ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 1789
ตอบกลับ: 2
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

มู่อวี๋ 木鱼

[คัดลอกลิงก์]



..มู่อวี๋ 木鱼..

         “มู่อวี๋” (木鱼) หรือเรียกในสำเนียงแต้จิ๋วว่า “บักฮื้อ” แปลตรงตัวก็คือ “ปลาไม้” แต่เดิมนั้น ทางพุทธศาสนาฝ่ายมหายานเรียกมันว่า “ฝานชุย”(梵吹) เป็นเครื่องดนตรีทางสงฆ์ชนิดหนึ่ง ในขณะเดียวกันมันก็เป็นเครื่องใช้ทางพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายานเช่นกัน เป็นเครื่องใช้ที่พระสงฆ์ใช้ระหว่างสวดมนต์ ทำวัตร และประกอบพิธีกรรมทางศาสนา โดยจะมีไม้อีกอันหนึ่งคอยเคาะบนตัวมู่อวี๋ เป็นจังหวะตามบทสวดมนต์ ดังกล่าว

          บันทึกในสมัยราชวงศ์หมิง “ซานไฉถูฮุ่ย” (三才图会) เขียนโดย หวังเจ๋อ (王折) ได้กล่าวถึง มู่อวี๋ ไว้ว่า “มู่อวี่ นั้นคือไม้แกะสลักเป็นรูปปลา กึ่งกลางกลวงระหว่างเคาะก็จะมีเสียงดัง” รูปลักษณะของมู่อวี๋นั้นมีลักษณะเหมือนปลาที่ตรงกลางกลวง ส่วนหัวจะมีช่องเปิดเป็นแถบแถวขวางเหมือนปาก ส่วนหางเรียวยาวปลายเล็ก สองข้างก็จะไม่เท่ากัน ถ้ายกตั้งก็จะแลดูเหมือนรูปสามเหลี่ยม ในทางศาสนาพุทธจะจัดสร้างมู่อวี๋มีขนาดเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน ซึ่งก็จะทำให้มีเสียงดังไม่เท่ากันเช่นกัน มู่อวี๋อันใหญ่จะไว้เคาะเวลาพระยืนสวดมนต์อยู่กับที่ แต่หากเดินสวดประกอบพิธี จะนิยมใช้มู่อวี๋ที่มีขนาดเล็กวางไว้บนฝ่ามือ

          บันทึกในสมัยราชวงศ์หมิง “ซานไฉถูฮุ่ย” (三才图会)
          ตำนานเรื่องเล่าเกี่ยวกับที่มาของมู่อวี๋ เล่าว่า ในสมัยราชวงศ์ฮั่น ฮ่องเต้ได้ทรงมีพระบัญชาให้พระเถระนาม “ฉือกวงไต้ซือ” (慈光大师) และศิษย์อีก 2 รูปเดินทางไปอัญเชิญพระไตรปิฏกที่อินเดีย การเดินทางในครั้งนั้นเต็มไปด้วยความยากลำบากนานัปการจนกระทั้งคณะของท่านบรรลุถึงอินเดีย หลังจากนั้น ฉือกวงไต้ซือและศิษย์จึงได้นำพระคัมภีร์โดยสารเรือกลับสู่ประเทศจีน แต่ทว่าในระหว่างทางนั้นเอง ก็ได้เกิดพายุใหญ่ ลมมรสุมโหมกระหน่ำ คลื่นใหญ่ซัดสาดใส่เรือจนกระทั้งโคลงเคลงไปมาทำให้พระคัมภีร์ที่ตั้งอยู่บริเวณหัวเรือได้ตกลงไปในท้องทะเลและถูกปลายักษ์ตัวหนึ่งกลืนกินลงไป ลูกศิษย์ของท่านทั้งสอง ทั้งตกใจทั้งโกรธแค้น จึงกระโจนลงน้ำตามไปและเกิดการต่อสู้กับปลายักษ์ สุดท้ายก็เผลอพลั้งมือฆ่าปลายักษ์ตัวนั้นตาย


          แต่เพราะคลื่นลมรุนแรงอย่างหนักจึงได้สาดซัดลำตัวปลายักษ์ขาดและหายไปกับกระแสน้ำ หลงเหลือเพียงส่วนหัวของปลาไว้เท่านั้น ด้วยความเศร้าเสียใจ ฉือกวงไต้ซือกับศิษย์ทั้งสองจึงหิ้วหัวปลายักษ์ตัวนั้นกลับไปไว้ที่วัด ทุกๆ วันเมื่อถึงเวลาสวดมนต์ ท่านและพระสงฆ์รูปอื่นๆ ก็จะใช้ไม้เคาะที่หัวปลา และสวดมนต์พร้อมกับท่องสวดว่า “เออมี่ถวอฝอ (阿弥陀佛) หรือที่มักเรียกกันว่า “อมิตตพุทธ” นั้นเอง การท่องสวดซ้ำๆ กันแบบนี้เพื่อให้มันคายพระคัมภีร์ออกมา เป็นอย่างนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า วันแล้ววันเล่า สุดท้ายเมื่อกาลเวลาผ่านไป จากหัวปลายักษ์ก็กลายมาเป็นปลาไม้ (มู่อวี๋) ในทุกวันนี้

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
  
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้