Baan Jompra

ชื่อกระทู้: สายพระโพธิสัตว์ที่ร่วมบารมีกันมา จิตโพธิญาณท่านมักจะถึงกันเสมอ [สั่งพิมพ์]

โดย: chakpetch    เวลา: 2013-3-27 19:37
ชื่อกระทู้: สายพระโพธิสัตว์ที่ร่วมบารมีกันมา จิตโพธิญาณท่านมักจะถึงกันเสมอ
หลวงปู่ชื่น ติคญาโณ

ท่านเป็นเพียงพระเขมรที่หนีภัยสงครามเข้ามาพึ่งใบบุญแดนสยามเมือก่อน

หลวงปู่ชื่นท่านเดินธุงค์ไปทั่วแคว้นแดนสยามท่านเคยธุดงค์ไปถึงวัดช้างให้ ปัตตานี

[attach]279[/attach]


หลวงปู่ชื่นท่านเล่าให้ฟังว่า.ท่านไปพบหลวงปู่ทวดกำลังกวาดลานวัดอยู่

เกิดการสนทนาธรรมระหว่างหลวงปู่ชื่นและหลวงปุ่ทวด มีตอนหนึ่งหลวงปู่ชื่นท่านถาม

หลวงปู่ทวดว่าท่านอายุเท่าไหร่? หลวงปู่ทวดท่านตอบว่า.. สี่ร้อยกว่าปี

และเมื่อนำภาพหลวงปุ่ทวดมาให้หลวงปู่ชื่นดูท่านยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ และยืนยันว่า..

เป็นองค์เดียวกับทีท่านเคยเห็น ตอนธุดงค์ไปวัดช้างให้

และที่สำคัญหลวงปู่ทวดท่านสอนวิชาบางอย่างให้หลวงปู่ชื่น

(เรื่องหลวงปู่ชื่นพบหลวงปู่ทวดเอาไว้ไปเล่าขยายความกระทู้หลวงปู่ทวดหลังแม่ธรณี)

ด้วยเหตุประการนี้กระมัง พระหลวงปู่ทวดที่ท่านอธิฐานจิตจึงแรงไม่แพ้ หลวงปู่ทวดยุดแรกๆ

ที่อาจารย์ทิม วัดช้างให้ท่านสร้างเอาไว้  เลยแม้นแต่น้อยซึ่งเป็นเรื่องจริง

สายพระโพธิสัตว์ที่ร่วมบารมีกันมาจิตโพธิญาณท่านมักจะถึงกันเสมอ


โดย: Ninprakarn    เวลา: 2013-4-14 17:13

โดย: wind    เวลา: 2013-4-14 22:01
สายพระโพธิสัตว์ที่ร่วมบารมีกันมาจิตโพธิญาณท่านมักจะถึงกันเสมอ เป็นวลีที่ตรงใจผมมากครับ ผมมีความเชื่อแบบเดียวกันนี้ และได้พบเจอเรื่องดีๆคนดี ไม่ใช่สิ่งบังเอิญครับ มันมีแรงดึงดูดที่จัดกลุ่มคนที่มีแนวคิดใกล้เคียงกัน การกระทำแบบคล้ายกัน เข้ามาเจอกันอยู่ด้วยกัน เป็นอาจารย์ เป็นศิษย์ เป็นพี่ เป็น น้อง เป็นเพื่อน หรือรวมเรียกว่า กัลยาณมิตรต่อกัน  ลักษณะจำเพาะดังกล่าว มีสิ่งที่เรียกว่าหน่อโพธิสัตว์ฝังรากอยู่ในในดวงจิตของคนที่เราพบเจอเสมอๆ  ผมเองมีโอกาสได้สัมผัสกับกลุ่ม คศช เป็นบางท่านถึงจะยังไม่มากคน แต่ก็รู้สึกได้ถึง สิ่งที่เรียกว่า กระแสโพธิญาณ ในทุกๆท่านที่ได้พบเจอพูดคุย  ผมเองได้เรียนรู้ตามแบบอย่างครูบาอาจารย์ที่ท่านเก่ง ท่านเมตตา มีหลวงปู่ทวดเป็นอาจารย์ใหญ่ หลวงปู่ชื่น เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาครับ อยากได้อาจารย์ สรายุทธเป็นอาจารย์สอนพิเศษครับ กราบครูบาอาจารย์ทุกรูปทุกนามเหนือเศรียรเกล้า กราบๆๆ


โดย: AUD    เวลา: 2013-4-15 06:58

โดย: morntanti    เวลา: 2013-4-15 07:01
นะโมโพธิสัตว์ ...... สาธุ
โดย: sriyan3    เวลา: 2013-4-15 09:20
กราบทั้งสองหลวงปู่คร้าบ
โดย: Nujeab    เวลา: 2013-4-19 15:29
กราบสักการะ สาธุ
โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-4-19 15:44

โดย: Chalanon    เวลา: 2013-4-20 04:32


โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-4-20 06:11
การปรารถนาโพธิญาณ






นั้นเป็นเรื่องของผู้ที่มีความต้องการที่จะเป็น พระพุทธเจ้าในอนาคต ต้องขออธิบายให้ทราบกันทั่วหน้าก่อนว่า พระพุทธเจ้าที่อุบัติขึ้นมาบนโลกนี้ มิได้มีเฉพาะพระพุทธโคดม พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันนี้เท่านั้น หากแต่ในอดีตกาลล่วงเลยผ่านมาแล้วนั้น ก็ได้บังเกิดพระพุทธเจ้าขึ้นมาแล้วมากมายเหลือคณานับ ผู้อ่านหลายท่านอาจจะไม่เคยได้ยินเรื่องราวเช่นนี้มาก่อน แต่ขอให้ เปิดใจ ทำใจสบายๆ ทำความเข้าใจและศึกษาเรื่องของพระโพธิสัตว์ ยิ่งรู้มากขึ้นก็จะสามารถน้อมนำกำลังพลังงานของพระโพธิสัตว์มาใช้ในชีวิตประจำวันได้สามารถช่วยเหลือเราได้ ทั้งทางโลกและทางธรรม โพธิญาณหรือพระโพธิสัตว์ จะทำงานเป็นหมู่คณะ ทำไมจึงพูดเช่นนั้น เป็นเพราะว่าการสร้างบุญบารมีนั้นหากสร้างคนเดียว อานิสงค์ที่บังเกิดจะมีเพียงส่วนเดียว

สำหรับพระโพธิสัตว์ที่มีกำลังและมากไปด้วยปัญญาจะนำพาหมู่คณะสร้างบุญบารมีกันเป็นจำนวนมากเข้าไว้ เนื่องด้วยการสร้างบุญบารมีเป็นหมู่คณะนั้น กำลังบุญของแต่ละคนมีมากอยู่แล้ว กำลังบุญทั้งหมดทั้งมวลจะรวมกระแสกันเป็นมหาบุญ มหากุศลมีกำลังมาก จึงเป็นเหตุให้เกิดปัจจุบันได้มีการนำพาผู้คนทำบุญเป็นจำนวนมากก็เพราะว่า ในยุคนี้ มีพระโพธิสัตว์ลงมาเกิดกันมากนั้นเอง โพธิญาณจะมีกระแสเกี่ยวเนื่องกัน จะมีการต่อกระแสกันสืบต่อกันไป หน่อโพธิญาณนั้นจะสืบต่อ สอนสั่งแนวทางการสร้างบารมีจากรุ่น สู่รุ่น เสมอ ตราบใดยังมีผู้ปรารถนาโพธิญาณอยู่ ตราบนั้นก็จะมีการสืบต่อกระแสไปเรื่อยๆไม่มีที่สิ้นสุด แม้ในยุคนั้นจะไม่มีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นในโลกก็ตาม พระโพธิสัตว์ก็จักบังเกิดขึ้นเสมอ


ผู้ที่ปรารถนาพระโพธิญาณจงฟังไว้ว่า "โพธิญาณต้องเรียนรู้แนวทางการสร้างบารมีกับโพธิญาณเท่านั้น" ฉะนั้น เมื่อมีโพธิญาณบังเกิดขึ้นในโลก ผู้นั้นได้กระทำตนเป็นผู้มีประโยชน์ ช่วยเหลือเกื้อกูลสรรพสัตว์ทุกรูปนามดีพร้อม มีสรรพวิชาสำหรับใช้ช่วยเหลือผู้คน ก็มักจะมีโพธิญาณที่ลงมาเกิดตามหลัง (จุติทีหลัง) มาสืบต่อสรรพวิชานั้นๆ ไว้เสมอ เพื่อนำไปใช้ช่วยเหลือสรรพสัตว์ในกาลต่อไป และเพื่อป้องกันการสูญหายของสรรพวิชา เราเรียกสิ่งนี้ว่า "การสืบต่อกระแสโพธิสัตว์" แต่ก็มีมากมายหลายสรรพวิชาที่ตกหล่นและสูญหายเนื่องจากการเวลาและไร้ผู้สืบทอดวิชา (นั้นอาจเกิดจาก ไม่มีผู้ที่เหมาะสมในการที่จะสืบต่อสรรพวิชานั้นๆ แต่อย่าไปกังวลเสียดายในสรรพวิชาที่สูญหายตายจากไปพร้อมกับเจ้าของวิชาเลย เพราะที่จริงแล้วสรรพวิชามิได้สูญหายไปไหน เมื่อเจ้าของวิชาตายไปส่วนใหญ่จะจุติเป็นพรหม สรรพวิชาทั้งหลายจึงยังอยู่ที่ พรหม ซะส่วนใหญ่ เมื่อมีวาระพรหมเหล่านั้นแล จัดลงมาสอนสั่งผู้ที่มีกระแสเนื่องกันเพื่อให้นำมาสร้างประโยชน์สืบต่อไป )





โพธิญาณบางท่าน ไม่ได้มีครูบาอาจารย์ที่เป็นมนุษย์ บางท่านจะเรียนรู้สรรพวิชาในการสร้างบารมีจาก เทพ พรหม ที่มีกระแสเกี่ยวเนื่องกับตัวท่านเองมากก่อน ก็เป็นได้ ผู้ปรารถนาโพธิญาณไม่ต้องกังวลใจว่าเราจะไม่มีครูบาอาจารย์นะ หากตอนนี้เรารู้ตัวเองว่าเรานั้นเป็นผู้ปรารถนาให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ ต้องการรื้อขนสรรพสัตว์ออกจากกองกิเลสทั้งปวง ต้องการให้ทุกรูปนามพบทางแห่งการกับทุกข์ ถึงซึ่งนิพพานเป็นที่สุด แต่เราไม่มีวิชาอะไรเลยที่จะมาช่วยเหลือสรรพสัตว์เหล่านี้ได้ ก็ขอให้วางจิต วางใจให้เป็นสมาธิ ใจสบาย กายสบาย ระลึกถึงพระรัตนตรัย คุณพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ คุณพระปัจเจกพุทธเจ้าทุกพระองค์ คุณพระโพธิสัตว์ทุกพระองค์ คุณพระธรรม คุณพระอริยะสงฆ์ทั้งหมดทั้งมวล ตั้งแต่ อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ตั้งสัจจะอธิษฐานดังต่อไปนี้



"ลูกขออาราธนาคุณครูบาอาจารย์ เหล่าหมู่คณะของข้าพเจ้า ทุกรูปนาม ผู้มีกำลังทั้งหลาย เทพ พรหมทั้งหลาย โปรดจงมาชี้แนะ หนทาง โปรดจงมาสั่งสอนสรรพวิชาแก่ข้าพเจ้า เพื่อให้สามารถนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์แก่ชาวโลก ช่วยเหลือสรรพสัตว์ให้พ้นจากทุกข์ ทั้งกายใจได้ ให้เค้าเหล่านั้นอยู่ในโลกได้อย่างเป็นปกติสุข ให้เค้าได้รู้จักหนทางที่ถูกต้อง เป้าหมายที่ถูกที่ควรไป ให้รู้จักพระนิพพาน ให้ยึดพระรัตนตรัยเป็นสรณะเป็นที่พึ่งที่ระลึก เรียนรู้ที่จะตาย เตรียมตัวตายให้เป็น ตายแล้วสามารถเลือกที่จะไปได้ เตรียมตัวตายก่อนที่จะตาย ขอผู้ทรงคุณทั้งหมดทั้งมวลโปรดจงลงมาสอนสรรพวิชานี้ให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด พุทธังสัจจาณังอธิษฐานมิ ธัมมังสัจจาณังอธิษฐานมิ สังฆังสัจจาณังอธิษฐานมิ"



อธิษฐานตามนี้ทุกวัน หลังจากที่เราสวดมนต์ไหว้พระและปฏิบัติกรรมฐานเสร็จเรียบร้อยแล้วไม่นานก็จักได้รับรู้ถึงสรรพวิชาสมดังใจหมายทุกประการ โพธิญาณจะมีพระแก้วรวมบารมีประจำองค์ เรื่องพระแก้วประจำองค์พระพุทธเจ้านั้น จะขออธิบายโดยใจความสั้นๆ ว่า พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ จะมีพระแก้วประจำพระองค์ พระโพธิญาณก็เช่นกัน จะมีพระแก้วประจำองค์เหมือนกัน หากแต่ว่าความสมบูรณ์ขององค์พระ จะแตกต่างกันออกไปตามกำลังบุญบารมีที่ได้สร้างได้ทำมา เช่น พระโพธิญาณที่บารมีเต็มแล้ว ก็จะมีพระแก้วประจำองค์สมบูรณ์เต็มองค์ ตั้งแต่ฐานขึ้นมาจนถึงยอดพระเกตุขององค์พระ ส่วนสีของพระแก้วนั้นก็จะแตกต่างกันไปตามจริตชอบของพระโพธิญาณแต่ละพระองค์ ในกรณีกลับกันพระโพธิญาณที่สร้างบารมีมาได้ระดับหนึ่งแล้ว แต่ยังมีบารมีไม่เต็ม รูปลักษณ์ของพระแก้วแดงก็จะเป็นแบบไม่เต็มองค์ องค์พระจะสมบูรณ์จากฐานองค์พระขึ้นมาแต่ไม่เต็มองค์ สีของพระแก้วนั้นก็จะเป็นไปตามจริตชอบของพระโพธิญาณท่านนั้นแล
โดย: AUD    เวลา: 2013-4-20 07:08

โดย: Metha    เวลา: 2013-4-20 08:06

โดย: โพไซดอน    เวลา: 2013-4-20 21:24


ร่วมสายโพธิญาณติคญาโณด้วยคน ครับ
โดย: kruangbin    เวลา: 2013-4-20 22:02

โดย: wind    เวลา: 2013-4-22 06:08
Sornpraram ตอบกลับเมื่อ 2013-4-20 06:11
การปรารถนาโพธิญาณ

จะนำไปอธิษฐานบ้างครับ ขอบคุณครับ

โดย: Nujeab    เวลา: 2013-4-22 10:25

สาธุ สาธุ สาธุ

โดย: sriyan3    เวลา: 2013-7-17 09:24
ขอบคุณครับ
โดย: Sornpraram    เวลา: 2014-6-8 09:31

โดย: majoy    เวลา: 2014-6-8 11:18
มีสีชมพูองค์นึง ลูกสาวยึดไปใส่ตั้งกะได้มาแรกๆ
โดย: Metha    เวลา: 2014-6-11 15:37
majoy ตอบกลับเมื่อ 2014-6-8 11:18
มีสีชมพูองค์นึง ลูกสาวยึดไปใส่ตั้งกะได้มาแรกๆ ...

ผมเหลี่ยมห้อยที่รถครับ
โดย: Metha    เวลา: 2014-7-15 03:02
ของใครกันหน่อ

โดย: ahiu    เวลา: 2014-7-16 01:55
เลี่ยมสวยดีครับ

โดย: Nujeab    เวลา: 2014-7-16 11:03
metha ตอบกลับเมื่อ 2014-7-15 03:02
ของใครกันหน่อ

ยังเหลือสีขาว จัดให้ครบเซตเลยจิครับ
โดย: Metha    เวลา: 2014-7-16 14:43
Nujeab ตอบกลับเมื่อ 2014-7-16 11:03
ยังเหลือสีขาว จัดให้ครบเซตเลยจิครับ  ...

ไม่ใช่ของผม
โดย: sritoy    เวลา: 2014-7-16 15:38
ห้อยรถเช่นกันครับ...

โดย: Nujeab    เวลา: 2014-7-17 11:06
metha ตอบกลับเมื่อ 2014-7-16 14:43
ไม่ใช่ของผม

นึกว่าของพี่เมธ
โดย: morntanti    เวลา: 2014-7-17 11:31
metha ตอบกลับเมื่อ 2014-7-15 03:02
ของใครกันหน่อ

ครบทุกสีหรือยังนี่...อยากทราบแต่ละสีต่างกันอย่างไร?
โดย: Metha    เวลา: 2014-7-17 16:12
Nujeab ตอบกลับเมื่อ 2014-7-17 11:06
นึกว่าของพี่เมธ

ไม่ใช่ครับ...
โดย: Metha    เวลา: 2014-7-17 16:13
morntanti ตอบกลับเมื่อ 2014-7-17 11:31
ครบทุกสีหรือยังนี่...อยากทราบแต่ละสีต่างกันอย่างไร? ...

ต้องรอผู้รู้มาตอบครับ

โดย: majoy    เวลา: 2014-10-3 10:00
อะไรไม่รู้ แต่สีชมพูแก่ผงเทพรัญจวน เย้ๆๆ
โดย: Metha    เวลา: 2014-10-13 23:08

โดย: majoy    เวลา: 2014-10-14 07:25
กราบๆๆ
โดย: Sornpraram    เวลา: 2014-10-14 20:29
การปรารถนาโพธิญาณ






นั้นเป็นเรื่องของผู้ที่มีความต้องการที่จะเป็น พระพุทธเจ้าในอนาคต ต้องขออธิบายให้ทราบกันทั่วหน้าก่อนว่า พระพุทธเจ้าที่อุบัติขึ้นมาบนโลกนี้ มิได้มีเฉพาะพระพุทธโคดม พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันนี้เท่านั้น หากแต่ในอดีตกาลล่วงเลยผ่านมาแล้วนั้น ก็ได้บังเกิดพระพุทธเจ้าขึ้นมาแล้วมากมายเหลือคณานับ ผู้อ่านหลายท่านอาจจะไม่เคยได้ยินเรื่องราวเช่นนี้มาก่อน แต่ขอให้ เปิดใจ ทำใจสบายๆ ทำความเข้าใจและศึกษาเรื่องของพระโพธิสัตว์ ยิ่งรู้มากขึ้นก็จะสามารถน้อมนำกำลังพลังงานของพระโพธิสัตว์มาใช้ในชีวิตประจำวันได้สามารถช่วยเหลือเราได้ ทั้งทางโลกและทางธรรม โพธิญาณหรือพระโพธิสัตว์ จะทำงานเป็นหมู่คณะ ทำไมจึงพูดเช่นนั้น เป็นเพราะว่าการสร้างบุญบารมีนั้นหากสร้างคนเดียว อานิสงค์ที่บังเกิดจะมีเพียงส่วนเดียว

สำหรับพระโพธิสัตว์ที่มีกำลังและมากไปด้วยปัญญาจะนำพาหมู่คณะสร้างบุญบารมีกันเป็นจำนวนมากเข้าไว้ เนื่องด้วยการสร้างบุญบารมีเป็นหมู่คณะนั้น กำลังบุญของแต่ละคนมีมากอยู่แล้ว กำลังบุญทั้งหมดทั้งมวลจะรวมกระแสกันเป็นมหาบุญ มหากุศลมีกำลังมาก จึงเป็นเหตุให้เกิดปัจจุบันได้มีการนำพาผู้คนทำบุญเป็นจำนวนมากก็เพราะว่า ในยุคนี้ มีพระโพธิสัตว์ลงมาเกิดกันมากนั้นเอง โพธิญาณจะมีกระแสเกี่ยวเนื่องกัน จะมีการต่อกระแสกันสืบต่อกันไป หน่อโพธิญาณนั้นจะสืบต่อ สอนสั่งแนวทางการสร้างบารมีจากรุ่น สู่รุ่น เสมอ ตราบใดยังมีผู้ปรารถนาโพธิญาณอยู่ ตราบนั้นก็จะมีการสืบต่อกระแสไปเรื่อยๆไม่มีที่สิ้นสุด แม้ในยุคนั้นจะไม่มีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นในโลกก็ตาม พระโพธิสัตว์ก็จักบังเกิดขึ้นเสมอ


ผู้ที่ปรารถนาพระโพธิญาณจงฟังไว้ว่า "โพธิญาณต้องเรียนรู้แนวทางการสร้างบารมีกับโพธิญาณเท่านั้น" ฉะนั้น เมื่อมีโพธิญาณบังเกิดขึ้นในโลก ผู้นั้นได้กระทำตนเป็นผู้มีประโยชน์ ช่วยเหลือเกื้อกูลสรรพสัตว์ทุกรูปนามดีพร้อม มีสรรพวิชาสำหรับใช้ช่วยเหลือผู้คน ก็มักจะมีโพธิญาณที่ลงมาเกิดตามหลัง (จุติทีหลัง) มาสืบต่อสรรพวิชานั้นๆ ไว้เสมอ เพื่อนำไปใช้ช่วยเหลือสรรพสัตว์ในกาลต่อไป และเพื่อป้องกันการสูญหายของสรรพวิชา เราเรียกสิ่งนี้ว่า "การสืบต่อกระแสโพธิสัตว์" แต่ก็มีมากมายหลายสรรพวิชาที่ตกหล่นและสูญหายเนื่องจากการเวลาและไร้ผู้สืบทอดวิชา (นั้นอาจเกิดจาก ไม่มีผู้ที่เหมาะสมในการที่จะสืบต่อสรรพวิชานั้นๆ แต่อย่าไปกังวลเสียดายในสรรพวิชาที่สูญหายตายจากไปพร้อมกับเจ้าของวิชาเลย เพราะที่จริงแล้วสรรพวิชามิได้สูญหายไปไหน เมื่อเจ้าของวิชาตายไปส่วนใหญ่จะจุติเป็นพรหม สรรพวิชาทั้งหลายจึงยังอยู่ที่ พรหม ซะส่วนใหญ่ เมื่อมีวาระพรหมเหล่านั้นแล จัดลงมาสอนสั่งผู้ที่มีกระแสเนื่องกันเพื่อให้นำมาสร้างประโยชน์สืบต่อไป )





โพธิญาณบางท่าน ไม่ได้มีครูบาอาจารย์ที่เป็นมนุษย์ บางท่านจะเรียนรู้สรรพวิชาในการสร้างบารมีจาก เทพ พรหม ที่มีกระแสเกี่ยวเนื่องกับตัวท่านเองมากก่อน ก็เป็นได้ ผู้ปรารถนาโพธิญาณไม่ต้องกังวลใจว่าเราจะไม่มีครูบาอาจารย์นะ หากตอนนี้เรารู้ตัวเองว่าเรานั้นเป็นผู้ปรารถนาให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ ต้องการรื้อขนสรรพสัตว์ออกจากกองกิเลสทั้งปวง ต้องการให้ทุกรูปนามพบทางแห่งการกับทุกข์ ถึงซึ่งนิพพานเป็นที่สุด แต่เราไม่มีวิชาอะไรเลยที่จะมาช่วยเหลือสรรพสัตว์เหล่านี้ได้ ก็ขอให้วางจิต วางใจให้เป็นสมาธิ ใจสบาย กายสบาย ระลึกถึงพระรัตนตรัย คุณพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ คุณพระปัจเจกพุทธเจ้าทุกพระองค์ คุณพระโพธิสัตว์ทุกพระองค์ คุณพระธรรม คุณพระอริยะสงฆ์ทั้งหมดทั้งมวล ตั้งแต่ อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ตั้งสัจจะอธิษฐานดังต่อไปนี้



"ลูกขออาราธนาคุณครูบาอาจารย์ เหล่าหมู่คณะของข้าพเจ้า ทุกรูปนาม ผู้มีกำลังทั้งหลาย เทพ พรหมทั้งหลาย โปรดจงมาชี้แนะ หนทาง โปรดจงมาสั่งสอนสรรพวิชาแก่ข้าพเจ้า เพื่อให้สามารถนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์แก่ชาวโลก ช่วยเหลือสรรพสัตว์ให้พ้นจากทุกข์ ทั้งกายใจได้ ให้เค้าเหล่านั้นอยู่ในโลกได้อย่างเป็นปกติสุข ให้เค้าได้รู้จักหนทางที่ถูกต้อง เป้าหมายที่ถูกที่ควรไป ให้รู้จักพระนิพพาน ให้ยึดพระรัตนตรัยเป็นสรณะเป็นที่พึ่งที่ระลึก เรียนรู้ที่จะตาย เตรียมตัวตายให้เป็น ตายแล้วสามารถเลือกที่จะไปได้ เตรียมตัวตายก่อนที่จะตาย ขอผู้ทรงคุณทั้งหมดทั้งมวลโปรดจงลงมาสอนสรรพวิชานี้ให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด พุทธังสัจจาณังอธิษฐานมิ ธัมมังสัจจาณังอธิษฐานมิ สังฆังสัจจาณังอธิษฐานมิ"



อธิษฐานตามนี้ทุกวัน หลังจากที่เราสวดมนต์ไหว้พระและปฏิบัติกรรมฐานเสร็จเรียบร้อยแล้วไม่นานก็จักได้รับรู้ถึงสรรพวิชาสมดังใจหมายทุกประการ โพธิญาณจะมีพระแก้วรวมบารมีประจำองค์ เรื่องพระแก้วประจำองค์พระพุทธเจ้านั้น จะขออธิบายโดยใจความสั้นๆ ว่า พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ จะมีพระแก้วประจำพระองค์ พระโพธิญาณก็เช่นกัน จะมีพระแก้วประจำองค์เหมือนกัน หากแต่ว่าความสมบูรณ์ขององค์พระ จะแตกต่างกันออกไปตามกำลังบุญบารมีที่ได้สร้างได้ทำมา เช่น พระโพธิญาณที่บารมีเต็มแล้ว ก็จะมีพระแก้วประจำองค์สมบูรณ์เต็มองค์ ตั้งแต่ฐานขึ้นมาจนถึงยอดพระเกตุขององค์พระ ส่วนสีของพระแก้วนั้นก็จะแตกต่างกันไปตามจริตชอบของพระโพธิญาณแต่ละพระองค์ ในกรณีกลับกันพระโพธิญาณที่สร้างบารมีมาได้ระดับหนึ่งแล้ว แต่ยังมีบารมีไม่เต็ม รูปลักษณ์ของพระแก้วแดงก็จะเป็นแบบไม่เต็มองค์ องค์พระจะสมบูรณ์จากฐานองค์พระขึ้นมาแต่ไม่เต็มองค์ สีของพระแก้วนั้นก็จะเป็นไปตามจริตชอบของพระโพธิญาณท่านนั้นแล
โดย: majoy    เวลา: 2014-10-14 20:44

โดย: morntanti    เวลา: 2014-10-15 00:56
ถึงมีไม่ครบทุกสีแต่ก็มีเก็บกับเค้าเหมือนกัน....
โดย: En130    เวลา: 2014-10-15 07:10
.
โดย: Metha    เวลา: 2014-10-15 07:20
morntanti ตอบกลับเมื่อ 2014-10-15 00:56
ถึงมีไม่ครบทุกสีแต่ก็มีเก็บกับเค้าเหมือนกัน.... ...

มีน้อยดีกว่าไม่มีเลย
โดย: Sornpraram    เวลา: 2014-11-2 17:44
metha ตอบกลับเมื่อ 2014-10-15 07:20
มีน้อยดีกว่าไม่มีเลย

รีบหามาไว้ครอบครองครอบ

สายน้ำไม่คอยท่า ราคาไม่คอยท่าน
โดย: majoy    เวลา: 2014-11-2 21:02
อีกหนึ่งของดี สองหลวงปู่ในองค์เดียว
โดย: Metha    เวลา: 2014-11-3 16:41


ครบชุดแล้วครับ

โดย: majoy    เวลา: 2014-11-19 06:40
กราบหลวงปู่ชื่นและหลวงปู่ทวดครับ
โดย: Metha    เวลา: 2014-11-20 01:05
majoy ตอบกลับเมื่อ 2014-11-19 06:40
กราบหลวงปู่ชื่นและหลวงปู่ทวดครับ





โดย: wind    เวลา: 2014-11-20 17:45
เราเองมักไม่ทราบที่มาที่ไปของสรรพสิ่งที่เราได้เรียนรู้ สิ่งที่หยั่งรากลึกอยู่ในจิตมานับชาติมิถ้วน  ไม่มีคำอธิบายได้   จนเมื่อถึงวาระแห่งกาล ที่ต้องใช้ โอกาสเปิด การได้มาชุมนุมกัน ร่วมงานร่วมมือร่วมใจร่วมกำลัง เพื่อพุทธวิถี หรือโพธิ์ญาณ  จะดึงดูดเราเข้ามาเป็นกลุ่มก้อนหมู่คณะ
โดย: Nujeab    เวลา: 2014-11-20 17:58
สาธุครับ
โดย: Metha    เวลา: 2014-11-21 02:49

โดย: ธี    เวลา: 2014-11-21 11:21
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ธี เมื่อ 2014-11-21 11:29

เรื่องนี้ขอยอมรับว่าจริง....

ภพชาติที่พบกัน หลายคนร่วมบุญกันมา บางคนเป็นญาติกันมา บางคนเป็นศัตรู .....
ภพชาติปัจจุบัน หากยังไม่เกิดเป็นมนุษย์ บางก็ยังคงติดตามดูแลกัน....

เรื่องเล่าที่จังหวัดสตูลครับ วันนึ่งมีฝูงคนรุ่มล้อมหน้าศาลเจ้าเจ้าแม่ทับทิม เนื่องจากมีการอันเชิญมาเข้าทรง ปรากฎว่าไม่มีวี่แววของเจ้าแม่เข้าทรงร่างทรง มีผู้มีวิชาท่านหนึ่งอยู่ในกลุ่มคนดู เมื่อเห็นเช่นนั้น ก็บอกให้ผู้ชราที่มาด้วยกันซึ่งมีความรู้ลองเชิญดู ปรากฎว่า เจ้าแม่ทับทิมเข้าทรง หลายคนจะสอบถามขอหวย เจ้าแม่ทับทิมในร่างทรง ท่านบอกว่า ที่มาไม่ใช่มาคุยกับอีกุ้งอีปลา ทีมานี้เพราะหลานเชิญมาจึงมา ผู้ชราจึงสอบถามหวย เจ้าแม่ทับทิมจึงถามว่า หลานเห็นพ่อมาหรือไม่ ผู้ชราบอกว่า ไม่มา แล้วแม่มากี่คน ผู้ชราบอกว่า มา 3 คน พร้อมคนรับใช้ 2 คน เจ้าแม่ทับทิมบอกว่า ถ้าอย่างนั้น แม่ไปแล้ว ท่านก็ออกจากร่าง ทุกคนงงไม่มีใครซื้อหวย ปรากฎว่า ออก 130 ผู้ชราบอกว่า ชาติหนึ่งท่านเกิดเป็นหลานของเจ้าแม่ทับทิม เจ้าแม่ทับทิมมีเชื้อสายกษัตริย์ ท่านจะถือตน ด้วยภพที่มีความสัมพันธ์กัน เมื่อผู้ชราเรียกหาจึงมาหา

ผู้ที่พบกับพระองค์ใดได้ มักจะมีความสัมพันธ์กันในชาติภพอื่นจริงดังว่าครับ

ผมเองก็คงเป็นผู้หนึ่งที่น่าจะเคยบวชในพุทธศาสนา เพราะรับรู้หลายเรื่องเกี่ยวกับเรื่องนี้ แม่ผมเล่าว่า ท่านได้ขอผมจากพระพวยที่พระมหาธาตุเมื่องนครศรีธรรมราช แม่ผมฝันว่า เดินเข้าในพระมหาธาตุฯ และเดินเข้าโบสถ์ มีพระองค์หนึ่งนั่งอยู่ที่หน้าพระประธาน ท่านเห็นพระเป็นเหรียญติดนิ้วมา จึงถวายพระองค์นั้น พระในฝันถามท่านว่า ไม่เอาหรือ นี้เป็นสมเด็จเจ้าพระยามหานคร แม่ก็นึกเสียดายจึงรับกลับมา (ปล. ขณะนั้นแม่ผมบอกว่าจะทำแท้งเพราะโกรธกับพ่อ) หลังจากนั้นแม่ผมเล่าว่าฝันเห็นแต่พระพุทธรูป ก่อนผมเกิด 3 วัน แม่ผมฝันว่าไปวัดร้างมีต้นไม้ใหญ่และมีพระองค์หนึ่งผิวดำมากยืนอยู่และยิ้มให้ ผมเกิดมาแม่บอกว่าหน้าเหมือนพระองค์ในฝันแต่ผิวผมไม่ดำ ผู้ชราที่มีความรู้ด้านใสยศาสตร์มาเยี่ยมแม่ที่โรงพยาบาล ท่านมองผมแล้วบอกแม่ว่า เด็กคนนี้ชาติก่อนเป็นพระ ไม่ใช่คนไทยเป็นคนอินเดีย ท่านดูจากนามธรรมที่ดูแลร่าง แม่ผมก็ฟังและจำไว้ หลังผมเกิดแม่นำไปให้พระดูดวง พระโบราณท่านบอกว่า ผมเกิดภายใต้ดวงจักรพรรดิ์.....งงครับ ....ปัจจุบันรู้แล้วว่า ...คือ ดวงข้าราชการ (ผมรับราชการอยู่) 5555 ทุกอย่างก็มีบุญสัมพันธ์กันมาก่อน ที่เราๆ มาคุยกันก็เพราะบุญเก่าเคยเจอกันครับ หลายๆเรื่องที่ผมได้รับรู้เกี่ยวกับพระเกี่ยวกับการปฏิบัติของพระ ก็น่าจะเป็นบุญเก่าเช่นกัน

หลวงปู่ชื่นท่านพบหลวงพ่อทวดก็เป็นเพราะภพชาตสัมพันธ์กัน ...ขอบคุณครับ
โดย: majoy    เวลา: 2014-11-23 08:02
หลวงปู่ท่านเป็นสายโพธิญาณไม่ผิดแน่ครับ

ส่วนเรื่องชาติภพผมก็เชื่อเรื่องบุพกรรมสัมพันธ์กันมาครับ

แต่มีผู้ใหญ่ท่านนึง แกได้ระดับญาณที่สูงพอตัว เคยสอนว่า

"ชาติก่อนเป็นใครมาไม่สำคัญเท่าชาตินี้ เราจะทำตัวเราให้เป็นอะไรในชาติหน้า"

ดีใจที่ได้ร่วมบุญต่างๆ กับ คศช และ ดีใจที่เกิดใต้พระพุทธศาสนาและมีใจศรัทธาครับ
โดย: Metha    เวลา: 2014-11-23 13:48


พระพิมพ์หลวงปู่ทวดชุดนี้ อาจารย์นำไปเสกถึงวัดช้างไห้ หน้าสถูปหลวงปู่ทวด


โดย: MarcoReus    เวลา: 2014-11-24 16:29
สาธุครับ บารมีหลวงปู่ชื่น บารมีหลวงปู่ทวด องค์พระโพธิสัตว์ทั้ง 2 กราบ กราบ กราบ
โดย: Metha    เวลา: 2014-11-28 02:47
พระเครื่องชุดนี้มีปาฏิหาริย์ เกิดขึ้นมากมายตั้งแต่พุทธาภิเษก
โดย: MarcoReus    เวลา: 2014-12-11 17:14
กราบ กราบ กราบ สาธุ สาธุ สาธุ
โดย: Sornpraram    เวลา: 2015-1-5 06:38
สาธุครับ

จิตพระโพธิญาณ ท่านมักจะถึงกันเสมอ



โดย: nobnob    เวลา: 2015-1-5 10:36
ยังไม่มีเลยครับ .......อย่างนี้ ต้องตามเก็บงานอีกแล้ว.....
โดย: Nujeab    เวลา: 2015-1-5 11:56
บารมีแห่งพระโพธิสัตว์ สาธุครับ
โดย: Metha    เวลา: 2015-1-8 02:18


องค์นี้ผสมผงเทพรัญจวนเยอะครับ

โดย: รามเทพ    เวลา: 2015-6-17 17:35


นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภควา


คำแปล ขอนอบน้อมแด่พระโพธิสัตว์


พระองค์นี้แหละที่จะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต










โดย: Nujeab    เวลา: 2015-6-18 05:49

โดย: nobnob    เวลา: 2015-6-18 23:40
สาาาธุ บารมี พระโพธิสัตว์ครับ
โดย: Metha    เวลา: 2015-9-20 03:09

รูปจากhttp://www.nmt.or.th/lamphun

โดย: oustayutt    เวลา: 2015-12-18 19:29

โดย: Sornpraram    เวลา: 2016-3-15 05:44
"ตราบใด ในวัฏสงสารเต็มไปด้วยความทุกข์

ตราบใดที่เรายังขนรื้อสัตว์ไม่หมดในวัฏสงสาร

เราจะไม่ยอมตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

เข้าพระนิพพานเด็ดขาด"

โดย: Nujeab    เวลา: 2016-3-15 11:46
สาธุ สาธุ สาธุ
โดย: majoy    เวลา: 2016-3-18 07:12

โดย: majoy    เวลา: 2016-8-20 05:40

โดย: majoy    เวลา: 2016-9-4 07:07
ท่านถึงกันเสมอ
โดย: Metha    เวลา: 2016-9-4 21:50

สาธุ สาธุ
โดย: Metha    เวลา: 2017-3-14 21:56

โดย: Sornpraram    เวลา: 2017-7-29 19:50
"ตราบใด ในวัฏสงสารเต็มไปด้วยความทุกข์

ตราบใดที่เรายังขนรื้อสัตว์ไม่หมดในวัฏสงสาร

เราจะไม่ยอมตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

เข้าพระนิพพานเด็ดขาด"

โดย: Sornpraram    เวลา: 2018-5-20 08:15
พระโพธิสัตว์ทุกท่าน..


จะมาช่วยเหลือผู้ที่เป็นโพธิสัตว์ด้วยกัน


ถ้าสร้างบารมีใกล้เต็ม  มี พระธุดงค์รูปหนึ่ง เป็นโพธิสัตว์ ขออธิษฐานสละพุทธภูมิ


แต่มีพระโพธิสัตว์หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค


มาเตือนในนิมิตรให้กำลังใจพระรูปนี้ว่า ..


ได้สร้างบารมีใกล้เต็มแล้ว  จงอย่าท้อใจ  อย่าสละโพธิญาณ


ให้ช่วยกันพาสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์  ต่อไป  สาธุ อนุโมทามิ

โดย: Sornpraram    เวลา: 2019-4-3 08:27


โดย: oustayutt    เวลา: 2019-4-9 07:30

โดย: Sornpraram    เวลา: 2019-6-1 06:23


โดย: Metha    เวลา: 2019-6-3 20:36
สาธุ สาธุ สาธุ
โดย: Nujeab    เวลา: 2019-6-6 11:11

โดย: Sornpraram    เวลา: 2020-12-25 07:06

โดย: oat_krub    เวลา: 2021-2-9 16:37
สาธุครับ
โดย: touch-578    เวลา: 2021-12-14 18:37

น้อบรับคำสั่งสอน...จากอาจารย์คับ




ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/) Powered by Discuz! X3.2