ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 4827
ตอบกลับ: 19
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

~ หลวงพ่อ ท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ วัดสวนขัน ~

[คัดลอกลิงก์]
ประวัติพ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน , ประวัติพ่อท่านคล้าย วัดพระธาตุน้อย


ประวัติพ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน , ประวัติพ่อท่านคล้าย วัดพระธาตุน้อย
พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ วัดสวนขัน วัดพระธาตุน้อย พระครูพิศิษฐ์อรรถการ หรือ ที่รู้จักกันทั่วไปว่า "พ่อท่านคล้าย" ประวัติ พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ เทวดาเมืองคอน
     พระครูพิศิษฐ์อรรถการ หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า "พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์" นามตามสมณศักดิ์ท่านคือ พระครูพิศิษฐ์อรรถการ เป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดสวนขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช
     พ่อท่านคล้าย นามเดิมว่า "คล้าย สีนิล" เกิดตรงกับ วันที่27ตรงกับวันอังคาร ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4 ปีชวด จ.ศ.1238 ร.ศ.95 ที่บ้านโคกทือ ตำบลช้างกลาง กิ่งอำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นบุตรของนายอินทร์ นางเหนี่ยว สีนิล มีพี่สาว 1 คน ชื่อนางเพ็งเป็นภรรยานายซ้าย เพ็ชรฤทธิ์ ไม่มีบุตรสืบสกุลแต่มีบุตรบุญธรรมหนึ่งคน ชื่อนายครื้น เพ็ชรฤทธิ์

     พ่อท่านคล้าย มีลักษณะนิสัย เป็นคนมีมานะอดทน ขยันหมั่นเพียร อยู่ในโอวาทคำสั่งสอนของบิดามารดาและครูอาจารย์อย่างเคร่งครัด สุภาพ เรียบร้อย ว่านอนสอนง่าย นิสัยอ่อนโยนละมุนละไม จึงเป็นที่รักของบิดามารดา ครูอาจารย์และญาติมิตรเป็นอันมาก

เมื่ออายุ ๑๕ ปี หลวงพ่อคล้าย ประสบอุบัติเหตุในการถางป่าทำไร่กระดูกปลายเท้า สามนิ้วแตกละเอียด รักษาไม่หาย ด้วยกำลังใจที่เด็ดเดี่ยว พ่อท่านคล้ายได้ใช้มีดตัดปลายเท้าออกด้วยตัวเอง และใช้ยาพอกจนหายเป็นปกติ


     ขาของพ่อท่านคล้ายนั้นเสียข้างหนึ่ง คือ ขาด้านซ้ายขาดตั้งแต่ตาตุ่มลงไป  (เสียตั้งแต่สมัยเด็กๆ โดนต้นไม้ทับที่บ้านญาติของท่านที่ จ.กระบี่ ขาเป็นหนองเลยต้องตัดทิ้ง โดยท่านใช้มีดปาดตาลตัดเอง) ท่านเลยต้องใส่กระบอกไม้ไผ่แทน

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
ขอบคุณที่มาแชร์ให้กับทุกคนรับรู้ฉันชอบทุกๆเรื่องราวของคุณมันดีและยอดเยี่ยมมากๆเลย
เที่ยวต่างประเทศ

ผมฟังมาจากพระภิกษุชราที่พบซึ่งท่านบอกว่าเป็นหลานลูกฟี่สาวพ่อท่านคล้าย ไม่น่าจะผิดพลาดครับ
พ่อท่านคล้าย ท่านเป็นคนไม่ยึดติดกับวัตถุครับ เขาเล่าว่า มีคนชมโบสถ์ที่วัดว่า พ่อท่านสร้างได้สวยงาม พ่อท่านคล้ายบอกว่า "ท่านไม่ได้สร้าง โยมที่ศรัทธาสร้าง ส่วนท่านเป็นเพียงประธานในการสร้างเท่านั้น" ถ้าเป็นเจ้าอาวาสบางวัดคงบอกว่า "ของกูๆๆๆๆๆๆ" แน่ๆครับ เหมือนกเขาขันเลย...
ธี ตอบกลับเมื่อ 2015-1-30 13:30
เยียมครับ แต่มีบางส่วนที่รับรู้มาต่างจากประวั ...

คุรธีเล่าเรื่องขาของพ่อท่านคล้าย มีเหตุผลน่าเชื่อถือครับ

เคยฟังคนใต้ท่านหนึ่งเขาเล่าว่า ท่านใช้มีดตัดขาด้วยตัวท่านเอง


ฟังแล้ว คิดว่า ไม่น่าเป็นไปได้  อย่าลืมว่าช่วงนั้นท่านก็เป็นปถุชนธรรมดายังไม่บรรลุธรรมขั้นสูง

จนสามารถแยกจิตจากกายได้ ถ้าตัดขา ตนเองโดยขาดความรู้ โอกาสเสียชีวิตมีสูงมากครับ


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ธี เมื่อ 2015-1-30 13:48

มีอีกเรื่องเล่าเกี่ยวกับพ่อท่านคล้าย มีเศรษฐีคนหนึ่งไปพบพ่อท่านคล้ายและแต่งตัวแบบคนจนๆ บอกพ่อท่านว่า จะมาขอหวย พ่อท่านคล้ายก็บอกว่า มีมากแล้วไม่ควรเลยที่จะแต่งตัวเหมือนคนจนมาแบบนี้ เศรษฐีก็หัวเราะย่อมรับว่าพ่อท่านคล้ายพูดถูกต้องและขอของขลัง พ่อท่านคล้ายก็ให้ชานหมากแก่เศรษฐี เรื่องนี้มีคนเล่าให้ผมฟังครับ...พิจารณาด้วย พ่อท่านคล้ายท่านมัญาณวิเศษที่รู้ลักษณะของคนได้ด้วยนะครับ
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ธี เมื่อ 2015-1-30 13:54

เยียมครับ แต่มีบางส่วนที่รับรู้มาต่างจากประวัติข้างตนจะเล่าให้ฟัง
ครั้งหนึ่งในขณะที่ผมบวช เจ้าอาวาสที่วัดไปเยียมเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันของวัดสวนขันธ์ และพาไปที่วัดอีกแห่งหนึ่ง ในขณะที่เจ้าอาวาสไปพบเจ้าอาวาสที่วัดนั้น ผมเดินไปริมคลองและเห็นภิกษุชรายืนอยู่ริมน้ำกำลังให้อาหารปลาในแม่น้ำ ผมเข้าไปไหว้ ท่านถามและพาผมไปที่กุฎิซึ่งเป็นกระท่อมมุ่งจากฝากระท่อมทำด้วยไม่ไผ่สาน หลังจากสนทนาเล็กน้อย ภิกษุชราก็เล่าประวัติของท่านโดยบอกผมว่า ก่อนบวชท่านเป็นลูกพี่สาวของพ่อท่านคล้าย แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นลูกแท้หรือลูกบุญธรรม(ซึ่งต่างจากหนังสือบางเล่มเขียนไว้) ภิกษุชราบอกว่า สมัยก่อนท่านเป็นคนขี้เมากินเหล้าทุกวัน วันหนึ่งโยมแม่นำไปพบพ่อท่านคล้ายซึ่งเป็นลุง พ่อท่านคล้ายถามว่าจะขอให้ไม่กินเหล้าได้หรือไม่??? ท่านรับว่าจะไม่กินแต่ในใจตอนนั้นก็รับไปก่อน พ่อท่านคล้ายก็ส่งชานหมากให้ หลังจากนั้นเป็นเรื่องที่แปลกมาก ตั้งแต่นั้นมาไม่รู้สึกอยากกินเหล้าเลย ปัจจุบันชานหมากก็แข็งเป็นหินอยู่ในกุฎิและท่านก็นำมาให้ผมดู ผมดูแล้วมันแข็งจริงๆ จึงคืนท่านไป(คนอื่นคงขอแต่ผมไม่ขอของรักของคนอื่น) และถามว่าท่านมาบวชนานแล้วหรือครับ ท่านบอกผมว่า นานแล้วตอนนี้ก็อายุ 82 ปีแล้ว ผมบอกว่าท่านยังแข็งแรงดีอยู่ ภิกษุชราบอกผมว่า สาเหตุที่ท่านบวชเพราะมีช่วงหนึงที่ท่านป่วยหนักมาก พ่อท่านคล้ายมารักษาให้จนหาย ท่านจึงได้คิดบวชเมือก่อนไม่เคยคิดเลย ท่านเล่าว่า นักเลงสุราจะไม่เดินผ่านวัดพ่อท่านคล้ายเพราะกิติศักดิ์วาจาสิทธิ์ ซึ่งเรื่องมีอยู่ว่า นักเลงสุรา 3 คน นำไหเหล้าจะผ่านวัดก็กลัวพบพ่อท่านคล้าย อ้อมไปหลังวัด ได้เจอกับพ่อท้านคล้าย ท่านถามว่า ถืออะไรมา นักเลงสุราบอกว่าไหน้ำผึ้ง พ่อท่านคล้ายก็บอกว่า เป็นน้ำผึ้งก็ดี หลังจากออกจากวัดได้นำไหเหล้ามาจะดืมกัน ก็ปรากฎว่าเป็นน้ำผึ้งไม่ใช่เหล้า คนจึงพูดต่อๆกัน
ในส่วนที่ขาถูกตัดข้างหนึ่ง ตามหนังสือตำนานก็เป็นแบบที่เขาเขียน แต่ผมรู้มาแตกต่างครับจึงขอเล่า พ่อท่านคล้ายในขณะเป็นฆราวาสมีเพือนรักคนหนึ่ง ทั้ง 2 คนจะแต่งงานก็ตกลงกันว่าจะแต่งวันเดียวกัน ก่อนแต่งงาน พ่อท่านคล้ายถูกงูกัด ไปหาหมอ หมอบอกว่าต้องตัดขาไม่เช่นนั้นขาจะเน่า พ่อท่านคล้ายท่านตั้งใจจะบวชเมื่ออายุมากแล้ว ท่านกลัวว่าจะไม่ครบ 32 ซึ่งทำให้บวชไม่ได้ ท่านก็ขอบวชก่อนที่จะตัดขา หลังจากบวชแล้วท่านจึงให้หมอตัดขาข้างที่งูกัดทิ้งไป ดังนั้นท่านจึงพิการขาข้างหนึ่ง ส่วนเพื่อนรักของท่านที่สัญญาว่าจะแต่งงานวันเดียวกัน เมื่อพ่อท่านคล้ายไม่สึกจากพระ เพือนของท่านก็ไม่แต่งงาน (คนโบราณเขายึดถือสัจจะมากครับ) เรื่องนี้ที่ผมเล่าอาจต่างจากข้อความกระทุู่้ข้างบนบ้าง......เป็นเรื่องเล่าครับพิจารณาด้วยนะครับ เป็นการแช่ร์ความรู้.....
ศิษย์ยานุศิษย์และประชาชนที่เคารพนับถือ ศรัทธาพ่อท่านคล้ายได้เชื่อถือถึงความศักดิ์สิทธิ์ของวาจา

พูดอย่างไรเป็นอย่างนั้น พ่อท่านคล้ายจะพูดจากับทุกคนด้วยใบหน้ายิ้มแย้มและแจ่มใสอารมณ์เยือกเย็นอยู่ตลอดเวลา

ท่านมักจะให้พรกับทุกคน "ขอให้เป็นสุข เป็นสุข" ผู้ที่เคารพนับถือท่านต่างพากันกลัวคำตำหนิ

เพราะผู้ที่ถูกตำหนิทุกรายล้วนแต่พบความวิบัติ คนส่วนมากจึงหวังที่จะได้รับคำอวยพร

เพราะคำเหล่านั้นเป็นการพยากรณ์ที่แม่นยำทั้งในทางดีและทางเสื่อมเสีย


คนที่ไปนมัสการ"พ่อท่านคล้าย"หวังที่จะได้วัตถุมงคล พระเครื่อง

บ้างขอน้ำมนต์ ชานหมาก แหวน ผ้ายันต์ เหรียญ รูปหล่อ รูปพิมพ์ ซึ่งพ่อท่านคล้ายก็ได้มีเมตตาให้กับทุกคน

ยิ่งชานหมากของท่านหากใครได้รับจากมือท่านเป็นต้องหวงแหนอย่างที่สุด



************************


ชานหมากพ่อท่านคล้ายที่ท่านเคี้ยว มีเรื่องเล่าว่าได้กลายเป็นเหล็ก แตกต่างจากชานหมากทั่วไป

ชานหมาก รุ่นว่าน(สมัยนั้นใครโดนสัตว์มีพิษ ขบ กัด ใช้ ฝนว่านในรูปพระ ผสมกับปูน และน้ำมะนาว ทาที่แผล คืนเดียวหาย)ฯลฯ

เดี้ยวนี้ชานหมากของพ่อท่านคล้ายจริงๆหลายคนได้รับแต่สูญหายไปเสียมาก คงมีแต่ชายหมากที่ปลุกเสกภายหลังพ่อท่านคล้ายมรณภาพแล้ว


*************************


ความศักดิ์สิทธิ์ของ พ่อท่านคล้ายมีให้ได้ยินอยู่เสมอๆ

เช่นครั้งหนึ่งพ่อท่านคล้ายปักกรด นั่งอยู่ใต้ต้นกระโด ข้างสะพานโค้งฉวางใกล้กับวัดวังม่วง

มีผู้หญิงชาวบ้านบังเอิญเดินมาพบท่านจึงได้ นั่งลงกราบและบอกว่าตัวเองลำบากต้องหาของป่าขาย

อยากขอหวยสักสามตัว พ่อท่านคล้ายจึงพูดในเชิง สัพยอก ว่า "อะไรกัน เลขแค่ สอง-สามตัว ซึ้อไม่ถูกเทียวหรือ"

ในงวดนั้นปรากฎว่าหวยออก 222 จึงเป็นที่กล่าวขานโจษจันษ์ กันทั้งอำเภอ



*********************************



สมัยนายอำเภอ ระบิน มีการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำตาปี เชื่อม ต.ฉวาง กับ ต.ไม้เรียง

บังเอิญมีกอไผ่สีสุก ขวางทางและ รถแมคโฮเข้าขุด แต่ขุดทุกครั้ง เครื่องต้องดับทุกครั้ง

การสร้างจึงไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ ชาวบ้านจึงสงสัยว่าในกอไผ่มีอะไร จึงถางไม้ไผ่เข้าไปดูจึงพบว่า

ตรงกลางก่อไผ่มีงูบองหลา(จงอาง)กำลังนอนกกไข่อยู่ และดุร้ายมากจนชาวบ้านไม่กล้าเข้าไปถางต่อ

จึงทำให้งานสร้างสะพานต้องหยุดชะงัก ไปโดยปริยาย

ผู้รับเหมาเจ้าของงานเครียดมากกลัวส่งงานไม่ทันและกำลังจะเข้าฤดูฝนซึ่งจะทำงานยากกว่าเดิม

เมื่อไม่มีทางออกจึงระลึกถึงพ่อท่านคล้าย

นายช่างจึงไปแจ้งความลำบากใจที่ตนประสพอยู่กับพ่อท่าน

และพ่อท่านคล้ายเห็นว่าการสร้างสะพานเป็นการพัฒนา

ท้องถิ่นจึงรับนิมนต์ไปดูรังงูบองหลา เมื่อไปถึงพ่อท่านก็ตรงเข้าไปในกอใผ่

และทำการกอบ ใข่ของงูทั้งรัง แล้วเดินนำไปวางไว้ที่กอไผ่กอข้างๆ

โดยที่มีแม่งูบองหลาเลื้อยตามหลังมาแบบ สงบเสงี่ยม

และหลังจากนั้นรถแมคโฮ ก็เข้าไปทำงานได้ราบรื่นจนงานเสร็จโดยไม่มีอะไรเกิด

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้