Baan Jompra

ชื่อกระทู้: ๖๐ ความเชื่อคนโบราณ [สั่งพิมพ์]

โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-7-29 06:29
ชื่อกระทู้: ๖๐ ความเชื่อคนโบราณ

โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-7-29 06:30
๑.) ห้ามใส่ชุดสีดำเยี่ยมคนป่วย เพราะสีดำเป็นสีที่คนโบราณถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของความทุกข์โศก การใส่ชุดดำไปเยี่ยมผู้ป่วยนั้นเป็นการแช่งให้ผู้ป่วยตายเร็วขึ้น (อ๊ายย๋ะ!!!)


๒.) จิ้งจกร้องทัก ห้ามออกจากบ้านเด็ดขาด โดยถ้าเสียงนั้นอยู่ด้านหลังหรือตรงศีรษะให้เลื่อนการเดินทางแต่หากเสียงร้องทักอยู่ด้านหน้าหรือซ้าย ให้เดินทางได้ จะทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นสะดวกสบาย


๓.) ตุ๊กแกร้องตอนกลางวัน เชื่อว่าจะมีเหตุร้ายเพราะตามปกติแล้วตุ๊กแกที่อาศัยในบ้านมักจะร้องตอนกลางคืน ถ้าร้องตอนกลางวันถือเป็นลางบอกเหตุร้าย เนื่องจากคนโบราณเชื่อว่าตุ๊กแกคือ วิญญาณของปู่ย่าตายายที่ตายไปแล้วมาอาศัยอยู่ คอยคุ้มครองลูกหลานจากภัยอันตราย


๔.) นกแสกเกาะหลังคาบ้าน จะเกิดลางร้าย เพราะนกแสกเป็นนกที่ถือว่าให้ความอัปมงคล เนื่องจากโดยธรรมชาตินกแสกมักจะไม่มาปะปนอยู่ตามที่อยู่อาศัยของคน


๕.) ถ้านกถ่ายรดบนศรีษะ เชื่อว่าจะโชคร้าย หากกำลังจะออกเดินทางแล้วถูกนกถ่ายรดที่ศรีษะซะก่อน ให้หยุดการเดินทางทันที หรือเลื่อนกำหนดออกไปเป็นวันรุ่งขึ้น

โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-7-29 06:31
๖.) เมื่อตัวเงินตัวทองคลานเข้าบ้าน ให้พูดแต่สิ่งดีๆ ไม่ให้ไล่

๗.) กลางคืนถ้าได้ยินเสียงร้องทักห้ามขานรับ เพราะเชื่อว่าเป็นเสียงของดวงวิญญาณอาจจะมาหลอนมาหลอกหรือเป็นการเชิญวิญญาณเข้าบ้าน

๘.) คนที่มีไฝที่ริมฝีปากล่าง ให้ระวังปากนำเคราะห์ เพราะพูดไม่คิด และมักเป็นคนใจร้อน อารมณ์รุนแรงขาดเหตุผลในการยับยั้งชั่งใจ

๙.) คนใดที่มีลักษณะผมหยิกๆ หน้าสั้นคอสั้น มักจะเจ้าชู้ (แต่เป็นความเชื่อขำๆนะ อันนี้ต้องคิดว่าต้องดูต่อจากภายในหัวใจ)

๑๐.) คนใบหูใหญ่มักร่ำรวยและมีบุญวาสนา คนใบหูหนาเป็นคนมีศีลธรรมคนใบหูบางเป็นคนโดดเดี่ยว ไร้บุญวาสนา

โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-7-29 06:31
๑๑.) คนที่พูดจาหลายเสียงในการพูดคุยครั้งเดียวกันเป็นคนคบยาก เพราะหาความแน่นอนอะไรไม่ได้


๑๒.) คนหัวล้านมักจะเจ้าชู้และเจ้าเล่ห์ ซึ่งได้ต้นแบบมาจากขุนช้างในวรรณคดี ทำให้คนโบราณเชื่อว่า คนลักษณะแบบนี้จะมีนิสัยเหมือนขุนช้าง


๑๓.) เด็กทารกคนใดที่เกิดมาแล้วมีปาน คนโบราณเชื่อว่า ได้เกิดมาแล้วชาติหนึ่ง (ชาติที่แล้ว) และถูกป้ายด้วยของตำหนิเอาไว้ หากเป็นปานแดงหมายถึงถูกป้ายด้วยปูนแดง และหากเป็นปานดำหมายถึงถูกป้ายด้วยถ่าน


๑๔.) ห้ามปลูกต้นไม้ที่วัดปลูกมาแล้ว (เช่น ไปเอาต้นไม้ที่อยู่ในวัดมาปลูกที่บ้าน) เพราะเชื่อกันว่า ต้นไม้ที่ขึ้นตามวัดหรือนำไปปลูกที่วัดเป็นของสูงและสมควรอยู่ในวัด หากนำมาปลูกที่บ้านจะทำให้บ้านนั้นตกอับ


๑๕.) ห้ามตัดผมวันพุธ เพราะเชื่อว่าการตัดผมวันพุธจะทำให้เกิดอัปมงคลกับชีวิต เพราะอย่างนี้ ร้านตัดผมหลายร้านมักจะนิยมหยุดทำการในวันพุธ

โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-7-29 06:32
๑๖.) หากตาซ้ายกระตุก เชื่อว่ามีเคราะห์ โชคร้ายผิดหวัง ถ้าตาขวากระตุกถือว่าโชคดี แต่ถ้าเป็นในช่วงกลางคืน ตาขวากระตุกจะไม่ดี จะมีเคราะห์มีเหตุร้ายเกิดขึ้น แต่ถ้าหากเป็นตาซ้ายกระตุกจะมีโชคลาภจากเพื่อน


๑๗.) หากสัตว์ป่าเข้าบ้านเชื่อว่าจะนำความอัปมงคลมาให้ ควรจุดธูปเทียน ดอกไม้และเชิญให้ออกจากบ้าน พร้อมกับขอพรให้นำพาสิ่งดีงามมาให้


๑๘.) ห้ามเผาศพวันศุกร์ เพราะคนโบราณถือว่าการเผาศพในวันศุกร์จะให้ทุกข์กับคนเป็นญาติ เนื่องจากวันศุกร์เป็นวันแห่งโชคลาภ เหมาะกับงานมงคลมากกว่า


๑๙.) ในขณะที่กำลังสางผม หากหวีเกิดหักคาผม จะเกิดเรื่องไม่ดีตามมา ให้นำหวีนั้นทิ้งไปเลย (ซื้อมาเป็นพันเป็นหมื่นก็อย่าเสียดาย) ไม่ให้เก็บไว้ใช้หรือนำไปซ่อมมาใช้ใหม่


๒๐.) ตอนกลางคืนถ้าได้กลิ่นธูปลอยมา คนโบราณเชื่อกันว่า เป็นวิญญาณของญาติสนิทภายในครอบครัวมาหา

โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-7-29 06:33
๒๑.) ผึ้งทำรังในบ้าน เชื่อว่ามีโชค อย่าไปไล่หรือทำลายเด็ดขาดเพราะอาจจะทำให้เกิดความหายนะ เพราะผึ้งเป็นแมลงนำโชคที่ขยันการทำงาน

๒๒.) การปลูกต้นว่านชี้ชะตาได้ โดยถ้าต้นว่านเจริญงอกงาม ทำนายว่าการค้าจะงอกงาม แต่ถ้าต้นว่านแห้งเ่ยว ทำนายว่าการค้าจะไปไม่รอด


๒๓.) ก่อนออกจากบ้านให้ตั้งสติและก้าวเท้าขวาออกก่อนเท้าซ้าย จะนำโชคดีมาให้ เพราะเชื่อว่าร่างกายมนุษย์เป็นพลังงานลบที่อ่อนแอกว่าด้านขวา


๒๔.) หากนั่งล้อมวงกินข้าวกันอยู่ และเกิดมือชนกันขณะเอื้อมไปตักกับข้าว เชื่อกันว่าจะมีแขกมาเยือนให้เตรียมตัวต้อนรับ


๒๕.) อย่าเคาะจานข้าว เพราะเชื่อว่าจะเป็นการเรียกวิญญาณที่พเนจร เมื่อได้ยินเสียงเราเคาะจาน ก็จะพากันมาแย่งเรากินข้าว (บางคนกินข้าวจะรู้สึกว่ากินไม่อิ่ม)

โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-7-29 06:34
๒๖.) กลางคืนห้ามกวาดบ้าน เพราะเชื่อว่าจะเป็นการกวาดเงินกวาดทองที่สะสมมาตั้งแต่ตอนเช้าออกไปหมดซึ่งอาจเป็นได้ว่าเมื่อก่อนไม่มีไฟฟ้าตอนกลางคืนมืดมาก การกวาดบ้านตอนกลางคืนจึงไม่ปลอดภัย


๒๗.) ไม่ควรมีรูปภาพหรือรูปปั้นยักษ์ประดับตกแต่งบ้าน เพราะจะทำให้คนในบ้านทะเลาะเบาะแว้งกันบ่อยและทำให้มีแต่เรื่องเดือดร้อน


๒๘.) อย่าตั้งเตียงนอนโดยเอาหัวเตียงหันไปชนกับห้องน้ำ เพราะจะทำให้โชคลาภหนีหาย และอย่าตั้งเตียงนอนโดยหันปลายเตียงตรงกับประตูทางเข้าพอดี เพราะจะทำให้ฝันร้าย


๒๙.) การแบ่งอาหารและน้ำให้แก่สุนัขหรือแมวจรจัดที่หิวโหย หรือการให้ที่พักพิงแก่สัตว์เหล่านี้ในวันฝนตกเป็นอานิสงส์มหาศาล


๓๐.) อย่าปล่อยให้ครัวสกปรก เพราะจะทำให้อับโชค ขาดเงิน ขาดทอง

โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-7-29 06:36
๓๑.) อย่าให้ของขวัญคนรักหรือเพื่อนสนิทเป็นผ้าเช็ดหน้า เพราะถือว่าเป็นลางไม่ดี หากมอบให้แล้วจะถือว่าเป็นลางต้องจากกันหรือมีเรื่องทะเลาะกัน


๓๒.) ถ้าปล่อยให้กระจกในบ้านขุ่นมัว จะทำให้ดวงชะตาของคนในบ้านจะหม่นหมองทำอะไรก็ไม่ขึ้น จึงต้องหมั่นเช็ดกระจกสม่ำเสมอ


๓๓.) วันโกน วันพระวันเกิด และวันเข้าพรรษา ควรงดมีเพศสัมพันธ์ เพราะถือว่าเป็นวันบิรสุทธิ์ (คนที่อยู่ในวัยเรียนอย่าแม้แต่จะคิด)


๓๔.) หากเดินไปเจอเหรียญตกให้เก็บเป็นเหรียญนำโชค หากมองผ่านเลยไป จะเหมือนเป็นการดูถูกเงินน้อย ทำให้อับโชคในช่วงเวลานั้นๆ (เก็บให้ตำรวจก็ดีนะเออ)


๓๕.) การสวมแหวนนิ้วกลางข้างขวา ถือเป็นการเสริมดวงการเงินและบารมี ส่วนการสวมแหวนนิ้วนางหรือนิ้วก้อยถือเป็นการเสริมเสน่ห์และเสริมดวงความรัก

โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-7-29 06:37
๓๖.) ห้ามสาวโสดร้องเพลงในครัว เพราะจะทำให้มีแฟนเป็นคนแก่ หรือหาแฟนไม่ได้ แต่ถ้าตำครกเสียงดัง จะมีหนุ่มมาสู่ขอ


๓๗.) การทำบุณโลงศพอนาถาที่ไร้ญาติ จะเสริมชะตาของเราให้กล้าแข็ง ทำให้ทุกข์และเคราะห์เบาบางลงไปได้


๓๘.) ควรหมั่นดูแลหิ้งพระให้สะอาดสม่ำเสมอ ไม่อย่างนั้นจะถือว่าเป็นการทำให้เกิดความอับโชคหรือเสื่อมลาภ เสื่อมยศได้


๓๙.) ในบ้านควรมีไข่และส้มในตะกร้าเสมอ เพื่อเรียกความสมบูรณ์พูนสุขเข้าบ้าน


๔๐.) ห้ามหญิงมีครรภ์ไปงานศพ เพราะเกรงว่าวิญญาณจะสามารถเข้าไปรบกวนทารกในครรภ์ ทำให้เกิดอันตรายได้

โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-7-29 06:37
๔๑.) ห้ามนอนหันหัวไปทางทิศตะวันตกจะทำให้นอนฝันร้าย ตื่นขึ้นมาไม่สดชื่น


๔๒.) ถ้าสร้อยคอขาดออกจากคอหรือหลุดออกมา จะมีเหตุให้พบเรื่องร้าย


๔๓.) ห้ามทักเด็กแรกเกิดที่ยังเล็กว่าน่ารัก เพราะอาจทำให้วิญญาณอิจฉา ลักพาตัวไป


๔๔.) ห้ามตัดเล็บกลางคืน วิญญาณบรรพบุรุษจะอยู่ไม่เป็นสุข เพราะสมัยก่อนการตัดเล็บจะใช้มีดเจียนหมาก หรือมีดเล็กๆ จึงห้ามตัดเล็บในเวลากลางคืน เพราะอาจะเป็นอันตราย


๔๕.) จะก้าวขึ้นหรือลงบันได ให้ก้าวทีละก้าวทีละขั้น อย่าก้าวทีเดียวสามชั้น จะทำให้ทำมาหากินไม่สำเร็จ เหมือนไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ให้ค่อนเป็นค่อยไป อย่าทำอะไรที่ให้เกินความสามารถ หรือข้ามขั้นตอน

โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-7-29 06:38
๔๖.) ห้ามหญิงท้องไปดูคนคลอดลูกจะทำให้คลอดลูกยาก เพราะหากหญิงมีครรภ์ไปดูคนอื่นคลอดลูกแล้วเห็นภาพอาการเจ็บปวดของการคลอดอาจจะทำให้กลัวและเกิดอาการเสียขวัญ

๔๗.) โต๊ะเครื่องแป้งที่มีกระจกเงา หรือบางกระจกเงาทั้งหลาย ไม่ควรนำมาวางตั้งให้ตรงกับปลายเตียงหัวเยงหรือเหนือเพดาน เพราะจะทำให้หมกหมุ่นอยู่กับเรื่องเพศ นอนหลับไม่สนิท และมักฝันร้ายอยู่บ่อยๆ


๔๘.) ฝนตั้งเค้า ให้ปักตะไคร้คว่ำลงดินกลางที่โล่งแจ้ง จะทำให้ฝนหยุดตก


๔๙.)อย่าลูบศรีษะของเด็ก โดยเฉพาะเด็กไทย เพราะศีรษะถือเป็นส่วนศักดิ์สิทธิ์ไม่ควรให้ใครลูบเล่น


๕๐.) ฝันว่างูรัด ทำนายว่าคนโสดจะได้พบเนื้อคู่เร็วๆนี้ฝันว่างูกัดทำนายว่าศัตรูเพศตรงข้ามจะคิดร้ายหรือได้รับเคราะห์จะเพื่อนบ้าน

โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-7-29 06:39
๕๑.) ฝันเห็นคนตายหรือศพ ทำนายว่าจะได้ลาภจากเสี่ยงโชค


๕๒.) ฝันว่าฟันหักทำนายว่าจะสูญเสีย โดยถ้าฝันว่าฟันบนหัก ทำนายว่า จะเสียญาติผู้ใหญ่ข้างฝ่ายบิดา ถ้าฟันล่างหัก ทำนายว่าจะเสียญาติผู้ใหญ่ข้างมารดา


๕๓.) ฝันว่าจูบกับคนรัก จะได้รับเคราะห์เล็กๆน้อยๆจากคนใกล้ตัว


๕๔.) ห้ามฉลองก่อนวันเกิด เพราะอาจหมายถึงการรีบเร่งไปสู่ความตาย


๕๕.) ภายในบ้านไม่ควรมีประตู ๓ บาน ตรงกันหรือเหลื่อมล้ำตรงกันเพียงนิดเดียว เพราะเป็นสัญลักษณ์ของประตูจาก ๓ โลก ทำให้วิญญาณเดินผ่านมาได้

โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-7-29 06:40
๕๖.)คางคกขึ้นบ้านถือเป็นลางดี แสดงว่าบ้านนั้นกำลังจะมีโชค


๕๗.) มือซ้ายกระตุก เชื่อว่ามีลางร้ายมีเหตุจะต้องเสียเงินเสียทองมือขวากระตุกเชื่อว่าเป็นลางที่ดีมาก จะได้รับโชคลาภ และอาจได้ลาภลอยจาการเสี่ยงโชค


๕๘.) ถ้านกในกรงที่เลี้ยงไว้ร้องในเวลากลางคืนเชื่อว่าจะมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง


๕๙.) ผู้หญิงระหว่างมีประจำเดือน ไม่ควรก้าวล้ำไปในวัด เพราะอาจก่อให้เกิดความอัปมงคล


๖๐.) ความฝันในตอนเช้ามักเป็นความจริง เพราะคนโบราณเชื่อว่าเทวดามาโปรดสัตว์ซึ่งเคยเป็นญาติมิตรของเรานั่นเอง


ที่มาข้อมูล : นิทรรศน์รัตนโกสินทร์

เครดิต..http://department.utcc.ac.th/tha ... 2013-03-06-07-33-43


โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-7-29 06:46
ความเชื่อเป็นอะไรที่อธิบายยาก มันแล้วแต่คนจะเลือกเชื่อ แต่ความเชื่อบางอย่างมันไม่ค่อยมีเหตุผลแต่ก็ไม่ควรลบหลู่ เช่น ความเชื่อของคนโบร่ำโบราณ คนเหล่านั้นอยู่มาก่อนเรา เจออะไรๆ มาก่อนเรา ดังนั้นหากเราจะเชื่อไว้บ้างก็คงไม่เสียหายอะไร สำหรับวันนี้ผมจะเอาความเชื่อทางภาคใต้ ซึ่งเป็นบ้านของผู้เขียนเองมาเล่าให้คุณได้ฟังว่า..คนใต้มีเชื่อเรื่องอะไรกันบ้าง บอกก่อนว่ามันเป็นเรื่องเกี่ยวกับวิญญาณทั้งนั้นเลยน่ะครับ



ความเชื่อเรื่องที่ 1 ห้ามไปงานศพเวลาเรากำลังเป็นแผล

ความเชื่อนี้คนเฒ่าคนแก่ถือกันมาก เพราะว่างานศพเป็นงานอวมงคล เกี่ยวกับคนตาย วิญญาณ ดังนั้นหากใครเป็นแผลสดหรือแผลเปื่อย ไม่ควรไปร่วมงานศพ เพราะจะทำให้แผลเปื่อยมากขึ้น หรือเป็นแผลเรื้อรังรักษาไม่หาย
วิธีแก้ไขคือ หากจำเป็นต้องไปงานศพก็ให้พกหนามต้นไม้ติดตัวไปด้วย เพื่อเป็นการแก้เคล็ด หนามที่ว่านั้น เช่น หนามมะกรูด หนามเฟืองฟ้า เป็นต้น



ความเชื่อเรื่องที่ 2 ห้ามชวนใครกลับบ้านโดยไม่เอ่ยชื่อ

สมัยก่อนมีแต่ป่า ภูติผีปีศาสแรง หลอกหลอนคนได้แม้กระทั่งกลางวัน และคนสมัยก่อนก็มักไปไหนมาไหนโดยการเดิน ผ่านป่าบ้าง ผ่านวัดบ้าง ผ่านป่าช้าบ้าง เวลาจะชวนใครไปบ้านระหว่างทางก็จะเอ่ยชื่อด้วย เพราะหากเผลอชวนแบบดื้อๆก็อาจจะมีสิทธิ์ได้คนที่ไม่รู้จักไปแทน แต่อยู่ในเวอร์ชั่นที่ไม่ใช่มนุษย์น่ะครับ สมัยนี้ก็ยังใช้ได้ เพราะเวลาเราขี่รถในเวลากลางคืนกับเพื่อนๆ หลายๆคัน เผลอปากพูดชวนใครแบบไม่เอ่ยชื่อก็มีสิทธิ์โดนเช่นกันครับ
วิธีแก้คือ ให้เอ่ยชื่อคนที่เราต้องการชวนทุกครั้ง ห้ามลืม อย่าเอ่ยปากชวนส่งเดช ยิ่งเวลากลางคืนจงพึงระวัง




ความเชื่อเรื่องที่ 3 เวลาเข้าป่าอย่าพูดถึงสิงสาราสัตว์ เวลากลางคืนไม่ควรพูดถึงเรื่องวิญญาณ

เป็นต้น ความเชื่อเรื่องนี้หลายคนคงทราบดีแล้ว และมันก็ควรเป็นเช่นนั้น เช่น เวลาเดินป่า เราไม่ควรพูดถึงสัตว์ที่น่ากลัว เช่น เสือ งู หากลงน้ำก็อย่าพูดถึงพราย หรือจระเข้ เป็นต้น เพราะมันจะมาให้เราเจอเลยทีเดียว เช่น เดียวกับเวลากลางคืนอย่าพูดถึงเรื่องผีหรือวิญญาณ ถามว่าทำไม? คำตอบก็เหมือนกับพูดถึงสัตว์เวลาอยู่ในป่านั่นแหละ


โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-7-29 06:48
ความเชื่อเรื่องที่ 4 ห้ามนอนขวางทางเดิน



ความเชื่อนี้ยังขลังมาถึงบัดนี้ คำว่าอย่านอนขวางทางนั้น หมายความว่า ตรงไหนที่เป็นทางสัญจรไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ เราไม่ควรไปนอนขวางทาง บางคนเป็นหลับง่ายต้องระวังให้ดี เช่น นอนขวางทางเข้าบ้าน เข้าร้าน เป็นต้น คุณอาจจะต้องเจอกับอาการที่เค้าเรียกกันว่า “ผีอำ” คำนี้ไม่ได้แปลว่าโดนสิงสู่ แต่แปลว่าโดนเหยีบโดนทับ เนื่องจากวิญญานจะสัญจรผ่านทางดังกล่าว แล้วเราไปขวางทางเค้า เราก็จะต้องโดนดี โดนดีที่ว่าคือเราจะลุกไม่ขึ้น หื้ออื้อ รู้สึกตัวแต่ขยับตัวไม่ได้ ลืมตาไม่ขึ้น (ผู้เขียนโดนบ่อยจนชินครับ) ทรมานจนกว่าเค้าจะพอใจแล้วเราถึงจะสามารถตื่นขึ้นได้
คนสมัยโบราณเวลาจะนอนในป่า จำเป็นต้องขอเจ้าที่เจ้าทาง หรือมีคาถาติดตัวเยอะแยะ เพราะเราคิดว่ามันเป็นที่ธรรมดาก็จริง แต่ย้อนไปในอดีตที่ที่เรากำลังนอนอยู่นั้น อาจจะเคยเป็นทางสัญจรของคนในสมัยก่อนก็เป็นได้ ดังนั้นเวลาต้องนอนผิดที่ผิดทาง จงขออนุญาตเจ้าที่เจ้าทางแล้วสวดมนต์ก่อนนอน บทไหนก็สวดไปเลยเพื่อความเป็นสิริมงคล บทสวดที่มาจากพระโอษฐ์ของพระพุทธเจ้าย่อมศักดิ์สิทธิ์เหนือสิ่งใดอยู่แล้ว และเวลาจะนอนต้องดูให้ดีว่าไม่ไปขวางที่ขวางทางอะไร


วิธีแก้หากโดนผีอำ


1. จงระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย (พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ) แล้วสวดมนต์บทที่เราท่องได้ สวดไปเรื่อยๆ 2. อุทิศส่วนกุศลให้เค้าไป บทแผ่เมตตาอย่างง่าย คุณคงจำกันได้น่ะครับ 3. จงอย่าฝืน ต้องมีสติ ที่สำคัญอย่าพยายามลืมตา ถ้าไม่อยากเห็นสิ่งที่คุณไม่พึงประสงค์ ต้องมีสติและรอจนกว่าเค้าจะออกไปเอง


โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-7-29 06:49
ความเชื่อเรื่องที่ 5 อย่าเล่นซ่อนแอบเวลากลางคืน


ความเชื่อนี้เป็นเรื่องที่น่าเชื่อถือเสียจริง เพราะเวลากลางคืน เป็นเวลาที่สิ่งลึกลับออกมาเผ่นพ่าน เวลาเราเล่นซ่อนแอบกัน บางทีเราอาจจะต้องเจอกับแขกที่ไม่ได้รับเชิญเข้ามาร่วมเล่นด้วย อีกประการคือกลางคืนมันมีตะขอตะขาบ งู สัตว์มีพิษทั้งหลาย หรือแม้แต่หนาม ตะปู กระเบื้อง เราไม่เห็นแล้วไปเหยียบเข้า อาจจะได้รับอันตรายได้ ความเชื่อนี้มีเหตุมีผลมาก และอย่า ขอย้ำว่า..อย่า!! คือเล่นซ่อนแอบในงานศพ



ความเชื่อเรื่องที่ 6 อย่านอนหันหัวไปทางทิศตะวันตก และอย่านอนเอามือทั้งสองกุมหน้าอก

ความเชื่อนี้มีคนเชื่อมากมาย เนื่องจากคนเป็นควรจะนอนหันหัวไปทางทิศไหนก็ได้ แต่ไม่ใช่ทิศตะวันตก เพราะทิศตะวันตกนั้นเป็นทิศที่เค้าหันหัวศพคนตายไปหา ดังนั้นเรายังมีชีวิตอยู่ ก็อย่าไปนอนแบบคนตาย อีกนัยหนึ่งคือมันไม่เป็นสิริมงคลกับชีวิตนั่นเอง อีกประการคือห้ามนอนเอามือประสานกันบนอก การนอนแบบนี้เป็นท่านอนของคนตาย เราจึงไม่ควรนอนแบบนั้น เหตุผลเรื่องความเชื่อนี้ง่ายเสียจริงน่ะครับ


โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-7-29 06:51
ความเชื่อเรื่องที่ 7 หลังจากกลับงานศพ หรือ กลับจากเดินทางไกล ให้ล้างเท้าก่อนเข้าบ้าน


ความเชื่อนี้มีมานานแล้ว โดยคนสมัยก่อนเวลากลับจากไปไหนมาไหน เค้ามักล้างมือล้างเท้าก่อนขึ้นเรือน เพื่อเป็นการชำระสิ่งสกปรกที่ติดตัวมา อีกนัยหนึ่งคือชำระสิ่งไม่ดีที่ติดตัวมาด้วย เนื่องจากมันมากับตัวเรา เข้าสู่บริเวณบ้านของเราโดยเจ้าที่เจ้าทางในบ้านมิได้ขัดขวาง หากเราลืมล้างเท้า สิ่งเหล่าไม่ดีเหล่านั้นก็จะเข้าบ้านเราไปด้วย ยิ่งเวลาเรากลับจากงานศพยิ่งไม่ควรลืมเรื่องนี้เด็ดขาด หรือแม้แต่กลับมาจากที่ไหนในเวลากลางคืนก็ควรล้างเท้าให้เรียบร้อยก่อนจะเข้าบ้าน สิ่งไม่ดีจะได้ไม่เข้าไปหยอกล้อคนในบ้านเรา




ความเรื่องเรื่องที่ 8 ห้ามแต่งหน้าก่อนเข้านอน หรือทำให้หน้าเปลี่ยนแปลงก่อนเข้านอน


สมัยนี้คงไม่มีใครเชื่อเท่าไหร่แล้ว เพราะสาวๆสมัยนี้มักจะมีการมาร์คหน้าก่อนนอน หน้าก็ขาวโพล้นจนจำไม่ได้เลยทีเดียว แต่ตามความเชื่อคนโบราณเค้าห้ามน่ะครับ เพราะเวลานอนคือเวลาที่วิญญาญของเราออกจากร่างกายไปท่องเที่ยว เหมือนกับตายไปชั่วขณะ ฉะนั้นเวลาเราแต่งหน้าให้แปลกไปเวลานอนหลับ อาจจะทำให้วิญญาญเข้าร่างไม่ถูก และจะมีกรณีนอนหลับไปไม่ตื่นอีกเลย ข้อนี้ก็แล้วแต่จะเชื่อแล้วกันน่ะครับ



ความเชื่อเรื่องที่ 9 วันสำคัญของเรา จงอย่าออกไปไหน


เราคงเคยได้ยินข่าวการเสียชีวิตของคนบางจำพวก เช่น นาคที่จะบวชเป็นพระเสียชีวิตก่อนได้บวช เจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวเสียชีวิตก่อนได้แต่งงาน นักศึกษาเสียชีวิตก่อนได้รับปริญญา เป็นต้น บางครั้งไม่ได้เสียชีวิตหรอก แต่ก็เป็นเหตุให้งานสำคัญๆของเราต้องหยุดไปหรือเสียหายไป ทั้งนี้ท่านว่า เวลาเราจะมีงานอะไรสำคัญที่สุดในชีวิต เช่น การบวชของผู้ชาย การแต่งงาน การรับปริญญา เป็นต้น งานเหล่านี้มีครั้งเดียวในชีวิต คนโบราณจึงห้ามมิให้คนเหล่านี้เดินทางไปไหน ให้อยู่แต่ในบ้าน เพราะท่านว่าคนประเภทนี้เนื้อหอมมากนักแล คือจะหอมกับภูตผีวิญญาณทั้งหลาย และสัตว์ทั้งหลาย เช่น คนจะบวชเป็นพระจะเนื้อหอมมาก แม้แต่กับสตรีก็เช่นกัน อะไรก็ตามที่จะทำให้การบวชพินาศลง สิ่งนั้นก็ถือเป็นมารทั้งสิ้น ดังนั้นในวันสำคัญแบบนี้ของคุณ จงอย่าไปไหน ให้อยู่กับบ้านกับที่ ให้ผ่านพิธีสำคัญไปก่อน เช่น แต่งงานเสร็จแล้ว รับปริญญาเสร็จแล้ว เป็นต้น แต่ยังไงก็ตามเรื่องนี้ก็พึงสอนในเรื่องความไม่ประมาท มนุษย์เราไม่ควรประมาทเลย ไม่ว่าในเรื่องใดครับ


โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-7-29 06:53
ความเชื่อเรื่องที่ 10 อย่าเงือดเงื้อของอันตรายเพื่อหยอกล้อ หรือคิดฆ่าตัวตาย


ความเชื่อนี้ขอเป็นข้อสุดท้ายแล้วกัน และเชื่อว่าคนส่วนมากก็เชื่อข้อนี้กันมาก เพราะท่านว่าเวลาเราหยอกล้อแบบนี้ เช่น จะเอาพร้า เอามีด ฟันคนอื่น หรือเล็งปืนไปหาใคร โดยหมายหยอกเล่นนั้น เป็นการไม่สมควรอย่างยิ่ง เนื่องจากเราอาจจะพลาดพลั้งไปได้ ทำให้เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น อีกนัยหนึ่งคือ เปิดโอกาสให้สิ่งลี้ลับผลักไม้ผลักมือเอาได้ เหมือนที่เค้าว่า “ผีผลัก” นั่นเอง ดังนั้นอย่าทำแบบนี้เด็ดขาดโดยเฉพาะกับคนที่คุณรัก
อีกประการสำหรับคนคิดฆ่าตัวตาย ไม่ว่าวิธีการใด เช่น โดดน้ำตาย ผูกคอตาย ยิงตัวตาย ฯลฯ เหล่านี้จะถูกชักนำจากภูตผีให้ทำด้วยส่วนหนึ่ง เพราะเวลาเราคิดจะฆ่าตัวตายหรือทำอะไรที่เสี่ยงตาย รูม่านตาเราจะเปิดกว้าง ผนวกกับอารมณ์ความเศร้าเสียใจและอารมณ์อื่นๆ ผสมเข้ากัน ทำให้เราจิตตกเห็นภาพต่างๆนานา หนึ่งในภาพนั้นคือภาพของวิญาณกำลังฆ่าตัวอย่างกันอย่างสนุกสนาน เหมือนเป็นเรื่องสนุก เป็นการชักชวนให้คนเป็นให้ฆ่าตัวตายด้วย (ที่ทราบเพราะเคยสอบถามคนคิดฆ่าตัวตายแต่ถูกช่วยไว้ทัน หลายคนบอกตรงกันแบบนี้) เพราะงั้นจงอย่าคิดทำอะไรแบบนี้เด็ดขาด สุขทุกข์ตั้งอยู่และดับไป อย่าไปอะไรกับมันนัก จงรักษาชีวิตของเราจะดีกว่าครับ



ความเชื่อเรื่องที่ 11 อยากกินได้มาก ๆ ก็ลองชวน…ดู


ความเชื่อนี้ขอแถมสำหรับใครที่อยากกินได้มาก กินแบบไม่อิ่ม เหมาะสำหรับใครอยากไปแข่งขันการกิน วิธีคือให้เด็ดใบไม้ข้างทางมา 1 ใบ เหน็บสะเอวไว้ แล้วชวนเฉยๆไม่ต้องเอ่ยชื่อว่า “ไปกินข้าวกัน” รับรองว่าคุณจะได้เพื่อนไปทานข้าวเยอะแยะเลย เพราะท่านว่าวิญญาญนั้นมีอยู่ทุกหย่อมหญ้า เราไม่จำเป็นต้องไปกลัวเค้าเหล่านั้น เพราะเค้าอยู่ทุกที่ เพียงแต่เราไม่เห็นเท่านั้น อันนี้บอกไว้
แต่อย่าเอาไปลองน่ะ ไม่ขอแนะนำเพราะว่าเราชวนมาได้ แต่จะไล่ให้กลับยังไงล่ะ?

โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-7-29 06:55
เรื่องแบบนี้บางครั้งก็ยากที่จะอธิบาย แต่หลายคนเชื่อว่ามันมีจริง

เรื่องที่ผมเล่ามานั้น ผมคิดว่ามันมีเหตุมีผลอยู่ไม่น้อย

ไม่ได้เป็นเรื่องงมงายแต่อย่างใด คนโบราณเค้ามีความเชื่อ

และมีความคิดที่ลึกล้ำกว่าคนสมัยใหม่อย่างเรานัก

เพราะงั้นเราเชื่อไว้บ้างก็คงไม่เสียหาอะไรครับ

สำหรับความเชื่อทางภาคอื่นๆ หรือที่เป็นสากลนั้น

ผมก็ได้ไปหามาฝากกันด้วยครับ ลองอ่านได้เลยครับ


โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-7-29 06:56
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2013-7-29 07:00

ความเชื่อเรื่องที่ 1 ห้ามใส่สีดำ


การใส่ชุดดำบ่อยและการใส่ชุดดำไปเยี่ยมคนป่วยและคนที่กำลังไม่สบายทำไมต้องห้ามใส่เพราะหลักความเชื่อที่ว่าการเห็นสีแห่งความทุกข์และความตายหรือแม้แต่ไปทำงานกับคนจีนก็ห้ามแต่งอีกด้วย เพราะเชื่อว่าไม่เป็นมงคล และสีนี้ยังเป็นสีแห่งหารไว้ทุกข์โศกเศร้าเช่นงานศพ และเป็นสีแห่งการหดหู่ แต่บางคนอาจจะคิดว่ามาแช่งหรืออยากให้เกิดความสูญเสียก็ว่าได้และไม่เหมาะการให้กำลังใจนั่นเอง
ทางแก้ไขคือ พยายามเลี่ยงไม่ใส่ชุดดำในปีนี้



ความเชื่อเรื่องที่ 2 นกแซก ร้องหรือผ่านบ้าน


ความเชื่อนี้ว่านกแซกเกาะหรือผ่านแม้กระทั่งได้ยินเสียงร้องนั้นหมายถึงเมื่อสมัยก่อนนั้นเวลาที่มีบ้านใดที่ต้องมีคนป่วยหรือการล้มตายเกิดขึ้นนั้นมักจะมีเรื่องแปลกๆเช่นได้ยินนกแซกร้องเสมอแต่ถ้านกแซกมาที่บ้านเหมือนมีมัจจุราชเข้ามาเยือนผู้ใดเจ็บป่วยและถึงกับการหมดวาระในการอยู่แล้วนั้นอาจจะต้องมีเหตุให้ตายจากหรือมีเรื่องราวต่างๆเกิดขึ้นในสิ่งที่ไม่ดีเสมอ
ทางแก้ไขคือ การเอาผ้าถุงของแม่คนนั้นมาครอบหัวแล้วพูดว่าต่อชะตาชีวิตให้แล้วและต่อมานั้นก็อาบน้ำมนต์หรือพรมน้ำมนต์ และทำบุญต่ออายุก็มีอันให้ผ่านพ้นไป
ตัดผม เล็บมือเล็บเท้า และเศษเสื้อ อธิฐานและรอยน้ำเป็นการต่อชะตาอย่างดี


ความเชื่อเรื่องที่ 3 สร้อยคอขาดออกจากคอหรือหลุดออกจากคอ


โบราณท่านว่าการที่เราห้อยพระแขวนพระไว้กับตัวแล้วอยู่ๆมากำลังจะออกจากบ้านนั้นก็มามีเหตุให้สร้อยหลุดหรือขาดนั้นโบราณท่านจะถือว่าถ้าออกจากบ้านแล้วมีเหตุให้ต้องพบเรื่องร้าย หรือแม่แต่อุบัติเหตุเกิดขึ้นจึงไม่เหมาะกับการเดินทาง
ทางแก้ไขคือควรจะเข้าไปอาบน้ำและเปลี่ยนเวลาเดินทาง ไหว้พระสวดมนต์ นั่งสมาธิถ้าเป็นช่วงเช้าก็ให้ใครซื้อของมาแล้วอธิฐานแก้เคราะห์ร้ายให้ผ่านหรือหมดและให้คนในบ้านเอาไปทำบุญ


ความเชื่อเรื่องที่ 4 เรื่องตัวเงินตัวทองเข้าบ้าน


ความเชื่อของคนโบราณเชื่อกันว่าเมื่อใดที่ตัวเงินตัวทองวิ่ง หรือผ่านหน้าบ้าน หน้ารถ หรือกเข้ามาบริเวรหน้าบ้านก็ตาม ให้โยนเงินและพูดว่าเงินทองไหลมาเทมา ให้ร่ำให้รวย หมดเคราะห์หมดโศกแล้วจะทำให้เกิดทรัพย์เกิดความโชคดีเพราะถ้าเมื่อไหร่ที่ได้เรียกหรือพูดคำไม่ดีบ้านหลังนั้นมีอันตรายเกิดขึ้นหรือลำบากในเรื่องการเงิน
ทางแก้ไขคือ ถ้าหลุดปากไล่หรือพูดไม่ดีให้แก้กับการจุดธูปบอกและทำบุญให้ตัวเองและบ้านเลขที่จะช่วยเสริมไม่ให้ดวงตก


ความเชื่อเรื่องที่5 การขานเวลาเข้าห้องน้ำ


ความเชื่อของคนโบราณยิ่งด้วยสมัยอดีตมีการเล่นและปล่อยของกันในเวลากลางคืนวันโกนและวันพระและมีการเสียชีวิตต่างๆกันอย่างมากมายคนในสมัยอดีตก็มีการป้องกันไว้ว่าถ้าใครมาเรียกก็ตามที่เราไม่เห็นตัวและไม่รู้จักนั้นก็อาจจะโดนของได้เพราะทวารทั้ง8กำลังเปิดแต่ถ้าเราขานรับจะเปิดทั้งหมดที่เรียกกันว่าเปิดทวารทั้ง98นั่นเองจะทำให้เกิดอาการเสียชีวิตทันนทีถ้าเขาปล่อยของออกกมาเราก็จะรับเต็มที่เลยคะ
ทางแก้ไขคือ สมัยอดีตเขาจะต้องทำพิธีป้องกันเรื่องนี้โดยเอาน้ำมนต์ไว้ใกล้ๆตัวและอาบเรื่อยๆเพื่อป้องกันเขาจะเอาเบี้ยแก้พกติดตัวและห้อยพระและสั่งว่าเข้าห้องน้ำอยู่อย่าเรียกเด็ดขาดและถ้าวันนั้นได้ยินการเรียกเขาก็ออกมาก็นั่งสมาธิและสวดมนต์ขอบารมีจากพระในวันนั้นและเช้าก็ทำบุญ


ความเชื่อเรื่องที่ 6 ห้ามทักเด็กแรกเกิดหรือเด็กที่ยังเล็กว่าน่ารัก


ตั้งแต่สมัยโบราณว่ากันว่าตอนเกิดมาเด็กนั้นจะมีกลิ่นและตัวที่หอมบริสุทธ์นั้นและเด็กที่อาจจะได้รับการชมพวกวิญญาณนั้นจะอิจฉาอาจจะพาไปลักซ่อน หรือมาแกล้งให้เกิดอาการร้องไม่หยุดได้และอาจจะเกิดอาการไม่สบายได้
ทางแก้ไขคือ สมัยอดีตจนถึงปัจจุบันนั้นเขาถึงให้พุดก่อนว่าน่ารักน่าชัง แต่ถ้าเด็กมีอาการร้องไม่หยุดทางแก้ไปหาพระให้ท่านเรียกขวัญ


ความเชื่อเรื่องที่ 7 ห้ามขานหรือตอบเสียงที่ไม่มีตัวตน


เมื่อสมัยโบราณจนถึงสมัยปัจจุบันนี้การที่เขาขานรับหรือเรียกเกิดขึ้นแบบไม่มีตัวตนเช่นเสียงเรียกต่างๆตามความเชื่อนั้นและยิ่งงานศพ และที่บ้านถ้าเราได้ยินเสียงเรียกหรือเราพูดว่าไปหรือเป่าถ้าเป็นวิญญาณแถววัดนั้นเขาจะรับรู้และคิดว่าเราเรียกเขากลับบ้านด้วยเพราะฉะนั้นความเชื่อของคนในสมัยก่อนเชื่อว่าเราเรียกหรือการตอบรับจะเป็นสิ่งที่มากับเรื่องร้ายๆและวิญญาณตามง่ายแต่บางคนที่ขานรับทำไมต้องตายหรือเสียชีวิตอาจจะหมดอายุขัยเลยห้ามขานเป็นอันขาด
ทางแก้ไขคือ ถ้าเราได้ยินเสียงเรียกข้อสำคัญห้ามขานรับเด็ดขาดและก็ให้นั่งสวดมนต์และสมาธิทันทีและแผ่กุศลให้เจ้ากรรมนายเวรและสรรพสัตว์และแผ่กุศลซะจะดี


บทความโดย: bank9597

ที่มา..http://www.oknation.net/blog/bank9597/2013/05/14/entry-1

โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-7-29 07:09
ความเชื่อ เรื่องทั่วๆ ไปในทางไม่ดี 23 เรื่องที่คนไทยเชื่อกัน



โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-7-29 07:12
1.ห้ามใส่ชุดดำเยี่ยมคนป่วย

ชุดสีดำเป็นสีที่คนโบราณถือนักถือหนาว่า เป็นสีแห่งความทุกข์โศก ใช้ใส่เฉพาะงานศพเท่านั้น หรือหากจะใช้แต่งกายสีดำ ก็ไม่ควรเป็นสีดำทั้งชุด ควรเป็นครึ่งท่องใส่ผสมกับสีอื่นๆ ชุดสีดำ จึงไม่นิยมใส่เข้าไปในงานมงคลต่างๆ เช่นงานวันเกิด งานแต่งงาน หรือแม้กระทั่งไป เยี่ยมผู้ป่วยก็เหมือนกัน เท่ากับว่า เป็นการแช่งหรือ เดาเหตุการณ์ล่วงหน้าให้ผู้ป่วยนั้นตายเร็วขึ้น ทำให้จิตใจผู้ป่วยหดหู่และหมด กำลีงใจ เกิดอาการทรุดลงได้ง่ายจึงไม่ให้ใช้สีดำ ควรเป็นสีที่สดใสและแสดง ใบหน้าที่สดชื่นอีกด้วย


2. จิ้งจกร้องทัก ห้ามออกจากบ้าน

จิ้งจกในปัจจุบันหาพบได้ง่ายกว่าตุ๊กแก มักจะเกาะอยู่ตามฝาผนัง ของบ้าน โดยปกติทั่วๆ ไป เรามักจะไม่ค่อยได้ยินเสียงจิ้งจกร้องมากนัก จะ เป็นเพราะมีจำนวนน้อย หรือบางบ้านไม่มีให้เห็นเสียแล้ว หรือไม่ค่อยมีเวลาอยู่ บ้านมากนัก จึงไม่ได้ยินเสียงของมัน ตามคำเชื่อของคนโบราณกล่าวว่า หากจิ้งจกร้อทัก จะกี่ครั้งก็ตาม ทว่าเสียงนั้นอยู่ด้านหลังหรือตรงศรีษะของคุณ ให้พยายามเลื่อนการเดินทาง เป็นเวลาอืน อาจจะเป็นภายในวันเดียวกันก็ได้ แต่ไม่ใช่เวลานั้น เพราะอาจทำให้ คุณได้รับอุบัติเหตุหรือไม่มีโชคลาภ แต่หากเสียงร้องทักอยู่ด้านหน้า หรือซ้าย มือ ให้เดินทางได้ จะทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างสะดวกสบาย จะได้พบโชค ลาภ หรือติดต่อธุรกิจเป็นผลสำเร็จ


3. ตุ๊กแกร้องกลางวัน มีเหตุร้าย

ตามปกติแล้วตุ๊กแกที่อาศัยอยู่ในบ้าน มักจะร้องตอนกลางคืน แต่ ถ้าวันดีคืนดีเกิดร้องลางวันขึ้นมาไม่ว่าจะร้องกี่ครั้งก็ตาม ให้ถือว่า เป็นการ บอกเหตุร้ายว่า กำลังจะเกิดขึ้นกับคนในครอบครัว หรือภายในบ้าน ซึ่งโดย ปกติแล้วตุ๊กแกจะไม่ค่อยร้องในช่วยกลางวันอยู่แล้ว ( กลางวันในที่นี้หมายถึง ตั้งแต่เวลาเริ่มสว่างจนถึงมืดลง )  คนโบราณเชื่อว่าตุ๊กแกคือ ร่างที่วิญญาณของปู่ย่าตายายที่ตายไป แล้วมาอาศัยอยู่ คอยดูแลคุ้มครองเพื่อให้สัญญาณบอกเหตุแก่ลูกหลาน และ จะไม่เคยเห็นตุ๊กแกทำร้ายใครเลย



โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-7-29 07:15
4. นกแสกเกาะหลังคาบ้าน เกิดลางร้าย?.?

นกแสกเป็นนกที่ถือว่า ให้ความอัปมงคลเป็นอย่างยิ่ง ไม่แต่เฉพาะ คนไทยเท่านั้นที่ถือในเรื่องนี้ฝรั่งเองก็ถือเคล็ดนี้เช่นกัน ก็เพราะโดยธรรมชาติ ของนกแสกมักจะไม่มาปะปนอยู่ตามที่อยู่อาศัยของคนให้เห็นนัก
หากเมื่อใดมีนกแสกมาเกาะที่หลังคาบ้านใดแล้ว ก็มักจะมีอะไรไม่ดี แก่บ้านนั้น เช่น คนป่วยเอยคนเจ็บอยู่ก็อาจเสียชีวิตก็ได้ จึงมักจะมีคนนิยมแก้ เคล็ดให้ร้ายกลายเป็นดี ด้วยการนำเอาดอกไม้ ธูปเทียน สุรา บอกเล่าก็เพียง พอแล้ว คนโบราณบางท่านที่เคร่งมากๆ ก็อาจเพิ่มด้วย ข้าวสาร ข้าวตอก ผ้าแดง ผ้าขาวและเงินทอง


5. นกถ่ายรดศรีษะ จะมีโชคร้าย

ปกติแล้วนกนี่มันก็บินไปทั่ว ถ้าไม่ใช่นกเลี้ยง จะชอบมาบินเกาะบน ท้องฟ้า ไม่ชอบมาอยู่กะคนเท่าไหร่และเมื่อใดที่คุณกำลังจะออกเดินทางแล้วจู่ๆ นกก็ถ่ายรดที่ศรีษะ คนโบราณว่าไว้ ให้หยุดการเดินทางทันที? หรือเลื่อนกำหนด ออกไปวันรุ่งขึ้น ไม่เช่นนั้น อาจได้รับอันตรายจากอุบัติเหตุได้ ในกรณีเดียวกัน หากอยู่ในบริเวณบ้าน นกบินมาถ่ายรดศีรษะซึ่ง โอกาสจะมีน้อยมาก แต่หากเป็นเช่นนั้นแล้ว ก็ให้เตรียมตัวรับเหตุการณ์ได้เลย เพราะจะต้องมีเรื่องเดือดร้อนใจ หรือเกิดเหตุร้ายกะตัวเองแน่นอน


6. เมื่อตัวเงินตัวทองคลานเข้าบ้าน..


บ้านใดที่มีต้นไม้มากๆนั้น จะมีที่ที่ตัวเงินตัวทองมักจะปรากฎให้เห็น ตามที่ดังกล่าว มักจะไม่คลานในที่โล่งแจ้ง และก็หาแหล่งที่มาไม่พบอีกด้วยว่ามา จากที่ใด เพราะในหมู่บ้านกลางเมืองก็ยังมีปรากฎให้เห็นบ้าง
ลักษณะตัวเงินตัวทอง บางคนว่าคล้ายจระเข้ แต่มีหางยาวมาก มี ขนาดตั้งแต่ตัวเล็กๆ เท่าจิ้งเหลนจนไปถึงตัวโดมากๆเท่ากับลูกจระเข้เลยทีเดียว ปกติตัวเงินตัวทองนี้จะไม่ทำร้ายใคร.. แต่คนโบราณท่านว่าเป็นตัว
อัปมงคลอยู่ดี จึงมีชื่อเรียกเสียเพราะแก้เคล็ด หากบ้านใดมีเข้ามาให้เห็น ท่านว่า ให้พูดแต่สิ่งดีๆ ไม่ให้ไล่ บางท่านก็ให้หาดอกไม้ธูปเทียนจุดบอกเล่า ให้กลายเป็นการนำเอาสิ่งดีๆ เข้ามาในบ้าน


โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-7-29 07:19
7. กลางคืนได้ยินเสียงร้องเรียก ห้ามขานรับ


สำหรับบ้านในสมัยโบราณ ที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้สะดวกเหมือนในปัจจุบัน ค่ำลงต่างคนก็ต่างดับตะเกียงปิดฟงปิดไฟกันเลย คนโบราณจึงว่าว่า หากปิดบงปิดบ้านแล้วมีเสียงคนมาร้องเรียก ให้เงียบเสีย เพราะนั่นเป็นเสียงของดวง วิญญาณ อาจจะมาหลอกมาหลอนก็เป็นได้ แต่หากมองกันให้ลึกลงไปอีก อาจเป็นการป้องกันขโมยมาเข้าบ้านในยามวิกาลก็เป็นได้ เพราะขโมยอาจมาหลายรูปแบบ บางคนก็ว่า หากมีเสียงเรียก แล้วยังขานรับ จะทำให้วิญญาณนั้นเข้ามาหรือเข้ามาในบ้านได้


8. เลขนั้นสำคัญไฉน??

เลขต่างๆ ตั้งแต่ 1 - 10 หรือแม้กระทั่งเลขเกิน 10 ก็ตามมีความเชื่อ ไปต่างๆกัน บ้างก็เหมือนกันแล้วแต่ความถูกโฉลกของแต่ละบุคคล นั่นเป็นความ เชื่อ เช่น บางคนไม่ชอบเลข 13 เพราะถือเป็นเลขของความโชคร้ายของฝรั่ง ซึ่ง จะสังเกตว่าตามตึกใหญ่สูงๆ ภายในลิฟต์จะไม่มีชั้น 13


9. ผมหยิก หน้าก้อ คอต่อ คิ้วสั้น คบไม่ได้

คำกล่าวนี้ได้ยินมาน๊านนน นาน... .ซึ่งหากดูให้ครบลักษณะที่กล่าวมาก คนใดที่มีลักษณะผมหยิกๆ หน้าสั้นๆ หักๆ คอหาแทบไม่เจอ จะด้วยเพราะอ้วนหรือ เหตุใดก็ตาม ประกอบกับมีคิ้วก็สั้นๆ รวมดูแล้ว ไม่ค่อยน่ามองเท่าไหร่ แต่อย่างไรก็ตามอย่าดูแค่รูปกายภายนอก ให้ศึกษานิสัยใจคอประกอบด้วย


โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-7-29 07:21
10. ไทยเล็ก เจ็กดำ คบไม่ได้ จริงหรือ??


โบราณท่านว่าไว้ว่า คนที่มีลักษณะดังต่อไปนี้คบยากเหลือเกิน หากเป็น คนไทยก็ต้องตัวไม่เล็กแคระแกรน เนื่องจากคนไทยในสมัยโบราณตัวใหญ่ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย หาคนตัวเล็กมีน้อยมาก และถ้าเป็นคนจีนก็ต้องตัวไม่ดำ "ไทยเล็ก เจ็กดำ" จึงติดปากมาจนทุกวันนี้ แต่หากจะพิจารณากันให้ ถ่องแท้ คงจะต้องดูที่นิสัยรวมไปด้วย นั่นเป็นเพียงแต่การสันนิษฐานเบื้องต้นให้ ได้ยินเท่านั้น ก็ลองใช้ดุลพินิจดูว่า จะเป็นจริงตามที่ท่านกล่าวมาไว้หรือไม่ ทั้งนี้ คำกล่าวที่ว่า ไม่ได้รวมหมายถึง การงานของเขาเหล่านั้น ท่านหมายแต่เพียงว่า มัก จะมีนิสัยออกไปทางคนโกงเจ้าเล่ห์เพทุบาย เอาเปรียบประมาณนั้น


11. คนหลายเสียงคบไม่ได้


คนทั่วไปตามปกติแล้ว หากไม่มีเสียงธรรมดาแล้ว ก็อาจจะมีเสียง แหลมเล็ก หรือทุ้มใหญ่ไปเลย คนโบราณกล่าวไว้ว่า หากคนใดมีหลายเสียงในขณะ ที่พูดคุยตามปกตินั้น เป็นคนคบยาก เพราะเท่ากับว่า หาความแน่นอนอะไรไม่ได้ แม้แต่เสียงของตัวเองยังบังคับให้อยู่ในระดับเดียวกันไม่ได้เลย ขณะพูดคุย
เดี๋ยวทำเสียงสูง เสียงต่ำ เสียงใหญ่ เสียงเล็กไปเรื่อย แต่คนในลักษณะนี้หายาก และในเมื่อหายาก ก็ดูจะยิ่งเพิ่มความขลังให้ ความเชื่อนี้แม่นยิ่งขึ้นไปอีก ถ้าเจอก็ให้ห่างๆ ไว้เป็นดี


12. คนหัวล้านมักเจ้าชู้และเจ้าเล่ห์

คำกล่าวนี้ได้ต้นแบบมาจากขุนช้างในวรรณคดีนั่นเอง ขุนช้างเป็นคน เจ้าชู้ ชอบหญิงสาวที่มีรูปงาม จุดเด่นของเรื่องในวรรณคดี มีการแย่งหญิงสาวอัน เป็นคนรักของขุนแผน โดนขุนช้างใช้เล่ห์ทุกวิถีทาง เพื่อหลอกให้คนรักของขุนแผน มาอยู่กับตน จึงถูกมองว่า ผู้ที่มีลักษณะเช่นเดียวกับขุนช้างคือ หัวล้าน มีรูปร่างอ้วน
ท้วม ขาวนั้น จะต้องมีนิสัยเช่นเดียวกับขุนช้างเสมอไปแต่ขุนช้างก็เป็นคนร่ำรวยมาก ดังนั้นก็เป็นเรื่องที่แปลกว่า คนหัวล้านก็มักจะรวยเสียทุกคนเหมือนขุนช้างอีกด้วย

โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-7-29 07:22
13. คนมีปาน แสดงว่าเคยเกิดมาแล้ว

เด็กทารกคนใดที่เกิดมาแล้วมีปานหรือเรียกว่า มีตำหนิ ในส่วนใดส่วน หนึ่งของร่างกาย คนโบราณถือว่า ได้เกิดมาแล้วชาติหนึ่ง และถูกป้ายด้วยของ ทำเป็นตำหนิเอาไว้ หากเป็นปานแดง ก็เชื่อกันว่า ถูกป้ายด้วยปูนแดงและหากเป็นปานดำ ก็เชื่อกันว่า ถูกป้ายด้วยถ่านเพราะถ้าหากมีบุญจริง อาจจะพบกันชาติหน้าและจำกันได้ โดยให้สังเกตจากตำหนิ แต่ในหลักความเป็นจริงแล้ว การเกิดปานไม่ว่าจะมีสีใดก็ตาม เป็นเพราะ
ผิวหนังผิดปกตินั่นเอง


14. ห้ามปลูกต้นไม้ที่วัดปลูก

เชื่อกันว่า ต้นไม้ที่ขึ้นตามวัดหรือนำไปปลูกที่วัด เป็นของสูงและสมควรอยู่ ในวัดเท่านั้น ไม่ควรนำมาปลูกที่บ้าน จะทำให้บ้านนั้นตกอับ ไม่เจริญ เท่ากับเอาของสูง มาวางไม่ถูกที่ หากเกิดขึ้นเองโดยที่ไม่ได้นำมาปลูก ก็ให้ถอนออกเสีย หากจะให้ดี ก็ให้ นำไปไว้ที่วัดเสีย ต้นไม้ดังกล่าวอันได้แก่ ต้นโพธิ์ ต้นหวาย ต้นโมกข์ ต้นไทร ต้นนนทรีย์ ต้น ตะเคียน เป็นต้น แต่ทั้งนี้จะรวมถึงต้นไม้ที่ไม่เป็นสิริมงคลดวย เช่นต้นโศก ต้นระกำ ต้นยาง ที่มักนำมาทำโรงศพ ต้นสำโรงที่ดอกมีกลิ่นเหม็น ซึ่งเหล่านี้ดูไม่เป็นสิริมงคล จึงไม่นิยม
นำมาปลูกในบริเวณบ้านกัน


15. ห้ามตัดผมวันพุธ

วันพุธห้ามตัดผม เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ห้ามกันนักห้ามกันหนาเชื่อกันว่า ตัดผม วันพุทธจะทำให้เกิดอัปมงคลกับชีวิตทีเดียว จะเห็นได้ว่า ร้านตัดผมมักจะปิดร้านในวัน พุธกัน บ้างก็อ้างว่า ตัดผมในวันพุธหัวกุดท้ายเน่า
ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ก็ควรเชื่อเสียบ้าง ตัดในวันรุ่งขึ้นก็คงไม่นานเกินรอไปได้ และก็ยังไม่ได้ยินเช่นกันว่า นิยมตัดผมกันในวันพุธ


โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-7-29 07:24
16. ตาเขม่น

ตามความเป็นจริงแล้ว เขม่นได้หลายส่วนของ ร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นริมฝีปาก แขน ขา หรือแม้กระทั่งตา ดังนั้นการเขม่นตาจะแบ่งออก เป็น 3 ช่วงคือ หากเขม่นตาในช่วงเช้า - บ่าย คนโบราณกล่าวไว้ว่า หากเป็นข้างขวาจะมีโชค ลาภ ได้รับข่าวดี เรียกว่า จะสมหวังในเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่คอย และหากเขม่นที่ตาซ้าย ท่านว่าจะมีเคราะห์ โชคร้ายผิดหวังเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างแน่นอน เช่น มีการทะเลาะกัน เกิดขึ้น หรือจะต้องสูญเสียของรักบางอย่างไป ถ้าเขม่นตาไม่ว่าจะเป็นข้างซ้ายหรือข้างขวา ในช่วงเวลาเย็นถือว่ามีโชคมีลาภ จะได้พบญาติสนิทมิตรรักเดินทางมาหา แต่ถ้าเป็นในช่วงกลางคืน การเขม่นตาขวาจะได้ดี จะมีเคราะห์มีเหตุร้ายเกิด ขึ้น ตรงกันข้าม ถ้าหากเขม่นตาซ้ายจะมีโชคลาภจากเพื่อน จะสมหวังสิ่งที่รอคอย เรียกว่า ขวาร้าย-ซ้ายดี การเขม่นตานี้ เชื่อกันว่า เป็นลางบอกเหตุที่แม่นยำมาก ท่านให้ถือเวลาที่จะเกิด เหตุไม่ดีและร้ายภายใน 3 วันอย่างแน่นอน


17. เมื่อสัตว์ป่าเข้าบ้าน

เรื่องของสัตว์ป่านั้น ตามธรรมชาติแล้วสัตว์ป่าก็ควรที่จะอยู่ตามป่าตามเขาจึง จะถูกต้อง แต่หากเมื่อใดสัตว์เหล่านี้เป็นต้นว่า งูต่างๆ ชนิด หรือแม้กระทั่งเต่า คำโบราณ ถือนักว่า ผิดธรรมชาติและหากจะให้สัตว์จำพวกนี้อยู่ในบ้านก็คงอยู่ไม่ได้ ถือว่านำความ อัปมงคลมาสู่ครัวเรือน ท่านให้แก้เคล็ดด้วยการ จุดธูปเทียน ดอกไม้บอกเล่าและเชิญให้ ออกจากบ้าน พร้อมกับขอพรให้นำพาสิ่งดีงามมาให้ สัตว์ป่าที่เข้าบ้านนี้ ตามคำโบราณยังถือรายละเอียดอีกมากมายเกี่ยวกับว่า มา ทิศใดจะนำอะไรมาให้ ยกเว้น หากเป็นทางทิศตะวันตกและทิศเหนือจะได้รับโชคลาภ แต่ก็ นั่นแหละตอนที่สัตว์ป่าเหล่านี้คลานมาคงไม่มีใครรู้ มาทางใดมารู้อีกทีก็อยู่ในบ้านเสียแล้ว ดังนั้นทางที่ดีก็อย่ามาเลยดีก่าเนอะ
*

18. ห้ามเผาศพวันศุกร์

คนโบราณถือว่า "เผาศพในวันศุกร์ให้ทุกข์กับคนเป็น" และโดยปกติทั่วไปจะ สังเกตว่า ไม่มีผู้ใดเผาศพในวันศุกร์ให้เห็นเลย เพราะเชื่อกันว่า วันศุกร์เป็นวันแห่งโชคลาภ วันแห่งความร่มเย็นเป็นสุข เหมาะที่จะมีงานมงคลมากกว่างานเผาศพนะ

โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-7-29 07:26
19. หวีหัก โชคไม่ดี


คนโบราณเชื่อกันว่า ในขณะที่กำลังสางหรือหวีผมนั้น ไม่ว่าจะใช้หวีไม้หรือหวี พลาสติกก็ตามแต่ แล้วหวีเกิดหักคาผมในขณะที่ยังหวีอยู่นั้น ท่านให้เชื่อได้เลยว่า จะเกิดเรื่องไม่ตีตามมาอย่างแน่นอน เป็นต้นว่า อาจมีเรื่องทะเลาะวิวาทเกิดขึ้น สูญเสียของรัก หรือมีเรื่องทุกข์ร้อนใจให้หงุดหงิดได้ การแก้เคล็ดด้วยการนำหวีนั้นทิ้งไปเลย ไม่ให้เก็บไว้ใช้หรือนำไปซ่อมมาใช้ใหม่ และจุดธูปบอกเล่าให้สิ่งร้ายกลายเป็นดีเรื่องหนักก็จะกลายเป็นเบาเสีย  แต่ความเชื่อของคนโบราณเรื่องหวีหักนี้ อาจจะเกิดเรื่องที่ไม่รุนแรงนักก็ได้
แล้วแต่โชคชะตาและดวงในตอนนั้นด้วย
*

20. มีกลิ่นธูป หมายถึงวิญญาณ

ในยามวิกาลเสียงเงียบสงัด เมื่อใดได้กลิ่นธูปลอยมา โดยที่ไม่มีใครจุดธูปใน บริเวณนั้นๆ เลย คนโบราณเชื่อกันว่า เป็นวิญญาณของญาติสนิทภายในครอบครัวมาหา จะเป็นเพราะคิดถึง ห่วงใยกันหรือด้วยเหตุใดก็ตาม ท่านให้คนที่ได้กลิ่นธูปนั้น จุดธูป 1 ดอก ลอกเล่าให้ไปที่สงบๆ อย่ากังวลสิ่งใดที่จะทำให้วิญญาณไม่สงบสุขเลยบางคนอาจ ขอพรจากวิญญาณญาติสนิทนั้นให้ปกปักรักษา และให้โชคลาภด้วย แต่หากไม่มีญาติสนิทในระยะนั้นเสียชีวิต ก็เชื่อกันว่า อาจจะเป็นวิญญาณ พเนจรทั่วไป ก็ให้จุดธูปเช่นเดียวกันบอกเล่าว่า อย่ามารบกวนให้กลัว ให้ไปที่ชอบที่สงบ และนิยมใส่บาตรแผ่ส่วนกุศลให้ในวันรุ่งขึ้นด้วย
*



21. ผึ้งทำรังในบ้าน มีโชค*

โดยธรรมชาติแล้ว ผึ้งมักนิยมทำรังตามต้นไม้ใหญ่ที่ขึ้นหนาแน่น และอยู่ในที่ สงบไม่พลุกพล่าน แต่เมื่อใดที่ผึ้งมาทำรังในบ้านจะเป็นชายคาบ้าน ใต้หลังคาบ้าน บางบ้าน มีผึ้งมาทำรังถึงห้องน้ำก็มี ท่านว่าไว้ว่า อย่าไปไล่หรือทำลายเด็ดขาด จะทำให้เกิดความหายนะขึ้นกับครอบ ครัวเรือนนั้น เพราะผึ้งเป็นสัตว์นำโชค ให้ปล่อยผึ้งทำรังต่อไป เชื่อกันว่า ยิ่งรังใหญ่มาก เท่าใด ก็จะมีโชคลาภมากขึ้นเท่านั้น และควรจุดธูปเทียนบูชา รวมทั้งดอกไม้ เพื่อความเป็น สิริมงคลด้วย..


โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-7-29 07:27
22. ดูดวงจากต้นว่าน

คนที่ทำอาชีพค้าขาย หรือนักธุรกิจติดต่อกับผู้คน เพื่อการค้าต่างๆ คนโบราณ โดยเฉพาะในสมัยก่อน นิยมปลูกต้นว่านต่างๆชนิดแล้วแต่ และดูดวงชะตาตัวเองจากการ เจริญเติบโตของต้นว่าน นั้นๆว่า เติบโตงอกงามขึ้นหรือไม่ ชีวิตกำลังรุ่งเรืองและยิ่งต้น ว่านนั้นออกดอกออกผล ก็จะยิ่งทำให้ดวงชะตาพุ่งสูงมาก ท่านรีบจุดธูปขอพรให้ดวง ชะตาคงอยู่เช่นนั้น แต่หากต้นว่านที่ปลูก อยู่ๆเกิดหักงอ หรือเหี่ยวแห้งลงทุกวันๆ หรือ
ปลูกมานานแล้วก็ไม่เกิดดอกออกผลเสียที ท่านให้เชื่อว่า ดวงกำลังตก การค้าขายก็กำลังแย่ ให้รีบทำบุญทำทาน หรือหาทางแก้ไขปรับปรุงการค้า หรือธุรกิจนั้นเสีย พร้อมกับบำรุงดูแล ต้นว่านนั้นด้วย


23. มือชนกันขณะกินข้าว จะมีแขกมาเยือน

ในสมัยโบราณ ไม่มีการติดต่อสื่อสารที่สะดวกเหมือนปัจจุบันการโทรศัพท์ก็ยังไม่ มีใครรู้จักนัก เพราะฉะนั้นเวลาจะนัดหมายกับใครรู้จักนัก เพราะฉะนั้นเวลาจะนัดหมายกับใคร สักคนก็เป็นไปได้ยาก จะต้องพบกันแล้วนัดหมายในครั้งต่ไปกันเลย แต่คนโบราณใช้วิธีการสังเกตความเป็นไปได้ว่า ในขณะที่นั่งล้อมวงรับประทาน อาหารกันนั้น หากมี 2 คนในวงเอื้อมมือไปหยิบอาหารพร้อมกัน และชนกันที่กลางสำรับอาหาร
เชื่อว่าจะต้องมีแขกมาเยือนกันถึงเรือนชานอย่างแน่นอน ไม่วันนี้ก็เป็นพรุ่งนี้ ก็จะมีการเตรียม ข้าวปลาอาหารรอต้อนรับ และก็เป็นเช่นนี้ทุกครั้งไป


ที่มา.http://webboard.yenta4.com


โดย: รามเทพ    เวลา: 2013-8-8 08:21

โดย: oustayutt    เวลา: 2013-8-8 19:31

โดย: sritoy    เวลา: 2013-8-8 19:48
ขอบคุณครับ
โดย: Sornpraram    เวลา: 2018-5-24 06:36

โดย: Sornpraram    เวลา: 2019-5-6 06:32

โดย: Sornpraram    เวลา: 2020-7-10 06:21





ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/) Powered by Discuz! X3.2