก; เหมือนลิ้นของงูอยู่ในปากงู ชิดเขี้ยวอันเต็มไป

ด้วยน้ำพิษ แต่ไม่เคยถูกพิษนั้นเลย. สำหรับโลกนอกตัวเราสมัยนี้ ก็นับว่าเต็มไปด้วยพิษงู

เราจะอยู่อย่างฉลาดโดยไม่ถูกเข้ากับพิษเหล่านั้น มีผลเท่ากับอยู่กันคนละโลกทีเดียว.



ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
12#
 เจ้าของ| โพสต์ 2016-9-4 20:48 | ดูโพสต์ทั้งหมด
10.เต่าหินตาบอด

"โอ้เต่าเอ๋ยขอถามความสักอย่าง
ดูท่าทางของเต่าเรานึกขำ
ตัวเป็นหินตาก็บอดยอดเวรกรรม
มีพระธรรมอยู่บนหลังยังไม่รู้"

"มนุษย์เอ๋ย! เราจะบอกกรอกหูเจ้า
ตัวเราเองแหละคือธรรมตำตาอยู่
ธรรมของเจ้าคือตำราบ้าพอดู
ธรรมของตูคือตัวตูอยู่ที่ธรรม

ที่เป็นหินหมายถึงเย็นอย่างนิพพาน
เพราะประหารอวิชชาไยว่าขำ
ความหนวกบอดยอดสงบลบล้างกรรม
เป็นความว่างมีประจำอยู่ร่ำไป

อันตำรานั้นมิใช่พระธรรมเลย
คิดดูเถิดคนเอ๋ยอย่าไถล
จะมีธรรมกันบ้างช่างกระไร
คว้าเอาไว้แต่คัมภีร์ดีนักเอย ฯ"

มนุษย์ : เต่านี้ช่างโง่เสียจริง มีคัมภีร์อยู่บนหลังแล้ว เหตุไฉนจึงไม่รู้ธรรมะ

เต่า : บนหลังฉันนั้นยังไม่ใช่ธรรมะแท้จริง. ความหนวกบอด

คือความไม่ยินดียินร้ายในอารมณ์ที่มากระทบ; ความเย็นและสงบที่เนื้อตัวของ

ฉันตากห่าง เป็นธรรมะที่แท้จริง จะหาธรรมะที่แท้จริงที่ไหนอื่นเล่ามนุษย์เอ๋ย


ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
13#
 เจ้าของ| โพสต์ 2016-9-4 20:49 | ดูโพสต์ทั้งหมด
11.ยิ่งคัดลอกยิ่งเลอะเทอะ

พระคัมภีร์ยังมิใช่องค์พระธรรม
มีไว้เพียงอ่านจำเมื่อศึกษา
ครั้นนานเข้าคัดลอกกันสืบมา
เพียงแต่เขียนอักขราให้คล้ายกัน

คัดพลางฉงนพลางช่างอึดอัด
ตัวไม่ชัดเดาไปคล้ายในฝัน
ยิ่งเป็นปราชญ์ยิ่งแก้ไปได้ไกลครัน
ยิ่งแก้มันก็ยิ่งเลอะไม่เจอะจริง.

ส่วนพระธรรมล้ำเลิศประเสริฐแท้
ไม่มีใครอาจแก้ให้ยุ่งขิง
ธรรมของใครใครเห็นตามเป็นจริง
มิใช่สิ่งคัดลอกหรือบอกกัน

ทั้งมิอาจถ่ายทอดวิธีใด
มีแต่การจัดใจให้สบสันติ์
ไม่มีทางซื้อขายหรือให้ปัน
หรือลอกกันให้เลอะไปไม่หยุดเอย ฯ

คัมภีร์ คือบันทึกที่ถูกคัดลอก และถูกนักปราชญ์แก้ไขเพิ่มเติมเรื่อยมา ผู้แก้ยิ่ง

เป็นปราชญ์เท่าใด ก็ยิ่งแก้ไขมากเท่านั้น จึงยิ่งมีทางที่จะผิดไปไกลมากเท่านั้น.

ส่วนธรรมะแท้นั้น คัดลอกไม่ได้, ผิดไม่ได้, ถูกไม่ได้, ถ่ายทอดไม่ได้, สอนไม่ได้,

จึงเลอะเทอะไม่ได้; รู้ได้เฉพาะตัว.

คัมภีร์แท้เล่มเดียว คือ ความล้ำลึกที่ชีวิตต้องหยั่งลงในชีวิต ด้วยชีวิตเอง.


ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
14#
 เจ้าของ| โพสต์ 2016-9-4 20:49 | ดูโพสต์ทั้งหมด


12.ผู้ดับไม่เหลือ

อย่าเข้าใจไปว่าต้องเรียนมา
ต้องปฏิบัติลำบากจึงพ้นได้
ถ้ารู้จริงสิ่งเดียวก็ง่ายดาย
รู้ดับให้ไม่มีเหลือเชื่อก็ลอง

เมื่อเจ็บไข้ความตายจะมาถึง
อย่าพรั่นพรึงหวาดไหวให้หม่นหมอง
ระวังให้ดีดีนาทีทอง
คอยจดจ้องให้ตรงจุดหลุดได้ทัน

ถึงนาทีสุดท้ายอย่าให้พลาด
ตั้งสติไม่ประมาทเพื่อดับขันธ์
ด้วยจิตว่างปล่อยวางทุกสิ่งอัน
สารพันไม่ยึดครองเป็นของเรา

ตกกระไดพลอยกระโจนให้ดีดี
จะถึงที่มุ่งหมายได้ง่ายเข้า
สมัครใจดับไม่เหลือเมื่อไม่เอา
ก็ดับเราดับตนดลนิพพาน ฯ

ความรู้ทุกชนิดที่โลกรู้ยิ่งเพิ่มความพลุ่งขึ้นของโลก, เป็นไปเพื่อ "ความเกิด"

ของ "ตัวตน" อันเป็นต้นเหตุของความทุกข์ คือ การเบียดเบียนตนเองและผู้อื่น.

ส่วนความรู้เพียงประการเดียวที่เป็นไปเพื่ออิสระและผาสุข คือการรู้เพื่อดับ "ตัวตน"

อันเป็นการดับทุกข์ในทุกแง่ .

ความรู้นั้น คือรู้ชัดว่า "สิ่งทั้งหลายทั้งปวงไม่ควรยึดมั่นถือมั่นว่าเรา ว่าของเรา"

อยู่ตราบลมหายใจสุดท้ายของชีวิต.



ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
15#
 เจ้าของ| โพสต์ 2016-9-10 06:44 | ดูโพสต์ทั้งหมด


13.จิตว่างได้ยินหญ้าพูด

พระพุทธะตรัสรู้จิตอยู่ว่าง
ได้ยินสิ่งทุกอย่างแถลงไข
เหมือนมันฟ้องตัวเองเซ็งแซ่ไป
ว่าไม่มีสิ่งไหนน่ายึดเอา

มาเพื่อเป็นตัวกูและของกู
อย่าหลงตู่มันเข้าเพราะความเขลา
เอาของเป็นอนัตตามาเป็นเรา
จะต้องเศร้าโศกระบบตรมใจแรง

แม้กรวดดินหินไม้และใบหญ้า
ล้วนแต่ส่งเสียงจ้าทุกหัวระแหง
คนจิตวุ่นไม่เข้าใจไม่ระแวง
ว่าทุกสิ่งร้องแสดงบทพระธรรม

ครั้นจิตว่างจะได้ยินแม้ใบหญ้า
มันปรึกษาข้อความที่งามขำ
ว่า "ทำไฉนสัตว์ทั้งหลายจะร่ายรำ
ด้วยจิตว่างเพราะวางธรรมทั้งปวงเอย"

จิต "วุ่น" ได้ยินแต่เสียง "โลก" พูด คือเรื่องได้, เรื่องเสีย, เรื่องมี, เรื่องเป็น,

อยู่ก้องโกลาหล กลบเสียงใบไม้ใบหญ้าที่กระซิบความจริงของชีวิตเสียสิ้น.

ครั้นจิต "ว่าง" จากอารมณ์ "โลก ๆ" แล้ว ย่อมซึมซาบความจริงนั้นว่า เกิดมานี้

เพื่อปล่อยวาง, อิสระ และร่าเริง.



ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
16#
 เจ้าของ| โพสต์ 2016-9-10 06:45 | ดูโพสต์ทั้งหมด
14.ฝนอิฐเป็นกระจกเงา

ศิษย์วอนถามอาจารย์ฐานร้อนใจ
"ทำอย่างไรไปนิพพานอาจารย์ขา?"
"อ๋อ มันง่ายนี่กระไรบอกให้นา
คือคำว่าฝนอิฐเป็นกระจกเงา"

"อาจารย์ครับเขาคงว่าเราบ้าใหญ่
แม้ฝนไปฝนไปก็ตายเปล่า"
"นั่นแหล่ะเน้อมันสอนให้แล้วไม่เบา
ว่าให้เราหยุดหาหยุดบ้าไป

ไม่มีใครฝนอิฐเป็นกระจก
ไม่ต้องยกมากล่าวเข้าใจไหม
นิพพานนั้นถึงได้เพราะไม่ไป
หมดตนไซร้ว่างเห็นเป็นนิพพาน

ถ้าฝนอิฐก็ฝนให้ไม่มีเหลือ
ไม่มีเชื้อเวียนไปในสงสาร
ฝนความวุ่นเป็นความว่างอย่างเปรียบปาน
ฝนอิฐด้านให้เป็นเงาเราบ้าเอง" ฯ

ยิ่งวิ่งไล่ยิ่งยืดไกลออกไป นี่คือตัณหาล่ะให้เหนื่อยหอบ. ยิ่งอยาก "ยิ่ง" ไม่ได้หยุด

แม้อยากเป็นพระอรหันต์; เพราะพระอรหันต์ คือ ผู้ "หมดอยาก" และเป็นผู้หยุดสนิทแล้ว.

เอาธาตุอยาก วิ่งไล่ธาตุหยุดอยาก ฉันใด, ฝนอิฐเป็นกระจกก็เหนื่อยเปล่าฉันนั้น.

ถ้าจะฝนต้องฝนให้หมดไม่มีเหลือ ไม่เป็นอิฐ ไม่เป็นกระจกอีกเลย.


ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
17#
 เจ้าของ| โพสต์ 2016-9-10 06:45 | ดูโพสต์ทั้งหมด
15.อริยมรรคมีองค์แปด

เว้นที่ว่าง คำบรรยาย มิได้เขียน
ผู้ใดเรียน รู้ซึ้ง ถึงความหมาย
จะได้ "สิ่งประเสริฐ" ไม่เกิดตาย
ไม่ต้องว่าย ในสงสาร นี้นานเกิน ฯ


ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
18#
 เจ้าของ| โพสต์ 2016-9-10 06:46 | ดูโพสต์ทั้งหมด


16.แม่น้ำคด น้ำไม่คด

แม่น้ำคด ส่วนน้ำนั้นไม่คด
ไม่แกล้งปดดูให้ดีมีเหตุผล
กายกับใจไม่ลามกไม่วกวน
แต่กิเลสแสนกลนั้นเหลือคด

จิตล้วนล้วนนั้นเป็นประภัสสร
กิเลสจรครอบงำทำยุ่งหมด
กิเลสเปรียบลำน้ำที่เลี้ยวลด
จิตเปรียบน้ำตามกฎไม่คดงอ

อันจิตว่างมีได้ในกายวุ่น
ในน้ำขุ่นมีน้ำใสไม่หลอกหนอ
ในสงสารมีนิพพานอยู่มากพอ
แต่ละข้องวยงงชวนสงกา

พระตรัสให้ตัดป่าอย่าตัดไม้
ไม่เข้าใจตัดได้อย่างไรหนา
รู้แยกน้ำจากแม่น้ำตามว่ามา
จึงนับว่าผู้ฉลาดสามารถเอย ฯ

จิตเดิมนั้นประภัสสรอยู่ปรกติเป็นกลาง ๆ มิได้คด มิได้มีกิเลส "กิเลสต่างหากคด"

และคนเข้าใจผิดคิดว่า "จิตคด"

เหมือนน้ำซึ่งไม่คด แต่แม่น้ำหรือคลองต่างหากคด. ข้อนี้หมายถึง ต้องกำจัดกิเลสท

จู่เข้ามาเป็นครั้งคราว ไม่ใช่ไปทรมานจิตเดิมแท้ที่ประภัสสรอยู่เองแล้ว.



ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
19#
 เจ้าของ| โพสต์ 2016-9-10 06:47 | ดูโพสต์ทั้งหมด


17.สาหร่ายเขียนพระไตรปิฎก

เส้นสาหร่ายก่านกันหนาหนั่นนัก
เป็นลวดลายย้ายยักหลายหมื่นท่า
ประสานสอดทอดไปไม่ลดลา
จนทั่ววารีใสในบึงบัว

คือมันเขียนคัมภีร์ที่ครบครัน
ทั้งวินัยสุตตันต์ภิธรรมทั่ว
สภาพธรรมสัจจธรรมประจำตัว
ธรรมชาติพันพัวทั่วถึงกัน

เป็นหลักชี้ชีวิตไม่ผิดพลาด
แสดงชึ้งถึงขนาดประสิทธิ์สันติ์
อยู่ในเส้นสาหร่ายที่ก่ายกัน
สาระพันสัญลักษณ์หลักพระธรรม

ตาผู้ใดไม่บอดสอดส่องดู
ก็จะรู้ความหมายได้ยังค่ำ
ดั่งศึกษาปิฎกไตรได้ประจำ
เป็นเครื่องนำสัตว์รอดตลอดเอย ฯ

พระไตรปิฎก, พระพุทธวจนะทั้งหมดนั้น ถูกบันทึกไว้ คือความแปรเปลี่ยนเรื่อย, ไม่มีอะไรต้าน,

ว่างจากตัวตนถาวร เป็นประไตรปิฎกที่ตัวหนังสือ.

ส่วนสาหร่ายเขียน "สัจจะ" นี้อย่างลึกซึ้ง และชัดเจนด้วยตัวของมันเอง

ไม่ต้องผ่านทางสัญลักษณ์อักษรแต่อย่างใด. แต่ลวดลายแห่งสาหร่ายนั้นแสดงเพื่อให้คนเรา

"รู้ทั่วกฎของธรรมชาติ" ข้อเดียวนี้ คือ "แจ้งจบไตรปิฎก".



ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
20#
 เจ้าของ| โพสต์ 2016-9-10 06:47 | ดูโพสต์ทั้งหมด


18.พ้นแล้วโว้ย!

บัดนี้เมฆลอยพ้นยอดเจดีย์
ทั้งโรงโบสถ์มากมีและวิหาร
เมฆรวมตัวเป็นภาพพิสดาร
บอกอาการพ้นแล้วโว้ย! โปรยยิ้มมา
ตะโกนร้องบอกสหายสิ้นทั้งผอง
ว่าไม่ต้องเสียเที่ยวเที่ยวค้นหา
อนันตสุขในโลกนี้ที่หวังมา
เหมือนเที่ยวหาหนวดเต่าตายเปล่าแล

สุขแท้จริงไม่วิ่งไปตามโลก
อยู่เหนือความทุกข์โศกทุกกระแส
มือเท้าเหนียวเหนี่ยวขึ้นไปคล้ายตุ๊กแก
ไม่อยู่แค่พื้นโบสถ์โปรดคิดดู
ลอยเหนือยอดโบสถ์ไปในเวหา
ลอยพ้นไปเหนือฟ้าที่เทพอยู่
ถึงความว่างห่างพ้นจากตัวกู
ไม่มีอยู่ไม่มีตายสบายเอย ฯ

คนรักสุข ขยะแขยงทุกข์ จึงแสวงหาสุขยิ่งขึ้นไป จึงยึดติดสุขทุกระดับ

โดยเฉพาะผู้เมาสุขในสวรรค์ที่ฝันเอาเอง.

ส่วนธรรมะแท้นั้นเป็นเรื่อง "ปล่อยวาง" ทั้งสุขและทุกข์

เพื่อเข้าสู่ความดับทุกข์อันมีเหตุใหญ่อยู่ที่ความยึดมั่นในความสุข.

ในที่สุดเมื่อค้นพบว่า ที่แท้ "สุข" เป็นเพียงลม ๆ แล้ง ๆ เป็นเพียงมายาที่ไม่มีอยู่จริง

จึงพบความหรรษา ร่าเริง เหมือนเมฆ ที่ลอยพ้นโบสถ์เจดีย์ , ตลอดถึงสวรรค์ ; พ้นสวรรค์

พุ่งขึ้นสู่ความว่าง อันปราศจากขอบเขตของขนาดและเวลา.



ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้