Baan Jompra

ชื่อกระทู้: โอม นมัส ศิวะ [สั่งพิมพ์]

โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-5-26 08:25
ชื่อกระทู้: โอม นมัส ศิวะ
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2013-5-26 08:55

โอม นมัส ศิวะ






[youtube]ku71c0lwOE8&NR=1[/youtube]



[youtube]UqIHGOmCAyc#![/youtube]

โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-5-26 08:27
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2013-5-26 08:50




[youtube]aq-CKdT6IG4[/youtube]
โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-5-26 08:37
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Sornpraram เมื่อ 2013-5-26 08:45

พระศิวะ หรือ พระอิศวร






(อังกฤษ: Mahesh, Shiva; สันสกฤต: शिव) หนึ่งในตรีมูรติ หรือเทพเจ้าสูงสุดสามพระองค์ตามความเชื่อในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู (อีกสององค์ ได้แก่ พระพรหม และพระวิษณุ)



พระศิวะ มีรูปกายเป็นชายหนุ่มร่างกำยำ วรรณะขาว (สีผิวขาว) นุ่งห่มหนังเสือเหมือนฤๅษี มีสังวาล์เป็นลูกประคำหรือกะโหลกมนุษย์ มีงูเห่าคล้องพระศอ ไว้พระเกศายาว ซึ่งจะม้วนเป็นจุฑา (มวยผม) มีพระจันทร์เป็นปิ่น มีคงคาอยู่บนยอดจุฑา ซึ่งพ่นน้ำมาตลอด และมีดวงพระเนตร (ตาที่ 3) กลางพระนลาฏ (หน้าผาก) ซึ่งโดยปกติจะปิดอยู่เสมอ เชื่อว่าหากเปิดขึ้นเมื่อไหร่ ไฟบรรลัยกัลป์จะเผาผลาญล้างโลก (บ้างว่าเป็นพระพรหม) ถือว่าเป็นการสิ้นสุดกัปหนึ่ง ก่อนที่พระพรหมจะสร้างโลกขึ้นมาใหม่




มีพาหนะ คือ โคอุศุภราช (วัวเพศผู้สีขาวล้วน) มีชายา คือ พระอุมา เทพีแห่งความกล้าหาญ มีโอรสสององค์ คือ พระขันทกุมาร และพระพิฆเนศ ประทับอยู่ ณ เขาไกรลาส อันเป็นศูนย์กลางแห่งจักรวาล




พระศิวะเป็นเทพที่จะคอยขับไล่สิ่งชั่วร้ายให้ห่างไกล และทำให้เกิดความดีงามเป็นศิริมงคลเกิดขึ้น ผู้ที่มีความทุกข์ไม่ว่าจะเป็นในทางใด หากบวงสรวงบูชา ขอพรให้พ้นทุกข์ พระศิวะก็จะประทานพรให้ผู้นั้นได้พ้นจากห้วงแห่งความทุกข์



พระศิวะมีท่าร่ายรำอันเป็นการร่ายรำของเทพเจ้า เรียกว่า "ปางนาฏราช" เมื่อแปลงกายลงไปปราบฤๅษีที่ไม่ประพฤติตนอยู่ในเพศดาบส ซึ่งต่อมาชาวฮินดูได้ถือเอาท่าร่ายรำนี้เป็นต้นแบบของการร่ายรำต่าง ๆ มาตราบจนปัจจุบัน
นอกจากนี้แล้ว พระศิวะยังถือว่าเป็นเจ้าแห่งผีหรือปีศาจอีกด้วย โดยมีพระนามเรียกว่า "ปีศาจบดี" หรือ "ภูเตศวร" นอกจากนี้แล้วพระอิศวร ยังมีพระนามอื่นอีก เช่น "รุทร", "ศังกร", "ศุลี" และ "หระ"






นอกจากนี้แล้ว ยังเชื่อว่าพระศอของพระศิวะมีสีดำ ทั้งนี้เนื่องจากพระองค์ได้ยาพิษของพญานาคไว้เมื่อครั้งกวนเกษียณสมุทรทำน้ำอมฤตเพื่อช่วยโลก ซึ่งบทหนึ่งในกามนิต-วาสิฏฐี วรรณกรรมอิงพุทธศาสนาได้อ้างถึง สีของความรักว่าเป็นสีดำ เสมือนสีคอพระศิวะ


ที่มาเนื้อหา..
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-5-26 08:50

โดย: Sornpraram    เวลา: 2013-5-26 08:52
ที่แท่นบูชาพระของหลวงปู่ชื่น จะเห็นองค์พ่อศิวะอย่างชัดเจน
ส่วนฟูก(ที่นอน)ด้านหลังของหลวงปู่ชื่นเป็นที่นอนของ อาจารย์ศรายุทธ






โดย: oustayutt    เวลา: 2013-5-26 09:48
Sornpraram ตอบกลับเมื่อ 2013-5-26 08:52

เกี่ยวเนื่องยังไงบ้างครับ
โดย: morntanti    เวลา: 2013-5-26 10:55
โอม นมัส ศิวะ   
โดย: kruangbin    เวลา: 2013-5-26 11:50
โอม นมัส ศิวะ
โดย: bigbird    เวลา: 2013-5-28 01:05
โอม นมัส ศิวะยะ
โดย: troop1411    เวลา: 2013-5-28 01:39
โอม นมัส ศิวะ
โดย: Marine    เวลา: 2016-2-8 08:15
ปริศนาที่ซ่อนอยู่ในพระศิวะ
1) เนตรดวงที่สามกลางหน้าผาก แทน ปัญญาที่ใช้กำจัดตัณหาเหนือโลกียะ เมื่อใดเนตรดวงนี้เปิดโลกแห่งตัณหา จักต้องมอดไหม้เป็นจุน
2) สังวารงู แทน ความเป็นอมตะและโลกียธรรม คือ พระองค์นั้นต้องดำรงอยู่ในโลกียธรรมโดนไม่มีวันดับสูญ งู แทน กิเลส คือ เป็นผู้สิ้นจากภัยกิเลส แม้จะเอากิเลสมาคล้องคอแต่ก็หาโดนกิเลสนั้นแว้งกัดไม่
3) ปิ่นพระจันทร์เสี้ยวบนพระเศียร แทน การหมุนของกาลเวลา และการผันเปลี่ยนของสรรพสิ่ง
4) ตรีศูร แทน ตรีเอกานุภาพ การสรรสร้าง การคงอยู่และดับสูญ อคีต ปัจจุบัน อนาคต
5) กลองบัณเฑาะว์ แทน ธาตุแรกที่ถือกำเนิดขึ้นมาบนโลก
6) ขี้เถ้าทาตัว หรือ วิภูติ แทนความบริสุทธิ์
7) แม่น้ำคงคาที่ออกมาจากมวยผม แทน พระธรรม และภูมิปัญญาที่ไหลรินสู่โลกและจะสืบต่อไปเช่นนี้ไม่เหือดแห้ง
8) พระศอสีนิล หมายถึง พิษ
9) นุ่งพันเสือ หมายถึง ผู้ฆ่ากิเลสทั้งมวล
10) พระเกศายาวสยาย แปลว่า พระองค์ทรงพ้นจากสังสารวัฎไปแล้ว



[attach]12801[/attach]

โดย: Sornpraram    เวลา: 2016-2-8 08:25

โดย: ธี    เวลา: 2016-2-8 15:36

โดย: oustayutt    เวลา: 2016-2-8 23:01
Marine ตอบกลับเมื่อ 2016-2-8 08:15
ปริศนาที่ซ่อนอยู่ในพระศิวะ
1) เนตรดวงที่สามกลางหน้า ...

ดีเยี่ยม^^
โดย: Sornpraram    เวลา: 2016-6-23 05:49





ยินดีต้อนรับสู่ Baan Jompra (http://baanjompra.com/webboard/) Powered by Discuz! X3.2