ตั้งให้เราเป็นเว็บแรกที่คุณเลือก
เก็บเราไว้เป็นเว็บโปรด
สมัครสมาชิก ได้มากกว่าที่คุณคิด
เข้าสู่ระบบ
บ้านหลวงปู่
คศช.
ข่าวสารล่าสุด
ประสบการณ์
โชว์วัตถุมงคล
สอบถาม
นานาสาระ
นครนาคราช
ร่วมประมูล
บูชาวัตถุมงคล
เพื่อน
กระทู้แนะนำ
บุ๊คมาร์ก
ไอเท็ม
เหรียญ
ภารกิจ
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
Site Link
ดูบริการทั้งหมด
เว็บบอร์ด
BBS
บูชาวัตถุมงคลหลวงปู่ชื่น
ศรีสุทธรรมนาคราช
ร้านจอมพระ
ศูนย์พระเครื่องจอมพระ
ค้นหา
ค้นหา
HOT TAG:
พระศรีราม
ขุนแผนแสนตรีเวทย์
พระเจ้าชัยวรมัน
บอร์ดนี้
บทความ
เนื้อหา
สมาชิก
Baan Jompra
›
นานาสาระ
›
มรดกธรรม เส้นทางสู่ทางสงบในชีวิตและจิตใจ
»
อารมณ์ที่ส่งผลให้เกิดเป็นมาร
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
ดู: 2052
ตอบกลับ: 3
อารมณ์ที่ส่งผลให้เกิดเป็นมาร
[คัดลอกลิงก์]
oustayutt
oustayutt
ออฟไลน์
เครดิต
22903
ไปยังโพสต์
1
#
โพสต์ 2016-8-6 15:21
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
|
โพสต์ใหม่ขึ้นก่อน
|
โหมดอ่าน
http://srisuwankhomkhum.blogspot.com/2012_09_09_archive.html
สมเด็จพระอักโษภายพุทธเจ้า ทรงตรัสว่า..
"เรามาวันนี้ เห็นแก่เธอทั้งหลายที่ตั้งใจทะนุบำรุงพระศาสนาในองค์สมเด็จพระศากยมุนีสัมมาสัมพุทธเจ้า
เวลานี้มารที่มาพร้อมกับดวงดาวมฤตยูได้เข้ากำกับจิตมนุษย์ให้ คิด พูด และทำ ในสิ่งที่เป็นกรรมใหม่ ส่งผลให้ไปเป็นพวกของเขา
สิ่งที่ส่งผลให้เป็นมาร ด้วยอารมณ์เหล่านี้ คือ
๑.เริ่มจากความไม่ชอบใจ
ไม่พอใจในสิ่งที่ผู้อื่นทำ เนื่องจากไม่ตรงกับจริตของตน
หากปรับใจ เข้าใจว่า มนุษย์ทั้งหลายมีบุญมาไม่เท่ากัน ย่อมมีสติปัญญาต่างกันเป็นธรรมดา แล้ววางอุเบกขา สงเคราะห์ได้ก็สงเคราะห์ อย่างนี้ไม่เป็นมาร
๒.เมื่อความไม่ชอบใจ ไม่พอใจเกิดขึ้นบ่อยๆ เรื่อยๆ
ก่อให้เกิดความพยาบาทในใจ
มีอคติเกิดในจิต
หากเวลานี้ มีครูบาอาจารย์หรือผู้รู้มาตักเตือน หมั่นฟอกจิตของเราให้สะอาด อย่างนี้ไม่เป็นมาร
๓.เกิดความคิดว่า เออเราหนอ เป็นผู้ที่มีความดีอย่างนี้ อย่างนี้
เวลานี้เราสร้างบุญใหญ่ ใครๆ ก็ย่อมโมทนาบุญกับเรา หรือบุญแบบนี้ไม่มีใครสามารถทำได้เหมือนเรา หรือเราเป็นผู้ปิดบุญใหญ่ ย่อมได้บุญมากกว่าใครๆ มนุษย์ และเทวดา ต่างยกย่องสรรเสริญแก่เรา
หากมีผู้ให้สติเตือนว่า การสร้างบุญใหญ่เราทำเพื่อบำรุงพระศาสนา เพื่อสงเคราะห์โลก เพื่อสงเคราะห์ผู้อื่น เป็นทางเดินไปสวรรค์ แล้ววาง อย่างนี้ ไม่เป็นมาร
(การวางคือ วางอุเบกขา แม้แต่ความดีของตน)
บุ๊คมาร์ก
0
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
oustayutt
oustayutt
ออฟไลน์
เครดิต
22903
2
#
เจ้าของ
|
โพสต์ 2016-8-6 15:22
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
๔.เมื่อมีจิตคิดสรรเสริญตนเองว่า ตนมีบุญบารมีเหนือผู้อื่นแล้ว ยิ่งได้รับการยกย่องสรรเสริญจากผู้อื่นแล้ว ต่อไปเมื่อเห็นผู้ใดก็ตามได้สร้างบุญใหญ่ทัดเทียมกับตน ย่อมเกิดความไม่พอใจ ไม่ชอบใจ แยกตามความละเอียด ๒ ประการ คือ
๔.๑ไ
ม่ชอบใจแต่เก็บไว้ในใจ หาทางแข่งขันกับผู้อื่นแบบเงียบๆ เก็บสะสมความรู้สึกไม่ชอบใจ และแข่งขัน เมื่อตนทำดีกว่า ก็รู้สึกยินดี
หากมีครูบาอาจารย์ตักเตือน และแก้ไขจิตนี้ได้ทัน หมั่นชำระจิต ฟอกจิตของตนให้สะอาด มีจิตเมตตาและพลอยยินดีในความดีของผู้อื่น กลับตัวกลับใจได้ทันอย่างนี้ไม่เป็นมาร
๔.๒
ไม่ชอบใจ และป่าวประกาศให้ผู้อื่นไม่ชอบตามความเห็นของตน ใส่ร้ายป้ายสี ยุยงให้ผู้อื่นคล้อยตามตน โดยแสร้งทำความดี เพื่อให้เห็นว่า ตนเป็นคนดี มีศีล สร้างบุญใหญ่ อาศัยความศรัทธาตรงนี้ ชักนำผู้อื่นให้ไม่ชอบตามตน
เมื่อมีข่าวจากฝ่ายตรงข้ามกลับทำให้เรื่องราวกลับใหญ่โต ส่งผลให้อีกฝ่ายท้อถอย สลดใจในการสงเคราะห์ผู้อื่น เท่ากับเป็นการตัดความเจริญในธรรมแก่ผู้อื่น
กรณีนี้ ไม่สามารถกลับใจให้เป็นฝ่ายธรรมะได้
เนื่องจากจิตมืดดำ หมองมัว
พญามารนั้นเฝ้าแสวงหาบุคคุลที่มีจิตมืดดำนี้ ไปเป็นสมุน หาได้ไปเป็นหัวหน้ามารไม่ เขาเก็บดวงจิตเหล่านี้เอาไว้ใช้งาน
ผู้ที่มีจิตเป็นมาร โดยสมบูรณ์เกิดจากเหตุตั้งแต่ข้อ ๑-๔ หากไม่หมั่นชำระจิตของตน ตามลำดับข้างต้น ไม่พ้นจะต้องเป็นสมุนของมาร
การเป็นพญามารนั้น ต้องสั่งสมจิตที่มืดดำเป็น ร้อยๆ อสงไขย ต้องสามารถเปลี่ยนมนุษย์ที่ดี มาเป็นพวกของตนไม่ต่ำกว่าแสนโกฎิ
ลำดับของการเป็นมาร มีเป็น ๑๐๐ ลำดับ หาใช่สร้างบุญใหญ่แล้วไปเป็นพญามารไม่ มนุษย์บางคน อดีตเคยเป็นพญามารอยู่แล้ว มาเกิดเป็นมนุษย์ เพื่อเป็นไส้ศึกให้แก่เหล่ามาร มีการสืบทอดวิชาเรียกว่า ไสยดำ สัญญาเหล่านี้ เหมือนชิปที่ฝังไว้ใต้จิตสำนึกของผู้ที่เป็นไส้ศึก
เมื่อเกิดมาแล้ว หากมีกุศลกรรมที่ดีส่งผล ได้พบครูบาอาจารย์ที่ดี ชิป (สัญญา) เหล่านี้จะถูกเลื่อนออกไป ไม่ส่งผล เปรียบเสมือนเราเติมน้ำให้มากๆ ในน้ำเกลือ เราจะไม่รู้รสเค็ม เนื่องจากน้ำมาก แต่เกลือไม่หายไปไหน แต่หากวันใด เราหยุดเติมน้ำ น้ำที่มีอยู่ระเหยไป เหลือแต่เกลือที่อยู่ เปรียบเสมือนผู้ที่ไม่ทำกรรมดี วันหนึ่งรสของความเค็มจะส่งผล เมื่อมนุษย์ผู้นั้นสะสมจิตที่มืดดำเรื่อยๆ วันหนึ่งเจ้าของชิบ (พญามาร) จะหาตัวเจอ เมื่อนั้น เขาจะเติมเกลือให้เรื่อยๆ จิตที่เคยเป็นแค่สีเทา กลับกลายเป็นดำขึ้นๆ ไม่สามารถแปรเปลี่ยนใจได้
หากยังไม่ละโลก สิ่งเดียวที่จะรอดพ้นได้ คือ การเร่งปฏิบัติ เจริญวิปัสสนา และเร่งตนเองให้บรรลุธรรม และบรรลุมรรคผลพระนิพพานในชาตินี้ เพียงอย่างเดียว (ทรงตรัส รวมถึงผู้ปรารถนาพระโพธิญานด้วย)
"การเป็นสมุนของมาร ต่างจากการทำผิดศีลแล้วตกนรก เพราะผู้ผิดศีล อาจจะเกิดจากความไม่รู้
เมื่อขึ้นจากนรก ก็สามารถกลับตัวกลับใจได้ ต่างจากบุคคลที่มีจิตมืดดำ ไม่พอใจ ยินดีในคำตำหนิติเตียนของครูบาอาจารย์ และผู้อื่น"
ดังนั้น เวลานี้ต้องหมั่นพิจารณาจิตตนเองว่า เรามีจิตประเภทใด เราเป็นผู้ที่มีศีลบริสุทธิ์ จิตที่ปราศจากความไม่พอใจผู้อื่น จิตที่มีแต่ความเมตตา และยินดีในความดีของผู้อื่น จิตที่อุเบกขาในวิบากกรรมของผู้อื่นหรือไม่ สิ่งเหล่านี้ช่วยประคองให้พ้นภัยจากเหล่ามารได้
วันนี้เราคงมีเรื่องเตือนพวกเธอ แต่เพียงเท่านี้
ขอโมทนาสาธุการกับพวกเธอที่มีจิตอันเป็นกุศล ขอให้ตั้งใจรักษาความดีไว้ ส่วนใครที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นสมุนแห่งมาร ขอพึงชำระจิต ฟอกจิตของตนให้สะอาด เอาชนะเขาให้ได้ อย่าได้เป็นทาสเขาต่อไป
ขอโมทนาสาธุการ..
เครดิต : น้ำใส
ตอบกลับ
สนับสนุน
คัดค้าน
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
Nujeab
Nujeab
ออฟไลน์
เครดิต
27800
3
#
โพสต์ 2016-8-8 14:16
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
majoy
majoy
ออฟไลน์
เครดิต
24696
4
#
โพสต์ 2016-8-20 05:50
|
ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอบกลับ
ใช้ไอเท็ม
รายงาน
กลับไป
ตั้งกระทู้ใหม่
โหมดขั้นสูง
B
Color
Image
Link
Quote
Code
Smilies
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ลงชื่อเข้าใช้
|
ลงทะเบียน
รายละเอียดเครดิต
ตอบกระทู้
ข้ามไปยังโพสต์ล่าสุด
ตอบกระทู้
ขึ้นไปด้านบน
ไปที่หน้ารายการกระทู้
Share To Facebook
Share To Twitter
Share To Google+
Share To ...