ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 54994
ตอบกลับ: 242
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

~ แตกใจความมหาเสน่ห์ ~

[คัดลอกลิงก์]
แตกใจความมหาเสน่ห์โดยพี่ทิม(Timo)

จะแตกเนื้อหาแห่งมหาเสน่ห์ให้ทราบครับว่าแต่ละแบบให้อะไรเตรียมตัวนั่งอ่านกันให้ดีที่ผมหายไปก็เป็นไปเพื่อค้นหาตนจนพบและค่อยๆเปลี่ยนจากคนอีกคนทีต้องแก้และเห็นว่าควรให้ในสิ่งที่ไม่เคยให้เพราะไม่หวงแล้วแต่ไม่ใช้สอนสิ่งเลวๆนะครับอาจจะแปลกบ้างแต่ไม่ใช่ทางเลวร้ายผมมันแปลกอย่างนี้แหละ
พี่ทิมครับ
พี่เคยบอกใช่มั้ยคับ ว่าวิชานกถึดทือเป็นมหาสเน่ห์ รึป่าวคับ ถ้าผมจำไม่ผิดนะ
เป็นมหาสเน่ห์ยังงัยอะคับ เพราะตะกรุดนกถึดทือที่หลวงปู่สร้าง เหมือนจะเน้นไปทางป้องกันคุณไสยคับ
ขอบคุณครับพี่ทิม
ผมจะมาเผยคาถาที่ว่า ในวัยมากอายุเเบะเบื่อโลกมากขึ้นเราสวดอะไร?


ให้คุณอาราธนาศีล 5 ครับ แล้วว่งจิตสำนวมให้ดีอย่าบ้าบอกับทางโลกนัก วางให้หมด ทำให้เป็น เมื่อแน่ใจดีจึง มาสวดพระคาถามงกุฏพระพุทธเจ้าเรื่อยๆ นั้นแหละคำตอบ ว่างๆก็ขออฐิษฐานให้ชีวิตมีความสุขล้นพ้น ใครทำได้เมื่อไรเสถียรแล้วอยากจะแผ่เมตตาค่อยแผ่เมตตา

ป .ล.ด้วยรักและเผื่อแผ่
ขอบคุณครับพี่ทิม
ขอบคุณครับศิษย์พี่ทิม
วิชา gratitude
ขอบคุณจักรวาล
เป็นวิธีดึงความดีสู่ชีวิต ให้แสดงอารมณ์ยินดีที่ได้รับสิ่งดีๆพร้อมพร้อมกล่าวขอบคุณจักรวาล ทำทุกเช้าที่ตื่นมา ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณเป็นทุกข์มีปัญหานั้นๆคุณรู้ว่าสิ่งดีๆตรงข้ามนั้นคืออะไร ให้คุณคิดว่าสิ่งดีๆเหล่านั้นคุณมีอยู่แล้วและยินดีมาก ให้พูดกล่าวถึงสิ่งดีๆที่คุณมีอยู่แล้วๆจึงขอบคุณด้วยความยินดีปรีดาต่อจักรวาล

ตัวอย่างการแผ่ยินดีปรีดาแห่ง gratitude ต่อจักรวาล ท่านจงกล่าวว่า

พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ(ตรงนี้จิตนึกถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง)
ขอแผ่ความยินดีปรีดานี้ ขอบคุณจักรวาล

ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ(ตรงนี้จิตนึกถึงพระธรรมแห่งพระพุทธเจ้า้ป็นทึ่พึ่ง)
ขอแผ่ความยินดีปรีดานี้ ขอบคุณจักรวาล

สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ(ตรงนี้จิตนึกถึงพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติจามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้ามาเป็นที่พึ่ง)
ขอแผ่ความยินดีปรีดานี้ ขอบคุณจักรวาล

หาให้พบทำให้เป็นชีวิตเปลี่ยนครับ ทำทุกเช้าตอนลุกตื่นทำให้ชินก่อนเริ่มทำอะไรวันนั้น
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Tim เมื่อ 2022-8-18 10:34

ถ้าเกิดยุควิบัติสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ ไม่เอื้ออำนวยให้ทำมาหากินง่าย คนเราจะเหลือแค่สิ่งจำเป็นจริงๆคือปัจจัย 4 เพราะสิ่งอื่นๆทางสังคมมนุษย์นั้นจะขาดความจำเป็นแท้ๆไปเลย

ถึงไม่มีภัยอันตรายใดๆแต่ถ้าสภาพแวดล้อมหรือเหตุอันเกื้อกูลเรื่องปัจจัย4 บกพร่อง ก็จะทำให้ลำบากแม้ดิ้นรนขวนขวายก็ไม่เป็นผล

ความรู้พิเศษที่ไม่ว่ายากดีมีจนควรรู้จักไว้คือ ศีล ทาน ภาวนาตั้งแต่เว็ปจอมพระเว็ปเก่าผมได้เคยบอกไว้ว่าให้เข้าทางศีลก่อน
ผมจึงไม่เคยบอก ทาน ศีล ภาวนา แต่จะเป็น ศีล ภาวนา ทาน เพราะถ้าลำบากเกิดวิกฤตชีวิตเราจะมีเกราะป้องกัน แถมยังใช้วิชาขึ้นอีก นั่นคือยุคนี้ครับ

เข้าเรื่องเลยนะครับ ถ้าคุณเริ่มตระหนักดีว่าต้องสร้างปัจจัย 4 ให้มั่นคงจากอานิสงส์บริกรรมสมาธิ มีวิชาเดียวที่ทำให้ชีวิตทั้งชีวิตดำรงตรงนี่อยู่ได้ครับ คำบริกรรมมีอยู่ว่า

พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
จิปิเสคิ  นะโมพุทธายะ
นะมะพะทะ จะภะกะสะ


นี่เรียกชนิดบทเต็ม.
อานิสงส์ของคาถานี้จะทำให้อยู่ได้ไม่ขาดแคลนปัจจัย4อันจำเป็นที่สุด และะยังมีคุณทางคุ้มครอง เมตตา  ได้พบเจอคนดีๆเพิ่มความเป็นมงตคลให้ชีวิต บางท่านอาจสงสัยว่าถ้าเราไม่ต้องใช้แต่จะจำไว้ให้ใครดี ?
คำตอบคือให้เด็กอยู่ในที่ๆลำบาก ด้อยพัฒนา ด้อยการศึกษา สภาพแวดล้อมไม่ดี ขาดโอกาสที่ดี รวมถึงเด็กที่อาจจะดูทึ่มๆโง่ๆ สอนบทนี้ไว้ตั้งแต่เด็กใช้ได้ยันโตจนแก่ เขาจะได้มีอยู่มีกินและมีโอกาสใช้ชีวิตศึกษาหาความไปได้ยาวๆ

ใครจะนำมาบริกรรมแบบกันไว้ดีกว่าแก้ก็ได้นะครับ เผื่อสุดท้ายคุณสูญเสียอะไรคุณก็จะยังคงมีเครื่องหนุนนำปัจจัย 4 ให้ดำรงชีวิตอยู่ได้ตามปกติ  หรือจะรอให้หมดตัวแล้วไปอยู่วัดฝึกบริกรรมบทนี้ก็ได้




พระมหาสิงห์ วิสุทฺโธ
เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่
กล่าวไว้ว่า


หลวงปู่ปานและองค์หลวงพ่อวัดท่าซุง สอนว่าห้ามใช้พระเดชกับคน สัตว์ และวิญญาณทั้งหลาย ให้ใช้พระคุณคือบารมีทั้ง ๓๐ ทัศที่คุณครูบาอาจารย์ของพวกเราและพวกเราได้สั่งสมอบรมมา เอามาเป็นที่พึ่งที่ระลึกเอามาเป็นอาวุธ เพื่อสยบพวกศัตรูหมู่มารทั้งหลาย หลังจากเราไหว้พระสวดมนต์เจริญพระกรรมฐานแล้ว ให้แผ่เมตตาไปในที่ทั้ง ๘ ทิศหรือ ๑๐ ทิศ ถ้าทิศทั้งสิบก็เพิ่มทิศบนทิศล่างเข้าไปด้วย พระคาถาว่าดังนี้
บทแผ่เมตตา อาวุธของพระโยคาวจร


    สัจจัง ปะระมังโลเกสีละคุโณ อะนุตตะโร อายันตุ โภนโต ปาระมีโย อิธะ ทานะ สีละ เนกขัมมะ วิริยะ ปัญญา จาธิฏฐาน ขันติ สัจจะ เมตตุเปกขา ยุธาสะโว คัณหัตถา วุธานีติ


๑. สัพเพ สัตตา
๒. สัพเพ ปาณา
๓. สัพเพ ภูตา
๔. สัพเพ ปุคคะลา
๕. สัพเพ อัตตะภาวะปะริญาปันนา
๖. สัพพา อิตถิโย
๗. สัพเพ ปุริสา
๘. สัพเพ อะริยา
๙. สัพเพ อะนะริยา
๑๐. สัพเพ เทวา
๑๑. สัพเพ มะนุสสา
๑๒. สัพเพ วิณิปาติกา
   

*อะเวรา โหนตุ,
อัพยาปัชฌา โหนตุ,
อะนีฆา โหนตุ,
สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ


พระคาถาเมตตาบทนี้นะครูบาอาจารย์แนะนำให้พวกเรานำมาใช้แทนอาวุธทั้งหลาย ถ้าไม่ใช่กฎของกรรมมาให้ผล พวกเราจะปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง


ตัวอย่างคำเต็ม
       ๑.
สัพเพ สัตตา
    อะเวรา โหนตุ,
สัพเพ สัตตา
    อัพยาปัชฌา โหนตุ,
สัพเพ สัตตา
    อะนีฆา โหนตุ,
สัพเพ สัตตา
   สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ



      โดยทิศนึงทำครบทั้ง ๑๒ บท ทำไปจนครบ ๑๐ ทิศ ขอเผยแพร่เป็นวิทยาทานพิเศษ สำหรับผู้สวดมนต์วางจิตนอบน้อมสรรเสริญคุณพระพุทธเจ้า ได้สภาวะสุขปิติกับตนแล้วจึงแผ่เมตตาด้วยบทนี้ด้วยเจตนาจริง โดยรู้สึกว่าดี มีค่า ไม่น่าเบื่อหน่าย

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้