|
ตำนานแห่งเมล็ดพืชมงคล “รุทรักษะ” หรือ “น้ำตาพระศิวะ”
ในครั้งหนึ่ง องค์มหาอุมาเทวีเจ้า ได้ ทูลถาม องค์พระสดามหาศิวะเจ้า ถึงความสำคัญของเมล็ด
รุทรักษะ ซึ่งองค์พระสดามหาศิวะเจ้า และ เหล่า คณะปติ, คณะบริวาร ขององค์พระสดามหาศิวะเจ้า
ได้ใช้ประดับสวมใส่อยู่
และได้รับทราบถึงคำตอบว่า ในครั้งหนึ่งของการทำสมาธิอันยิ่งใหญ่ในการเปิดโลกทัศนะญาณขององค์พระสดามหาศิวะเจ้า เมื่อองค์พระสดามหาศิวะ ผู้เป็นเจ้าท่านได้ทรงเห็นความทุกข์ ยาก ลำบากใน การดำรงชีวิตของเหล่ามนุษย์บนโลก ด้วยความเวทนา ในชะตากรรม น้ำพระอัสสุชล (น้ำตา) ขององค์พระสดามหาศิวะเจ้า จึงได้หยดลงมาบนพื้นโลก และเมื่อน้ำพระอัสสุชล(น้ำตา)
ขององค์พระสดามหาศิวะเจ้าหยดถึงพื้นดินนั้นก็ได้บังเกิดเป็นต้นไม้ขึ้น องค์พระสดามหาศิวะเจ้า
จึงได้อำนวยพรให้กับต้นไม้ที่กำเนิดนั้นโดยให้ถือว่าเป็นต้นไม้มงคลและตั้งชื่อให้ว่าต้นรุทรักษะ
และอำนวยพรให้แก่มนุษย์ที่ได้นำเมล็ดรุทรักษะไปประดับหรือสวมใส่ด้วยความเคารพรัก ดังนี้
เมล็ดรุทรากษะ เป็นเมล็ดผลไม้ที่ทรงโปรดแห่งพระศิวะเทพ
เป็นสิ่งที่นำความศักดิ์สิทธิ์ ขับไล่บาปทั้งหมดได้ด้วยการได้เห็น ได้สัมผัสและได้ท่องสวด (ลูกประคำ)
เมื่อก่อนอันความยิ่งใหญ่แห่งเมล็ดรุทากษะ ได้ถูกนำมากล่าวต่อพระแม่ศิวาโดยพระศิวะเทพ เพื่อช่วยเหลือต่อจักรวาล พระศิวะเทพทรงรับสั่งว่า ...
“โอ้ นางมเหศานี จงรับฟังถึงความยิ่งใหญ่แห่งเมล็ดรุทรากษะ เพื่อผลประโยชน์ต่อมวลมนุษย์ที่ทำการบูชาต่อพระศิวะเทพ เมื่อก่อนนั้นข้าได้ประกอบสมาธิกรรมฐานเป็นเวลาหลายพันปีแห่งสวรรค์ ถึงแม้จะควบคุมการสำรวจนี้เป็นอย่างดีก็ตาม จิตใจของข้าไม่อยู่คงที่ได้ล่องลอยไปในที่ไกล โดยปราศจากการกระทำใดๆ ข้าถึงกับสดุ้งตกใจตื่นจากการสำรวม และลืมตาขึ้นจากความต้องการที่จะช่วยเหลือจักรวาล หยดน้ำตาของข้าก็ล่วงลงสู่พื้นดินที่ดวงตายังลืมไม่หมด ลืมเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น
จากหยดน้ำตาที่ไหลออกมาได้เกิดเป็นต้นรุทรากษะขึ้น” ต้นไม้เหล่านี้ เป็นสิ่งที่เคลื่อนที่ไม่ได้ และได้ออกลูกมาเป็นจำนวนมาก ต้นไม้เหล่านี้ได้เจริญในดินแดน เกาฑะ , มธุรา , ลังกา , อโยธยา , มลัย , ภูเขา , สหยะ , แคว้นกาศีและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ มันสามารถจะทำลายบาปให้ หมดไปได้
สีสรรต่างๆ แห่งเมล็ดรุทรากษะนั้นมีอยู่ 4 สีคือ สีขาว , สีแดง , สีเหลือง , และสีดำ ประชากรทั้งหมดจะต้องสวมใส่เมล็ดรุทรากษะตามวรรณะที่ตนอยู่
เมล็ดรุทรากษะอันมีขนาดเท่าลูกสมอ นับว่าเป็นขนาดที่วิเศษที่สุด แม้ว่าเมล็ดจะมีขนาดเล็กเท่าเมล็ดพรุทราก็จะได้รับประโยชน์และมีความผาสุกอันยิ่งใหญ่ ไม่มีสร้อยคออื่นหรือพวงมาลัยใดที่จะนำความเป็นศิริมงคลและให้ความสำเร็จสมประสงค์ทุกอย่าง เท่ากับการได้สวมใส่เมล็ดรุทรากษะ จะต้องสวมใส่เมล็ดผลไม้นี้ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย คือจะต้องร้อยเมล็ดรุทรากษะ 6 เมล็ด เมล็ดไว้บนหูแทนต่างหูทั้งสองข้าง จำนวน 101 เมล็ดจะร้อยใช้แทนสร้อยคอ จำนวน 11 เมล็ดจะสวมไว้รอบแขนที่ซ้ายและขวา , ที่ข้อศอกและที่บั่นเอว ผู้บูชาต่อพระศิวะเทพจะต้องร้อยรุทรากษะสวมเมล็ดกับด้าย
สายสิญของเขา
กฎแห่งพระเวทย์การสวมใส่เมล็ดรุทรากษะในแต่ละวรรณะ
ตามกฎแห่งพระเวทย์ที่ได้รับวางไว้ คือ เมล็ดรุทรากษะสีขาวสำหรับพราหมณ์ สีแดงสำหรับวรรณะกษัตริย์ สีเหลืองสำหรับวรรณะไวศยะ และเมล็ดสีดำสำหรับคนในวรรณ ศูทร
ประชากรแห่งวรรณะทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นหญิงก็สามารถสวมใส่เมล็ดรุทรากษะได้ตามบัญชาของพระศิวะเทพ คนเหล่านั้นผู้เขียน ตรีปุนทร มีการสวมใส่เมล็ดรุทรากษะ
จะไม่ตกสู่นรกแห่งพระยมราชเลย พระยมราชได้มีบัญชาต่อบริวาลฑูตของพระองค์ว่า “คนผู้ใดที่สวมใส่เมล็ดรุทรากษะ แม้เพียงเมล็ดเดียวไว้บนศีรษะแล้ว มีการเขียน ตริปุนทรไว้บนหน้าผากและมีการท่องสวมมนต์ 5 พยาค์แล้วจะต้องทำความความเคารพต่อเขาทันที เขาเหล่านี้เป็นบริวาลของพระศิวะเทพ และไม่จับกุมหรือทรมานแต่อย่างใด
ตราบนานเท่านานที่สวมใส่เมล็ดรุทรากษะ คนผู้นั้นจะมีจิตวิญญาณบริสุทธิ์ เป็นที่โปรดปรานแห่งเทพเจ้าทั้ง 5 พระองค์ ( พระอาทิตย์ , พระคเนศ , พระแม่ทรุคา , พระรุทรและพระวิษณุเทพ )และเป็นที่ชอบพอรักใคร่ของเทพทั้งหมดด้วย”
คนทั้งหมดที่ได้ใช้เถ้าถ่านและสวมใส่เมล็ดรุทรากษะจะเป็นที่ชื่นชอบของพระศิวะเทพ เป็นผลแห่งความผาสุขร่ำรวย เป็นอิสระจากบาปทั้งปวง และคนผู้ที่ได้สวดมนต์ 5 พยางค์ ด้วยแล้วนับว่าได้ปฏิบัติอย่างสมบูรณ์แห่งโยคะลัทธิ และนับได้ว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง
|
ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง
คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน
x
|