แสนตรีเพชรกล้า
“สูงใหญ่รูปร่างเหมือนอย่างเสือ กำลังเหลือเนื้อหนังก็แน่นเหนียว หนวดโง้งโก่งฟั่นพันเป็นเกลียว ฟันขาวปากเขียวดังปลิงควาย นัยน์ตาดำคล้ำคล้ายตาเสือ ขอบตาแดงเรื่อดังชาดป้าย คิ้วกระหมวดหนวดแดงดูแรงร้าย ผมมุ่นมวยคล้ายกับโยคี” แสนตรีเพชรกล้า เป็นแม่ทัพม้า ทหารเอกของเจ้าเมืองเชียงใหม่ เป็นศิษย์ของอาจารย์ศรีแก้วฟ้าแห่งถ้ำวัวแดง มีวิชาอาคมขลัง อยู่ยงคงกระพัน มีรอยสักทั้งตัวตั้งแต่รุ่นหนุ่มก็ไม่ได้อาบน้ำเลย เพราะเกรงว่าจะล้างว่านยาที่ทาตัวไว้ออกไปหมด เมื่อจะออกรบจึงจะอาบน้ำแช่เครื่องรางวิเศษ ผสมกับว่าวยาซึ่งเป็นน้ำเสี่ยงทายด้วย ถ้าน้ำมีสีเหลืองจะได้ชัยชนะ ถ้าน้ำมีสีแดงจะแพ้ถึงตาย ครั้งที่ต้อนรบกับขุนแผนและพลายงามน้ำในวันนั้นมีสีแดง แต่ก็แข็งใจออกไปรบ แล้วก็ถูกทหารของขุนแผนใช้หลาวสวนทวารถึงแก่ความตาย
ขุนรามอินทรา
ขุนรามอินทรา ได้เคยสาบานเป็นเพื่อนตายกับขุนช้างขุนแผน พระหมื่นศรีและขุนเพชรอินทรา ครั้งที่ขุนช้างทูลฟ้องสมเด็จพระพันวษาว่า ขุนแผนบุกขึ้นเรือนตนลักพาวันทองไป สมเด็จพระพันวษาทรงเห็นว่าไม่ควรฟังความข้างเดียว จึงรับสั่งให้พระหมื่นศรีกับจมื่นไวยเป็นแม่ทัพ ให้ขุนรามอินทราเป็นปีกซ้าย ขุนเพชรอินทราเป็นปีกขวาคุมทหารห้าพันคน ไปดูร่องรอยที่บ้านของขุนช้าง และไปตามตัวขุนแผนมาเข้าเผ้าให้ได้ ถ้าขุนแผนดื้อดึงก็ให้ตัดหัวเสียบประจานไว้ในป่าเสียเลย คืนนั้นเอง ภรรยาของขุนรามอินทราฝันว่า ฟันหักไปสามซี่นางตกใจตื่นขึ้นเล่าให้สามีฟัง ขุนรามอินทราก็พยายามปลอบให้ภรรยาเลิกคิดกังวล ครั้นรุ่งเช้าแต่งกายเสร็จเดินลงจากบ้าน ก็มีเหตุอัศจรรย์บันไดหักทีเดียวห้าขั้นขุนรามอินทราสังหรณ์ใจว่า ไปคราวนี้คงต้องตายเป็นแน่ แต่ไม่อาจละทิ้งหน้าที่ได้ เมื่อยกทัพไปพบขุนแผนในป่า และต่อสู้กันขุนรามอินทราก็ถูกขุนแผนฟันตกจากหลังช้างสิ้นใจตาย
หมื่นหาญ
“สูงเกือบสี่ศอกตากลอกโพลง หนวดโง้งงอนปลายทั้งซ้ายขวา ขอบตาแดงฉาดดังชาดทา เนื้อแน่นหนังหนาดูน่ากลัว ผมหยิกหยักศกอกเป็นขน ทรหดอดทนมิใช่ชั่ว ปลุกเสกเครื่องฝังไว้ทั้งตัว เป็นปมปุ่มไปทั่วทั้งกายตน” หมื่นหาญ เดิมชื่อ นายเดช มีฉายาว่ากระดูกดำ เป็นหัวหน้าโจรอยู่ที่บ้านถ้ำ กาญจนบุรี มีวิชาดีไม่ว่าปืนหรืออาวุธอื่นใดก็ไม่อาจระคายผิวได้ มีภรรยาชื่อ นางสีจันทร์ มีลูกสาวคนเดียวชื่อ นางบัวคลี่ ต่อมาหมื่นหาญเป็นคนขี้ระแวง ดังนั้นพอรู้ว่าขุนแผนมีวิชาเหนือกว่าตนก็ไม่พอใจ สั่งให้นางบัวคลี่วางยาพิษฆ่าเสีย แต่นางบัวคลี่ก็ต้องตายด้วยน้ำมือของขุนแผน เนื่องจากขุนแผนรู้ตัวเสียก่อน
|