ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด เข้าสู่ระบบ
ดู: 12050
ตอบกลับ: 30
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

>> พิธีเสาร์ห้า อนวตัปตาธารา <<

[คัดลอกลิงก์]
>> พิธีเสาร์ห้า อนวตัปตาธารา <<
เสาร์ที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๕๗ ตรงกับแรม ๕ ค่ำเดือน(วสันตวิษุวัต)

หากหมุนเวลากลับไปที่อาณาจักรขอมในยุคก่อตั้ง จะเห็นภาพ
การประกอบพิธี ราชาภิเษก ของพระเจ้าชัยวรมันที่ ๒ บนยอดภูเขาพนมกุเลน

โดยพราหมณ์เทน้ำศักดิ์สิทธิ์ลงบนศิวะลึงค์เพื่อให้พระองค์
ยกฐานะจากกษัตริย์ธรรมดาเป็น เทวราชา อย่างสมบูรณ์แบบ

มีอำนาจการปกครองบ้านเมืองชนิดสั่งเป็นสั่งตายได้

พิธีนี้จึงกลายเป็นราชประเพณีของกษัตริย์ขอมองค์ต่อๆมา
จึงฟันธงได้ว่าวัน วสันตวิษุวัต ต้องมีมนต์ขลังต่อความเชื่อของมวลมนุษยชาติ




ภาพวาดพิธีราชาภิเษกของพระเจ้าชัยวรมันที่ ๒ บนยอดภูเขาพนมกูเลน

เพื่อเปลี่ยนฐานะจากกษัตริย์ธรรมดา
เป็น เทวราชา หรือกษัตริย์สมมติเทพ


   วันเสาร์ห้า คือ วันเสาร์ ขึ้นหรือแรม 5 ค่ำ เดือน 5
ซึ่งโอกาสที่จะเกิดวันเสาร์ห้า นั้นเกิดได้ยาก
ตามคติความเชื่อของโบราณเชื่อว่า ดาวเสาร์เป็นดาวแห่งความเข้มแข็ง
และมีพลังมาก หากมีการประกอบพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลในวันเสาร์ห้า
จะมีพุทธคุณด้านคงกระพัน และแคล้วคลาด มากกว่าวันปกติ
2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-4-20 21:55 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
สระอโนดาต
สระน้ำศักดิ์สิทธ์ในป่าหิมพานต์



                         ป่าหิมพานต์ เป็นรอยต่อแห่งมิติ ส่วนหนึ่งของป่าหิมพานต์เป็นแดนทิพย์ ส่วนหนึ่งเป็นแดนมนุษย์ และส่วนหนึ่งเป็นแดนรอยต่อระหว่างโลกทิพย์กับโลกมนุษย์

                          ในป่าหิมพานต์ จึงมีพืชพันธุ์แปลกๆ มากมาย สัตว์พันธุ์แปลกๆ มากมาย ทั้งสัตว์กึ่งเทพ สัตว์กายสิทธิ์ ก็อาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์ นี่เอง

                          ป่าหิมพานต์ ความจริงเป็นภูเขา เรียกว่าภูเขาหิมพานต์ หรือ หิมวันตบรรพต เมื่อมองลักษณะรูปร่างแล้ว เรียกภูเขาหิมพานต์ แต่เมื่อมองในลักษณะมีต้นไม้มากแล้ว ก็คือป่าหิมพานต์

     เขาหิมพานต์ ยังประกอบด้วยยอดเขาย่อยๆ อีกมากมาย
     เขาหิมพานต์ มีสระสำคัญๆ อยู่ ๗ สระ คือ

     ๑. สระอโนดาต  
     ๒. สระกรรณมุณฑะ
     ๓. สระรถการะ  
     ๔. สระฉัททันต์
     ๕. สระกุณาละ  
     ๖. สระมันทากินี
     ๗. สระสีหปปาตะ

     สระอโนดาต เป็นสระที่ได้ยินชื่อบ่อยที่สุด ธารน้ำทั้งหลาย ย่อมไหลลงมาที่สระอโนดาต พื้นสระอโนดาต เป็นแผ่นหินกายสิทธิ์ ชื่อมโนศิลา บริเวณที่เป็นดิน ก็เป็นดินกายสิทธิ์ชื่อหรดาล (ใช้ถูตัวได้ดี) น้ำใสแจ๋วสะอาด ท่าอาบน้ำ มีมากมาย เป็นที่สรงสนานแห่งพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์ทั้งหลาย รวมถึงเหล่าผู้วิเศษผู้มีฤทธิ์ทั้งหลาย เช่น ฤๅษี วิทยาธร ยักษ์ นาค เทวดา เป็นต้น  
รอบสระอโนดาต มียอดเขารายรอบอยู่ ๕ ยอดเขาได้แก่


      ยอดเขาสุทัสสนะ (สุทัสสนกูฏ)
     ยอดเขาจิตตะ (จิตรกูฎ )
     ยอดเขากาฬะ (กาฬกูฎ)
     ยอดเขาคันธมาทน์ (คันธมาทนกูฏ)
     ยอดเขาไกรลาส  (ไกรลาสกูฏ)



     ยอดเขาสุทัสสนะ เป็นทองคำ รูปทรงโค้งตามแนวสระอโนดาต และปลายยอดเขา มีสัณฐานโค้งงุ้มดังปากกา โอบปิดด้านบนสระอโนดาตไว้ ไม่ให้โดนแสงอาทิตย์ แสงจันทร์ตรงๆ

     ยอดเขาจิตตะ เป็นรัตนะ รูปทรงคล้ายยอดเขาสุทัสสนะ

     ยอดเขากาฬะ  เป็นแร่พลวง หินแห่งยอดเขาสีนีล รูปทรงคล้ายยอดเขาสุทัสสนะ

     ยอดเขาคันธมาทน์ รูปทรงคล้ายยอดเขาสุทัสสนะ ด้านบนยอดเขา เป็นพื้นราบเรียบ (เหมือนภูกระดึง) อุดมไปด้วยไม้หอมนานาพันธุ์  ทั้งไม้รากหอม  ไม้แก่นหอม  ไม้กระพี้หอม  ไม้เปลือกหอม  ไม้สะเก็ดหอม ไม้รสหอม  ไม้ใบหอม  ไม้ดอกหอม  ไม้ผลหอม  ไม้ลำต้นหอม  ทั้งยังอุดมไปด้วย ไม้อันเป็นโอสถนานาประการ  ในวันอุโบสถ(วันพระ) ข้างแรม ยอดเขานี้จะเรืองแสงเหมือนถ่านไฟคุ ข้างขึ้น แสงยิ่งเปล่งรัศมีโชติช่วงกว่าเดิม... ภายในเขาคันธมาทน์ มีถ้ำบนยอดเขาชื่อว่าถ้ำนันทมูล เป็นที่อยู่ของพระปัจเจกพุทธเจ้า ประกอบไปด้วยถ้ำทอง ถ้ำแก้ว และถ้ำเงิน
     ยอดเขาไกรลาส เป็นภูเขาเงิน  รูปทรงคล้ายยอดเขาสุทัสสนะ วิมานฉิมพลีแห่งพญาครุฑ ก็อยู่ที่เขาไกรลาสนี้

     ยอดเขาทั้ง๕ ตั้งตระหง่านรายล้อมสระอโนดาตไว้ และมีเทวดารวมถึงนาค เป็นผู้ดูแลรักษา ธารน้ำทั้งหลาย จากเขาหิมพานต์ ทุกสารทิศ จะไหลมาผ่านยอดเขา๕ลูกนี้ (ลูกใดลูกหนึ่ง) จากนั้น ก็จะไหลรวมลงสู่สระอโนดาต

    (เหตุที่ได้ชื่อว่าอโนดาต ก็เพราะ มีเงื้อมผาโค้งงุ้มดังปากกา โอบบังแสงไว้ด้านบน ทำให้แสงอาทิตย์และแสงจันทร์ ไม่สามารถส่องผ่านไปโดนน้ำตรงๆ ได้ แสงเพียงลอดเข้าด้านข้าง ในแนวเหนือใต้ ตรงระหว่างรอยต่อยอดเขากับยอดเขา เท่านั้น สระนี้ จึงได้ชื่อว่า “อโนดาต”...แปลว่า ไม่ถูกแสงส่องให้ร้อน..)

จากสระอโนดาต... จะมีปากทางให้น้ำไหลระบายออกอยู่สี่แห่ง ทิศละแห่ง คือ

     สีหมุข... ปากแม่น้ำแดนราชสีห์ (เป็นถิ่นที่ราชสีห์อาศัยอยู่มาก)
     หัตถีมุข... ปากแม่น้ำแดนช้าง (เป็นถิ่นที่ช้างอาศัยอยู่มาก)
     อัสสมุข... ปากแม่น้ำแดนม้า (เป็นถิ่นที่ม้าอาศัยอยู่มาก)
     อุสภมุข... ปากแม่น้ำแดนโคอุสภะ (เป็นถิ่นที่โคอาศัยอยู่มาก)


เกิดเป็นแม่น้ำใหญ่สี่สาย ไหลล่อเลี้ยงรอบนอกของเขาหิมพานต์ ก่อนลงสู่มหาสมุทร...

     ด้านทิศตะวันออก จากสระอโนดาต เลี้ยวขวาสระอโนดาตสามเลี้ยว  ไม่ข้องแวะกับแม่น้ำอีกสามสาย  ไหลผ่านถิ่นอมนุษย์ทางภูเขาหิมพานต์ ด้านทิศตะวันออก  ลงสู่มหาสมุทร  

     ด้านทิศตะวันตก จากสระอโนดาต เลี้ยวขวาสระอโนดาตสามเลี้ยว  ไม่ข้องแวะกับแม่น้ำอีกสามสาย  ไหลผ่านถิ่นอมนุษย์ทางภูเขาหิมพานต์ ด้านทิศตะวันตก  ลงสู่มหาสมุทร  

     ด้านทิศเหนือ จากสระอโนดาต เลี้ยวขวาสระอโนดาตสามเลี้ยว  ไม่ข้องแวะกับแม่น้ำอีกสามสาย  ไหลผ่านถิ่นอมนุษย์ทางภูเขาหิมพานต์ ด้านทิศเหนือ  ลงสู่มหาสมุทร  
(ที่แม่น้ำทุกสาย ไหลวนรอบสระอโนดาตเหมือนกัน แต่ไม่ข้องแวะกัน เพราะ ไหลลอดอุโมงค์หิน ไหลลอดภูเขา ออกไป)

     ด้านทิศใต้ จากสระอโนดาต เลี้ยวขวาสระอโนดาตสามเลี้ยว  แล้วไหลตรงไปทางใต้ประมาณ ๖๐ โยชน์  โผล่ออกมาใต้แผ่นหิน ตรงบริเวณหน้าผา กลายเป็นน้ำตกสูงใหญ่ยิ่ง ความสูงสายน้ำตกประมาณ ๖๐ โยชน์ สายน้ำตกอันรุนแรงนั้น ตกกระทบแผ่นหินเบื้องล่าง จนหินแตกกระจายออก  ในที่สุดกลายเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ รองรับสายน้ำตกนั้น  แอ่งน้ำนี้มีชื่อเรียกว่า “ติยัคคฬา”  เมื่อน้ำมากขึ้น ได้พังทำลายหินอันโอบล้อมอยู่ออกไปได้ทางหนึ่ง เจาะกระแทกหินที่ไม่แข็ง เป็นอุโมงค์ ไหลไป จนถึงส่วนที่เป็นดิน ก็เจาะทะลุดิน เป็นอุโมงค์ และไหลลอดตามอุโมงค์ดินนั้นไป  จนถึงภูเขาหินขวางอยู่ (ติรัจฉานบรรพต=ภูเขาขวาง) ภูเขานี้เรียกว่า วิชฌะ เมื่อน้ำกระทบหินเข้า ก็ไปต่อไม่ได้โดยง่าย แรงน้ำได้ดันจุดที่อ่อนแอที่สุดออกไปได้ ๕ จุด เกิดเป็นทางแยก ๕ แยก และกลายเป็นต้นน้ำสำคัญแห่งมนุษย์ ๕ สาย ด้วยกัน คือ แม่น้ำคงคา แม่น้ำยมุนา แม่น้ำอจิรวดี แม่น้ำสรภู แม่น้ำมหิ และแม่น้ำทั้ง๕ นี้ นอกจากผู้ตาทิพย์แล้ว ไม่มีใครบอกได้ว่า ของจริงอยู่ที่ไหน ...


ปราสาทนาคพัน
การจำลองสระอโนดาต ของพระเจ้าชัยวรมันที่๗



                  ปราสาทนาคพัน เป็นปราสาทขนาดเล็ก ตั้งอยู่บนฐานกลมที่มีลักษณะซ้อนลดหลั่นกันลงไปเป็นชั้นๆ ชั้นสุดท้ายเป็นรูปพญานาค 7 เศียร 2 ตัว โอบล้อมฐานของปราสาทโดยหันส่วนหัวไปทางทิศตะวันออก และส่วนหาง วนอ้อมฐานมาบรรจบกันทางทิศตะวันตก ที่ฐานของปราสาทจำหลักรูปดอกบัวรองรับตัวปราสาท และมีรูปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรประดิษฐานอยู่ที่ปราสาททั้ง 4 ทิศ   



                  ปราสาทนาคพัน สร้างอยู่กลางสระสี่เหลี่ยมจตุรัสขนาดใหญ่ มีบ่อน้ำขนาดเล็กตั้งอยู่โดยรอบทั้ง 4 ทิศ แต่ละบ่อมีส่วนที่เชื่อมต่อกับสระใหญ่ตรงกลางเพื่อให้น้ำจากสระใหญ่สามารถไหลไปสู่บ่อเล็กได้ การก่อสร้างปราสาทนาคพันน่าจะเกี่ยวข้องกับคติความเชื่อทางศาสนา ผังของปราสาทเป็นลักษณะการจำลองของสระอโนดาต สระอโนดาตเป็นสระน้ำบนสวรรค์มีน้ำที่ใสสะอาดและเต็มเปี่ยมอยู่ตลอดเวลา มีท่าน้ำอยู่ 4 ท่า น้ำในสระอโนดาตจะไหลออกตามช่องภูเขาที่ตั้งอยู่ทั้ง 4 ทิศของสระ ซึ่งปากช่องของภูเขาแต่ละลูกจะเป็นรูปหน้าของสัตว์ 4 ชนิด คือ สิงห์ ช้าง ม้า และวัว


ผังปราสาทนาคพัน


                  ใน "ย้อนรอยอารยะเมืองพระนคร" ซึ่งเขียนโดย ชากส์ คูมาร์เชย์ และแปลโดยอาจารย์วีระ ธีรภัทร ได้กล่าวถึงรูปจำหลักในทิศทั้ง 4 ของปราสาทนาคพันว่า

ที่สระน้ำทางทิศตะวันตกมีหินสลักเป็นรูปหัวมนุษย์
สระน้ำทางทิศเหนือมีหินสลักเป็นรูปหัวช้าง
สระน้ำทางทิศตะวันออกมีหินสลักเป็นรูปหัวม้า
และสระน้ำทางทิศใต้มีหินสลักเป็นรูปหัวสิงห์



                  จะเห็นว่าช่างขอมจำหลักรูปหน้าสัตว์ประจำทิศในแต่ละทิศตามคติความเชื่อเรื่องสระอโนดาต แต่ในทิศตะวันตกกลับจำหลักรูปหน้าคนแทนหน้าวัว     

                   คติความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับการสร้างปราสาทนาคพันมีทั้งความเชื่อทางพุทธศาสนาและศาสนาฮินดูปะปนกัน ตัวปราสาทกลางสระสร้างตามความเชื่อทางศาสนาพุทธ แต่ไม่ปรากฏรูปพระพุทธเจ้ากลับมีรูปสลักของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรแทน


ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-4-20 22:23 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
สระอโนดาต ปราสาทนาคพัน
และพิธีนี้ มีความสัมพันธ์กันอย่างไร ??









ศิลาอาถรรพ์ศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นตำนานเล่าขาน
เรื่องงูใหญ่ ในสระน้ำ วัดตาอีมาแล้ว







ในพิธีมีการจำลองสระอโนดาต
บรรจุด้วยน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์มากมาย


ที่มาประชุมธาตุกันอย่างยิ่งใหญ่ !! อาทิเช่น

น้ำมนต์เกษียรสมุทร หลวงปู่ชื่นติคญาโณ
น้ำมนต์สรงพระแก้วมรกต
น้ำมนต์สรงพระสารีริกธาตุ พระบรมธาตุฯ
น้ำมนต์จากปราสาทนาคพัน (จำลองสระอโนดาตสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗)
น้ำมนต์จากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ กลางปราสาทบายน
น้ำมนต์จากสระสรง (ที่ในอดีตพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ใช้สรงน้ำ)
น้ำมนต์จากสายธารพันลึงค์ บนยอดเขากุเลน อันศักดิ์สิทธิ์เป็นพันปี
น้ำมนต์จากบ่อน้ำเจดีย์ขรัวตาคง จ.สุพรรณบุรี
น้ำมนต์จากสระคำชะโนด
........

ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-4-20 22:24 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
บรรยากาศในพิธี




ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-4-20 22:25 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
หลวงปู่ชื่น ติคญาโณ และ ปู่ศรีสุทธรรมนาคราช
มีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร ???





ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
6#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-4-20 22:45 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เมื่อครั้งเทียนชัยได้ถูกจุดขึ้น

สิ่งที่เห็นได้ทางจิต
มิอาจเห็นด้วยตาเปล่า

ความเงียบสงัดในพิธี
แต่หากดังสนั่นในอีกมิติ

จะเป็นเช่นไร ...
หากได้เห็นในสิ่งที่มิอาจเห็น
ได้ยินในสิ่งที่ไม่เคยสัมผัส ?!?





ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณจำเป็นต้อง ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อดาวน์โหลดหรือดูไฟล์แนบนี้ คุณยังไม่มีบัญชีใช่ไหม? ลงทะเบียน

x
7#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-4-20 22:52 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้






























8#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-4-20 22:53 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
มั่นใจมากกับวัตถุมงคลรุ่นนี้ !!




แอบได้ยินพระท่านคุยกันว่า งานนี้
นอกจากหลวงปู่ชื่นและพ่อปู่ศรีสุทธรรมนาคราช

และเทวราชนาคราชหลายๆ พระองค์
มาร่วมพิธีแล้วแล้วยังมี..

หลวงปู่หล้า วัดวังโพลงเข้ท่านก็มา
หลวงปู่ปา พระอภิญญาในดง ท่านก็ถอดกายทิพย์มาร่วมพิธี
หรือแม้นแต่ หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านก็มา ร่วมพิธีด้วนะ จุ๊ๆ


                                                                                          sornpraram




พิธียิ่งใหญ่มากๆครับ เป็นบุญที่ได้ร่วม สาธุครับ
10#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-4-22 16:23 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
                        เมื่อวันเสาร์ที่ 5 เม.ย. ที่ผ่านมา มีกระแสแว่ว ๆ เกี่ยวกับคำว่า ’เสาร์ 5“ ซึ่งก็อาจมีบางคนคิดว่าวันนั้นคือวัน “เสาร์ 5” ที่มีเรื่องราวมาแต่โบราณเกี่ยวกับการเป็น ’วันแรง-วันขลัง“ ทว่าจริง ๆ แล้ววันเสาร์ที่ 5 เม.ย. ที่ผ่านมา ไม่ถือว่าเป็นวัน “เสาร์ 5” อย่างไรก็ตาม วันเสาร์ในเดือน เม.ย. 2557 นี้ มีวัน “เสาร์ 5” รวมอยู่ด้วย...


’เสาร์ที่ 19 เม.ย. 2557“ นี้เป็นวัน ’เสาร์ 5“




เชื่อกันว่า ’ทำพิธีกรรมวันนี้จะให้คุณมาก“


ทั้งนี้ ทางนายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ อ.ภิญโญ พงศ์เจริญ ได้ให้ข้อมูลผ่าน “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” ไว้ว่า...วันที่ 19 เม.ย. 2557 นี้ เป็นวัน แรม 5 ค่ำ เดือน 5 ปีมะเมีย ซึ่งถือเป็นวัน “เสาร์ 5” ซึ่งมีความเชื่อแต่โบราณว่า วันเสาร์ 5 เป็นวันแรง วันพิเศษ เป็น ’วันแข็ง-วันมีฤทธิ์“ จัดเป็น ’ดิถีอมฤตโชค“ คือให้คุณทางด้านความสำเร็จสมประสงค์ ถือเป็นฤกษ์มงคล เป็น ’วันโชคชัย“ หรือเรียกว่า “วันแข็ง” หรือ “วันขลัง”


“วันเสาร์ 5 ถ้าเกิดตรงกับข้างขึ้น เรียกว่า เสาร์ 5 เพศผู้ หากประกอบพิธีกรรมในวันดังกล่าวจะให้คุณถึง 100% ขณะที่วันเสาร์ 5 แรม 5 ค่ำ เดือน 5 เรียกว่า เสาร์ 5 เพศเมีย จะให้คุณกับพิธีกรรมที่ประกอบ 80%”...นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ ระบุ พร้อมทั้งยังได้ให้ข้อมูลในทางโหรไว้อีกว่า...
ในทางหลักวิชาด้านโหราศาสตร์นั้น “ดาวเสาร์” จัดว่าเป็นดาวที่ “มีพลังมาก” สำหรับบุคคลทั่ว ๆ ไปถ้าเป็นผู้ที่มีวันเกิดตรงกับวันเสาร์ ก็จะได้รับความคุ้มครองจากเทพเจ้าดาวเสาร์ ซึ่งเป็นเทพเจ้าที่มีกำเนิดจาก พระศิวะ โดยดาวเสาร์หรือวันเสาร์นั้นในวรรณกรรมเรื่องสวัสดิรักษา ของสุนทรภู่ ก็มีการระบุไว้ตอนหนึ่งว่า...


’วันเสาร์ทรงดำจึงล้ำเลิศ...
แสนประเสริฐเสี้ยนศึกจะนึกขาม“

“เสาร์ 5” ถ้าทำพิธีกรรม “ส่งผลทางขลัง”


กล่าวสำหรับวัน ’เสาร์ 5“ นั้น จากข้อมูลในหนังสือ “เปิดตำนานศักดิ์สิทธิ์ เสาร์ ๕ มหาเศรษฐี” ที่จัดพิมพ์จำหน่ายพร้อมการเช่าบูชาจตุคามรามเทพ เพื่อสมทบทุนสร้างวัดเฉลิมพระเกียรติ พระบรมราชานุสรณ์ 200 ปี นับแต่วันคล้ายวันพระราชสมภพพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยมี พระมหานิรุตต์ ฐิตสํโร วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน กรุงเทพฯ เป็นแกนหลัก มีเนื้อหาบางช่วงบางตอนคือ...จากคัมภีร์ศาสตร์ฉบับอาจารย์ญาณโชติ ที่รวบรวมวันดิถีทำการมงคลดีไว้ ระบุว่า วันเสาร์ ขึ้นหรือแรม 5 ค่ำ อมฤตโชค สำเร็จผล ถ้าจะเลือกวันดิถีมงคลเพื่อการสร้างพระเครื่อง ของขลัง บรรดาอาจารย์หลายท่านจะเลือกใช้วันที่เรียกว่า “เสาร์ 5”


ความเชื่อในเรื่อง “เสาร์ 5” กับการสร้างวัตถุมงคลต่าง ๆ นั้น ที่เด่น ๆ ดัง ๆ นับแต่อดีต ก็เช่น “พระกริ่งเสาร์ 5” ของเจ้าคุณศรีสัจจญาณมุนี (สนธิ์) วัดสุทัศน์เทพวราราม ศิษย์เอกสมเด็จพระสังฆราชแพ เป็นต้น


’เสาร์ 5“ นั้น มีวันที่ถือว่าเป็นวัน ’เสาร์ 5 ใหญ่“ คือ “วันเสาร์ที่ตรงกับวันขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 ปีขาล” ซึ่งก็เกิดได้น้อยมาก และเสาร์ 5 ที่รองลงมาก็คือ วันเสาร์ที่ตรงกับขึ้นหรือแรม 5 ค่ำ เดือน 5 ที่ไม่ใช่ปีขาล
โดยสรุป...ตามหลักโหราศาสตร์ ตามความเชื่อ ก็เชื่อกันว่าดาวเสาร์เป็นดาวบาปเคราะห์ที่ ’มีอำนาจสูงมาก“ แต่อำนาจนี้ก็สูงได้ทั้งด้านที่ให้ผลร้าย ขณะเดียวกันก็ให้ผลดีอย่างสุด ๆ ได้เช่นกัน


ทั้งนี้ จากหลักโหร จากความเชื่อที่มีมาแต่โบราณกาลและยุคนี้ก็ยังเชื่อกันอยู่ไม่น้อย เมื่อ ’เสาร์ 5“ เกิดขึ้นอีกใน วันเสาร์ที่ 19 เม.ย. 2557 แรม 5 ค่ำ เดือน 5 ในไทยก็อาจมีการ ’ทำอะไรที่หวังเรื่องขลัง“ อีก?
กับ ’การเมือง“ เรื่อง ’เสาร์ 5“ นี่ก็ลือ ๆ บ่อย ๆ
เรื่อง ’ความเชื่อ“ แวดวงการเมืองนั้นก็ใช่ย่อย
ยิ่งยุคนี้คนที่หวัง ’อมฤตโชค“ น่าจะมีอื้อ???.

http://m.dailynews.co.th/Article.do?contentId=231127

               


ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้