ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

~ แตกใจความมหาเสน่ห์ ~

[คัดลอกลิงก์]
51#
โพสต์ 2015-5-9 13:18 | ดูโพสต์ทั้งหมด
เพื่อให้เหมาะสมกับการที่เราต้องทำมาหากินแล้ว
ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยจากธุระเท่านั้นครับ
เปรียบให้ทราบว่ามันวุ่นวาย เดี๋ยวไปลอง
เล่่นดูก่อนแล้วจะมาเล่าให้ทราบ เพราะไม่เคยเน้น
เสน่ห์กับวิชานี้นักจึงจำไม่ถนัด
52#
โพสต์ 2015-8-17 08:15 | ดูโพสต์ทั้งหมด
พอดีไปซุ่มตัวสวดคาถาปฎิบัติธรรมเพื่อพิสูจน์อะไรบางอย่าง
ได้ค้นพบว่าวิชาเสริมดวงนั้นไม่พ้นคาถาพระธรรมราช
ที่ใช้คู่กับพระอาถรรพ์ธรรมราชาครับ คือเสริมธุระและความเป็นอยู่
ได้จริงๆจึงนำมาเล่าสู่กันฟัง

เผอิญมีประสบการณ์คาถาอื่นๆมาตลอดแต่บทนี้เคยทำ
ไม่กี่ครั้งในชีวิต จำได้ว่าทำแล้วดีพอใช้ในรายได้
แต่คนรักมาก พอวันเวลาผ่านไปเรามีทัศนคติแตกต่าง
เรื่องการเล่นมหาลาภว่ารายได้ดีแต่ลำบาก เงินมาแล้วก็ไป
ได้ความเร็วในการหาเงินแต่เหมือนภาพลวงตา ในภาพรวมๆ
ถือว่าหาความสุขที่เกิดมาเป็นคนไม่ค่อยเต็ม

เมื่อรู้จึงค่อยๆมองง้อนกลับไปก็เจอคาถาพระธรรมราชา
จึงลองใหม่ พอทำไปซักพักผ่านไปเดือนสองเดือนชักชัดพึลึก
ขอให้เพียงอดทนและรู้จักปล่อยวางต่อทุกข์และปัญหาบ้าง
สวดๆไปเมื่อนึกขึ้นได้ หรือพอกลุ้มมีปัญหาก็พลันวางอารมณ์นั้้น
แป๊บนึงแล้วสวดแล้วระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้า ทำๆไปจะเห็นผลครับ
53#
โพสต์ 2015-12-25 15:22 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ วันนี้มีคนเดินมาบอกอย่างนี่เหมือนกัน
และให้สุขสมในปีใหม่ที่จะมา
ในเมื่อมีคนแปลกหน้าเดินมาบอกผม
อย่างนี้ผมก็ขอให้พรนี้แด่ทุกๆคนเช่นกัน
ตอนนี้ตัวจะเบามากๆผมเพิ่งสวดพระธรรมราช
๑๐๘ จบเสร็จ ชีวิตราบรื่นการทำมาหากินก็สบายดีนะครับ
จริงๆแล้วใช้ทางมหาเสน่ห์ก็ได้นะ แต่ผมเอาแบบนี้มันโปร่งดี
54#
โพสต์ 2016-4-9 11:30 | ดูโพสต์ทั้งหมด
เนื่่องจากใจความมหาเสน่ห์ผมมันผ่านมาเยอะผมก็เลยมาเข้าสู่
วิธีชีวิตแห่งศีลภาวนาและทาน
ก็เข้ามาสู่ช่วงระยะหนึ่งได้แล้ว ผมเคยสงสัยว่ามหาเสน่ห์นี่นะทำยังไงถึงเจอคนถูกใจ
คำตอบคือบุญครับประกอบกับภาวนา
บุญคือทานที่ทำไปแล้วอุทิศให้แด่ครูเจ้าของคาถา
เช่นถ้าใช้นะหน้าทองก็อุทิศให้ครูคาถานี้ หรือคาถาพระปัจเจกก็อุทิศให้ครูคาถานี้
ทำๆไปและถือศีลทำกรรมฐานเป็นประจำด้วยเสร็จแล้วก็ภาวนาคาถาที่ถนัดๆ108 จบ
อฐิษฐานว่าบุญใดที่ข้าพเจ้าทำไปทั้งด้วยทานด้วยศีลด้วยภาวนา ขออุทิศให้แด่ครูเจ้าของคาถาที่่ข้าพเจ้าภาวนา108. จบนี้ ณ กาลบัดนี้เทอญ ........

แล้วอฐิษฐานว่าขอให้ด้วยอำนาจบารมีทั้งที่ข้าพเจ้าสร้างมาประกอบกับบารมีพระคาถา
อันมีบุญทั้งมวลที่มาเกี่ยวข้องจงนำพาบุคคลที่น่าพอใจเป็นอย่างยิ่ง
ให้แด่ข้าพเจ้าด้วยเทอญ
แม้คนทั่วไปที่สำเร็จจากอำนาจพระคาถาถ้าไม่เป็นผลดีหรือถูกใจก็ขอให้อย่าได้มาทำความพัวพันจนเกินพอดีเทอญ.

อันนี้นำมาคุยนะครับว่าเขาทำกันอย่างนี้
จะนำพระขุนแผนของสำนักสร้างแล้วใช้วิธีเดียวกันก็ได้
แต่ควรเก็บตัวทำให้ครบ1 เดือนหรือ3เดือนก็แล้วแต่ จึงจะดี ไม่ใช่ทำแล้วไปแสวง
หาประจำ พลังไม่ค่อยเต็มจะดีมั้งผมคิดว่า วันนี้พอปนะมาณความรู้ที่จำเป็นแด่เพียงเท่านี้  เป็นศิษย์สำนักนี้ควรรู้จักเลือกบ้างหรือพอใจคนไหนก็คนนั้นนะอย่าเจ้าชู้ผิดลูกผิดเมีย เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน
มีคาถามหาลาภองค์มหาพรหมมาฝาก
ใครเป็นศิษย์ห้องอาถรรพณ์เวทย์จึงได้เห็นประจักษ์
อย่าลืม ศีล สมาธิ ทาน นะเออ
55#
โพสต์ 2016-5-1 11:02 | ดูโพสต์ทั้งหมด
เรื่อง " การสรัางกำเนิดอารมณ์แผ่เมตตา "
หากท่านใดได้สวดอิติปิโส(พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ)
ด้วยความเลื่อมใส ให้ทำการสวด 3 จบ(ทั้งหมด)
และสังเกตุอารมณ์ว่าอบอุ่นสบายใจสว่างไสวขึันไหม

จากนั้นให้ปรารถณาว่า ขอให้ความรู้สึกอบอุ่นสว่างไสวสบายใจนี้ จงมีแด่ผู้คิดร้ายให้ร้ายให้โทษแก่เรา
โดยไม่จำเป็นต้องจะเป็นคน อาจจะเป็นทุกสิ่งที่สามารถ
ทำอันสิ่งร้ายๆแก่เราได้ เอาไปฝึกดูครับ ทำวันละ 3 ครั้ง กำหนดกับสิ่งกับอาณาบริเวณใกล้ตัวก่อน อันนี้ทำให้แด่
ผู้ให้ร้ายไดัทุกรูปแบบ รวมถึงผู้รังควาญ การทำแบบนี้คือ
การแผ่เมตตานั่นเอง ส่วนสิ่งที่ยากกว่าการแผ่เมตตาคือ
อภัยทานสองสิ่งนี้ไปคู่กันแต่อาจทำไม่ได้ทุกคนเสมอไป
เพราะการมีอภัยทานเป็นการไม่ไปผูกปมไว้ทึ่ใจอันเป็น
เหตุให้เกิดลูกโซ่ไปถึงเรื่องราวต่างๆที่มาจากเรา

ใครทำอย่างที่บอกได้จะเห็นผลดีมากๆ ในทางกลับกัน
คุณสามารถทำอย่างนี้ง่ายขึ้นเมื่อเรากำหนดไปที่คนใกล้
ตัวที่สนิทสนมหรือพบเจอประจำ ที่ต่างเห็นอกเห็นใจกัน
เพื่อน ญาติ ที่บังเอิญดูขาดความแจ่มใสก็ได้ กับเจ้านาย
ที่อารมณ์ดีกับเราอยู่แล้ว แล้วเราอยากจะ " ให้ " อะไรที่
พิเศษๆเป็นการตอบแทน ก็ลองทำดูกันครับจะรู้ว่าเราก็สามารถให้อะไรๆใครที่มีค่าอย่างนี้ได้โดยไม่ต้องเป็นสิ่งของที่มาจากเงินตรา ของมีค่าอย่างนี้เงินตราซื้อไม่ได้ครับ เพราะมันเป็นของวิเศษจากใจคุณสู่ใจเขาโดยตรง

56#
โพสต์ 2016-5-11 01:47 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ในครั้งนึงที่สนทนากับหลวงปู่ชื่นเรื่องคาถานะโมพุทธายะ
ท่านบอกทางเขมรไม่เน้นบทนี้แต่ก็มี คนไทยมีคาถาสั้นๆใช้ได้หลายอย่างกว่าเขมรนะ
ท่านกล่าวไว้อย่างนั้น ผมได้โอกาสจึงได้คุยเริ่องการนำมาภาวนาอันมีคาบภาวนาและอนุโลม-ปฏิโลม


ท่านจะยิ้มของท่านเหมือนอารมณ์ดี คงเหลือแต่ลักษณะจะฟังผมพูดต่อแต่ผมก็ได้เพียงแต่รอว่าท่านจะบอกอะไรผม


หลังจากนั้นสองวันต่อมาท่านจึงมีเวลามาคุยกับผมต่อ
ท่านพูดถึงนะวนเวียนและคาถาราชามหานิยมอันมีใจความหลักอยู่ที่นะโมพุทธายะ ส่วนคาถาราชามหานิยมจะคล้ายคาถากำกับขุนแผนชมตลาด โดยท่านสอนให้เน้นสานต่อเองในวันข้างหน้าแล้วจะเข้าใจเอง


ส่วนที่เหลือนั้นท่านได้ชี้แจงบอกว่า ตัวผมเริ่มยังไงถนัดยังไงจะเกี่ยวกับที่ถามท่านเมื่อสองวันก่อน แบบอื่นเป็นมนต์คาถาใดๆลัวนขึ้นอยู่กับวันข้างหน้าถ้ามีความรู้อันใดดีขึ้นท่านจะมาบอกให้ความกระจ่าง


เมื่อสองวันก่อนผมถามเรื่องนะโมพุทธายะครับหลวงปู่
ท่านยิ้มแล้วว่าการภาวนาลักษณะนี้ทำได้และเป็นพลังอันใหญ่เมื่อทำไปจะรู้เองและดีมากทำได้หมด ท่านบอกแล้วแต่ถนัดจะเป็นสลับคาบก็ได้จะเป็นเดินหน้าถอยหลังก็ได้
ทำไปจนทุกอย่างเป็นเนืัอเดียวกันกับจิตจะถามอะไรก็อฐิษฐานขอความรู้ขอคำตอบเอาเอง อย่างเดินหน้าถอยหลังถ้าถึงจุดก็ถามขอคำตอบของอนุโลมปฏิโลมเอามีในศาสนาพุทธอยู่แล้ว ไปได้กลับได้หมายถึงคล่องใจชำนาญไม่ใช่คล่องปาก การภาวนาสลับแนวคาบก็เหมือนกันเหมือนหมุนพลังนะโมพุทธายะในตัว สำเร็จแล้วจะเอาอะไรถามวิธีเอา
ถึงเวลาก็จะเข้าใจเรื่อยๆ พบแต่ความสว่าง


โลกแห่งพระพุทธเจ้ามาโปรดไม่ใช่โลกมืดถ้ารู้จักความปรารถณาที่ท่านมาบำเพ็ญเพื่อโปรดมนุษย์รวมแล้วมีอยู่เป็นนะโมพุทธายะ ทบทวนสิ่งทุกอย่างในโลกมันเป็นไปได้ทุกอย่างในโลกเพราะสิ่งที่โลกให้เป็นไป ในโลกมีมหาบุญบารมีแห่งนะโมพุทธายะมาก่อน


เข้าใจดีหมดแล้วค่อยมาเรียนสมหมู่บ้านกินน้ำบ่อเดียว
เข้าใจแล้วก็สอนได้


ทว่าผมไม่เคยได้ฝึกทำเลยจนล่วงเลยไปถึงมาสนใจในตอนนี้และนำมาแชร์กันในเรื่องราว นี่ไม่ใช่วิธีภาวนาที่ท่านทำและสอนผมโดยตรงแต่เป็นที่ท่านมาเฉลยในสิ่งที่ผมถาม ท่านอุตส่าห์ไปกลั่นกรองมาสองวันก่อนมาตอบในเรื่องนี้ ถ้าใครเข้าถึงตรงนี้จะทำอะไรทางฤิทธิ์ในโลกก็ทำได้เพราะมีธรรมอยู่ในจิตมากพออยู่

57#
โพสต์ 2016-10-15 23:22 | ดูโพสต์ทั้งหมด
พุทธะ เมตตัง จิตตังมะมะ พุทธะ พุทธานุภาเวนะ
ธัมมะ เมตตัง จิตตังมะมะ ธัมมะ ธัมมานุภาเวนะ
สังฆะ เมตตัง จิตตังมะมะ สังฆะ สังฆานุภาเวนะ

เนื่องด้วย ข้าพเจ้าได้สวดบทพระธรรมราชามาล่วงจะ 2 ปี จนได้กระจ่างและเข้าใจวิชานี้ในแนวอื่นๆตามประสบการณ์ที่อัศจรรย์ ก่อนจะออกพรรษาข้าพเจ้าได้พบเจอการเดินจิตกระแสขจิตที่คนส่วนใหญ่ในสายวิชานี้จะไม่สันทัด นั่นคือกระแสเมตตาหรือการทรงพรหมวิหารนั่นเอง จะครบ 4 เมตตา กรุณา มุฑิตา อุเบกขา หรือไม่นั่น ยังไม่สำคัญเท่าการได้เข้าถึงกระแสนี่ก่อน อันเป็นเมตตามาก่อเหตุแห่งสมาธิไว้ ทำให้คาถาพระธรรมราชนี้มีปาฏิหารย์ยากเกินกว่าจะอธิบาย


วิธีที่จะทำได้ง่ายคือปลดปล่อยอคติให้หมดแล้วภาวนาคาถาของหลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพลครับ นำมาชักลูกประคำ 108 จบ ท่านจะเข้าถึงสภาวะเย็น เมื่อนั่นท่านมองไปทางไหนขอให้ประกอบกับจิตที่มีรอยยิ้มความหวังดีแจ่มใสต่อทุกสรรพสิ่ง จึงมาภาวนาคาถาพระธรรมราชอีก 108 จบ ท่านจึงแผ่เมตตาไป ให้ท่านยิ้มก่อนแล้วเอารอยยิ้มมาไว้ที่ลิ้นปี่พร้อมกับแผ่ออกไป หมั่นฝึกหมั่นทำท่านจะเข้าใจ ว่าแท้จริงแล้วพระธรรมราชานัันเปึ่ยมด้วยเมตตาธรรมขนาดไหนจึงได้ศักดิ์สิทธิ์แม้แต่การสวดพาหุง(บทแรก)นั่นก็หาใช่การชนะด้วยจริตผู้จะเอาชนะ แต่เป็นธรรมแห่งเมตตาเชิงกุศโลบายต่อฝ่ายตรงข้ามนั่นเอง


อีกอย่างอันความรักนั้นส่งต่อให้ถึงกันได้ครับ เช่นความรักอันสูงส่งแห่งพ่อพระธรรมราชา ที่อบอุ่นสามารถทำให้เรารักตัวเองและพร้อมทึ่จะแผ่ความรักให้ผู้อื่นไม่มีประมาณ อันความรักนี้แหละที่ทำให้ชีวิตและจิตใจมีกำลังขึ้นมา เราสามารถส่งกระแสนี้ให้คนนั้นๆ ผลคือเขาจะเกิดความรักในตนขึ้นมาได้ครับ เมื่อตรงนี้เกิดขึ้นส่วนที่เหลือจะดำเนินไปเองโดยอัตโนมัต สามารถใช้ชีวิตของเขาได้อย่างแจ่มใสเข้มแข็งเต็มกำลังของเขาเอง  ขออธิบายแค่นี่ก่อนนะครับ


อันกุศลผลบุญอันใดที่ข้าพเจ้าได้จากปฐมเหตุแห่งนี้
ด้วยคุณอันประเสริฐแห่ง พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ
พระสังฆคุณ ข้าพเจ้าขอถวายบุญกุศลนี้แด่องค์เสด็จพ่อพระธรรมราชาอันเป็นที่รักแห่งปวงชนชาวไทย ณ กาลบัดนี้เทอญฯ


58#
โพสต์ 2016-11-23 13:14 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ลองไปหาบทสวดมนต์ประจำสำนักดูครับ
เรื่องบทพระธรรมราชนี้ เริ่องราวมีอยูว่าหลวงปู่ชื่น
ได้เคยสอนไว้แต่ไม่สนใจนักเนื่องจากผมมองหาแต่
อะไรที่ค้นคว้าอยู่เท่านั้น ตอนนั้นคิดอยู่ว่าในบทมีพระตรัยสรณคมณ์แล้วก็คำอะไรบางอย่างเหมือนโทนปลุกจักกระ
จนเมื่อล่วงเข้าสู่ช่วงหนึง (สิบปีมาแล้ว) ผมได้เข้าสู่ความพอใจในบทสั้นๆที่มีพุทโธ ธัมโม สังโฆ คือมาถึงจุดทึ่มีวิสัยทัศน์กว้างขึ้นในพุทธคุณคาถาว่าหาประมาณมิได้ จึงนำบทพระธรรมราชามาสวดและเฝัาดูเฝ้าสังเกตุบันทึกไว้ แปดปีต่อมาเมื่อมองย้อนไปผมเพิ่งจะเข้าใจว่าความอยู่ได้ปกติสุขในมุมกว้างนั้น มีค่ากว่าความฟู่ฟ่าหวือหวาในสิ่งที่ผมเผชิญมาตลอดๆ (สรุปอย่างนี้แหละครับ)

ถ้าเอาพอสังเขปก็เป็นไปในลักษณะอยู่ได้ทรงได้ปกติสุขไม่ต้องพลันตกหลังม้า คุ้มดวง คุมเชิงปัญหา ทรงไม่ให้ล่ม แต่เราต้องดูแลตัวเราให้ดีด้วยนะครับเดี๋ยวจะกลายเป็นว่าใจกล้าบ้าบิ่นกระโดดลงหลังม้าเอง เตือนไว้ครับว่าคุณจะเสึยเวลาไล่ตามม้า (คงจะทันหรอกนะ)เดินดุ่มๆไปข้างหน้าเองแล้วกัน หมั่นสวดด้วยศรัทธาและวางอารมณ์เย็นๆครับ
...แล้วคุณจะไม่ตัองตกต่ำคว้าน้ำเหลวใดๆ
59#
โพสต์ 2016-12-17 11:47 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอเอ่ยถึงสาระคาถาบางบทในวงงานเพิ่มเติมบ้างครับ
เนื่องจากเป็นสาระจำเป็นนอกเหนือจากการมีวิชาดีคุ้มดวง
อยู่แล้วเป็นทุนเดิม

ในใจความของโลกทำมาหากินนี่ มีอยู่วิชานึงที่เด็ดมาก ใข้เวลาโดนด่าหรือจะโดนด่า เนื่องจากคนที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับวงงานต่างๆนั้นผิดพลาดกันได้ อาจโดนด่า  หน้าละห้อยคิดมาก  บานปลาย จริงๆแล้วจะมีอยู่สองคาถาครับทึ่ใช้กับเจ้านาย ผู้ใหญ่ บทแรกเป็นบททำให้เจ้านายโปรดปรานพอใจโดยตรง ใครจะจีบใครเฉยๆแบบคุยชมเขาให้ลอยด้วยบทนี้ก็ได้ ไม่ต้องจีบเฉพาะการเกึ้ยวพาราศีเท่านั้น  จีบให้ติดผูกไมตรีจิตกันไว้ก็ดี บทนี้คือโตเสนโตฯลฯที่คนลืมกันไปหมดว่าเป็นคาถาอะไร ส่วนมากจะนำไปเป็นบทบูชาสมเด็จโต ไม่ก็กลายเป็นคาถาบูชาพระพุทธรูปหลวงพ่อโต จริงๆก็ได้ครับ เพราะลงทัาย นะมามิหัง เป็นการให้ความเคารพอยู่ในคาถาอยู่แล้ว ปัจจุบันมีบทอื่นๆมาก หากแต่เดิมทึจะเป็นบทนี้ทึ่ทรงคุณเชิงชั้นสูงครับ

นะโม 3 จบ
โตเสนโต วะระธัมเมนะ  โตสัฏฐาเน สิเว วะเร
โตสัง อะกาสิ ชันตูนัง  โตสะจิตตัง นะมามิหัง

สวด 7 จบครับ และว่างๆทำงานก็สวดไม่มีพิธีรีตรองอะไร
อย่าให้รอจนใจเตลิดขุ่นมัว แล้วสวด เอาตอนแจ่มใสและทำงาน แล้วจำอารมณ์นี้ให้ดีเมื่อมีปัญหาจะสวดเมื่อไหร่จะได้วางจิตสวดได้สะดวก จะเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายตรงข้ามก็ได้ครับ เดี๋ยวจะคิดแต่ว่าใช้ทางการงานที่มีเจ้านายอย่างเดียว  เข้าบ้านท่านแล้วเกร็งหน้าชาๆไม่รู้จักมักจี่ก็สวดครับ ชง้ดนักแล (จะใช้กับพระทึ่เราห้อยในการงานก็ได้นะครับเช่นพระองค์ที่ดูอลังการอย่างพระอาถรรพณ์ธรรมราชาเวทย์ พระยอดขุนพล หรือพระที่ในอุดมคติคุณรู้สึกว่าท่านยิ่งใหญ่ข้าพเจ้าขอนอบน้อมนมัสการเเล้วว่าคาถาตามเลย
จะทำให้มีพุทธคุณเสริมแทรกเข้ามาอีกครับ)

เรื่องต่อมานั้นเป็นการกันเรื่องราวมิให้เกิดขึ้นจากการ
" ถูกด่า " ตรงนี้ว่าด้วยการงานก่อน บางงานด่าเสียๆหายๆต่อหน้าคนอื่น คนบางคนยืนล้วงกระเป๋าด่าคนอื่นทั้งวัน ง่ายดี.. เอาไว้กันผู้ร่วมงานบางคนมาสนทนาทับถมก็ยังได้..
เวลาจะโดนผู้ใหญ่ด่า หรือเดินไปไหนมาไหนใครเห็นก็อยากด่า(และเห่า..!)ซะอย่างนั้น เอานี่เลยครับฝึกไว้ ไม่ต้องบทอื่น มีบทที่ใช้สะดวกเฉพาะบทนี้ หัวใจพญาเต่าเลือนครับ
เหมือนเดิม คือ 7 จบ อันนี้จริงๆแล้วแยกอุปเท่ห์ได้อีกตามศรัทธา มักจะเป๊นเมตตามหาเสน่ห์อีกด้วย ใครใช้ขึ้นมากๆระวังหน่อยถ้าค้าขายเจรจากับลูกค้า เพราะเขาจะจับใจความไม่ได้นัก ไม่รู้สติไหลไปไหนจะงงงวยท่าเดียว ยกเว้นเสียแต่คุณจะไม่แคร์เลย คือขายๆไปเหอะ ซื้อไปไม่เสียหาย จ่ายแล้วก็ได้ของดีอยู่ดี อันนี้ก็แล้วแต่กรณีครับ

นาสังสิโม สังสิโมนา
สิโมนาสัง โมนาสังสิ

ฝึกกันดูครับ เป็นแล้วจะได้ใช้ในยามจำเป็นๆ
บางท่านจะถูกด่าก่อนเป็นการอุ่นเครื่องก่อนจะตามมา
ด้วยการวิวาทเจ็บตัว โบราณว่าสวดแล้วให้ลองแผลงๆ
หน่อยเช่นไปทำให้ใครโมโหก็ได้ คือสวดแล้วให้ทำผิดซะเดี๋ยวนั้นกับใครก็แล้วแต่จะวางแผนไว้ แล้วผลคือเขาจะไม่โมโหเราก็เป็นอันสำเร็จ วิชานี้ทำให้ไม่ต้องมีเรื่องกับใครครับง่ายดี..ไม่ต้องมาหนังเหนียวซัดกันตุบตับๆ แค่นึกไม่ออกกันว่าเมื่อกี้...กำลังจะทำอะไร....ยังไง..กับใคร..เอ..?
60#
โพสต์ 2017-3-26 02:19 | ดูโพสต์ทั้งหมด
วันนี้จะขอชวนกันมาทำความเข้าใจกับบทยันทุนนะครับ
ว่าจริงๆแล้วบทนี้สวดมากๆหรือนำมาบริกรรมได้เลยเช่นวาง
้เจตจำนงไว้ 30 นาที ก็สวดไปเรื่อยๆ อานุภาพบทนี้ถ้าหาเอาตามตำราและที่อื่นๆจะเข้าใจอยู่ในระดับนึงแบบพอประมาณ หากแต่บทนี้เป็นบทที่รองรับอันผาสุขต่างๆรวมถึงโภคทรัพย์นะครับ อันเรื่องไม่ดีต่างๆเช่นจะเดินทางจะทำงานจะค้าขายอะไรต่อมิอะไรที่มันดูมีอะไรมาขัดใจตะขวิดตะขวางชวนเป็นเรื่องอยู่เรื่อย ก็ต้องเจริญภาวนาบทนี้บ่อยๆหรือทุกวันครับ โดยธรรมชาติแล้วจะมีธาตุอริตามสิ่งต่างๆปะปนอยู่ในสรรพสิ่งดีๆที่เราพึงจะมีเพื่อบั่นทอนความบันเทิงใจให้เกิดสุขไม่เต็มที่นัก เช่นสวดบทมหาลาภก็มีสิ่งอันติดขัดต้องมากายกรรมโลดโผนสู้มันเพื่อให้ได้ลาภตามที่สวดไป นานๆเข้าชักรำคาญไม่อยากทำกิจให้เต็มที่ คือเบื่อพาลเลิกราไปก็มี บทยันทุนให้ถือว่าเป็นบทคู่บทมหาลาภแทบทุกบทครับ แม้จะขอลาภจากสิ่งใดๆถ้าเราสวดบทนี้เป็นทุนแล้วโชคลาภจะมาง่ายขึ้น เปรียบเสมือนไร้สิ่งอัปมงคลนานาอันเป็นพื้นรองรับอันน่าเกษมแห่งโภคทรัพย์นั่นเอง
โปรดพึงไตร่ตรองพิจารณาหาศรัทธาต่ออานุภาพพระไตรสรณคมน์ให้ดีเสียก่อนแล้ววางบาทฐานว่าหาประมาณมิได้ ฝึกครับทำอยู่เนื่องๆ มีผลทุกสถานทุกกาล

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้