ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

สิ่งที่ควรระวัง

[คัดลอกลิงก์]
เพราะท่านตรัสว่าสมาธิเป็นเหตุให้เกิดปัญญาวิปัสสนา

สมาธิที่ถูกต้องเมื่อเจริญแล้วมันจะมีกำลังให้เกิดปัญญาทุกขณะ

ในเมื่อตาเห็นรูปก็ดี หูฟังเสียงก็ดี จมูกดมกลิ่นก็ดี ลิ้นลิ้มรสก็ดี

กายถูกต้องโผฏฐัพพะก็ดี ธรรมารมณ์เกิดกับจิตก็ดี อิริยาบถยืนก็ดีนั่งก็ดีนอนก็ดี

จิตก็จะไม่เป็นไปตามอารมณ์แต่จะเป็นไปด้วยความรู้ตามเป็นจริงของธรรมะ




แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ธี เมื่อ 2015-1-22 10:41

สาธุครับ
มีพระองค์หนึ่งพูดกับลูกศิษย์ว่า "นิพานไม่ใกล้ไม่ไกล หายใจสองที่ถึง" และพูดว่า "ผู้ที่นั่งสมาธิ และปฏิบัติวิปัสนา ได้แต่เพียงณาญ " ซึ่งผมก็แปลกใจอยู่ครับ ประโยคแรกพอเข้าใจว่า เกี่ยวข้องกับลมหายใจเข้าออกตามแนวทางสมธิที่พระพุทธองค์สอน แต่ท่อนหลังกลับแปลกใจอยู่ ...
ปล.พระองค์นี้ท่านมรณะขณะอายุ 80 ปี (ประมาณปี 2514) เมื่อท่านป่วย พระในวัดมาสวดบังกุลเป็นให้ท่าน ท่านก็พูดว่า "ดี มันมาร้องเพลงให้ฟัง" และท่านให้ลูกศิษย์พยุงท่านนั่งในท่านั่งสมาธิ หลังจากพระสวดจบ ท่านก็มรณะภาพในท่านั่งสมาธิ ลูกศิษย์เล่าว่า เขาได้ยิ่นเสียงมโหรีดัง ซึ่งบริเวณวัดเป็นป่าไม่มีคนขับร้องเพลง พระองค์นี้ ยายผมท่านนับถือมาก ยายเล่าว่า ท่านไปบิณฑบาตกลับมาก่อนพระองค์อื่น วันหนึ่งคนที่ต่างจังหวัดมาทำบุญที่วัด จำท่านได้ว่าท่านไปบิณฑบาตที่บ้านเขาซึ่งอยู่คนละจังหวัดและไกลมาก ท่านก็รับว่าใช่ ยายเล่าว่า หลังจากนั้นท่านก็ไม่ไปบิณฑบาตที่นั้นอีกเลย ยายผมมักบอกผมว่า ท่านบรรลุอรหันต์แล้ว  
...อีกองค์หนึ่งที่ยายผมรู้จัก...และบอกว่าท่านบรรลุอรหันต์...พระองค์นี้มีครอบครัวมาก่อนและมีลูกชาย หลังจากที่ท่านจัดการเรื่องในครอบครัวเสร็จแล้ว ท่านก็มาบวช แต่การบวชของท่านที่แปลกคือ ท่านจะไม่ฉันเนื้อสัตว์ ถ้าบิณฑบาตได้มาก็ให้พระอื่นฉัน หลังฉันอาหารเสร็จ ท่านก็รวบรวมอาหารที่เหลือของพระเอาไปให้หมาแมวและสัตว์ในวัด เวลาท่านไปที่ใหน หมาแมวก็เดินตาม ท่านใช้วิธีภาวนา "พุธโธ" ถ้ารับกิจนิมนต์ได้เงินมา ท่านก็เรียกเด็กๆ ตัวเล็กๆ มารับเงินไปกินขนม ท่านไม่เก็บเงินไว้ในกุฏิ บางที่ก็ใส่กล่องไว้หน้ากุฎี ใครจะเอาก็ได้ไม่ห่วงห้าม ยายเล่าให้ผมฟังว่า ครั้งหนึ่ง พ่อยาย(ทวด) นิมนต์ท่านมา ก็ตั้งใจเอาเนื้อสัตว์วางไว้ให้ฉัน ไม่มีผลไม้ ท่านรับแต่ไม่ฉันเนื้อ ท่านฉันแต่ข้าวเปล่า ทวดจึงให้ลูกหลานไปเอาผลไม้มาถวายท่านเพราะเห็นว่าท่านตั้งใจจริงที่จะไม่ฉันเนื้อ ต่อมาท่านมีปัญหาอะไรไม่ทราบ เจ้าอาวาสจับท่านสึก ท่านก็นุ่งห่มขาวเป็นชีปะขาว บิณฑบาตและฉันเฉพาะผักผลไม้ ยายเล่าว่ามีวันหนึ่ง ท่านเดินบิณฑบาต ยายกำลังไปทำนา  มีวัวตัวหนึ่งเห็นท่านเดินบิฑบาต มันวิ่งมาแต่ไกล จะทำร้าย พอใกล้ถึง ยายซึ่งก็ตกใจและเห็นท่านยกมือขึ้นและพูดว่า "โคนันทวิสาร ท่านจะทำร้ายอาตมาไม่ได้ จะเป็นบาปเป็นกรรม พิจารณาอาตมาให้ดีก่อน ยายบอกว่า วัวที่วิ่งมาแต่ไกลหยุดและเอาจมูกไปใกล้ หันหลังไม่ทำร้ายท่านอีก ยายเห็นและได้ยิน ยายบอกว่า เล่าให้ฟี่ชายฟังว่าท่านสำเร็จแล้ว ฟี่ชายก็ไม่เชื่อ ยายบอกผมว่า ท่านชรามาก ลูกชายมารับไป และได้ยินว่า หลังจากท่านสิ้น กระดูกกลายเป็นหิน ยายผมท่านเล่่าว่าเคยได้ยินโบราณว่า ถ้าหากพระหรือผู้ใดปฏิบัติและบรรลุอรหันต์แล้วจะอยู่วัดไม่ได้ ภายใน 7 วันต้องออกไปอยู่ป่า แล้วจึงจะกลับมาอยู่วัดได้อีก หากไม่เข้าป่า จะมีผลให้เกิดปัญหาด้านพฤติกรรมที่คนทั่วไปมักไม่เข้าใจและเห็นว่าเป็นพระบ้า....ผมเคยคุยกัยตาของเพื่อนซึ่งอยู่ใกล้วัดเกี่ยวกับพระองค์นี้ ตาของเพื่อนผมรู้จักและรู้สึกผิดมาจนปัจจุบัน ตาของเพื่อเล่าว่า หลังจากถูกเกณฑ์เป็นทหาร ท่านก็ได้มาบวชที่วัด เห็นพระองค์นี้ไม่ฉันเนื้อแต่กลับให้เนื้อที่เหลือเป็นอาหารสัตว์ ไม่เก็บเงิน ให้เงินแก่เด็ก ก็คิดแกล้ง จับท่านไปใส่โองน้ำ ปิดโองไว้และเอาก่อนหินทับ ถ้าดันก็สามารถออกมาได้ กลางดึงเห็นกุฏิไม่มีคนก็แปลกใจ จึงไปที่โองน้ำ เปิดดูเห็นท่านนั่งอยู่ก็นำท่านขึ้นจากโองน้ำและถามว่าทำไม่ไม่ดันฝาโองขึ้น ท่านก็บอกว่า ก็จับท่านมาจะให้อยู่ในโอง ท่านก็ไม่ไปจากโอง ตาของเพื่อผมก็ขอโทษท่าน ตาของเพื่อนผมบอกว่า ถ้าเป็นคนทั่วไปคงอยู่ไม่ได้เพราะมีอากาศน้อย แต่ท่านกลับอยู่ได้ทั้งวัน ทำให้ตาของเพื่อนยังนึกถึงกรรมที่ได้ทำกับท่านจนปัจจุบันนี้ .....ปล.ความเชื่อครับพิจารณา
13#
 เจ้าของ| โพสต์ 2015-1-25 06:15 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ธี ตอบกลับเมื่อ 2015-1-22 10:07
สาธุครับ
มีพระองค์หนึ่งพูดกับลูกศิษย์ว่า "นิพา ...

ขอบคุณครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้