>> พระผงอาถรรพ์พระเจ้าแผ่นดิน และ พระผงอาถรรพ์ธรรมราชาเวท <<

chakpetch

พระมนต์อาถรรพณ์พระเจ้าแผ่นดินและพระมนต์อาถรรพณ์ธรรมราชา
จากการติดตามข่าวสาร กล่าวได้ว่าเป็นพระมนต์ที่เกี่ยวเนื่องบทต่อบท
มีอิทธิฤิทธิ์เกื้อหนุนซึ่งกันและกัน เหมือนน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า
เป็นพระที่มีพลังงานถ่ายเทซึ่งกันและกัน ใครจัดชุดได้อย่างของ
คุณจักรเพชร จะสุดยอดมากครับ



อาถรรพณ์พระเจ้าแผ่นดิน
คือ พระเดช เดชานุภาพอันเกียงไกร (ไฟ)

อาถรรพณ์ธรรมราชา   
คือ พระคุณ หนุนนำประคองเดช  (น้ำ)  


พระคุณกับพระเดชจึงเป็นของคู่การปกครองของกษัตรษิ์ทุกพระองค์
จะขาดสิ่งหนึ่งสิ่งใดไม่ได้ ถ้าเมืองใดไร้ซึ่งพระเดชานุภาพที่เด็ดขาด
บ้านเมืองจะเดือดร้อนจากมารมนุษย์
และถ้าเมืองใดไร้ซึ่งพระคุณบ้านเมืองนั้นก็จะเดือดร้อนจากมารมนุษย์อีกเช่นกัน

จึงเป็นพลังอำนาจที่ต้องใช้อย่างสมดุล


**ถ้าใครมีจิตสัมผัสจะรู้ว่าพระอาถรรพณ์พระเจ้าแผ่นดินจะมีกระแสทางเตโชธาตุราชา
แลพระธรรมราชาเวทจะมีกระแสเยือกเย็นอาโปธาตุราชา**

Sornpraram

chakpetch

ยอดของยอดของยอดของที่สุดแล้ว
ในสายพระอาถรรพณ์เวทย์





"ให้เป็นคาถาชาติกษัตริย์ยิ่งใหญ่เหนือคาถาทั้งปวง"

เป็นเนื้อความตอนหนึ่งของพระคาถาอาถรรพณ์พระเจ้าแผ่นดินแค่ฟังจากคำบอกเล่า

เพียงแค่ส่วนหนึ่งของพระคาถา คงไม่ต้องบรรยายว่าเป็นพระคาถาที่ยิ่งใหญ่เพียงใด

มิน่าวิชาสายอื่นๆจึงลงทับไม่ได้ เพราะว่า

"ให้เป็นคาถาชาติกษัตริย์ยิ่งใหญ่เหนือคาถาทั้งปวง"

พระอาถรรพร์พระเจ้าแผ่นดินเป็นพระที่มีพลังแรงมากๆ
แต่ห้อยแล้วยังไม่ดีเท่าที่ควรเพราะขาดธาตุสมดุล
ลองหาพระอาถรรพณ์ธรรมราชาเวทย์มาห้อยคู่กัน
แล้วจะเห็นความเด่นชัด จนลืมไม่ลง

chakpetch

บริหารด้วย “พระเดชพระคุณ”


พระผงอาถรรพณ์พระเจ้าแผ่นดิน องค์ครูหนึ่งเดียว
หรือจะกล่าวได้ว่าเป็นองค์ต้นธาตุ แห่งต้นแบบพระอาถรรพณ์ธรรมราชาเวทย์

            หลายคนคงเคยได้ยินมานานแล้วว่า “การที่จะปกครองคนให้ได้ดีนั้นผู้ปกครองต้องมีพระเดชพระคุณ” แต่มีกี่คนที่เข้าใจว่าพระเดชพระคุณนั้นหมายความเป็นจริงหมายถึงอะไร

            จากหลักทฤษฎีของต่างประเทศ โดยการค้นคว้าของ Center For Leadership Studies ซึ่งเป็นองค์กรที่ศึกษาเรื่องภาวะผู้นำ ที่ได้รับการยอมรับมามากกว่า 40 ปีในประเทศสหรัฐอเมริกา บอกว่า อำนาจประกอบไปด้วย 2 ขั้ว ได้แก่ อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ (Position Power) และอำนาจเฉพาะบุคคล (Personal Power) ซึ่งถ้าจะเปรียบเทียบกับของไทยเรา ก็น่าจะประมาณว่าอำนาจตามตำแหน่งหน้าที่ก็คือพระเดช และอำนาจเฉพาะบุคคลก็คือพระคุณ

            คนส่วนมากเชื่อว่า คนจะมีอำนาจได้นั้นต้องเป็นคนที่มียศถาบรรดาศักดิ์หรือมีตำแหน่งสูงๆ เท่านั้น ซึ่งนั้นเป็นการมองในมุมเดียว อันได้แก่อำนาจตามตำแหน่งหน้าที่หรือพระเดช ซึ่งก็ไม่แปลก เพระมันเป็นอะไรที่เห็นได้ชัดที่สุด

            อำนาจตามตำแหน่งหน้าที่ คืออำนาจตามบทบาทที่ยอมรับกันในการให้คุณหรือให้โทษแก่ผู้อื่น หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ อำนาจที่กำหนดโดยองค์กรและบทบาทน้าที่ของงานที่ทำอยู่ อำนาจมีผลในการตกรางวัลหรือคาดโทษบุคคลที่ทำงานไม่สำเร็จ

            การมีอำนาจตามตำแหน่งหน้าที่มากๆ ใช่ว่าเป็นสิ่งที่ดีเสมอไป ถ้าเรารู้ว่าตำแหน่งที่เราเป็นอยู่มีอำนาจมากการกระจายอำนาจออกเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ไม่เช่นนั้น ทุกกการตัดสินใจต้องวิ่งมารอที่เราคนเดียว และโดยหลักการปฏิบัติแล้ว ความรับผิดชอบของคนที่อยู่ในตำแหน่งสูง คือการวางแผนและการวางนโยบายให้แก่องค์กรมากกว่าการตัดสินใจในเรื่องที่เป็นงานประจำวัน

            ถ้าไม่มีการกระจายอำนาจ ถนนทุกสายก็จะมุ่งตรงมาที่ผู้นำเพื่อรอการตัดสินใจ บทหนักจะตกมาอยู่ที่ผู้นำ วันๆ ไม่ต้องทำอะไรนอกจากนั่งเป็นเจ้าที่ คอยตัดสินใจให้แก่ลูกน้องในแต่ละเรื่อง ซึ่งจะส่งผลให้เวลาในการทำงานกับหน้าที่ที่ควรทำน้อยลงและสุดท้ายก็จะมาจบลงตรงที่ ขนงานของตัวเองกลับไปทำต่อที่บ้าน ทำให้ความสมดุลในเรื่องงานและส่วนตัวสูญเสียไป

            ดังนั้นการมีอำนาจตามตำแหน่งหน้าที่ ยิ่งมีมากเท่าไร ยิ่งควรกระจายออกไปมากเท่านั้น

            แต่คุณรู้หรือไม่ว่า อำนาจตามตำแหน่งหน้าที่นี้ เป็นอะไรที่ไม่จีรังยั่งยืน มาง่ายและไปง่ายกว่าอำนาจเฉพาะบุคคลหรือพระคุณ

            คนคนหนึ่งสามารถมีตำแหน่งการงานก้าวหน้าไปได้เรื่อยๆ และสิ่งที่ตามมาคืออำนาจตามตำแหน่งหน้าที่ แต่เมื่อครั้นบุคคลผู้นี้เกษียณหรือมีเหตุที่ทำให้หลุดพ้นออกจากตำแหน่งอำนาจนี้ก็จะหายไปในทันที

            ถึงตอนนี้อาจมีหลายคนเริ่มเถียงแล้วว่า ไม่จริง ผู้ที่เกษียณอายุออกมาหลายคนยังได้รับการยกย่องและความเกรงอกเกรงใจอยู่ แต่การยกย่องและความเกรงใจที่เขาได้รับนั้น หาได้มาจากอำนาจ ตามตำแหน่งหน้าที่ไม่ หากแต่มาจากอำนาจเฉพาะบุคคลของเขาต่างหาก

            อำนาจเฉพาะบุคคล คืออำนาจที่ผู้คนรอบข้างมอบให้ ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อมั่นและการได้รับความนับถือจากผู้อื่น – ความสามารถในการสร้างความสวามิภักดิ์และพันธสัญญา - คุณเคยสังเกตไหมว่าทำไมคนบางคนแค่เพียงเอ่ยถึงปัญหาหรือความกังวลที่เขามี ทุกคนที่อยู่รอบข้างก็ไม่รีรอที่จะยื่นมือเข้ามาช่วย แต่ในขณะที่อีกคนหนึ่งแค่เพียงทำให้คนรอบข้างยอมรับ ก็เป็นเรื่องที่ยากเย็นแสนเข็ญเสียแล้ว

            อำนาจเฉพาะบุคคล คือสิ่งที่ต้องลงทุนลงแรงเพื่อให้ได้มา เป็นสิ่งที่ต้องได้รับจากผู้อื่น ซึ่งตรงข้ามกันกับอำนาจตามตำแหน่งหน้าที่ ที่มักได้มาเพราะผู้อื่นประทานให้

            ทุกคนสามารถสร้างอำนาจเฉพาะบุคคลได้ ไม่คุณจะเป็นใคร ซึ่งอำนาจเฉพาะบุคคลนั้น เป็นอะไรที่สร้างและหายไปได้ยาก การที่เราจะเชื่อถือบุคคลคนหนึ่งได้นั้น ต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ในการสร้างความเชื่อถือ

chakpetch

พระผงอาถรรพณ์พระเจ้าแผ่นดิน
พระผงอาถรรพณ์ธรรมราชาเวทย์

พระคู่อาถรรพณ์ธาตุน้ำ-ไฟ
สุดยอดมหาบารมีแห่งความคู่ควรกับ

"ผู้นำแห่งความยิ่งใหญ่"

chakpetch

ถ้าสังเกตุให้ดี
ราชาผู้ยิ่งใหญ่ทุกๆพระองค์จะมีสองบุคลิก
ดุดัน และ เยือกเย็น

King’s power